บุษบง
ณ หมู่บ้านดอนจันทร์มีแม่และลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งย้ายมาจากหมู่บ้านดอนโคกสว่าง
ลูกสาวคนโตของศรีบาน ชื่อบุษบง เธอมีรูปร่างที่สมส่วน ผิวพรรณผ่องใส ผมยาวดกดำ ในตาสีดำมองดูอ่อนโยนและฉลาดริม ฝีปากสีแดงชัดเจน ลักษณะนิสัยของบุษบงเธอมีนิสัยดีฉลาดรอบคอบและมีความเป็นผู้นำสูง
ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อบัวชมพู เธอมีรูปร่างเล็กบางผิวพรรณผ่องใส ผมยาวดกดำ ลักษณะนิสัยของบัวชมพูเธอมีลักษณะนิสัยอ่อนหวานช่างเพ้อฝันและรักความสงบ
แม้นิสัยของสองพี่น้องแตกต่างกันคนละขั้ว แต่ทั้งสองก็เป็นพี่น้องที่รักกันมาก
"เราก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เกือบอาทิตย์แล้วเนาะลูก ลูกว่าที่นี่ดีไหม แม่ศรีบานเอ่ยถามลูกๆ"
"ก็ดีนะแม่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนไม่ค่อยชอบพวกหนูเลยอะ บุษบงตอบ"
"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกลูก พวกเขาคงเห็นว่าเรามาใหม่ พวกหนูไม่ลองไปทำความรู้จักกับพวกเขาดูล่ะลูก แม่ศรีบานเอ่ย"
"เอิ่มมม......ไม่ดีกว่าอะแม่ บุษบงตอบ"
"แต่บัวคิดว่าเราควรไปคุยกับพวกเขาก็ดีนะพี่ เผื่อว่าพวกเขามีเรื่องขับข้องใจอะไรจะได้คุยกันให้หายคาใจ"
"อืมมมมก็ได้ๆเดี๋ยวว่างๆค่อยไป"
"มาๆๆๆ....ลูกมากินข้าวกันเถอะ ศรีบานเอ่ยชวนลูกทั้งสอง"
บุษบงและบัวชมภูทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเสียงพูดคุยเบาๆเป็นระยะๆ เมื่ออิ่มท้องแม่ศรีบานก็เก็บล้างสำรับอาหาร บุษบงช่วยแม่เก็บกว่าเศษอาหาร ส่วนบัวชมภูเดินไปหยิบขันน้ำมาล้างมือ
เมื่อทำทุกอย่างจนเสร็จสับทั้งสาม ก็แยกย้ายกันเข้านอน
รุ่งเช้า แสงอาทิตย์สีทองอ่อนโยนสาดส่งมาบนผืนโลกราวกับจะปลุกทุกชีวิตให้ตื่นขึ้น เสียงนกเจื้อยแจ้วร้องเพลงครับกล่อมท่วงทำนองแห่งความสุข สายลมพัดช่วยเอื่อยๆพาเอากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าและน้ำค้างยามเช้ามาให้สูดดม ก้อนเมฆสีขาวปุยลอยอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่ราวกับภาพวาดที่สร้างสรรค์ขึ้นมา บัวชมพูไม่รีรอรีบปลุกบุษบงผู้เป็นพี่สาวให้ตื่น
"พี่บุษๆ ตื่นได้แล้วๆ ไปวัดกัน จะได้ไปทำความรู้จักกับพวกเพื่อนไปด้วย"
"อืมมมม.......รู้แล้วๆ ตื่นเช้าจังเลยนะเราเนี่ย"
"มันก็แน่นอนอยู่แล้ววว..บัวชมพูพูดพร้อมส่งยิ้มกริ่ม ว่าแต่ทำไมวันนี้พี่ตื่นสายจัง"
"เอิ่ม.....เมื่อคืนนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เลยทำให้นอนดึก เอิ่มมม....แล้วแม่ล่ะ??"
"แม่ลงไปรอข้างล่างแล้วพี่อ่ะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว"
"จ้าาาา....น้องสาวคนสวยยย"
"งั้นเดี๋ยวบัวลงไปรอด้านล่างนะ (⇀ᆽ↼ミ) "
บุษบงก้าวลงบันไดมาอย่างสง่างามราวกับนางในวรรณคดีไทย เสื้อแขนกระบอกสีขาวโคลนตัดกับผ้าถุงสีครามลายนาค ที่สวมใส่พริ้วไหวทุกย่างก้าว เส้นผมยาวสลวยถูกเป้าขึ้นอย่างเรียบร้อยประดับด้วยดอกจำปาลาวสีเหลืองอร่ามที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เธอดูสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก ดวงตาคู่สวยฉายแววอ่อนโยนกวาดมองไปรอบๆอย่างเบิกบาน
"ป๊าดดดด!!!!........ลูกสาวแม่ขนาดมีเวลาแต่งแค่แป๊บเดียว ยังแต่งออกมาได้งามปานนี้!!"
"แล้วหนูบ่งามส่ำเอื่อยเบาะแม่ บัวชมพูพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า"
"หืยยย...กะงามคือกันนั่นล่ะลูกสาวแม่ กะงามได้แม่นั่นล่ะเนาะ แม่ศรีบานพูดพร่างหัวเราะ คิก! คิก! เบาๆ ปะๆมันสายแล้วรีบไปกันเถอะ"
ณ วัดในหมู่บ้าน แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องสว่างไปทั่ววัด ทำให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา เสียงนกหวีดร้องและเสียงชาวบ้านคุยกันเบาๆสร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหล
"ป่ะๆๆ..เข้าไปนั่งข้างในกันเถอะ แม่ศรีบานเอ่ยชวนลูกๆ"
"จ่ะแม่"
"อ้าวพี่ศรีบาน มากันนานรึยังจ๊ะ"
"ศรีบานเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงรีบหันกลับไปมอง อ้าววาด!! พี่ไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่ได้ชวน"
วาดเป็นผู้หญิงวัยกลางคน มีใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณผ่องใส ดวงตากลมโตเป็นประกาย เธอมีรอยยิ้มที่สดใสเสมอและเสียงหัวเราะที่ดังกังวาล เธอชอบแต่งตัวสีสันสดใสมักจะสวมใส่เสื้อผ้าลายดอกไม้หลากสีสัน ผมสั้นดัดลอนเล็กน้อยปัดข้าง ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน (•ᴗ•❀)
"ไม่เป็นไรจ้ะพี่ ที่จริงวันนี้ฉันก็ว่าจะไม่มาแล้วล่ะ วันนี้ฉันตื่นสายนะ วาดพูดกลางหัวเราะแหะๆแบบเจื่อนๆ ป่ะๆเราเข้าไปนั่งข้างในศาลากันเถอะ เดี๋ยวฉันจะแนะนำพวกป้าๆยายๆให้ได้รู้จักกันไว้"
เสียงพระสวดช้าๆแผ่วเบาคลอเค้าเสียงใบไม้ที่ไหวรินลมยามเช้า เสียงเหล่าพุทธศาสนิกชนนั่งเจริญภาวนาเบาๆ ก่อนถึงเวลาใส่บาตรสร้างบรรยากาศอันสงบร่มเย็นภายในศาลาไม้หลังเก่าหลังนี้ แสงอาทิตย์อ่อนๆ ส่องลอดช่องหน้าต่างกระทบผนังที่ขัดมันเงางาม ก่อให้เกิดเงาของใบไม้ที่ล้อเลียนตามลมเบาๆ
พอเสร็จจากการใส่บาตร พวกเด็กน้อยก็พากันวิ่งเล่นกันจอแจไปทั่วลานวัด ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็นั่งจับกลุ่มคุยกันเพลินๆพูด เรื่องชาวบ้าน เรื่องสวน เรื่องนา ส่วนหนุ่มๆสาวๆก็ยืนคุยกันเป็นกลุ่มๆ รวมถึงกลุ่มของวิรา เพื่อรอประชุมกันเรื่องงานบุญบั้งไฟประจำปีของหมู่บ้านที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments