ซบไหล่
ในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน เอ็มจะไปรวมตัวกับเพื่อนสนิทอีกสามคน คือ บอย โอ และเค ที่หน้าโรงเรียน
พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบเล่นเกมการ์ดยูกิด้วยกันเป็นชีวิตจิตใจ ระหว่างรอรถตู้รับส่ง พวกเขาก็จะคุยกันเรื่องเกม เรื่องการ์ตูน เรื่องสาวๆ และเรื่องอื่นๆ ที่สนใจ
พวกเขาหัวเราะและแซวกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อรถตู้รับส่งมาถึง เอ็มก็จะโบกมือลาเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้กลับบ้าน เขามักจะเลือกนั่งเบาะหลังสุด
เพราะชอบมองวิวทิวทัศน์ข้างทาง และจะได้ไม่ต้องเบียดกับใคร รถตู้คันเล็กมีเบาะยาวสองแถว
ทำให้ทุกคนต้องนั่งชิดกัน และคนที่นั่งข้างๆ เอ็มในวันนี้ก็คือพริม
ไหล่ของเอ็มและพริมแทบจะชิดกัน เอ็มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่ก็แอบดีใจที่ได้นั่งใกล้ชิดกับพริม เขาเริ่มรู้สึกชอบพริมตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาแอบมองพริมเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร
วันเวลาผ่านไป เอ็มและพริมสนิทสนมกันมากขึ้น พวกเขาคุยกันถูกคอ และมีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน
พวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แชร์ความฝันและความหวังให้กันฟัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง พริมก็มาขอเอ็มเป็นแฟน
"เอ็ม...เราชอบนายนะ เป็นแฟนกันไหม?" พริมถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอหลบสายตาเอ็มเล็กน้อย
เอ็มรู้สึกตื่นเต้นและดีใจจนพูดไม่ออก
เขาไม่คิดว่าพริมจะชอบเขาเหมือนกัน เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาขอเขาเป็นแฟน
"ตกลงสิ" เอ็มตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาดีใจจนแทบจะกระโดด
นับตั้งแต่วันนั้น เอ็มและพริมก็กลายเป็นคู่รักกัน พวกเขาใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าโทรหากัน หรือแค่การนั่งคุยกันเฉยๆ พริมจะกอดเอ็มตอนนั่งบนรถ เอ็มรู้สึกว่าชีวิตของเขามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน
สีชมพู
เอ็มในวัย ม.1 ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการถูกพริมบอกเลิก
ความเสียใจครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อการเรียนของเขาอย่างมาก จากเด็กหนุ่มที่เคยสดใสร่าเริง กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา
และผลการเรียนเริ่มตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆ ในห้องต่างสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเขา
แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปพูดคุยหรือปลอบใจ เพราะรู้ดีว่าเอ็มกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เอ็มก็เริ่มทำใจได้และพยายามที่จะก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้น
เขาเริ่มกลับมาสนใจการเรียนมากขึ้น และพยายามทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องราวในอดีต
แม้ว่าเอ็มและพริมจะยังคงต้องขึ้นรถรับส่งนักเรียนด้วยกัน แต่บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาเลือกที่จะนั่งแยกกันและไม่พูดคุยกันอีกเลย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เอ็มพยายามที่จะไม่สนใจพริม แต่ในใจลึกๆ เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเธอ
ในช่วงเวลานั้นเองที่เอ็มได้เริ่มพูดคุยกับปลาย เด็ก ป.4 ที่อยู่บ้านใกล้ๆ กัน
ทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่องการบ้าน เรื่องเพื่อนที่โรงเรียน และเรื่องอื่นๆ ทั่วไป ปลายเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง ช่างพูดช่างคุย
ทำให้เอ็มรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอีกครั้ง ปลายมักจะเล่าเรื่องราวสนุกๆ ที่โรงเรียนให้เอ็มฟัง
ทำให้เอ็มหัวเราะและลืมความทุกข์ไปได้ชั่วขณะ
วันหนึ่ง ปลายบอกกับเอ็มว่าเธอจะแวะมาหาเขาที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
เอ็มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับการมาเยือนของปลาย เขาไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงมาที่บ้านมาก่อน ในวันรุ่งขึ้น
ขณะที่เอ็มกำลังช่วยพ่อทำงานอยู่หน้าบ้าน
เขาก็เห็นปลายปั่นจักรยานสีชมพูมาหาเธอสวมเสื้อสีชมพู กางเกงสีชมพู และมีร่มกันแดดสีชมพู
เอ็มอดไม่ได้ที่จะขำในใจกับความน่ารักของเธอ ปลายเองก็ดูเขินอายเล็กน้อยจนเกือบจะปั่นจักรยานลงข้างทาง
แต่ก็ยังดูน่ารักในสายตาของเอ็ม
ปลายเดินเข้ามาหาเอ็มด้วยรอยยิ้มสดใส และยื่นขนมที่เธอซื้อมาให้
เอ็มรู้สึกอบอุ่นใจกับความน่ารักของปลาย เขาชวนปลายเข้าไปนั่งเล่นในบ้าน และทั้งสองคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
การมาเยือนของปลายในครั้งนั้น ทำให้เอ็มรู้สึกว่าชีวิตของเขากลับมามีสีสันอีกครั้ง
ความสดใสและความไร้เดียงสาของปลาย ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในใจของเอ็ม และทำให้เขามีความสุขอีกครั้ง
เอ็มรู้สึกขอบคุณปลายที่เข้ามาในชีวิตของเขา และทำให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
ม. 2
เมื่อผลการเรียนของเอ็มประกาศออกมา เขาได้เกรดเฉลี่ย 2.88 ซึ่งทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
เอ็มคาดหวังว่าผลการเรียนของเขาจะดีขึ้น และเขาอาจมีโอกาสได้ย้ายไปอยู่ในห้องเรียนที่มีผลการเรียนดีกว่านี้
แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงอยู่ในห้อง ม.2/8 เหมือนเดิม
ซึ่งทำให้เพื่อนสนิทของเขาอย่างยังบอยและเคโล่งใจที่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
ในขณะที่โอ เพื่อนอีกคนของพวกเขาได้ย้ายไปอยู่ห้อง ม.2/6 ซึ่งเป็นห้องเรียนที่มีผลการเรียนดีกว่า
เอ็มรู้สึกผิดหวังกับผลการเรียนของตัวเอง เขาเริ่มสงสัยว่าเขาควรจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นหรือไม่
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าเขาได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว และผลการเรียนที่ออกมาก็ไม่ได้แย่จนเกินไป
เอ็มตัดสินใจที่จะไม่จมอยู่กับความผิดหวัง และพยายามตั้งใจเรียนให้มากขึ้นในเทอมต่อไป
ในห้อง ม.2/8 เอ็มได้พบกับฮอน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้สึกประทับใจ เธอมีผมสั้นและดูน่ารัก
เอ็มรู้สึกว่าฮอนมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดใจเขา เขาเริ่มสังเกตฮอนมากขึ้น และพยายามหาโอกาสที่จะได้พูดคุยกับเธอ
เอ็มตัดสินใจเขียนจดหมายบอกความในใจของเขาและฝากเพื่อนส่งให้ฮอน
เขาไม่แน่ใจว่าฮอนจะตอบรับความรู้สึกของเขาหรือไม่ แต่เขาก็อยากที่จะลองเสี่ยงดู
เมื่อฮอนได้รับจดหมาย เธอได้เขียนตอบกลับมาว่าเธอเองก็ชอบเอ็มเหมือนกัน
ทำให้เอ็มรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครมาชอบเขาเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เอ็มไม่รู้ก็คือคนที่เขียนจดหมายตอบกลับมานั้นไม่ใช่ฮอน
แต่เป็นนิว เพื่อนสนิทของฮอนที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเธอ นิวแอบชอบเอ็มมานานแล้ว
และเมื่อเธอเห็นจดหมายที่เอ็มเขียนถึงฮอน เธอจึงตัดสินใจเขียนตอบกลับไปโดยแกล้งทำเป็นฮอน
เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับเอ็มมากขึ้น
เอ็มเข้าใจผิดว่าฮอนชอบเขาเหมือนกัน และเขาก็เริ่มสานสัมพันธ์กับเธอ
เขาพยายามหาเวลาที่จะได้อยู่กับฮอน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกัน
นิวก็คอยอยู่ใกล้ชิดเอ็มและพยายามทำให้เขาประทับใจ นิวรู้ว่าเอ็มชอบอะไร และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เอ็มมีความสุข
เอ็มรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่แน่ใจว่าเขาชอบฮอนหรือนิวกันแน่
แต่เขาก็ยังคงเชื่อว่าฮอนคือคนที่เขาชอบจริงๆ เขาไม่รู้เลยว่านิวคือคนที่เขียนจดหมายตอบกลับมา และเขาก็ไม่รู้ว่านิวแอบชอบเขาอยู่
เรื่องราวความรักของเอ็มในวัย ม.2 เริ่มต้นขึ้นด้วยความเข้าใจผิด
แต่ก็เต็มไปด้วยความน่ารักและความสับสน เอ็มจะต้องเผชิญกับความรู้สึกของตัวเอง และตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นคนที่เขารัก
จับมือกัน
เช้าวันนั้นเป็นเวรทำความสะอาดห้องเรียนของเอ็มและฮอน
ทั้งสองคนช่วยกันกวาดพื้น ถูโต๊ะ และเช็ดกระดานอย่างขยันขันแข็ง
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่สนุกสนาน ฮอนเล่าเรื่องราวตลกๆ
ที่เธอเจอในวันก่อนให้เอ็มฟัง ส่วนเอ็มก็เล่าเรื่องราวการ์ตูนที่เขาอ่านให้ฮอนฟังเช่นกัน
เมื่อทำความสะอาดห้องเสร็จ ทั้งสองคนก็รีบวิ่งลงจากตึก 6 ขั้น 3 เพื่อไปยังตึกการงาน เนื่องจากเพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้ไปถึงก่อนแล้ว
และครูสอนการงานก็ขึ้นชื่อเรื่องความดุ เอ็มและฮอนรู้ดีว่าถ้าไปสายจะต้องโดนครูดุอย่างแน่นอน
ฮอนท้าเอ็มแข่งวิ่ง โดยผู้ที่ไปถึงช้ากว่าจะต้องเลี้ยงขนม เอ็มรับคำท้าด้วยความสนุกสนาน
เขาออกตัววิ่งนำไปก่อน แต่เมื่อหันไปเห็นว่าฮอนวิ่งตามมาด้วยความเหนื่อยหอบ
เอ็มก็ตัดสินใจหยุดรอ เขาไม่อยากเอาเปรียบฮอน และเขาก็อยากจะใช้เวลาร่วมกับเธอให้มากขึ้น
เมื่อฮอนวิ่งมาถึง เอ็มก็จับมือเธอแล้วชวนเดินไปด้วยกัน ฮอนมองเอ็มด้วยสายตาขอบคุณ
เธอรู้สึกประทับใจในความมีน้ำใจของเอ็ม ทั้งสองคนเดินจับมือกันไปจนถึงตึกการงาน
ระหว่างทาง พวกเขาพูดคุยกันเรื่องต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน และเรื่องความฝันในอนาคต
ในช่วงเวลานั้น ความรักในวัยเรียนเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และงดงาม เอ็มรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับฮอน
การจับมือกันในครั้งนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันที่ทั้งสองคนมีให้กัน
เอ็มรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ฮอน
เอ็มรู้สึกว่าความรักในสมัยนั้นช่างแตกต่างจากความรักในปัจจุบัน มันเป็นความรู้สึกที่เรียบง่าย
แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความจริงใจ เอ็มไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็รู้ว่าเขาจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่สวยงามนี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Mariloly Salas Sandoval
ใจเต้น
2025-03-10
0