ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

ช่วงเวลาที่เอ็มและฮอนใกล้ชิดกันนั้นไม่ได้พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจัง ทั้งสองคนยังคงเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่าคู่รัก เอ็มยังคงรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่แน่ใจว่าเขาชอบฮอนในฐานะเพื่อนหรือมากกว่านั้น

ในขณะที่เอ็มกำลังนั่งกินข้าวกับปลาเกลือทอดและดูโทรทัศน์อย่างสบายใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เอ็มเดินไปรับโทรศัพท์และได้ยินเสียงแหลมๆ แปลกๆ เหมือนคนดัดเสียงทักทายเขา

"หวัดดี เธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อกิ๊ฟนะ" เสียงปลายสายเอ่ยทัก

"เราชื่อเอ็ม" เอ็มตอบกลับ

"เราอยากคุยกับเธอ" กิ๊ฟพูดต่อ

ทั้งสองคนคุยกันอยู่พักใหญ่ เอ็มก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้ เขาจำได้ว่าน้ำเสียงนี้เป็นของพริม แฟนเก่าของเขาที่เคยคบกันมานาน

"นี่พริมใช่ไหม" เอ็มถาม

"เธอรู้ได้ไงว่าเป็นพริม" พริมถามกลับ

"เราคบกับเธอมา จะไม่รู้นิสัยเธอได้ไง" เอ็มตอบ

"เราขอโทษ กลับมาคบกันได้ไหม" พริมเอ่ยขอโทษ

ความรู้สึกของเอ็มเปลี่ยนไปทันที เขาเริ่มลังเลว่าจะให้อภัยพริมดีหรือไม่

ในใจของเอ็มยังคงมีความรู้สึกดีๆ ต่อพริมอยู่ เขาคิดถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองคนเคยมีความสุขด้วยกัน

ด้วยความที่เอ็มยังรักพริมมาก เขาจึงตัดสินใจให้อภัยเธอและกลับมาคบกัน

เขาคิดว่าพริมคงสำนึกผิดและจะไม่ทำผิดซ้ำอีก ส่วนฮอนนั้น เอ็มเริ่มให้ความสนใจเธอน้อยลง

เขาไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกับฮอนเหมือนเดิม

ฮอนรู้สึกเสียใจที่เอ็มเปลี่ยนไป เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอพยายามที่จะพูดคุยกับเอ็ม

แต่เอ็มก็หลีกเลี่ยงที่จะเจอเธอ ฮอนรู้สึกว่าตัวเองถูกทอดทิ้ง เธอรู้สึกผิดหวังและเสียใจ

เอ็มจมอยู่กับความรักครั้งเก่า โดยลืมความรู้สึกดีๆ ที่ฮอนมอบให้เขา

ความสัมพันธ์ของเอ็มกับพริมกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง

โดยมีฮอนเป็นคนที่ถูกลืมไว้ข้างหลัง

ลงโทษ

เช้าวันนั้นบรรยากาศในโรงเรียนเต็มไปด้วยความตึงเครียด

เมื่อข่าวลือเรื่องการตรวจกระเป๋านักเรียนแพร่กระจายไปทั่ว รองผู้อำนวยการวี

ผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดและเด็ดขาด ได้เดินตรวจกระเป๋านักเรียนทุกห้องด้วยตนเอง

นักเรียนทุกคนต่างหวาดกลัวและพยายามซ่อนสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาต

เอ็มเองก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้พกสิ่งของผิดกฎหมายใดๆ มาก็ตาม

แต่เขาก็พกการ์ดยูกิที่เขาชื่นชอบมาด้วย เขาคิดว่าการ์ดยูกิคงไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย

และคงไม่โดนอะไร แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของรองวี เขาก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ

เมื่อรองวีเดินเข้ามาในห้อง ม.2/8 บรรยากาศเงียบสงัด นักเรียนทุกคนนั่งตัวตรงและมองไปที่รองวีด้วยความหวาดกลัว

รองวีตะโกนเสียงดังลั่นห้อง เรียกหาหัวหน้าห้องและรองหัวหน้าห้องให้ออกมาหน้าห้อง

จากนั้นก็สั่งให้ทั้งสองคนตรวจกระเป๋านักเรียนทุกคนในห้อง

เพื่อนๆ ของเอ็มที่รู้ว่าเขาพกการ์ดยูกิมาด้วย ก็จำใจต้องค้นกระเป๋าของเขาและนำการ์ดออกมาวางไว้บนโต๊ะ

รองวีเดินเข้ามาเห็นการ์ดยูกิบนโต๊ะ ก็โกรธจัด เขาตบไปที่กกหูของเอ็มอย่างแรง จนเอ็มล้มลงไปกระแทกกับโต๊ะ

เพื่อนของเอ็มที่เล่นการ์ดยูกิมาด้วยกันก็โดนลงโทษเช่นกัน

เอ็มรู้สึกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ เขารู้สึกว่าตัวเองถูกลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม

เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับถูกทำร้ายร่างกายต่อหน้าเพื่อนๆ

เมื่อเลิกเรียน เอ็มถามเพื่อนๆ จากห้อง ม.2/4 ว่าโดนตรวจกระเป๋าหรือไม่

เพื่อนๆ ตอบว่าห้องของพวกเขาไม่โดนตรวจ เอ็มรู้สึกไม่ยุติธรรมอย่างมาก

เขาคิดว่าทำไมห้องของเขาถึงโดนตรวจ แต่ห้องอื่นๆ ไม่โดน เขาเริ่มตั้งคำถามถึงความยุติธรรมในโรงเรียน

เอ็มกลับบ้านด้วยความรู้สึกหดหู่ เขาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

และรู้สึกว่าตัวเองถูกเลือกปฏิบัติ เขาตัดสินใจว่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไป

เขาจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและเพื่อนๆ

โกหก

หลังจากเหตุการณ์การตรวจกระเป๋านักเรียน เอ็มก็มีอาการปวดกกหูมาตลอด 3 วัน อาการปวดนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเอ็มแทบทนไม่ไหว

แม่ของเอ็มสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง

"เป็นอะไรลูก ทำไมทำหน้าไม่ดีเลย" แม่ถาม

เอ็มไม่กล้าบอกความจริง เพราะกลัวแม่เป็นห่วงและโกรธ จึงได้แต่ตอบว่า "ไม่มีอะไรครับแม่ ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อย"

แต่เมื่ออาการปวดกกหูของเอ็มไม่ดีขึ้น แม่จึงพาเขาไปหาหมอ หลังจากตรวจร่างกาย

หมอได้ถามถึงสาเหตุของอาการปวดกกหู เอ็มจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หมอฟัง เมื่อแม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ก็รู้ว่าลูกชายโกหก

จึงเค้นถามความจริง เอ็มจึงเล่าเรื่องที่ถูกรองวีทำโทษเพราะนำการ์ดยูกิไปโรงเรียนให้แม่ฟัง

แม่ของเอ็มโกรธมากที่ลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย เธอรู้สึกว่าการกระทำของรองวีนั้นเกินกว่าเหตุ

แม่รู้สึกว่าการลงโทษนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับเด็กนักเรียนคนหนึ่ง เธอรู้สึกว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหา

แม่จึงตัดสินใจไปที่โรงเรียนเพื่อขอพบรองวี เมื่อแม่ของเอ็มได้พบกับรองวี

เธอได้สอบถามถึงเหตุผลที่ต้องทำโทษลูกชายของเธอรุนแรงขนาดนั้น เพียงเพราะเรื่องการ์ดยูกิ

แม่ของเอ็มบอกว่าเธอเข้าใจถึงความเข้มงวดของโรงเรียน

แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง และขอให้รองวีขอโทษลูกชายของเธอ

แม่ของเอ็มได้พูดคุยกับรองวีด้วยเหตุผลและน้ำเสียงที่หนักแน่น

เธออธิบายว่าการกระทำของรองวีส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกายของลูกชายของเธออย่างไร

เธอขอให้รองวีเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอในฐานะแม่คนหนึ่ง

รองวีได้ฟังคำพูดของแม่เอ็ม ก็รู้สึกผิดและสำนึกในการกระทำของตนเอง เขาเข้าใจว่าเขาได้ทำเกินกว่าเหตุ

และการกระทำของเขาได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเด็กนักเรียนคนหนึ่ง

เขาได้ขอโทษแม่และเอ็ม และสัญญาว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียนอีก

แม่ของเอ็มรู้สึกพอใจกับการขอโทษของรองวี

เธอหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนให้กับรองวี และจะไม่เกิดขึ้นอีก

เจ็บปวด

ข่าวลือที่เพื่อนจากห้องพริมนำมาบอกเอ็มนั้นราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจเขา

"เอ็ม แฟนมึงนั่งตักผู้ชายคนอื่นวะ" คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัวของเอ็มซ้ำไปซ้ำมา

เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

เอ็มพยายามควบคุมสติและตอบกลับเพื่อนไปว่า "ขอบคุณมากวะ" แม้ว่าภายในใจจะสับสนและเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม

ในช่วงเย็น ขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน พริมยังคงทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอเดินเข้ามาพิงและกอดเอ็มเหมือนเช่นเคย ราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

แต่ครั้งนี้เอ็มไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เขาไม่ได้พูดคุยกับเธอเลย ทั้งสองคนต่างคนต่างกลับบ้านด้วยความเงียบงัน

บรรยากาศระหว่างพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่เข้าใจ

เมื่อถึงบ้าน เอ็มนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมานั่งคิดทบทวน

เขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวและหาคำตอบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังและเจ็บปวดที่หัวใจถาโถมเข้ามา

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพริมถึงทำแบบนี้ ทำไมเธอถึงทำร้ายความรู้สึกของเขา

ขณะที่เอ็มกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

พริมโทรศัพท์เข้ามา เธอถามเอ็มด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า "เอ็มเป็นอะไร วันนี้ดูแปลกๆ"

เอ็มไม่อยากบอกความจริง เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด เขาจึงตอบไปว่า "เขาคงเหนื่อยจากการเรียนนะ"

เอ็มตัดสินใจที่จะเก็บความเจ็บปวดไว้กับตัวเอง

เขาไม่อยากทะเลาะกับพริม และเขาก็ยังหวังว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด

แต่ในใจลึกๆ แล้ว เขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับพริมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ความจริง

เอ็มตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาไม่อยากเชื่อ

เขาเดินไปยังห้องของพริมตามคำแนะนำของเพื่อนที่มาบอกข่าว

เขาหวังว่าสิ่งที่เขาได้ยินจะเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด หรืออย่างน้อยก็มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล

แต่เมื่อเขาไปถึง เขาก็ได้เห็นภาพที่ทำให้เขาต้องใจสลาย

พริมกำลังนั่งตักผู้ชายคนอื่นอย่างสนิทสนม

ภาพนั้นชัดเจนจนเอ็มไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป

เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร

นอกจากความเจ็บปวดที่จุกแน่นอยู่ในอก ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังและทรยศกัดกินหัวใจของเขา

เอ็มเดินกลับห้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวด น้ำตาคลอเบ้า เขาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

แต่ก็ไม่สำเร็จ ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจถาโถมเข้ามาจนเขาแทบยืนไม่อยู่ ก่อนที่พริมจะวิ่งตามมา

เธอพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงร้อนรนและท่าทางลนลานว่า

"มันไม่ใช่อย่างที่เธอเห็นนะ เขาแค่เพื่อนกัน เราแค่คุยกันเฉยๆ"

เอ็มตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

"เพื่อนอะไรนั่งตักกัน คุยอะไรกันถึงต้องนั่งตัก"

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพริมถึงคิดว่าเขาจะเชื่อคำโกหกเหล่านี้

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำร้ายเขาได้มากขนาดนี้

พริมพูดคำว่า "ขอโทษ" เธอโผเข้ากอดเอ็มแน่น

"เขาจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เขาจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว"

ฮอต

Comments

Aiko

Aiko

แอดเขียนเก่งมาก! ไม่อยากหยุดอ่านเลย 😁👍

2025-03-10

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!