รักใส ๆ ในวันวาน
หอมเเก้ม
หลายปีต่อมา เมื่อเอ็มโตขึ้นและย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของตัวเอง มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาได้เรียนรู้ว่า… รัก ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมอบให้ใครโดยไม่คิดถึงใจของอีกฝ่าย และความรักไม่ใช่สิ่งที่เราจะเลียนแบบจากละครได้ทุกครั้งเสมอไป
ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในยุคที่โทรทัศน์ยังเป็นสิ่งบันเทิงหลักสำหรับเด็ก ๆ ทุกคน "เอ็ม" เด็กชายตัวเล็กที่มีรอยยิ้มซุกซนและหัวใจดวงน้อยที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้ความรู้สึกแปลกใหม่ เขาแอบชอบ "มิ้น" เด็กหญิงที่มักจะวิ่งเล่นและแบ่งของเล่นกับเขาเสมอ
เอ็มกับมิ้นรู้จักกันตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียน เด็กชายมักจะเป็นคนเริ่มชวนเธอเล่นเกมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งไล่จับ กระโดดเชือก หรือแม้แต่ช่วยกันสร้างบ้านเล็ก ๆ จากก้อนอิฐหลังโรงเรียน เวลาที่มิ้นหัวเราะ เอ็มจะรู้สึกเหมือนเสียงของเธอเป็นเสียงที่สดใสที่สุดในโลกใบนี้
แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เอ็มรู้ดีว่าเขาชอบมิ้นมาก เขาชอบเวลาที่เธอยิ้มให้เขา ชอบเวลาที่เธอแบ่งขนมให้ แม้ว่าบางครั้งมันจะเป็นเพียงลูกอมเม็ดเดียวก็ตาม
ทุกวันหลังเลิกเรียน เด็ก ๆ จะนั่งเรียงแถวกันก่อนกลับบ้าน เสียงเจื้อยแจ้วของคุณครูดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อน ๆ เอ็มเหลือบมองมิ้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขามองเธอด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาและเต็มไปด้วยความรู้สึกพิเศษ
ในละครโทรทัศน์ที่เขาเคยดู พระเอกมักจะหอมแก้มนางเอกเสมอเมื่อรู้สึกดีใจหรือรักใครสักคน นั่นคงเป็นวิธีที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกใช่ไหม? เด็กชายคิดเช่นนั้นโดยไม่ลังเล เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของมิ้นอย่างรวดเร็ว
เพี๊ยะ!
เสียงฝ่ามือกระทบแก้มของเอ็มดังขึ้นทั่วห้อง เขาสะดุ้งเฮือก หันไปมองมิ้นที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจและแก้มของเขาก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาจากรอยนิ้วมือของเธอ
เพื่อน ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน บางคนแซว บางคนอ้าปากค้าง ขณะที่เอ็มได้แต่นั่งจับแก้มตัวเอง นี่มันไม่เหมือนในละครเลยสักนิด!
มิ้นเม้มปากแน่น หน้าแดงด้วยความอาย ก่อนจะหันไปมองทางอื่นโดยไม่พูดอะไร เอ็มเองก็ไม่กล้าจะสบตาเธออีก
วันต่อมา มิ้นยังคงเงียบใส่เอ็มเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับมาคุยและเล่นกันเหมือนเดิม ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น ทว่าในใจของเอ็ม มันกลับกลายเป็นความทรงจำที่เขาไม่มีวันลืม
หลายปีต่อมา เมื่อเอ็มโตขึ้นและย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของตัวเอง มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาได้เรียนรู้ว่า… รัก ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมอบให้ใครโดยไม่คิดถึงใจของอีกฝ่าย และความรักไม่ใช่สิ่งที่เราจะเลียนแบบจากละครได้ทุกครั้งเสมอไป
ใกล้ชิดเกินไปเเล้ว
เมื่อเอ็มขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เขาก็แอบชอบเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งในห้อง แม้ว่าเขาจะไม่เคยบอกความรู้สึกกับใคร แต่ในใจของเขาแอบเฝ้ามองและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน เอ็มขึ้นรถสองแถวประจำทางที่แน่นขนัดจนไม่มีที่นั่ง เขาจึงต้องยืนจับราวไว้แน่น แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับหัวใจของเด็กชายอีกครั้ง
เด็กหญิงที่เขาแอบชอบก้าวขึ้นมาบนรถและมายืนอยู่ข้างหลังเขาพอดี เอ็มรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เขาแอบชอบจะมายืนใกล้ขนาดนี้
รถสองแถวเคลื่อนตัวไปตามถนน ขณะที่เอ็มพยายามควบคุมตัวเองให้เป็นปกติ แต่แล้วคนขับกลับเบรกรถกะทันหัน ส่งผลให้เด็กหญิงคนนั้นเซเสียหลัก และในชั่วพริบตา เธอก็ล้มมากอดเขาแนบแน่น
โลกของเอ็มเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจของเขาเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าใครที่เขาแอบชอบจะมาอยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้
เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ เอ็มเองก็ไม่กล้าสบตาเธอตรง ๆ เพียงแค่ความอบอุ่นของร่างกายที่สัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนเวลาหยุดลง
“ขะ...ขอโทษนะ” เด็กหญิงพูดเสียงเบา ก่อนจะรีบถอยหลังไปจับราวแน่น
เอ็มพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าหัวใจของเขาจะยังเต้นแรงอยู่ก็ตาม ภายในใจเขานึกดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ยังพูดกับเขา
หลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เจอเธอในห้องเรียน เอ็มสังเกตว่าเธอเริ่มมองเขาเป็นบางครั้ง แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เขาก็อดยิ้มไม่ได้ เขาไม่แน่ใจว่าเธอจำเหตุการณ์วันนั้นได้หรือไม่ แต่สำหรับเขา มันเป็นความทรงจำที่ตราตรึงอยู่ในใจไปอีกนาน
มันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ในวัยเด็ก แต่สำหรับเอ็ม มันคือช่วงเวลาที่ทำให้เขาเข้าใจว่า… บางครั้ง ความใกล้ชิดที่ไม่ได้คาดคิด ก็อาจทำให้หัวใจของเราเต้นแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เกมสารภาพรัก
แสงไฟในห้อง ป.3 สาดส่องเป็นวงแคบ ๆ กลุ่มเพื่อนสนิทของเอ็มกำลังล้อมวงอยู่บนพื้นไม้ในห้อง กลางวงมีเอ็มนอนหงายหลับตาพริ้มตามคำท้าทายของเพื่อน ๆ
"เอาล่ะ ๆ เงียบ ๆ หน่อย" เสียงของเต้ยดังขึ้น เต้ยเป็นเพื่อนสนิทของเอ็มตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เป็นคนริเริ่มเกมนี้ขึ้นมา
"เอ็ม ๆ หลับตาแน่น ๆ นะ ห้ามแอบดูเด็ดขาด" เต้ยย้ำอีกครั้ง
"เออ ๆ หลับแล้ว ๆ ถามมาเลย" เอ็มตอบกลับเสียงยานคาง ดวงตายังคงปิดสนิท
"เอ็ม ๆ มีแฟนยังเนี่ย" เสียงกระเซ้าของป่านดังขึ้น ป่านเป็นเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่ม
"ยังไม่มีโว้ย ถามได้" เอ็มตอบกลับทันที เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบา ๆ
"แล้ว ๆ แอบชอบใครอยู่ป่ะเนี่ย" เต้ยถามต่อ
"มี ๆ" เอ็มตอบเสียงเขินอายเล็กน้อย
"ใครวะ ๆ บอกมาเลย" เสียงเพื่อน ๆ เริ่มดังขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"บอกไม่ได้ว่ะ" เอ็มตอบเสียงอ้อมแอ้ม
"บอกใบ้ก็ได้ ๆ บอกอักษรย่อมา" ต้นเสนอขึ้นมา ต้นเป็นเพื่อนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม
"ด.เด็ก" เอ็มตอบเสียงเบา
ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ทุกคนในวงต่างส่งเสียงฮือฮาพร้อมกัน ดวงตาของเพื่อน ๆ เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
"ด.เด็ก! ดิวเหรอวะ!" เสียงของเก่งดังขึ้น เก่งเป็นเพื่อนที่รู้เรื่องของทุกคนในกลุ่มมากที่สุด
"เออ ๆ ใช่ ๆ" เอ็มตอบเสียงเขินอาย ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ
"โอ้โห เอ็มเอ๊ย แอบชอบดิวตั้งแต่ป.2 เลยเหรอวะเนี่ย" จิมมี่แซวขึ้นมา จิมมี่เป็นเพื่อนที่ตลกที่สุดในกลุ่ม
"เออ ๆ ก็มันน่ารักนี่หว่า" เอ็มตอบเสียงอ้อมแอ้ม ยิ้มเขิน ๆ
"แล้วทำไมไม่บอกดิวไปเลยวะ" ป่านถามขึ้นมา
"ไม่กล้าว่ะ" เอ็มตอบเสียงแผ่ว
"ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย" เต้ยแซว
"เอาน่า ๆ เอ็มมันขี้อาย" ต้นพูดขึ้นมา
"แต่ดิวก็โสดนะเว้ย" เก่งเสริม
"จริงดิ!" เอ็มถามเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้าง
"เออ ๆ จริงดิ" เก่งยืนยัน
"งั้นพรุ่งนี้กูไปบอกดิวเลยดีกว่า" เอ็มพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วห้อง เอ็มลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายและดีใจ เพื่อน ๆ ต่างพากันให้กำลังใจเอ็ม เอ็มยิ้มกว้างอย่างมีความสุข คืนนี้เป็นคืนที่เอ็มมีความสุขที่สุดในรอบหลายปี
อกหักครั้งเเรก
เช้าวันรุ่งขึ้น เอ็มตัดสินใจรวบรวมความกล้า เดินไปหาดิวที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ดิวผู้หญิงที่เอ็มแอบชอบมาตั้งแต่ป.2 กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
"ดิว..." เอ็มเรียกชื่อดิวเสียงแผ่ว
ดิวเงยหน้าขึ้นมองเอ็มด้วยรอยยิ้ม
"เอ็ม มีอะไรเหรอ" ดิวถาม
เอ็มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดออกไป
"ดิว...คือ...เราชอบเธอนะ"
ดวงตาของดิวเบิกกว้างเล็กน้อย เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา
"เอ็ม...เรา...เราไม่ได้ชอบเอ็มแบบนั้น"
หัวใจของเอ็มราวกับถูกบีบอัด ความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
"ไม่เป็นไร..." เอ็มพูดเสียงสั่นเครือ ก่อนจะเดินจากไป
ตลอดทั้งวัน เอ็มเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องนอน น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และอับอายถาโถมเข้ามาพร้อมกัน
ตกดึก แม่ของเอ็มเดินเข้ามาในห้อง เห็นลูกชายนอนร้องไห้อยู่บนเตียง
"เอ็มลูก เป็นอะไรไป" แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
เอ็มโผเข้ากอดแม่ ร้องไห้สะอื้น
"แม่...ดิว...ดิวไม่ได้ชอบผม" เอ็มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง
แม่ลูบหลังเอ็มเบา ๆ ปลอบโยนลูกชาย
"เอ็มลูก...ลูกยังเด็กนัก โลกนี้ยังมีอะไรให้ลูกค้นหาอีกเยอะ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"แล้วอีกอย่าง...ดิวเขาก็เป็นญาติห่าง ๆ ของเรานะลูก"
เอ็มเงยหน้าขึ้นมองแม่ด้วยความสงสัย
"ญาติเหรอครับ?"
"ใช่จ้ะ...เป็นญาติห่าง ๆ ทางฝั่งคุณยายของลูก"
เอ็มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ คลายความเศร้าลง แม่กอดเอ็มไว้แน่น ปล่อยให้ลูกชายได้ระบายความเสียใจออกมาให้หมด
เด็กใหม่
แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าสาดส่องลงมากระทบใบหน้าของเอ็ม เขาอยู่ในแถวเคารพธงชาติท่ามกลางเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของชั้น ป.4 เอ็มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเคารพธงชาติ ครูประจำชั้นได้พาเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งออกมาแนะนำตัวหน้าเสาธง พวกเธอมีทั้งหมดสี่คน
มีคู่แฝดชื่อ พิงและเพลง และอีกสองคนชื่อ แก้มและออย เอ็มรู้สึกสะดุดตากับแก้มเป็นพิเศษ เธอมีรอยยิ้มที่สดใสและดวงตาที่เป็นประกาย
เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน เอ็มพบว่าแก้มอยู่ห้องเดียวกับเขา เขาพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองแก้มอยู่บ่อยๆ ความรู้สึกปลื้มใจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของเอ็ม
แต่ความทรงจำอันเจ็บปวดจากการบอกรักดิวเมื่อครั้งก่อนยังคงฝังลึกอยู่ในใจของเอ็ม
เขาเริ่มหวาดกลัวที่จะต้องเผชิญกับความผิดหวังอีกครั้ง เอ็มจึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เอ็มเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาในวัยเกือบ 30 ปีนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกในสวนหลังบ้าน
มองดูเด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ความทรงจำในวัยเด็กไหลย้อนกลับมาในความคิดของเขา
"ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่นะ" เอ็มพึมพำกับตัวเอง "ทำไมเราถึงกลัวขนาดนั้น"
เอ็มหัวเราะเบาๆ ให้กับตัวเองในอดีต เขาเข้าใจแล้วว่าความกลัวทำให้เขาพลาดโอกาสดีๆ ไปมากมาย
"แต่ไม่เป็นไร" เอ็มคิด "เรายังมีเวลาที่จะแก้ไข"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments