"เอาล่ะ มีอาจัง ได้เวลาของเรื่องเล่าแล้ว" เอลาร่าพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือเล่มหนาจากชั้นวางหนังสือ แล้วเดินไปหยิบขนมหวานชิ้นเล็กๆ พอดีคำจากในครัวมาให้มีอา "นี่จ้ะ ทานขนมไป ฟังเรื่องราวไป จะได้สนุกยิ่งขึ้น"
"ว้าว! ขอบคุณค่ะคุณแม่!" มีอาตาเป็นประกาย เมื่อเห็นขนมหวานน่าทานในมือเอลาร่า "หนูชอบขนมหวานที่สุดเลย! แต่...มันเล็กจังเลยค่ะ"
"แม่รู้จ้ะ แม่เลยเตรียมชิ้นเล็กๆ ไว้ให้หนูโดยเฉพาะเลย" เอลาร่าตอบ
"หนูรู้ว่าชิ้นเล็กมันพอดี แต่หนูขอชิ้นใหญ่ๆ ดีกว่าค่ะ! ท้องหนูสามารถจุมังกรได้ 1 ตัวเลยนะคะ!" มีอาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
เอลาร่าหัวเราะเบาๆ "จ้ะๆ ตามใจหนูเลย แต่ถ้าทานไม่หมด แม่ไม่ช่วยทานนะ"
มีอารับขนมหวานชิ้นใหญ่มาถือไว้ ก่อนจะนั่งลงอย่างตั้งใจ พร้อมที่จะฟังเรื่องราวในอดีตที่เอลาร่ากำลังจะเล่า เอลาร่ายิ้มอย่างเอ็นดู ลูบหัวมีอาเบาๆ
"ในยุคบรรพกาล เมื่อโลกยังคงหมุนวนด้วยเวทมนตร์และสิ่งมีชีวิตในตำนาน ดินแดนแห่งนี้เป็นที่สิงสถิตของเหล่าแฟรี่ ผู้ถักทอสายใยแห่งธรรมชาติ พวกเขาใช้พลังเวทมนตร์อันบริสุทธิ์ในการดูแลผืนป่าและสรรพชีวิตให้คงไว้ซึ่งความสมดุลอันศักดิ์สิทธิ์
"แต่แล้ว... ความมืดมิดได้แผ่ปกคลุม! จอมมารผู้ชั่วร้ายและกองทัพปีศาจของมันปรากฏตัวขึ้น! พวกมันกระหายอำนาจ! พวกมันเข่นฆ่าทุกเผ่าพันธุ์อย่างโหดเหี้ยม! เหตุผลของการกระทำของพวกมันยังคงเป็นปริศนา... แรงจูงใจของพวกมันถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด... หรือบางที... พวกมันอาจทำทุกอย่างนี้เพื่อความสนุก? พวกมันจุดชนวนสงครามครั้งใหญ่! สงครามที่สั่นสะเทือนฟ้าดิน! สงครามที่หวังจะครอบงำทุกสรรพสิ่ง!"
"ทว่า... ในความมืดมิด ยังมีแสงสว่างแห่งความหวังปรากฏ เหล่าเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในปฐพี มังกรผู้ครองนภาคำรามก้อง สะบัดปีกผืนฟ้าสะเทือน ไททันผู้สั่นสะเทือนปฐพีคำรามดังกึกก้อง ทุบเท้าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เลเวียธานผู้ครองน่านน้ำคำรามก้อง แหวกว่ายคลื่นยักษ์โถมกระหน่ำ ฟีนิกซ์ผู้เป็นอมตะคำรามก้อง ปลดปล่อยสายฟ้าผ่าลงกลางกองทัพปีศาจ หมาป่าเฟนริร์ผู้มีพลังทำลายล้างมหาศาล และแฟรี่ผู้เชื่อมโยงกับธรรมชาติพวกเขามิอาจทนเห็นโลกถูกทำลายล้าง จึงลุกขึ้นต่อต้านจอมมารและกองทัพปีศาจ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ยังมีผู้กล้าที่เป็นมนุษย์ที่ได้รับพรจากพระเจ้ากับเผ่าพันธุ์ต่างๆร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลก"
"สงครามครั้งนี้มิใช่แค่การแย่งชิงอำนาจ แต่มันคือการต่อสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติและสรรพชีวิต! เปลวเพลิงของมังกรคำรามก้อง เผาผลาญกองทัพปีศาจจนมอดไหม้! เสียงคำรามของไททันดังกึกก้อง แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น แยกออกเป็นเสี่ยงๆ! คลื่นยักษ์ของเลเวียธานโถมกระหน่ำ กลืนกินเหล่าปีศาจลงสู่ห้วงทะเลลึก! และฟีนิกซ์ผู้เป็นอมตะ ปลดปล่อยสายฟ้าอันเกรี้ยวกราด ผ่าลงกลางกองทัพปีศาจ! สายฟ้าฟาดฟันไม่หยุดหย่อน ปกคลุมทั่วท้องฟ้า! หมาป่าเฟนริร์กระโจนเข้าใส่กองทัพปีศาจ เขี้ยวและกรงเล็บของมันฉีกร่างปีศาจเป็นชิ้นๆ เสียงคำรามของมันดังก้องไปทั่วสมรภูมิ ราวกับเสียงแห่งความตาย! พลังเวทย์มนตร์ของแฟรี่ส่องสว่าง ร่ายรักษาบาดแผลของพวกพ้องและผืนป่าที่กำลังจะล่มสลาย! ผืนป่าที่เคยเขียวชอุ่มบัดนี้กลายเป็นสมรภูมิเลือด! เหล่าเผ่าพันธุ์ต่างๆล้มตายระเนระนาด! ธรรมชาติถูกทำลายจนแทบไม่เหลือชิ้นดี! ผืนดินแตกระแหง! สายน้ำเหือดแห้ง! ท้องฟ้ามืดมิด! ทุกสรรพสิ่งกำลังจะดับสูญ!"
"หลังจากสงครามครั้งใหญ่ที่ทำลายล้างจบลงจอมมารได้ดับและสูญสลายหายไปผู้พิทักษ์ทั้ง 7 ได้แก่ มังกร ไททัน เลเวียธาน ฟีนิกซ์ หมาป่าเฟนริร์ แฟรี่ และผู้กล้ามนุษย์ ได้ร่วมพลังกันสร้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น 7 ต้น
เพื่อรักษาธรรมชาติและสมดุลอำนาจของโลก พวกเขามอบหมายให้ผู้ปกครองทั้ง 7 เผ่าพันธุ์ดูแลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านแฟรี่ได้มอบหมายให้เอลฟ์รุ่นแรก ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีความจงรักภักดีต่อพวกท่านมากที่สุด เป็นผู้ดูแลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นแรกที่พวกท่านสร้างขึ้นมา พร้อมกับหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเราชาวเอลฟ์ให้คำมั่นสัญญาว่า ตราบใดที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ยังคงอยู่ ทั้งพวกเราชาวเอลฟ์และโลกก็จะปลอดภัย"
หลังจากผ่านกาลเวลามาหลายพันปี หมู่บ้านเอลเดอร์วู้ดก็ค่อย ๆ ถูกลืมเลือนและซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก แต่พวกเราชาวเอลฟ์ยังคงรักษาความลับและสัญญาที่ให้ไว้กับเหล่าแฟรี่ พวกเราจะปกป้องต้นไม้ต้นนี้ตลอดไป ทุกยุคทุกสมัย นี่คือพันธสัญญาที่สืบทอดกันมาในสายเลือดของเรา
"มีอา...รู้ไหมว่าทำไมพวกเราชาวเอลฟ์ถึงบูชาเหล่าแฟรี่?" เอลาร่าถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่รู้ค่ะคุณแม่" มีอาตอบด้วยความสงสัย
"เพราะว่าเหล่าแฟรี่คือผู้สร้างสรรพสิ่ง พวกเขาเป็นผู้ที่มอบชีวิตและพลังเวทมนตร์ให้กับโลกใบนี้ พวกเขาคือผู้ที่สร้างต้นเอลเดอร์ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมพลังแห่งความหวัง และพวกเขายังเป็นผู้ที่สร้างหมู่บ้านเอลเดอร์วู้ด เพื่อเป็นที่พักพิงให้กับพวกเราชาวเอลฟ์อีกด้วย" เอลาร่าอธิบาย
"นอกจากนี้ ในช่วงสงครามใหญ่ที่โลกเกือบถูกทำลาย เหล่าแฟรี่ยังเป็นผู้ที่ต่อสู้เคียงข้างพวกเรา เพื่อปกป้องโลกจากจอมมารและกองทัพปีศาจ พวกเขาใช้พลังเวทมนตร์อันยิ่งใหญ่ในการรักษาบาดแผลของผืนป่าและพวกพ้องของเรา"
"พวกเราชาวเอลฟ์จึงรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของเหล่าแฟรี่เป็นอย่างมาก พวกเขาคือผู้สร้าง ผู้พิทักษ์ และแสงสว่างแห่งความหวัง พวกเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเรา" เอลาร่ากล่าวด้วยความเคารพ
ทันทีที่เอลาร่าพูดจบ มีอาก็ยืนกอดอกทำหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"ใช่แล้ว! ใช่แล้ว! บูชาฉันสิ! เคารพฉันสิ! ฮ่าๆๆ" มีอาพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ "แล้วก็...เอาของหวานมาเติมให้อีกเยอะๆ เลยนะ!"
เอลาร่าทำหน้าตาน้อยใจเล็กน้อย "โธ่...มีอา ทานขนมยังไม่หมดเลยนะ"
"อ๋อ...หนูลืมไปเลยค่ะ" มีอาพูด ก่อนจะพยายามยัดขนมหวานที่เหลือเข้าปาก แต่ก็ทำได้ไม่กี่คำ "แฮ่ก...หนูยัดไม่ไหวแล้วค่ะคุณแม่"
เอลาร่ายิ้มขำ "ไหนว่าในท้องสามารถจุมังกรได้ 1 ตัวไงจ๊ะ"
มีอาทำหน้าเจื่อน "ก็...มันเป็นมังกรตัวเล็กๆ นี่น่า"
เอลาร่ายิ้มอย่างเอ็นดู "ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ช่วยทานก็ได้"
เอลาร่าหยิบขนมหวานจากมือมีอา แล้วทานจนหมด "เห็นไหมจ๊ะ แม่บอกแล้วว่าอย่าทานชิ้นใหญ่เกินไป"
มีอาพยักหน้าอย่างเขินอาย "ค่ะคุณแม่ หนูจะจำไว้ค่ะ"
มีอามองหน้าเอลาร่าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เธอเม้มปากแน่น ราวกับกำลังชั่งใจกับบางสิ่งที่สำคัญ
"คุณเอลาร่าคะ..." มีอาเอ่ยเสียงแผ่วเบา "หนู...หนูมีเรื่องอยากจะขอค่ะ"
เอลาร่ามองมีอาด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอจ๊ะมีอา บอกแม่มาได้เลย"
มีอาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถาม "หนู...หนูขอเรียกคุณเอลาร่าว่า 'คุณแม่' ได้ไหมคะ?"
เธอเงยหน้าขึ้นมองเอลาร่าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "ตั้งแต่หนูสูญเสียแม่ไป หนูไม่เคยรู้สึกอบอุ่นแบบนี้อีกเลย คุณเอลาร่าใจดีเหมือนแม่ของหนูมากจริงๆ ค่ะ"
เอลาร่ามองมีอาด้วยความเห็นใจและเอ็นดู เธอโอบกอดมีอาไว้แนบอกอย่างอ่อนโยน "ได้สิจ๊ะมีอา เรียกแม่ว่า 'คุณแม่' ได้เลยจ้ะ แม่เองก็รู้สึกผูกพันกับหนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งเหมือนกัน"
มีอาซบหน้าลงกับอกของเอลาร่า น้ำตาไหลอาบแก้ม "ขอบคุณค่ะคุณแม่...ขอบคุณจริงๆ ค่ะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะคนดี" เอลาร่าลูบหลังมีอาเบาๆ "เอาล่ะๆ เช็ดน้ำตาแล้วมาคุยกันต่อดีกว่านะ"
มีอาพยักหน้าและเช็ดน้ำตา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถาม "คุณแม่คะ...ทำไมจอมมารถึงต้องทำลายโลกด้วยคะ? ทำไมเขาต้องฆ่าทุกเผ่าพันธุ์ด้วย?"
เอลาร่าถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า "แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะมีอา ไม่มีใครรู้ว่าทำไมจอมมารถึงทำแบบนั้น บางคนก็บอกว่าเขาทำไปเพราะความกระหายอำนาจ บางคนก็บอกว่าเขาทำไปเพราะความสนุก แต่แม่ว่า...เขาคงอกหักมาน่ะ"
"อกหัก?" มีอาเลิกคิ้ว "อกหักแล้วต้องทำลายโลกเลยเหรอคะ?"
"ก็...เขาอาจจะอยากประชดชีวิตน่ะ" เอลาร่าตอบ "เหมือนเวลาหนูอกหักแล้วอยากกินของหวานทั้งกล่องนั่นแหละ"
"อกหักคืออะไรคะคุณแม่?" มีอาถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ...มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่จ้ะ หนูยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ" เอลาร่าตอบ
"อ๋อ...ค่ะ" มีอาพยักหน้า "งั้นหนูไม่ถามแล้วค่ะ"
"ดีมากลูก" เอลาร่ายิ้ม "เอาล่ะๆ เข้าเรื่องต่อดีกว่า"
"ค่ะๆ" มีอากลอกตา "แล้วต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ 7 ต้นนั้นอยู่ที่ไหนบ้างคะ?"
"ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นถูกซ่อนอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกันไปจ้ะ" เอลาร่าตอบ "มีต้นหนึ่งอยู่ในป่าลึก มีต้นหนึ่งอยู่ในภูเขาสูง มีต้นหนึ่งอยู่ในทะเลลึก อีกต้นหนึ่งอยู่ในเมืองมนุษย์ และอีกสามต้นที่เหลือถูกซ่อนอยู่ใน...ห้องใต้ดินบ้านเรานี่แหละ"
"หา?" มีอาอุทาน "ทำไมต้องซ่อนไว้ใกล้ขนาดนั้นด้วยคะ?"
"ก็...แม่ขี้เกียจเดินทางไกลน่ะ" เอลาร่าตอบ "ล้อเล่นๆ แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ"
"แล้วพวกเราชาวเอลฟ์ต้องดูแลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นแรกยังไงคะ?" มีอาถามต่อ
"พวกเราชาวเอลฟ์ต้องดูแลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเคารพและจงรักภักดีจ้ะ" เอลาร่าตอบ "เราต้องคอยรดน้ำ ใส่ปุ๋ย และ...ร้องเพลงให้ต้นไม้ฟังด้วยนะ"
"ร้องเพลง?" มีอาทำหน้าเหรอหรา "ร้องเพลงอะไรคะ?"
"เพลง...ต้นไม้จ๋า เจ้าจงเติบโตๆๆๆ" เอลาร่าร้องเพลงเสียงดัง "ร้องแบบนี้ทุกวัน ต้นไม้จะได้มีความสุข"
"ค่ะๆ หนูจะจำไว้" มีอากลั้นหัวเราะ "แล้วถ้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายล่ะคะ?"
"ถ้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย โลกก็จะตกอยู่ในอันตรายจ้ะ" เอลาร่าตอบ "แต่แม่เชื่อว่าพวกเราชาวเอลฟ์จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...หนูเองก็เป็นแฟรี่ในตำนานที่มีพลังพิเศษ หนูจะช่วยปกป้องโลกใบนี้ได้แน่นอน"
"หนูสัญญาค่ะคุณแม่ หนูจะช่วยดูแลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ให้ดีที่สุดเลยค่ะ" มีอาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เอลาร่ายิ้มและลูบหัวมีอาเบาๆ "แม่รู้ว่าหนูทำได้จ้ะ เอาล่ะมีอา วันนี้อยากกินอะไรเป็นอาหารเย็นดี? ไปช่วยกันเตรียมอาหารกันเถอะ ก่อนที่เอลรอนด์ ลีร่า ลีโอ จะกลับมาถึงบ้าน"
"วันนี้แม่ว่าจะทำแกงผักรวมเนื้อตุ๋น" เอลาร่าพูดพร้อมกับหยิบหม้อใบใหญ่ขึ้นมา
"แกงผักรวมเนื้อตุ๋น! ว้าว! หนูไม่เคยกินเมนูนี้มาก่อนเลยค่ะคุณแม่! ทุกคนจะต้องชอบเมนูนี้มากๆ แน่ๆ เลยค่ะ! ให้หนูช่วยใช้เวทมนตร์เตรียมของไหมคะ? หนูเสกอาหารไม่ได้ แต่เรื่องหั่นผัก ยกของ แล้วก็เสกเครื่องปรุงนี่ หนูทำได้ดีที่สุดในสามโลกเลยนะคะ! เพราะหนูเป็นแฟรี่ในตำนานที่เก่ง สวย และมีความสามารถรอบด้านที่สุดในโลกด้วย!" มีอาพูดอย่างมั่นใจ
"จ้ะๆ แม่เชื่อแล้ว" เอลาร่ายิ้ม "หนูช่วยหั่นผัก ใส่ผักกับเนื้อในหม้อ แล้วก็เสกเครื่องปรุงมาใส่ตามที่แม่บอกก็แล้วกันนะ"
"ได้เลยค่ะคุณแม่!" มีอาพูดอย่างดีใจ ก่อนจะร่ายเวทมนตร์สั้นๆ ผักต่างๆ ก็ถูกหั่นอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ จากนั้นเธอก็ใช้เวทมนตร์ยกผักและเนื้อใส่หม้ออย่างเบามือ
"เสร็จแล้วค่ะ! หนูเนี่ยเป็นแฟรี่ในตำนานที่เก่ง สวย และมีความสามารถรอบด้านที่สุดเลยใช่ไหมคะคุณแม่?" มีอาถามอย่างภาคภูมิใจ
"เก่ง สวย และมีความสามารถรอบด้านที่สุดเลยจ้ะลูก" เอลาร่าชม "ต่อไปก็ช่วยแม่เสกเครื่องปรุงหน่อยนะ"
มีอาเสกเครื่องปรุงต่างๆ ใส่ลงในหม้อตามคำบอกของเอลาร่า
"ว้าว! หนูว่าแกงผักรวมเนื้อตุ๋นของเราต้องอร่อยที่สุดในโลกแน่ๆ เลยค่ะคุณแม่ เพราะหนูช่วยปรุงรสด้วยเวทมนตร์สุดพิเศษของหนูเอง!" มีอาพูดอย่างภูมิใจ
"แม่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจ้ะ" เอลาร่ายิ้ม "เอาล่ะๆ ใกล้เสร็จแล้ว"
เมื่ออาหารเย็นเสร็จ ทั้งสองคนช่วยกันจัดโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม
"เสร็จแล้วค่ะคุณแม่! หนูเนี่ยเก่ง สวย และมีความสามารถรอบด้านที่สุดเลยใช่ไหมคะ?" มีอาถามอีกครั้ง
"เก่ง สวย และมีความสามารถรอบด้านที่สุดเลยจ้ะลูก" เอลาร่ายิ้ม "ไปล้างมือกันเถอะ อีกไม่นานทุกคนก็จะกลับมาแล้ว"
ตะวันลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเริ่มแต่งแต้มด้วยสีส้มอมชมพู เอลรอนด์ ลีร่า และลีโอเดินกลับมาถึงบ้านในสภาพที่อิดโรยและหิวโซ หลังจากวันที่แสนยาวนาน เอลรอนด์เปิดประตูบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
"กลับมาแล้ว..." เขาพึมพำเสียงแผ่ว "วันนี้ที่สภาประชุม... ดุเดือดมากจริงๆ พวกเขาถกเถียงกันเรื่องงบประมาณ... เหมือนกับว่ากำลังต่อสู้กับกองทัพออร์คเลยทีเดียว..."
เอลาร่าเดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน "ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะทุกคน ไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วค่อยมาทานข้าวพร้อมกัน"
ลีร่าเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับลีโอที่ดูหมดแรง ลีโอเดินซวนเซไปกระซิบข้างหูมีอา
"มีอา... ช่วยฉันด้วย" เขาบ่นเสียงแหบแห้ง "พี่ลีร่าฝึกฉันหนักเกินไป ฉันเหนื่อยจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว... ไม่ไหวแล้วจริงๆ..."
มีอาจ้องหน้าลีโอเขม็ง แล้วชี้นิ้วไปที่หน้าเขา
"นี่! ลีโอ" เธอพูดเสียงเข้ม "ถ้านายยังเหนื่อยขนาดนี้ แล้วนายจะปกป้องฉันได้ยังไง ถ้าเราออกไปข้างนอกน่ะ?"
"จริงๆ เลยนายนี่..." มีอาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา "นู่น... ดูที่โต๊ะอาหารนั่นสิ! อาหารน่ากินขนาดนั้น ยังมีหน้ามาบ่นอีก!"
ลีร่าหอบหายใจเล็กน้อย "นายต้องฝึกให้หนักกว่านี้ลีโอ! นายจะได้เก่งเหมือนพี่ไง!"
ทันทีที่ลีโอเห็นอาหารบนโต๊ะ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง "ว้าว! อาหาร! ผมหิวมาก!"
ลีร่าเองก็ตาเป็นประกาย "คุณแม่รู้ใจหนูจริงๆ! หนูรักแม่ที่สุดเลย!"
ทั้งสามคนรีบไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสง ราวกับมีพลังงานบางอย่างมาเติมเต็ม พวกเขากลับมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าสดใส ลีโอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ลีร่า เอลรอนด์ตักแกงผักรวมเนื้อตุ๋นเข้าปากอย่างรวดเร็ว
"อา... อาหารของเธออร่อยที่สุดเลยเอลาร่า! วันนี้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ"
ลีร่ากินอาหารพร้อมกับมองลีโอที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย "ใช่! อาหารของแม่ช่วยเติมพลังให้หนูได้เยอะเลย!"
ลีโอเคี้ยวแกงผักรวมเนื้อตุ๋นอย่างมีความสุข "แกงผักรวมเนื้อตุ๋นอร่อยที่สุดในโลก!"
มีอาที่กำลังบินอยู่ก็ทำหน้ามุ่ย "เฮ้! ฉันก็ช่วยทำนะ! ทำไมไม่พูดถึงฉันบ้างเลย!"
แต่เอลรอนด์ ลีร่า และลีโอ ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตากินอาหาร โดยไม่สนใจมีอาเลยแม้แต่น้อย
มีอาทำหน้ามุ่ยบินวนรอบโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว
"ยอมไม่ได้! พวกเขาเริ่มกินก่อนฉันได้ยังไง!" มีอาพูดเสียงดัง แล้วบินลงไปนั่งบนโต๊ะข้างๆ ลีโอ เพราะตัวเล็กเกินกว่าจะนั่งเก้าอี้ได้
"ฉันจะกินให้เร็วกว่าทุกคนเลย!" มีอาประกาศอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มตักแกงผักรวมเนื้อตุ๋นเข้าปากอย่างรวดเร็ว
การแข่งขันกินอาหารเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด มีอา เอลรอนด์ ลีร่า และลีโอ ต่างก็กินอาหารอย่างรวดเร็วและเอร็ดอร่อย เสียงช้อนกระทบจานดังสนั่นไปทั่วห้องอาหาร
เอลาร่ามองดูทุกคนด้วยรอยยิ้ม เธอมีความสุขที่ได้เห็นครอบครัวของเธอมีความสุขกับการกินอาหารที่เธอทำ
"ค่อยๆ กินกันหน่อยนะทุกคน" เอลาร่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เดี๋ยวจะติดคอกัน"
แต่ไม่มีใครฟังเอลาร่า พวกเขายังคงกินอาหารอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพวกเขากำลังแข่งขันกันว่าใครจะกินหมดก่อนกัน
ในที่สุด มีอาก็เป็นผู้ชนะ เธอสามารถกินแกงผักรวมเนื้อตุ๋นหมดก่อนใคร
"เย้! ฉันชนะแล้ว!" มีอาตะโกนด้วยความดีใจ "เป็นไงล่ะ! พวกนายกินช้าเป็นเต่าคลานเลย! สมน้ำหน้า! ฉันกินหมดก่อนตั้งนานแล้ว! ขนาดฉันกินทีหลังนะเนี่ย!"
มีอาหัวเราะเสียงดัง มองไปที่เอลรอนด์ ลีร่า และลีโอ ที่กำลังนั่งหอบหายใจอยู่บนเก้าอี้
"ฮ่าๆๆๆ! พวกนายแพ้ฉันแล้ว! คราวหน้าอย่ามาแข่งกับฉันอีกนะ!"
ลีโอมองมีอาด้วยสีหน้าไม่เชื่อ "ฉันแพ้แฟรี่ตัวแค่นี้เนี่ยนะ... ฉันจะยอมให้ก่อนวันนึงละกัน"
แต่แล้วลีโอก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม "แต่อาหารของเธออร่อยมากเลยนะ มีอา"
มีอาหน้าแดงเล็กน้อย ตัวบิดไปมาด้วยความเขินอาย
"บูชาฉันสิ! สรรเสริญฉันสิ! ฮ่าๆๆๆ! ก็บอกแล้วว่าฉันน่ะสุดยอด!"
หลังจากมื้ออาหารค่ำที่แสนอร่อยและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจกันเก็บกวาดทำความสะอาดห้องครัว ลีโอขยับไม้กวาดไปตามพื้นห้องอย่างคล่องแคล่ว มีอาบินวนไปมา เก็บจานที่วางระเกะระกะบนโต๊ะอาหารอย่างว่องไว เอลรอนด์ขัดหม้อใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยคราบซอสอย่างตั้งใจ ในขณะที่ลีร่าช่วยเอลาร่าเช็ดคราบอาหารที่เปรอะเปื้อนบนโต๊ะ
"หลังจากที่ห้องครัวกลับมาสะอาดหมดจดอีกครั้ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจวัตรส่วนตัวก่อนเข้านอน แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนั้น พวกเขาก็รวมตัวกันอย่างเงียบๆ ยกเว้นมีอาที่นั่งอยู่ในห้องของลีโอ
คุณแม่เอลาร่ามองหน้าเอลรอนด์ผู้เป็นสามี ลีร่าผู้เป็นพี่สาว และลีโอผู้เป็นลูกชาย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหนักแน่นและอ่อนโยน ที่ซ่อนความกังวลเล็กน้อย"พวกเรารู้ว่ามีอาผ่านอะไรมาบ้าง และพวกเราก็รู้ว่าเธอต้องการอะไร... ครอบครัว"
"เมื่อกลางวัน...มีอาเรียกฉันว่า 'แม่' " เอลาร่าพูดเสียงเบาลง "แม่ไม่รู้ว่ามีอาผ่านอะไรมาบ้าง แต่แม่รู้ว่าเธอต้องเหงามากแน่ๆ เธออยู่คนเดียวในป่ามาตั้งหลายร้อยปี... คงผ่านอะไรมาเยอะสินะ"
เอลรอนด์จับมือเอลาร่าเบาๆ "ผมเห็นด้วยครับที่รัก มีอาสมควรได้รับความรักและความอบอุ่น"เอลรอนด์มองไปที่พื้นด้วยความเห็นใจ
ลีร่าเดินเข้ามาใกล้ๆ เอลาร่า "หนูเองก็อยากให้มีอาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราค่ะแม่"ลีร่าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ลีโอพยักหน้าอย่างจริงจัง "ผมเองก็เห็นด้วยครับแม่ มีอาไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว"
เอลาร่ายิ้มอบอุ่น "ดีมาก... พวกเราจะไปหามีอาที่ห้องของลีโอพร้อมกัน"
ทุกคนเดินไปรวมตัวกันที่หน้าห้องของลีโอ พวกเขาพร้อมที่จะมอบครอบครัวให้กับมีอา"
เอลรอนด์มองมีอาด้วยแววตาอ่อนโยน "มีอาจัง... พวกเรารู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง แต่จากนี้ไป เธอจะปลอดภัย"
ลีร่าจับมือมีอาเบาๆ "พวกเราจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ"
ลีโอพยักหน้าอย่างจริงจัง "พวกเราจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแล้วนะ... แล้วก็จะไม่เหงาด้วย"
เอลาร่ายิ้มอบอุ่น "ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา... ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวฟอเรสต์ฮาร์ทของพวกเรานะ"
มีอาสะอื้นไห้เบาๆ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอได้รับการเยียวยา เธอหันหลังให้กับทุกคน ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนที่จะหันกลับมาเผชิญหน้ากับทุกคนอีกครั้ง
"อืม... ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" มีอาพูดเสียงสั่นเครือ แต่ในขณะเดียวกันก็มีรอยยิ้มที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความซาบซึ้งปรากฏบนใบหน้าของเธอ
ทันใดนั้น มีอาก็หน้าแดงก่ำ "บ้ากันไปใหญ่แล้ว! ทุกคนทำให้ฉันเขินนะ!" เธอรีบบินมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอย่างรวดเร็ว
ทุกคนหัวเราะเบาๆ เอลาร่าพูดขึ้นว่า "ฝันดีนะจ๊ะ มีอา"
"ฝันดีนะ" เอลรอนด์ และลีร่า พูดพร้อมกัน
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปนอน เหลือเพียงลีโอที่อยู่ในห้องคนเดียว เขาทรุดตัวลงนอนบนที่นอนที่มีอาซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แล้วพูดขึ้นเบาๆ ว่า
"มีอา... เธอหลับหรือยัง?"
"มีอา... ต่อจากนี้ไป พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเหงาอีกต่อไป และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ฉันสัญญา"
ลีโอสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม ยื่นนิ้วก้อยออกมา
มีอาค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากใต้ผ้าห่ม "สัญญาแล้วนะ ห้ามทิ้งฉันให้เหงานะ ทั้งนายและทุกคนเลย"
เธอเกี่ยวนิ้วก้อยกับลีโอ
ลีโอพูดอย่างหนักแน่น "สัญญาด้วยชีวิต เราจะสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกัน"
มีอาตอบเสียงแผ่วเบา "อืม..." เธอเงยหน้าขึ้นมองลีโอ ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความหวังและความสุข "ฉันจะนอนแล้ว... พวกนายทำให้ฉันเขินนะ!" เธอบ่นอุบอิบ ก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง
ลีโอหัวเราะเบาๆ "ฝันดีนะ มีอา"
"ฝันดีนะ ลีโอ" มีอาตอบกลับเสียงอู้อี้จากใต้หมอน
ทั้งสองคนหลับตาลง พร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจ
ข้อความจากผู้แต่งและผู้สร้างเรื่องนี้
"ผมทุ่มเททุกหยาดหยดของหัวใจในการเขียนตอนนี้ ไม่รู้ว่ามันจะสัมผัสถึงหัวใจของผู้อ่านได้หรือไม่ แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้จะเป็นตอนที่อบอุ่นและเยียวยาความรู้สึกของทุกคนได้ หลังจากที่ผมเขียนตอนนี้จบแล้ว ผมก็มาอ่านดูอีกครั้ง และเกือบร้องไห้ออกมาจริงๆ ผมขอขอบคุณทุกท่านจากส่วนลึกของหัวใจที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ"
^^^ Kimsomaru ^^^
^^^ ผู้แต่ง^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments