ณ บ้านต้นไม้สูงตระหง่านของครอบครัวฟอเรสต์ฮาร์ท แสงสีทองของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามา เปล่งประกายอบอุ่น หลังจากที่พวกเขาต้อนรับมีอา แฟรี่ตัวน้อย เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว บรรยากาศในบ้านก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ มีอา" เอลาร่าทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะพลิกแพนเค้กในกระทะ "วันนี้เราจะทำแพนเค้กน้ำผึ้งกันนะ อยากช่วยกันไหม?"
"อยากค่ะ!" มีอาตอบตาเป็นประกาย เธอโบยบินเข้าไปในครัว ปีกเล็กๆ ของเธอกระพืออย่างรวดเร็ว ช่วยลีร่าจัดโต๊ะอาหาร ส่วนลีโอก็หยิบผลไม้ป่ามาให้เธอเลือก
"มีอาชอบผลไม้อะไรเป็นพิเศษไหม?" ลีโอถามพลางยิ้มกว้าง ขณะวางตะกร้าผลไม้ลงบนโต๊ะ
"หนูชอบเบอร์รี่สีฟ้าค่ะ!" มีอาตอบ ขณะเอื้อมมือไปหยิบเบอร์รี่ในตะกร้า
"งั้นเราใส่เบอร์รี่สีฟ้าเยอะๆ เลย" ลีร่าพูดพลางหัวเราะเบาๆ ขณะเทแป้งแพนเค้กลงในกระทะ
ในขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันเตรียมอาหารเช้า ลีโอเหลือบมองไปที่เก้าอี้ว่างข้างโต๊ะ
"แม่ครับ พ่อไปไหนแล้วเหรอครับ?"
"พ่อไปประชุมที่สภาเอลฟ์ตั้งแต่เช้าแล้วจ้ะ" เอลาร่าตอบ โดยไม่ละสายตาจากกระทะ "วันนี้มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับป่าของเรา"
"อ๋อ...เรื่องป่าศักดิ์สิทธิ์น่ะเหรอครับ?" ลีโอถาม ขณะนั่งลงบนเก้าอี้
"ใช่แล้วจ้ะ" เอลาร่าพยักหน้า "พ่อต้องไปช่วยดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อย"
"วันนี้อยากไปดูลีโอฝึกไหม มีอา?" ลีร่าเอ่ยถามขณะตักแพนเค้กน้ำผึ้งใส่จานให้มีอา
"ไปสิ! แน่นอน! ฉันอยากไปดูการฝึกของลีโอจะแย่แล้ว! อยากรู้ว่าเขาฝึกไปถึงไหนแล้ว! พร้อมออกเดินทางไปโลกภายนอกแค่ไหนกัน!" มีอาตอบอย่างกระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
ลีโอที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างมั่นใจ "ได้เลย! เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดูเอง!"
มีอาเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดว่า "เฮอะ! แค่ไหนกันเชียว? นายไม่มีทางเก่งกว่าฉันได้หรอก!"
เสียงของมีอาและลีโอเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ต่างคนต่างโต้เถียงกันว่าใครเก่งกว่ากัน จนลีร่าต้องเข้ามาแทรกกลาง
"พอได้แล้วทั้งคู่!" ลีร่าเอ่ยเสียงเข้ม "รีบกินอาหารเช้าให้หมดได้แล้ว! เราจะได้เตรียมตัวไปที่กองอัศวินจันทราสีเงินกัน"
มีอาและลีโอหยุดชะงัก หันมามองลีร่าด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
"ค่ะ/ครับ" ทั้งสองตอบเสียงอ่อย
ลีร่าถอนหายใจ "ดีมาก รีบกินให้หมด แล้วไปเตรียมตัวกัน"
ทุกคนเร่งมือทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว บรรยากาศเงียบสงัดลง มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจานเบาๆ
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ลีร่าก็ลุกขึ้นยืน "เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว"
"แม่คะ พวกเราจะไปที่กองอัศวินจันทราสีเงินนะคะ!" มีอาพูดเสียงใส ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความตื่นเต้น
"ใช่ครับแม่ วันนี้ผมจะแสดงให้มีอาเห็นว่าผมฝึกหนักแค่ไหน" ลีโอเสริมด้วยรอยยิ้มมั่นใจ
"แล้วก็...พวกเราจะรีบกลับมานะคะแม่" ลีร่าพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน "วันนี้มีอาอยากเห็นการฝึกของลีโอค่ะ"
เอลาร่ายิ้มตอบอย่างอบอุ่น "จ้ะ ไปเถอะลูกๆ ดูแลตัวเองดีๆ นะ แล้วก็...สนุกให้เต็มที่เลย"
"ค่ะ/ครับ!" ทั้งสามตอบพร้อมกัน ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งออกไปจากบ้านต้นไม้ด้วยความกระตือรือร้น เสียงหัวเราะสดใสดังก้องไปทั่วป่าเอลฟ์
ระหว่างทางเดิน มีอาบินตามลีโอและลีร่าไปอย่างใกล้ชิด เธอหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นกระต่ายป่าตัวน้อยกระโดดข้ามทางเดิน ทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในหมู่บ้านเอลเดอร์วู้ด พวกเขาเดินผ่านแม่น้ำที่เต็มไปด้วยปลาหลากสีสัน หมู่บ้านที่มีเด็กๆ เอลฟ์วิ่งเล่นกันอย่างร่าเริง และทุ่งดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวาน
เมื่อพวกเขามาถึงเนินเขาสูง กองอัศวินจันทราสีเงินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า อาคารหินสีขาวนวลอบอุ่นภายใต้แสงจันทร์ ธงเงินรูปจันทราโบกสะบัดอย่างเป็นมิตร ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับ
"ว้าว!" มีอาอุทาน ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ "ที่นี่สวยจังเลย! พวกเขาฝึกกันยังไงเหรอ? มีอาอยากเห็น!"
มีอาบินวนไปรอบๆ อาคารอย่างตื่นเต้น เธอจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่ว่าจะเป็นธงที่โบกสะบัด อาวุธที่วางเรียงราย หรือแม้แต่รอยเท้าบนพื้น
"มีอา เดี๋ยวฉันพาดูรอบๆ นะ" ลีร่าพูดเสียงหนักแน่น "ส่วนนาย ลีโอ เตรียมตัวฝึกได้แล้ว วันนี้ฝึกธนู มีดสั้น แล้วก็เวทมนตร์"
ลีโอพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ก่อนจะเดินไปยังลานฝึกที่อยู่ด้านหลังอาคาร
"มามีอา" ลีร่าพูดเสียงอ่อนโยน "เดี๋ยวฉันพาเดินดูรอบๆ ก่อนนะ"
ในขณะที่ลีร่าพามีอาเดินชมกองอัศวินจันทราสีเงิน ทหารเอลฟ์ที่เดินผ่านไปมาต่างก็ทำความเคารพลีร่าอย่างพร้อมเพรียง มีอาสังเกตเห็นท่าทางเคารพเหล่านั้น และเริ่มสงสัยในสถานะของลีร่า
"พี่ลีร่าคะ" มีอาเอ่ยถามเสียงใส "ทำไมคุณเอลฟ์ถึงทำความเคารพพี่ลีร่ากันทุกคนเลยคะ? พี่ลีร่ามีตำแหน่งอะไรในกองอัศวินกันแน่คะ?"
ลีร่ายิ้มกว้าง ก่อนจะตอบติดตลกว่า "ฉันก็แค่... เจ้าของร้านขายขนมหวานแถวนี้เท่านั้นแหละ" จากนั้นก็หัวเราะออกมา ก่อนจะเฉลย "ล้อเล่นน่า ฉันเป็นหัวหน้าหน่วยของกองอัศวินจันทราสีเงิน"
"หัวหน้าหน่วยเหรอคะ?" มีอาทำหน้าตกใจ "ว้าว! ไม่เลวเลยนี่นา แต่ถึงยังไง พี่ก็ยังสู้ความงามและความสามารถของฉันไม่ได้หรอกค่ะ!" เธอกระพือปีกเล็กน้อยและหัวเราะคิกคัก "แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะยอมให้พี่เป็นรองฉันแค่คนเดียวก็ได้"
ลีร่าถอนหายใจพร้อมกับทำหน้าเอือมระอา "จ้าๆ มีอาจังน่ารักที่สุดเลย ทั้งตัวเล็กแค่นี้มาก่อนเหมือนตุ๊กตา แล้วก็เก่งที่สุดในสามโลกเลยจ้ะ" เธอยิ้มและลูบหัวมีอาเบาๆ "เอาล่ะ ไปดูกันต่อเถอะ ก่อนที่เธอจะลอยตัวไปกับความมั่นใจของตัวเอง"
"โอเคๆ ไปดูกันต่อเลยค่ะ! ฉันอยากเห็นทุกอย่างในกองอัศวินจันทราสีเงินเลย!" มีอาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ "พี่ลีร่าคะ ตรงนั้นมีอะไรเหรอคะ? แล้วตรงนี้ล่ะคะ? ว้าว! อาวุธพวกนั้นสวยจังเลย! ฉันขอจับหน่อยได้ไหมคะ?"
มีอาบินไปรอบๆ อย่างกระตือรือร้น ถามคำถามมากมาย และชมทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเห็น ลีร่าหัวเราะเบาๆ กับท่าทางของมีอา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูในความอยากรู้อยากเห็นของแฟรี่ตัวน้อย
"ใจเย็นๆ หน่อยมีอา" ลีร่าพูด "เรามีเวลาอีกเยอะที่จะดูทุกอย่าง"
"แต่ฉันตื่นเต้นนี่นา!" มีอาพูด "ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันน่าทึ่งมาก!"
ลีร่ายิ้ม "ฉันเข้าใจ" เธอกล่าว "ฉันก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่ได้พาเธอมาที่นี่"
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินชมกองอัศวินจันทราสีเงิน พวกเขาได้พบกับลีโอที่กำลังฝึกฝนการยิงธนูอยู่ มีอาหยุดและจ้องมองลีโอด้วยความสนใจ
"ว้าว! ลีโอเก่งจังเลยค่ะ!" มีอาอุทาน ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ "เขายิงธนูได้แม่นมากเลยค่ะ! แต่ถึงยังไง ก็ยังไม่เท่าฉันอยู่ดีค่ะ!" เธอกระพือปีกเล็กน้อยและหัวเราะคิกคัก "ฉันน่ะ ทั้งสวย ทั้งเก่ง แถมยังฉลาดอีกด้วยค่ะ!"
ลีโอหัวเราะเบาๆ "จ้าๆ มีอาจังเก่งที่สุดเลย" เขากล่าว "เอาล่ะ ฉันต้องไปฝึกต่อแล้ว"
"ค่ะๆ พ่อคนเก่ง! รีบๆ ไปฝึกให้เก่งกว่าฉันเลยนะคะ! จะได้ไม่อายเวลาไปออกรบ!" มีอาพูดพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง "แบบว่า...อยากจะโดนลูกธนูยักษ์ๆ เสียบก้นน่ะค่ะ? หรือว่านายช้าจนยิงไม่ทันกันแน่คะ?"
ลีโอ กัดฟันกรอดๆ ทำหน้ามุ่ย "ยัยตัวแสบ! ฉันจะเก่งกว่าเธอให้ดู! แล้วฉันจะยิงธนูให้โดนก้นเธอสักดอก! จะได้รู้ว่าใครเร็วกว่ากัน!"
"ฝันไปเถอะค่ะ!" มีอาพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก "ไม่มีทางที่นายจะยิงโดนก้นฉันได้หรอก! เพราะฉันบินได้ไงคะ! แถมฉันยังหลบเก่งกว่านายตั้งเยอะ! หรือว่านายคิดว่าฉันเป็นเต่าคลานต้วมเตี้ยมกันแน่คะ?"
ลีโอ กัดฟันกรอดๆ ทำหน้ามุ่ย "ตอนนี้เธออาจจะเร็วกว่าฉัน...แต่ในอนาคต ฉันจะเร็วกว่าเธอให้ดู! แบร่!" เขายื่นลิ้นปลิ้นตาใส่มีอา
ลีร่าถอนหายใจ "พอได้แล้วทั้งคู่! พวกเธอจะทะเลาะกันเรื่องก้น...เอ๊ย! เรื่องความเร็วไปถึงเมื่อไหร่?" เธอกล่าว "รีบๆ ไปฝึกกันได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะจับพวกเธอมาฝึกด้วยกัน...ฝึกวิ่งแข่งรอบสนามซักสิบรอบ!"
"พี่ลีร่าคะ...มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติค่ะ" มีอาเอ่ยเสียงเบา แต่แฝงไปด้วยความตื่นตระหนก "ฉันรู้สึกถึงพลังงานที่แปลกประหลาด...มันกำลังเข้ามาในป่าแสงจันทร์ค่ะ"
ลีร่าขมวดคิ้ว "พลังงานอะไร?"
"ฉันไม่รู้ค่ะ...แต่มันไม่ใช่พลังงานที่ดีแน่ๆ ค่ะ" มีอาตอบ "และ...ฉันสัมผัสได้ถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง...กับเหล่าชายฉกรรจ์หลายคนค่ะ"
ลีโอที่กำลังตั้งท่าเตรียมยิงธนู หันขวับมามองมีอาด้วยสีหน้าตกใจ "มนุษย์? พวกมนุษย์กำลังเข้ามาในป่าของเรางั้นเหรอ? ปกติไม่น่าเข้ามาได้นี่นา เพราะมีภาพมายาในป่าแสงจันทร์นี่"
"ใช่ค่ะ! ฉันรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวของเด็กคนนั้น...และจิตมุ่งร้ายของกลุ่มผู้ชายพวกนั้น..." มีอาพูดเสียงสั่น "พวกเขา...กำลังเข้ามาใกล้เด็กผู้หญิงแล้วค่ะ!"
"ใช่ค่ะ! ฉันรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวของเด็กคนนั้น...และจิตมุ่งร้ายของกลุ่มผู้ชายพวกนั้น..." มีอาพูดเสียงสั่น "พวกเขา...กำลังเข้ามาใกล้เด็กผู้หญิงแล้วค่ะ!"
"ไปช่วยกันเถอะครับ พี่ลีร่า!" ลีโอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น "พวกเราจะปล่อยให้เด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตรายไม่ได้!"
"ลีร่าขมวดคิ้วแน่น เธอเป็นหัวหน้ากองอัศวินจันทราสีเงิน หน้าที่ของเธอคือปกป้องป่าแห่งนี้จากทุกภัยอันตราย แต่เด็กคนนั้น...เป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่ป่าแสงจันทร์ควรหลีกเลี่ยง ลีร่ากัดฟันกรอด 'อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด' เธอคิด 'แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นต้องเผชิญอันตรายแน่'
"พวกเราจะไปกันแค่สามคนไม่ได้" ลีร่ากล่าว "เอลวิน่า!" ลีร่าตะโกนเรียกชื่อรองหัวหน้ากองอัศวินจันทราสีเงินอย่างสุดเสียง!!!
"เอลวิน่า"เอลฟ์หญิงร่างกำยำ ผมสีแดงถักเปีย ดวงตาสีเหลืองอำพันเป็นประกาย ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แฝงความแข็งแกร่ง
เธอมีมีดสั้นคู่เป็นอาวุธประจำกาย
เอลวิน่าที่กำลังตักอาหารกลางวันจานโตเข้าปากถึงกับสะดุ้งเฮือก อาหารแทบจะพุ่งออกจากปากด้วยความตกใจ เสียงเรียกที่ดังสนั่นของลีร่าทำให้ทหารเอลฟ์ทุกคนในโรงอาหารชะงักมือจากอาหาร จานชามกระทบกันเล็กน้อย ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เอลวิน่าด้วยความสงสัย ทหารเอลฟ์หลายคนลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ บางคนทำอาหารตกพื้น
เอลวิน่ารีบวิ่งมาหาหัวหน้ากองลีร่าที่ลานฝึกซ้อมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถือขนมปังหน้าเห็ดชิ้นโตติดมือมาด้วย "ท่านลีร่า! เกิดอะไรขึ้นหรือคะ? ทำไมถึงเร่งด่วนขนาดนี้?" เอลวิน่าถามเสียงหอบเล็กน้อย "ข้ากำลังจะทานอาหารกลางวันอยู่พอดี..."
"นี่คือคำสั่ง" ลีร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและกดดัน "ไม่มีเวลาแล้ว เอลวิน่า! จัดกองกำลังแค่ 10 คน แล้วตามฉันมาที่ป่าแสงจันทร์ เดี๋ยวนี้!" ลีร่ากัดฟันแน่น เธอรู้ว่าการพาคนไปน้อยเกินไปอาจเป็นอันตราย แต่เด็กคนนั้น...ต้องการความช่วยเหลือ
"ทุกวินาทีมีค่า! รีบจัดกองกำลังแล้วตามมา!"
เอลวิน่าตอบรับทันที "รับทราบค่ะท่านลีร่า!"
"เดี๋ยวฉันกับลีโอจะไปก่อน" ลีร่าสั่งเสียงเข้ม "ส่วนเธอรีบตามมาทันที! เข้าใจไหม?"
"รับทราบค่ะท่านลีร่า!" เอลวิน่าตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาของเธอแน่วแน่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของลีร่าอย่างเคร่งครัด เธอรู้ดีว่าสถานการณ์นี้ไม่ปกติ และการที่ลีร่าสั่งให้เธอตามไปทีหลัง แสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่อันตรายรออยู่ข้างหน้าแน่นอน
ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนที่รวมตัวกันหนาแน่น แสงสลัวลอดผ่านเมฆลงมากระทบผืนป่าแสงจันทร์ เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งหน้าตื่นไปตามทางแคบๆ ในป่ารกชัฏ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ เลือดไหลซึมออกมาจากบาดแผลตามแขนและขา เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นดังแข่งกับเสียงกิ่งไม้ที่แตกหักใต้ฝีเท้าเล็กๆ ของเธอ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว หันมองไปด้านหลังเป็นระยะๆ
ชายฉกรรจ์ห้าคนไล่ตามมาติดๆ เหงื่อไหลอาบใบหน้ากร้านแดด เสียงฝีเท้าหนักแน่น เสียงหัวเราะเยาะเหี้ยมโหดดังสะท้อนก้องไปทั่วป่า แสงสลัวที่ลอดผ่านเมฆหนาทึบสาดส่องลงมาเป็นลำแสงมืดมัว ราวกับเงาของคมมีดที่พร้อมจะเชือดเฉือน
เด็กหญิงสะดุดล้มลงกับรากไม้ใหญ่ ร่างเล็กๆ สั่นเทิ้มด้วยความกลัว น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอพยายามลุกขึ้น แต่เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือแล้ว เสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์ใกล้เข้ามาทุกที เด็กหญิงกัดฟันแน่น พยายามลุกขึ้นวิ่งอีกครั้ง แม้รู้ว่าโอกาสรอดนั้นริบหรี่เต็มที
เด็กหญิงตัวน้อยซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้าสูง ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาและดินโคลน บาดแผลตามแขนและขาทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบขยับไม่ได้ เสียงฝีเท้าหนักๆ ของชายฉกรรจ์ดังใกล้เข้ามาทุกที หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอเต้นระส่ำด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้นเอง ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็แหวกพุ่มไม้เข้ามา ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นเด็กหญิงซ่อนตัวอยู่ เด็กหญิงกรีดร้องเสียงแหลมเล็ก น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอตัวสั่นเทิ้ม ยกมือขึ้นป้องปัดราวกับจะป้องกันตัวเองจากอันตราย
"อย่าทำอะไรหนูเลยค่ะ" เด็กหญิงร้องไห้สะอึกสะอื้น "หนูกลัวแล้ว หนูยอมแล้ว"
เสียงร้องไห้ของเด็กหญิงดังสะท้อนไปทั่วป่า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง เธอก้มหน้าร้องไห้สะอื้น ตัวสั่นเทิ้มราวกับลูกนกที่กำลังจะถูกจับกิน
"เฮ้! เธอนี่มันวิ่งมาไกลเหมือนกันนะเนี่ย" ชายฉกรรจ์พูดเสียงเหยียดหยัน "ของดีอย่างเธอเนี่ย ทำไมต้องให้พวกฉันตามล่าขนาดนี้ด้วยวะ? ถ้าไม่ติดว่าหัวหน้าสั่งให้จับเป็น ฉันคงฆ่าเธอทิ้งไปนานแล้ว" เขากระชากเสียง "แต่เธอก็หนีพวกฉันมาได้ตั้งสามวัน... นับว่าเก่งใช้ได้เลยนี่หว่า" เขาหัวเราะในลำคอ "แต่เสียใจด้วยนะ วันนี้แหละที่การวิ่งหนีของเธอจะจบลง"
"หรือว่า... พวกเราจะลองเล่นกับเธอดูก่อนที่จะส่งให้หัวหน้าดีไหมนะ?" ชายฉกรรจ์อีกคนพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย ดวงตาของพวกเขาทั้งห้าคนจ้องมองไปทั่วร่างของเด็กหญิงอย่างกระหาย ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังจะเล่นกับเหยื่อก่อนที่จะกิน
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งยื่นมือออกมาแล้วก็เลียใบหน้าของเด็กหญิงด้วยความสะใจ เด็กหญิงตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวและขยะแขยง น้ำตาไหลอาบแก้ม เสียงร้องไห้สะอื้นดังออกมาจากลำคอเล็กๆ
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามต่ำๆ ที่น่าหวาดกลัวดังมาจากส่วนลึกของป่าแสงจันทร์ เสียงนั้นดังสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณ จนทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนชะงัก พวกเขาหันมองหน้ากันด้วยความหวาดระแวง ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ มีเพียงเสียงร้องไห้สะอื้นของเด็กหญิงที่ดังแว่วมา
เสียงคำรามต่ำทุ้มก้องกังวานดังมาจากส่วนลึกของป่าแสงจันทร์ เสียงนั้นสะท้านไปทั่วทุกอณู จนชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนแข็งทื่อ พวกเขาหันขวับมาสบตากัน แววตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความหวาดกลัว ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมทั่วผืนป่า มีเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาของเด็กหญิงที่ดังแทรกความเงียบนั้น
เสียงฝีเท้าหนักแน่นและช้าๆ ดังใกล้เข้ามาทุกที ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนกำดาบและโล่ในมือแน่น เหงื่อเย็นเยียบไหลซึมออกมาจากฝ่ามือ พวกเขามองไปยังพุ่มไม้รกทึบที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวาดระแวง
ร่างสูงใหญ่ผอมแห้งปรากฏขึ้นจากเงามืดของพุ่มไม้ ดวงตาสีแดงเรืองแสงจ้องมองมายังพวกเขาอย่างดุร้าย ฟันแหลมคมสีเหลืองซีดเผยออกมาจากริมฝีปากที่ฉีกกว้าง มันคือเวนดิโก้! สัตว์ปีศาจผู้กระหายเลือด!
ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาทีละหยดสองหยด บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งไปด้วยความกดดัน ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนยืนนิ่งเงียบราวกับถูกสาป มีเพียงเสียงสะอื้นของเด็กหญิงที่ดังแว่วมาท่ามกลางความเงียบ
"ลูกพี่..." ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอ่ยเสียงสั่น "...เราจะสู้มันได้ยังไง?"
(ความคิดในใจของลูกพี่: "ไอ้เวรเอ้ย! ไอ้สัญญาทาสนี่มันอะไรกันวะ! ขัดขืนร่างกายก็ไม่ได้ อยากจะขยับหนีใจจะขาดอยู่แล้ว... จะทิ้งนังเด็กนั่นให้เป็นเหยื่อล่อก็ทำไม่ได้... เพราะไอ้ตัวอักษรที่สลักอยู่บนหลังพวกเรานี่แหละ!! บ้าเอ๊ย!!")
เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนรู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาต้องสู้! พวกเขาเงื้อดาบขึ้น ฟาดฟันเข้าใส่เวนดิโก้อย่างบ้าคลั่ง เสียงดาบปะทะกับกรงเล็บแหลมคมดังสนั่นไปทั่วป่า เสียงคำรามของเวนดิโก้ดังขึ้นอย่างน่ากลัว การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
แต่การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นาน ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนก็ถูกเวนดิโก้ทรมานอย่างโหดเหี้ยม กรงเล็บแหลมคมของมันฉีกร่างพวกเขาเป็นชิ้นๆ เสียงร้องโหยหวนดังระงมไปทั่วป่า เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาเป็นสีเลือด เด็กหญิงตัวน้อยเห็นภาพนั้นก็หวาดกลัวจนแทบคลั่ง เธอพยายามวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ก็หนีไปได้ไม่ไกล เวนดิโก้ตามเธอทัน
มันจ้องมองเด็กหญิงด้วยดวงตาสีแดงเรืองแสง ราวกับกำลังมองอาหารอันโอชะ ก่อนที่มันจะลงมือ มันต้องเล่นกับเหยื่อให้หนำใจเสียก่อน เวนดิโก้จับแขนเด็กหญิงเหวี่ยงไปกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง ร่างเล็กกระแทกกับเปลือกไม้ดังตุ้บ เสียงกระดูกหักดังกรอบ เด็กหญิงกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ดวงตาของเธอพร่าเลือน ความสิ้นหวังเข้าครอบงำเธออย่างสมบูรณ์
"ใครก็ได้... ช่วยหนูด้วย..." เด็กหญิงพึมพำเสียงแผ่วเบา น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอภาวนาในใจด้วยความหวังอันริบหรี่ "ใครก็ได้... ช่วยหนูด้วย..."
แต่ไม่มีใครมาช่วยเธอได้เลย เสียงภาวนาของเธอแผ่วลงเรื่อยๆ จนแทบไม่ได้ยิน เวนดิโก้คำรามเสียงดัง ราวกับเสียงหัวเราะเยาะ มันยกกรงเล็บขึ้นสูง เตรียมที่จะฉีกร่างเล็กๆ นั้นให้เป็นชิ้นๆ เด็กหญิงหลับตาลง ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยวถาโถมเข้ามา ราวกับคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments