ตอนที่ 2 ลูกศิษย์

ตอนที่ 2: ลูกศิษย์

เสียงไฟในเตาผิงลุกไหม้เบาๆ กลิ่นของเนื้อย่างลอยคลุ้งไปทั่วกระท่อมไม้เก่ากลางป่า เบล ลูซิส ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง ร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยรอยแผลและความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต เมื่อหันไปมองรอบตัว เขาพบชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม

"ตื่นแล้วสินะ เจ้าหนู" ชายแก่พูดขึ้นโดยไม่หันมามอง

เบลมองชายแก่ด้วยความสงสัย ก่อนจะจำได้ว่าเขาถูกช่วยชีวิตจาก "อาทารอท"

"คุณเป็นใคร?"

ชายแก่หันมามอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและผ่านสงครามมานับไม่ถ้วน "ชื่อข้าคือ ไคลน์ คนที่ช่วยชีวิตเจ้ายังล่ะ

"ทำไมคุณถึงช่วยผมไว้ล่ะ"เบลได้ถามไคลน์

ไคลน์หัวเราะเสียงต่ำ ฉันก็แค่ผ่านมาทางนั้นพอดีและฉันก็ไม่อยากมาเห็นใครตายต่อหน้าซะด้วยซิ

แต่ว่าคุณแข็งแกร่งมาเลยนะครับที่สามารถไล่ อาทารอท กลับไปได้

" เจ้านั้นมันก็เป็นแค่มิโนทอร์ มันไม่ใช่เรื่องยากหรอ ถ้าเจ้าแข็งกว่านี้ก็คงจัดการได้ไม่ยาก " ไคลน์พูด

เบลคุ้นคิดและได้ขอร้องไคนล์ ให้ช่วยฝึกฝน

"ช่วยฝึกฉันด้วย ฉันต้องการพลัง!"

ไคลน์มองเบลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า "ได้สิ ถ้าเจ้าอยากแข็งแกร่ง... ข้าจะฝึกเจ้า แต่ถ้าเจ้าตายข้าก็ไม่รับผิดชอบเรื่องนั้นแล้วกัน"

 

การฝึกฝนที่โหดร้าย

ตั้งแต่วันนั้น เบลถูกฝึกอย่างหนักทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ไคลน์ไม่ได้สอนแค่การใช้ดาบและอาวุธเท่านั้น แต่ยังสอน การเอาตัวรอด การต่อสู้แบบยุทธวิธี และการควบคุมอารมณ์ในการรบ

"นักรบที่แท้จริงไม่ใช่แค่คนที่แข็งแกร่ง แต่เป็นคนที่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรต่อสู้ และเมื่อไหร่ควรถอย" ไคลน์กล่าวขณะโยนดาบไม้ให้เบล

เบลต้องฝึกต่อสู้กับไคลน์ทุกวัน แม้จะล้มลงกี่ครั้ง ไคลน์ก็ไม่เคยปรานี "เจ้าต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยเจ้าตลอดไป"

นอกจากการต่อสู้ ไคลน์ยังสอนให้เบล ล่าสัตว์ หาอาหาร และสร้างอาวุญ,กับดัก เพื่อให้เขาอยู่รอดได้

บททดสอบครั้งแรกที่หุบเขามาร

สองปีผ่านไป เบลอายุ 16 ปีแล้ว ร่างกายของเขาถูกหล่อหลอมจากการฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน แต่ถึงแม้เขาจะเรียนรู้วิชาดาบและการต่อสู้จากไคลน์ เขาก็ยังไม่เคยเผชิญหน้ากับศัตรูที่แท้จริงมาก่อน

วันนี้ ไคลน์พาเขามายัง หุบเขามาร—สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแดนต้องห้ามของนักเดินทาง หนทางเต็มไปด้วยโขดหินสูงชันและต้นไม้แห้งตาย กลิ่นเหม็นคาวเลือดและซากศพเน่าเปื่อยของสัตว์ป่าที่ถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ลอยตลบอบอวล

“วันนี้คือบททดสอบของเจ้า” ไคลน์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พร้อมกับชี้ไปยังเงาตะคุ่มขนาดมหึมาในเงามืด

เบลเพ่งมองไปและพบกับ ออร์คคลั่ง—อสูรร่างยักษ์สูงกว่าสามเมตร ผิวหนังของมันหยาบกร้านเต็มไปด้วยรอยแผลเก่า ดวงตาของมันเปล่งประกายสีแดงก่ำ ขณะที่มันยืนอยู่ท่ามกลางซากของสัตว์ที่ถูกฉีกกระชากจนเลือดไหลนองพื้น

“เจ้าต้องฆ่ามันด้วยตัวเอง” ไคลน์ประกาศ

เบลกำดาบแน่น แม้จะรู้สึกกดดัน แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เขาต้องผ่านบททดสอบนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้า!

เบลพุ่งเข้าใส่ออร์คคลั่งทันที!

เคร้ง! เสียงโลหะปะทะกันดังก้องไปทั่วหุบเขา ดาบของเบลกระแทกเข้ากับขวานขนาดใหญ่ของออร์ค แรงปะทะรุนแรงจนร่างของเขาแทบปลิว

“อึก!” เบลกระเด็นไปกระแทกพื้น หินแหลมบาดแขนเขาจนเลือดไหลซิบ

ออร์คคลั่งคำรามลั่นก่อนจะกวัดแกว่งขวานอีกครั้ง แรงลมจากอาวุธของมันทำให้เศษหินและฝุ่นพุ่งกระจาย เบลพยายามกลิ้งตัวหลบ แต่ก็ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที

ฉัวะ!

ขอบของขวานเฉือนผ่านไหล่ของเขา เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมาเป็นสาย เบลกัดฟันแน่น รู้สึกได้ถึงความร้อนของเลือดที่ไหลอาบแผ่นหลัง

“ใจร้อนเกินไป เจ้ายังใช้ความแค้นในการต่อสู้” เสียงของไคลน์ดังขึ้นเตือนสติ

เบลกัดฟันแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก เขาต้องสงบสติอารมณ์!

‘อย่าปะทะตรงๆ จงหาจุดอ่อนของศัตรู’

เขากวาดตามองร่างของออร์คและสังเกตเห็น แผลเป็นเก่าที่หัวเข่าของมัน!

เบลปรับแผนใหม่ เขาจะไม่สู้แบบตรงๆ อีกแล้ว!

เบลใช้ความเร็วของเขาวิ่งวนรอบออร์ค หลอกล่อให้มันโจมตีพลาด

ออร์คคลั่งคำรามลั่นก่อนจะเหวี่ยงขวานลงมาเต็มแรง!

ตึง! พื้นดินสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว ขวานของมันกระแทกพื้นจนหินแตกกระจาย แต่เบลไวกว่ามัน

เขาอ้อมไปด้านหลังของมันและเงื้อดาบขึ้นสูง

ฉัวะ!

ปลายดาบของเขาฟันเข้าที่หัวเข่าของออร์ค เลือดดำทะลักออกมาเป็นสาย

“กรออออก!!” ออร์คคลั่งคำรามอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ร่างของมันจะเสียสมดุลและทรุดฮวบลงกับพื้น

เบลไม่ปล่อยให้เสียโอกาส!

เขากระโดดขึ้นไปบนแผ่นหลังของมันก่อนจะเงื้อดาบขึ้นสูงสุดแรง

“ตายซะ!!!”

ฉึก!!

ปลายดาบของเบลดิ่งทะลวงลงกลางกะโหลกของออร์คคลั่ง เลือดสีดำพุ่งกระเซ็นออกมาเป็นละออง ร่างของมันกระตุกอย่างรุนแรง เล็บแหลมข่วนลงบนพื้นทิ้งร่องรอยลึก

เลือดทะลักออกจากบาดแผลจนเจิ่งนองพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว เบลหอบหายใจหนัก ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด ทั้งของตัวเองและของออร์ค

เขาชนะแล้ว!

ไคลน์เดินเข้ามาใกล้ ยืนมองร่างไร้วิญญาณของออร์คที่จมกองเลือด ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ

“เจ้ากำลังก้าวสู่การเป็นนักรบที่แท้จริงแล้ว”

เบลเงยหน้ามองอาจารย์ของตนเอง แม้จะเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขากลับเปล่งประกาย นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะ แต่มันคือก้าวแรกของเส้นทางที่เต็มไปด้วยเลือดและความตายของเขา

หุบเขามารเงียบสงัด …มีเพียงสายลมที่พัดพากลิ่นเลือดให้ฟุ้งกระจายไปทั่ว

"ทำได้ดีมากเบลถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัส"ไคลน์พูดพร้อมอย่างพอใจ

"แต่จงระวัง เจ้ามีฝีมือ แต่ด้อยประสบการณ์ เพราะงั้นจงอย่าประมาทศัตรูที่อยู่ตรงหน้า" ไคลน์พูดตักเตือน

"ขอบคุณครับ อาจารย์ ผมจะพยายามให้มากกว่านี้"เบลกล่าวพร้อมก้มคำนับ

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดทั้งคู่ได้ไปตั้งแคมป์อยู่ที่หุบเขามารต่อ

ค่ำคืนในหุบเขามารเต็มไปด้วยสายลมหนาวที่พัดผ่านต้นไม้แห้งกรอบ ไฟจากกองฟืนลุกไหม้เสียงดัง "เปรี๊ยะๆ" ให้ความอบอุ่นท่ามกลางความมืดมิด เบลนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ พลางใช้ผ้าพันแผลพันบาดแผลตามแขนและไหล่ของตัวเอง หลังจากการต่อสู้กับออร์คคลั่ง แม้จะเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขายังเปล่งประกายจากชัยชนะที่เพิ่งผ่านมา

ตรงข้ามกับเขา ไคลน์กำลังนั่งเหลาเนื้อสัตว์ที่ล่าได้ เสียงมีดขูดกับกระดูกดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางความเงียบสงบของค่ำคืน

"เจ้าทำได้ดี เบล" ไคลน์เอ่ยขึ้น พลางโยนไม้เสียบเนื้อให้เบล

"ขอบคุณครับ อาจารย์" เบลรับเนื้อนั้นมา ก่อนจะย่างบนกองไฟ

ทั้งสองนั่งกินอาหารกันเงียบๆ เบลแอบมองไคลน์อยู่พักหนึ่ง เขาสังเกตเห็นรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนบนร่างกายของชายชรา รวมถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความหนักแน่น มันเป็นสายตาของคนที่ผ่านสงครามและการต่อสู้นับไม่ถ้วน

ในที่สุด เบลก็อดไม่ได้ที่จะถาม

"อาจารย์... ท่านเคยผ่านอะไรมา ทำไมถึงเก่งขนาดนี้?"

จบตอน

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!