เวลาผ่านไปหลายวัน บรรยากาศในออฟฟิศเริ่มมีความตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากภาคินต้องรับมือกับโปรเจกต์สำคัญที่ต้องเสร็จทันเวลา ขณะที่มิเชลเองก็ต้องทำงานหนักไม่แพ้กัน การทำงานร่วมกันทำให้ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่ท่าทางเย็นชาของภาคินกลับทำให้มิเชลไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในใจของเขาได้เลย
ในช่วงบ่าย มิเชลเดินไปที่ห้องทำงานของภาคินตามที่เขาสั่งให้ไปนำเอกสารมาให้ เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป ภาพของภาคินที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพร้อมกับสายตาที่มุ่งมั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนเดิม เขายังคงเป็นคนที่ดูเย็นชาและไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
“นี่ค่ะ เอกสารที่คุณขอ” มิเชลวางเอกสารลงบนโต๊ะก่อนจะยืนอยู่ตรงนั้น
ภาคินเงยหน้าขึ้นจากเอกสารของตัวเองและมองมาที่เธอ “ขอบคุณครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่แห้งๆ ตามสไตล์ของเขา
มิเชลยิ้มให้กับคำขอบคุณนั้น แต่ก็รู้สึกว่ามันเหมือนเป็นการพูดเพื่อทำหน้าที่มากกว่า
“ภาคินค่ะ... คุณรู้ไหมว่าคุณดูเหมือนคนที่พยายามจะหลีกเลี่ยงบางสิ่ง” มิเชลถามเสียงเบา ในขณะที่พยายามเข้าใจความรู้สึกที่เขาซ่อนอยู่
ภาคินหยุดนิ่งไป ก่อนจะยิ้มบางๆ ที่มุมปาก “ผมไม่ได้หลีกเลี่ยงอะไรหรอกครับ แค่คิดว่าบางสิ่งก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงความจริงจัง
มิเชลหันไปมองเขาอย่างตั้งใจ รู้สึกถึงความเย็นชาในคำพูดของเขา แต่บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเขากำลังซ่อนบางสิ่งเอาไว้ในใจ
“คุณพูดเหมือนทุกอย่างมันจะง่าย แต่บางทีการไม่พูดอะไรเลยก็ยิ่งทำให้เรื่องมันยากขึ้นนะคะ” มิเชลพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็รู้ว่าคำพูดนี้อาจทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ
ภาคินหยุดพิจารณาคำพูดของมิเชล ก่อนจะหันมองไปที่หน้าต่างและถอนหายใจเบาๆ “บางครั้ง... การเงียบก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” เขาพูดเสียงต่ำเหมือนกับกำลังคิดถึงบางสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจ
มิเชลมองไปที่เขาอย่างสงบ ไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไรต่อดี แต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรอีกเพราะรู้ดีว่าภาคินไม่พร้อมที่จะเปิดใจมากไปกว่านี้
“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร... คุณบอกฉันได้เสมอค่ะ” มิเชลพูดจบแล้วหันหลังกลับเพื่อเดินออกจากห้อง แต่ก่อนที่เธอจะออกไป ภาคินเรียกเธอไว้
“มิเชล...” เสียงของเขามีความจริงจังมากขึ้น
มิเชลหันกลับไปมองเขาและยิ้มเล็กน้อย “คะ?”
“ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้... สำหรับทุกอย่าง” ภาคินกล่าวออกไป ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติ
มิเชลรู้สึกใจสั่นกับคำพูดนั้น แม้จะเป็นคำขอบคุณที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ในความเงียบสงบของเขามันทำให้เธอรู้สึกถึงความจริงใจจากเขา
“ไม่เป็นไรค่ะ... ฉันก็ขอบคุณที่คุณให้โอกาสฉันได้อยู่เคียงข้างคุณ” มิเชลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่มิเชลออกไปแล้ว ภาคินนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อมิเชลอยู่ใกล้ๆ เขากลับรู้สึกว่าเธอสามารถเข้าใจเขาได้มากกว่าใครๆ แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเปิดใจทั้งหมด แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็กำลังเติบโตขึ้นทีละน้อย
ติดตามตอนต่อไป...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments