กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงชราคนหนึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาวชื่อ เอื้อย และลูกเลี้ยงชื่อ คำแพง หลังจากพ่อของคำแพงเสียชีวิต แม่เลี้ยงก็กลายเป็นคนใจร้าย มักใช้คำแพงทำงานหนักทุกอย่างในบ้าน ขณะที่เอื้อยลูกแท้ๆ ได้อยู่อย่างสุขสบาย
วันหนึ่ง คำแพงออกไปตักน้ำที่แม่น้ำ แล้วพบปลาตัวหนึ่งที่ดูอ่อนแรงและบาดเจ็บ คำแพงรู้สึกสงสาร จึงนำมันกลับมาดูแลที่บ้าน นางแอบเลี้ยงมันไว้ในตุ่มน้ำโดยไม่ให้แม่เลี้ยงรู้
ไม่นานนัก ปลาตัวนั้นก็ค่อยๆ ฟื้นตัว และกลายเป็น ปลาบู่สีทอง ที่พูดภาษามนุษย์ได้ ปลาบู่ทองกล่าวขอบคุณคำแพงและบอกว่าจะช่วยดูแลเธอเสมอ คำแพงจึงแอบมาเล่นและพูดคุยกับปลาบู่ทองทุกวัน
แต่วันหนึ่ง เอื้อยแอบเห็นและนำเรื่องไปบอกแม่เลี้ยง หญิงชรารู้สึกสงสัย จึงแอบสังเกตคำแพง และพบว่าเธอแอบดูแลปลาบู่ทองอยู่ ด้วยความโกรธ แม่เลี้ยงจึงออกอุบายให้คำแพงไปทำงานที่ไกลบ้าน แล้วใช้โอกาสนี้จับปลาบู่ทองไปฆ่าเพื่อนำไปทำอาหารให้ทุกคนกิน
เมื่อคำแพงกลับมา เธอรู้สึกใจสลายที่ปลาบู่ทองหายไป นางร้องไห้อย่างหนัก แต่แล้วปลาบู่ทองได้ปรากฏในความฝัน และบอกคำแพงให้เก็บกระดูกของมันไปฝังไว้ในสวนหลังบ้าน คำแพงทำตามคำบอก และจากนั้นไม่นาน ต้นฟักทองก็เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
วันหนึ่ง เจ้าชายจากวังผ่านมา และได้พบคำแพงขณะเก็บฟักทองอยู่ พระองค์ตกหลุมรักเธอทันที และได้พาคำแพงไปเป็นพระชายา นางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัง ขณะที่แม่เลี้ยงและเอื้อยก็ได้รับกรรมที่ตนก่อไว้
ข้อคิดจากนิทาน:
ความเมตตาและความดี จะนำพาสิ่งดีๆ มาสู่ชีวิต
ความโลภและความอิจฉา จะนำความหายนะมาสู่ผู้ที่คิดร้ายต่อผู้อื่น
ผลกรรมของการกระทำ ไม่ว่าเป็นบุญหรือบาป จะย้อนกลับมาหาเราเสมอ
"ปลาบู่ทอง" เป็นหนึ่งในนิทานพื้นบ้านไทยที่สอนเรื่องความกตัญญู ความเมตตา และผลของกรรมได้เป็นอย่างดี คุณเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาก่อนไหมครับ? หรืออยากให้เล่านิทานพื้นบ้านเรื่องอื่นเพิ่มเติม?
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 70
Comments