ลูกสาวเถ้าแก่โรงน้ำชา

"ไม่ อย่าพูดเช่นนั้น แม่พิกุล หรือว่าน้องไม่รักพี่แล้วหรือถึงได้พูดเช่นนี้ออกมา"

"เจ้าไม่ต้องไปสนใจคำพูด แม่มะลิ ต่อไปนางด่าว่าเจ้าอย่างไร เจ้าก็สวนนางคืนแบบนั้น เจ้าไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้านางแล้ว ยิ่งเจ้าใจดียอมอ่อนข้อให้นาง นางกลับยิ่งได้ใจ และยิ่งจะรังแกเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ "

"น้องทำเช่นนั้นไม่ได้ดอกเจ้าค่ะ พี่มะลิ เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของน้อง น้องจะกล้าด่านางได้อย่างใดเจ้าคะ"

พุดตาน เมื่อได้ยินคำพูดของ พิกุล ก็เริ่มทนไม่ไหว พลางพูดแทรกขึ้นมา

"พี่พิกุล ทำไมพี่ต้องทำดีกับนางด้วย พี่โดนนางทำร้ายเสียขนาดนั้นแล้ว พี่ยังจะคิดถึงความรู้สึกนางอีกหรือว่านางจะคิดอย่างไร จะเสียใจหรือไม่ถ้าพี่ทำแบบนี้ ถ้าพวกเราไม่สั่งสอนนางให้นางรู้สำนึกเสียบ้างว่าตนเองนั้นทำตัวแย่แค่ไหนกับน้องสาวของตนแล้วเมื่อไรเล่านางถึงจะรู้ตัวว่าตนเองนั้นเป็นเช่นไร"

"พอเถิด พุดตาน อย่าพูดแบบนั้นเลย ถึงแม้ พี่มะลิ จะด่าว่าพี่กับเจ้าอย่างไร เราสองคนก็ไม่ควรที่จะตอบโต้นางด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเช่นนั้น พี่เชื่อว่าถ้าเราดีกับนางสักวัน พี่มะลิ จะต้องเห็นถึงความดีของเราสองคนแน่นอน"

พิกุล พูดจบแล้ว จึงเดินเข้าไปลูบหัว พุดตาน อย่างเอ็นดู

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ ปราบ รู้สึกไม่ดีต่อ มะลิ ยิ่งกว่าเดิม แล้วยิ่งรู้สึกว่าตนเองคิดถูกแล้วที่ยกเลิกการหมั้นหมายกับ มะลิ แล้วไปหมั้นหมายกับ พิกุล เพราะ พิกุล ทั้งเรียบร้อย จิตใจดี เขารู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่ พิกุล รักตนเอง

ณ ตลาด

วันนี้ มะลิ ตั้งใจอยากจะออกไปสำรวจตลาดสมุนไพร เพื่อมีสมุนไพรตัวใดที่ได้รับความนิยม สมุนไพรตัวใดเป็นที่ขาดตลาดบ้าง เพื่อจะได้นำข้อมูลเอาไปให้ผู้จัดการร้านจัดการซื้อหาเพิ่มเติม

"คุณมะลิ เจ้าคะ อยากได้สิ่งใด หรือกำลังมองหาสิ่งใดหรือเจ้าคะ ให้บ่าวช่วย คุณมะลิ หาดีหรือไม่เจ้าคะ"

"ข้ายังไม่รู้เลย ข้าขอเดินดูก่อนก็แล้วกัน"

"เจ้าค่ะ"

กระถิน เดินตาม มะลิ พลางมองซ้ายทีขวาที เผื่อ มะลิ อยากได้อันใด กระถินจะได้รีบหาช่วย เดินไปได้สักพัก มะลิ จึงหันไปพูดกับ กระถิน

"กระถิน สมุนไพรในตลาดช่วงนี้ มีแต่สมุนไพรแบบเดิม ๆ ที่ร้านเราก็มีขายอยู่แล้ว ไม่ได้มีสมุนไพรที่ตลาดต้องการเป็นพิเศษ"

"ใช่เจ้าค่ะ สมุนไพรที่ร้านค้าของเรานั้นมีมากนัก นายท่านและคุณโมกข์ ตรวจดูอยู่เสมอว่าสมุนไพรตัวใดขาด หรือสมุนไพรตัวใดเป็นที่ต้องการของตลาด ท่านทั้งสองจะมาสำรวจที่ตลาดอยู่เรื่อย ๆ เลยเจ้าค่ะ"

กระถิน พูดจบเหลือบไปเห็น เดช ที่กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยอยู่ในตลาด พลางเอ่ยกับ มะลิ

"คุณมะลิเจ้าคะ นั่นใช่คุณโปลิศ ที่ชน คุณมะลิ เมื่อคราวก่อนใช่หรือไม่เจ้าคะ"

"อืม ใช่"

เดช กำลังเดินลาดตระเวนที่ตลาด หันหน้ามาเจอ มะลิ พอดี เขาดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอนาง เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเจอนาง เขารู้สึกชอบนางในทันที นางเป็นคนที่กล้าพูด และมั่นใจในตนเอง เป็นสิ่งที่แตกต่างจากหญิงสาวที่เขาได้พบเจอยิ่งนัก เขาจึงรู้สึกว่านางนั้นน่าสนใจ

เดช เห็น มะลิ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก จึงเดินเข้าไปทักทาย มะลิ

"เจอกันอีกแล้วนะ แม่นาง วันนี้มาหาซื้อสิ่งใดหรือ ข้าสามารถช่วยแนะนำเจ้าได้นะ ถ้าเจ้าต้องการ"

มะลิ ได้ยินเสียงของ เดช พูดคุยกับนางอยู่ มะลิ จึงเงยหน้าไปมอง เดช

"ไม่มีเจ้าค่ะ ข้าแค่มาเดินเล่นเท่านั้น ยังไม่มีอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษ"

"อ้อ งั้นหรือ เจ้า หน้าตาคุ้น ๆ เหมือนสหายของข้าเลย เจ้าชื่ออะไรหรือแม่นาง ข้าชื่อ เดช นะ เจ้าเรียกข้าว่า พี่เดช ก็ได้"

มะลิ คิดในใจ ผู้ชายคนนี้ มาเกี้ยวเรางั้นรึ คิดพลางมองสำรวจชายหนุ่มไปพลาง รูปร่างสูงโปร่ง คมเข้ม ตามแบบฉบับชายไทย หน้าตาดีกว่า ปราบ เสียอีก

เดช เห็น มะลิ มองตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ไม่ยอมตอบคำถามของเขาเสียที เขาจึงเอ่ยถามนางขึ้นอีกครั้ง

"แม่นาง เจ้าชื่ออะไรหรือ"

"ข้าชื่อ มะลิ ข้าต้องไปแล้วขอลาเจ้าค่ะ พี่เดช"

"เชิญจ้ะ น้องมะลิ"

มะลิ และ กระถิน มองสบตากันจากนั้นจึงเดินจากไป

ณ ตลาด

พิกุล และ แตงอ่อน บ่าวรับใช้ของนางกำลังเร่งรีบมองหาใครสักคนอยู่

"แตงอ่อน ไหนเอ็งบอกว่าได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า พี่ปราบ พาหญิงสาวนางหนึ่งมาเดินเล่นที่ตลาดมิใช่รึ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน"

แตงอ่อน เงยหน้าตอบคำถามของ พิกุล

"ใช่เจ้าค่ะ ตอนบ่าวเดินซื้อของแม่ค้ายังถามบ่าวอยู่เลยว่า คุณปราบ เลิกคบกับ คุณพิกุล แล้วหรือ เหตุใด คุณปราบ พวกมันบอกว่าเห็น คุณปราบ พาสาวสวยมาเดินซื้อของที่ตลาดเจ้าค่ะ"

"แน่ใจรึ ว่าแม่ค้าพวกนั้นไม่ได้จำคนผิดไป"

"บ่าวถามมันแล้วเจ้าค่ะ ว่าจำคนผิดหรือเปล่า มันบอกว่ามันไม่ได้จำคนผิดแน่ ๆ เจ้าค่ะ มันเห็น คุณปราบมาหลายครั้งแล้ว แต่พักหลัง ๆ มานี่เห็น คุณปราบ ไม่ได้มาเดินเที่ยวกับ คุณพิกุล แต่กับมาเล่นเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น พวกมันเห็นบ่าวมาซื้อของพอดีก็เลยถามดูนะเจ้าค่ะ"

"แล้วไหนเล่า พี่ปราบ ข้าไม่เห็นแม้แต่เงาของ พี่ปราบ เลย"

"นั่น ๆ ใช่ คุณปราบ หรือไม่เจ้าคะ"

พิกุล หันหน้าไปมองตามที่ แตงอ่อน ชี้บอก ภาพที่ พิกุล เห็นคือมี ชายหนุ่ม กับ หญิงสาว คู่หนึ่งกำลังเลือกซื้อข้าวของ ทั้งคู่พูดคุยกับไปหัวเราะกันไป ผู้ชายคนนั้นคือคนที่ พิกุล รักมากที่สุด นั่นก็คือ ปราบ นั่นเอง เมื่อ พิกุล เห็นเช่นนั้น จึงรีบเดินเข้าไปหา ปราบ และหญิงสาวผู้นั้น

"พี่ปราบ เจ้าคะ ท่านมากับใครหรือเจ้าคะ"

ปราบ ได้ยินเสียงที่อ่อนหวาน และคุ้นเคยดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จึงหันกลับไปมอง พอเห็นว่าเป็น พิกุล ปราบ ก็ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ

"อ้อ น้องพิกุล เองหรอกหรือ นี่คือ แม่ชม นางเป็นลูกเจ้าของโรงน้ำชานะ แม่ชม นี่แม่พิกุล นางเป็นคู่หมั้นของข้า"

ชม ปรายตามอง พิกุล ตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางพูดขึ้นทักทาย

"ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ คุณพิกุล"

ชม ยิ้มแย้ม พลางหันหน้าไปคล้องแขน ปราบ พลางมองหน้าไปทาง พิกุล

พิกุล มองมือของ ชม ที่กำลังคล้องไปที่แขนของ ปราบ

"แม่ชม ดูเหมือนเจ้าจะสนิทกับ พี่ปราบ เกินไปกระมัง ถึงขนาดว่าข้าคู่หมั้นของเขายืนต่อหน้าเจ้าเเท้ ๆ เจ้ายังกล้าที่จะใกล้ชิด พี่ปราบ ขนาดนี้อีก"

"สนิทมากสิเจ้าคะ เพราะ พี่ปราบ เป็นคนสำคัญของข้านี่เจ้าคะ"

"สำคัญแค่ไหนก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นละจ้ะ ไม่เหมือนข้าที่เป็นคู่หมั้นของ พี่ปราบ"

ชม หัวเราะน้อย ๆ ขึ้นมาทันที พลางมองไปทาง. พี่กุล

"เอ๋ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อก่อนคู่หมั้นของ พี่ปราบ ไม่ใช่ แม่พิกุล นี่เจ้าคะ แต่เป็น แม่มะลิ พี่สาวต่างมารดาของ แม่พิกุล เกิดอะไรขึ้นน้าจู่ ๆ จะเกิดเปลี่ยนตัวคู่หมั้นขึ้นมาได้"

ชม อมยิ้มไปพลาง พูดไปพลางมองหน้า พิกุล

แตงอ่อน เห็นเช่นนั้นจึงรู้สึกโมโหแทนเจ้านายของตนเอง

"นี่ แม่ชม เหตุใดถึงได้พูดเย้ยหยัน คุณพิกุล เช่นนี้ เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่าที่ แม่ชม คิด ถ้าแม่ชมไม่รู้เรื่องจริงทั้งหมด ก็อย่าได้เอามาพูดมั่ว ๆ คนอื่นมาได้ยินเข้าจะเข้าใจ คุณพิกุล ผิดเอาได้"

ปราบ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ดูท่าทางของแต่ละฝ่ายคงไม่ยอมกันง่าย ๆ เป็นแน่

"พวกเจ้าทั้งคู่ หยุดทะเลาะกันเถิด คนอื่นเขาหันมาดูพวกเจ้ากันหมดแล้ว"

พิกุล เห็น ปราบ เริ่มที่จะโกรธขึ้นมาแล้ว จึงหันไปพูดกับ แตงอ่อน

"แตงอ่อน พอได้แล้ว เลิกต่อปากต่อคำกับ แม่ชม เสียที เอ็งดูสิ ชาวบ้านหันมามองพวกเราแล้ว"

ปราบ เห็น แตงอ่อน และ ชม สงบปากสงบคำแล้ว จึงพูดกับทั้งสองคนว่า

"แม่พิกุล แม่ชม เจ้าทั้งสองคนกลับเรือนไปก่อนเถิด ไว้วันหน้าค่อยเจอกันใหม่ พี่มีธุะต้องไปจัดการ ขอตัวก่อนนะ"

ปราบ พูดจบก็เดินจากไปในทันที ทิ้งให้ พิกุล และ ชม หันหน้ามามองกัน ชม เห็นว่า ปราบ ไปแล้วไม่มีเพื่อนเที่ยวแล้ว ดังนั้นจึงเอ่ยกับ พิกุล ว่า

"ขอลาเจ้าค่ะ ไว้พบกันใหม่นะเจ้าคะ คุณพิกุล"

พอพูดจบประโยคแล้วก็เดินจากไปในทันที โดยไม่รอฟังคำตอบรับจาก พิกุล

พิกุล เห็นดังนั้น จึงมองไปทาง ชม ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว พลางพูดกับ แตงอ่อน

"กลับเรือน"

พิกุล และ แตงอ่อน กลับขึ้นไปบนเรือนด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเจอ พุนตาน ที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนเรือน

เมื่อ พุดตาน มองเห็นพี่สาวจึงรีบเดินเข้าไปหาทันที

"พี่พิกุล เป็นอย่างใดบ้างเจ้าคะ พี่ปราบ ไปเที่ยวที่ตลาดกับผู้ใดกันเจ้าคะ"

ตอนที่ แตงอ่อน เดินมาบอกข่าวกับ มะลิ เรื่องที่ ปราบ ไปเดินเที่ยวที่ตลาดกับผู้หญิง พุดตาน กำลังลงไปเดินเล่นที่ด้านล่างของเรือน จึงทำให้ พุดตาน ไม่ได้ไปที่ตลาดกับ พิกุล และ แตงอ่อน

"นางเป็นลูกเจ้าของโรงน้ำชาที่อยู่ในเมือง พี่คิดว่า พี่ปราบ คงเจอนางที่โรงน้ำชานั่นละ แต่พี่ไม่เคยว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับ พี่ปราบ จะดีจนถึงขั้น พี่ปราบ ยอมพานางมาเดินเที่ยวตลาดด้วยกันเพียงสองคน และยังยอมให้จับมือถือแขนอีกด้วย"

"หะ หญิงที่ พี่ปราบ พาไปเที่ยวที่ตลาด คือ ลูกสาวเจ้าของโรงน้ำชาหรอกหรือเจ้าคะ ถ้างั้นนั้นน้องคิดว่า พี่ปราบ คงจะไม่จริงจังกับนางหรอกเจ้าคะ ดู ๆ แล้วนางด้อยกว่า พี่พิกุล นัก พี่พิกุล ทั้งอ่อนหวาน และน่ารัก ที่สำคัญก็คือ พี่พิกุล เป็นคู่หมั้นคู่หมายของ พี่ปราบ ที่พ่อแม่ทั้งสองฝากมาหมั้นหมายกันแล้ว และคนทั้งเมืองก็รับรู้เรื่องนี้กันหมดแล้วด้วย"

"แต่พี่ก็ยังรู้สึกไม่วางใจเลย พุดตาน เพราะว่านางนั้นดูน่าดึงดูด และสวยมาก อีกทั้งกิริยาท่าทางของนางก็พอใช้ได้ ดูเหมือนได้รับการอบรมมาอย่างดี"

แตงอ่อน พูดแทรก พิกุล ขึ้นมา

"บ่าวไม่คิดว่านางได้รับการอบรมมาอย่างดีหรอกนะเจ้าคะ คุณพุดตาน นางพูดจาเย้ยหยัน คุณพิกุล ว่าเเต่นางได้ยินข่าวว่า คุณปราบ หมั้นหมายกับ คุณมะลิ ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้หมั้นหมายกับ คุณพิกุล ซึ่งเป็นน้องสาว คุณมะลิ ได้ นางพูดไปพลางหัวเราะเยาะเย้ยไปพลาง บ่าวโมโหมากเลยเจ้าคะ ตอนได้ยินนางพูดเช่นนั้น"

พุดตาน ได้ฟังแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเหมือนกัน จึงเอ่ยกับ พิกุล

"พี่พิกุล เจ้าคะ ต่อไปถ้าพี่ไปเจอนางอีก น้องขอไปด้วยนะเจ้าคะ น้องอยากจะพูดตอกกลับนางให้เจ็บแสบสักฉากสองฉาก ดูสิว่าจะยังกล้าพูดเย้ยหยัน พี่พิกุล อีกหรือไม่"

พิกุล พยักหน้า พลางคิดในใจว่าครั้งหน้าถ้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้อีกจะต้องพา พุดตาน ไปด้วย เพราะ พุดตาน เป็นคนที่คิดสิ่งใดก็พูดสิ่งนั้น ไม่เหมือนนางที่ต้องรักษาภาพพจน์ของตนเองอยู่เสมอ

"ได้สิ คราวหน้าถ้าพี่ต้องไปพบนางพี่จะต้องให้เจ้า ไปพบนางกับพี่แน่นอน"

พุดตาน มองพิกุลยิ้ม ๆ แล้วตอบกลับ

"เจ้าค่ะ"

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!