มนตรากาลบันดาลรัก
ตอนที่ 19: เงาแห่งประวัติศาสตร์และคำทำนายแห่งอนาคต
พ.ศ. 2302 – กรุงศรีอยุธยา
---
ในเช้าวันใหม่ท่ามกลางความมืดมนของฝนพรำ พระราชวังหลวงยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากข่าวลือและความตึงเครียดที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาจากทุกมุมของราชสำนัก
หลังจากเหตุการณ์กลางคืนที่พิมพิชากับหลวงราชภพและบิดาของเขาออกญาเดโชร่วมต่อสู้กับมือสังหาร เงาของการลอบสังหารและความลับแห่งสายเลือดรัชทายาทที่ซ่อนอยู่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปบางส่วนในราชสำนักแล้ว
“เจ้าคือรัชทายาทที่แท้จริงของแผ่นดินนี้… แต่เจ้าก็ยังมีคำสัญญากับโลกอื่นที่รออยู่ในอนาคต”
คำกล่าวของออกญาเดโชดังก้องในห้องรับรองที่หรูหราซึ่งตกแต่งด้วยศิลปะไทยโบราณและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่แสดงถึงเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของอยุธยา
---
การประชุมลับในราชสำนักและการเจรจาทางการค้า
ในห้องประชุมลับที่ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของพระราชวัง ผู้ทรงอำนาจทั้งในและนอกราชสำนักต่างแสดงจุดยืนต่อความขัดแย้งในวงการการเมือง
“ท่านเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศสและดัตช์มีกำหนดการมาถึงในไม่ช้า” เสียงผู้บัญชาการฝ่ายการค้าประกาศ พร้อมกับเอกสารฉบับเก่าแก่ที่ระบุข้อตกลงการค้าซึ่งมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของกรุงศรีอยุธยา
เจ้าพระยาพิชัยและขุนนางผู้ทรงอำนาจรายอื่นร่วมอภิปรายกันอย่างเข้มข้น “การเข้ามาของชาวต่างชาติไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิถีการค้า แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงทางการเมืองที่เราไม่อาจมองข้าม”
ในขณะเดียวกัน จอร์จ, พ่อค้าฝรั่งที่เคยแลกเปลี่ยนจดหมายกับราชสำนัก และเจ้าหน้าที่ทูตชาวโปรตุเกส ก็ได้ส่งข่าวด่วนผ่านจดหมายที่ประทับตราด้วยตราประทับราชสำนักว่ามีความเคลื่อนไหวทางการทูตที่สำคัญ ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับความลับของพิมพิชา
“หากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ้าสืบสายเลือดพระวงศ์ เจ้าจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเจรจาต่อรองกับชาวต่างชาติ”
คำพูดนี้กระซิบผ่านเสียงในสายลมแห่งความคาดหวังที่ปนเปกับความหวาดกลัวของขุนนางบางส่วนที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจในราชสำนัก
---
คำทำนายแห่งสายน้ำและความทรงจำแห่งอดีต
ในค่ำคืนต่อมา พิมพิชานั่งอยู่ริมบ่อน้ำในสวนของพระราชวัง สายฝนพรำลงมาคลอเบา ๆ เสียงน้ำกระทบก้นบ่อน้ำราวกับสายน้ำแห่งกาลเวลาที่ไหลผ่าน
เธอหยุดนิ่งและจ้องมองเงาของตัวเองในน้ำ พร้อมกับได้ยินเสียงกระซิบในใจ “เจ้าจะต้องเลือก… ระหว่างความรักในยุคนี้กับโลกที่เจ้ามาจากนั้น”
ในความเงียบสงัดของคืนนั้น ภาพในอดีตของท่านหญิงพิศมัยซึ่งเคยเป็นผู้ทรงอำนาจในสมัยอยุธยา ปรากฏขึ้นในความทรงจำของเธอ
“หากเจ้าสามารถเข้าใจความหมายของคำทำนายนี้ได้… เจ้าจะได้กลับไปยังโลกที่เจ้ามาจาก แต่ไม่ว่าเจ้าจะเลือกอะไร ชะตาของแผ่นดินนี้จะไม่มีวันกลับคืนเหมือนเดิมอีกแล้ว”
ความคิดนี้ทำให้พิมพิชารู้สึกสั่นไหวในใจระหว่างที่เธอมองเห็นภาพแห่งอดีตและความรักที่ค่อย ๆ เบ่งบานขึ้นกับหลวงราชภพที่ยังคงเป็นที่พึ่งในยามวิกฤต
---
ฉากหวานท่ามกลางประวัติศาสตร์
ในคืนหนึ่ง หลังจากการประชุมลับในราชสำนัก พิมพิชาและหลวงราชภพได้พบกันอีกครั้งในสวนเฉลิมพระเกียรติที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่และโคมไฟสไตล์ไทย
ใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างพอ ๆ กับจิตรกรรมฝาผนังวังที่ประดับประดาด้วยลวดลายไทยโบราณ หลวงราชภพจับมือพิมพิชาแน่น
“เจ้าคือแสงสว่างในความมืดของข้า” เขากล่าวด้วยเสียงต่ำที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความปวดร้าวจากความรับผิดชอบที่แบกรับ
พิมพิชาจ้องตาเขา “ข้าสัญญาว่าจะสู้ต่อไปเพื่อปกป้องแผ่นดินนี้และเพื่อความจริงของเจ้า… แม้ในวันที่ข้าต้องกลับไปยังโลกของเรา”
เสียงของเขาสั่นสะท้านในค่ำคืนที่เงียบสงัด ทั้งคู่แลกเปลี่ยนคำหวานอันแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
ในขณะที่สายฝนพัดลงและความวุ่นวายของราชสำนักยังคงคลุ้มคลั่งอยู่ไกลออกไป ความรักที่เริ่มเบ่งบานในใจของพิมพิชาและหลวงราชภพก็กลายเป็นแสงสว่างที่บ่งบอกถึงความหวังในวันข้างหน้า
“เจ้าจงจำไว้ว่าความรักนี้จะอยู่คู่กับข้า แม้ว่าเวลาและโลกทั้งสองจะต้องแยกจากกันในที่สุด” หลวงราชภพกล่าวพลางคลี่รอยยิ้มที่อ่อนโยน
พิมพิชาจับมือเขาไว้แน่น พร้อมกับแววตาที่บอกใบ้ถึงคำสัญญาที่เธอให้กับตัวเองว่า… จะค้นหาความจริงแห่งสายเลือดและกลับไปยังโลกปัจจุบันในวันที่เธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอนาคต
---
🔥 ตอนต่อไป:
"ในขณะที่ราชสำนักเต็มไปด้วยความขัดแย้งและแผนลับที่ซ่อนเร้น จากทวีปต่าง ๆ ที่ส่งจดหมายและผู้ทูตเข้ามาต่อรองกันอย่างดุเดือด… พิมพิชาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แท้จริงในวัง และคำทำนายของอดีตที่ชี้นำเธอกลับสู่โลกปัจจุบันในเวลาที่เธอไม่คาดคิด!"
(ตอนต่อไปจะยังคงผสมผสานประวัติศาสตร์อยุธยาเข้ากับความรักและการต่อสู้ในราชสำนัก พร้อมทั้งเปิดเผยเบาะแสสุดท้ายของคำทำนายที่สั่นคลอนชะตากรรมของพิมพิชา!)
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 58
Comments