เช้าวันใหม่เริ่มต้นในคฤหาสน์อันโอ่อ่าของครอบครัว "อี" แสงอบอุ่นที่เต็มไปด้วยแสงแดดยามเช้าและเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วจากภายนอก ห้องนอนที่กว้างขวางของกาญจนาและอีจองฮวานเต็มไปด้วยความอบอุ่น ขณะนี้กาญจนาได้อุ้มลูกสาวคนที่สอง, อีซอฮา, อยู่ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขแทบจะไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้
อีจองฮวานนั่งอยู่ข้างเตียง มือขวาของเขายังคงจับมือภรรยาอย่างแนบแน่น ขณะที่มือซ้ายลูบหัวซึงฮยอน, ที่ยิ้มแย้มและมองดูน้องสาวด้วยความรักและความตื่นเต้น
"แม่ครับ น้องน่ารักมากเลยครับ”
ซึงฮยอนพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ดวงตากลมโตของเขามองน้องสาวด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ต่างจากความรักที่เขามีให้กับแม่และพ่อ
กาญจนาอมยิ้มและบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ลูกก็หล่อมากเลยเช่นกันจ๊ะ”
ทั้งสองคนต่างมองดูทารกน้อยที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของแม่ รอยยิ้มเต็มไปด้วยความสุขที่เกิดขึ้นจากการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ อีจองฮวานที่นั่งอยู่ข้างๆ หันไปมองภรรยาแล้วพูดเสียงเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความรัก
“ลูกสาวคนที่สองของเรา...น่ารักจริงๆ” เขาพูดไปแล้วก็ยิ้มให้กับกาญจนา ขณะที่ยังคงกอดลูกชายตัวเล็กของเขาแนบอก
กาญจนาให้ลูกชายอุ้มน้องสาวได้บ้าง โดยการตั้งใจให้ทั้งสองคนรู้จักและรักกันตั้งแต่แรกเกิด พ่อแม่มองดูท่าทีที่มีความรักระหว่างพี่น้อง
หลังจากทานอาหารเช้าในบรรยากาศอบอุ่นที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากลูกๆ กาญจนาและอีจองฮวานก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการไปทำงาน โดยที่คงทิ้งบรรยากาศแห่งความสุขไว้ในบ้าน เมื่อทุกอย่างพร้อม, กาญจนาและสามีก็เดินไปที่รถที่จอดรออยู่ด้านหน้าคฤหาสน์ ก่อนจะหันหน้ามาบ๊ายบายให้ลูกชายตัวน้อย
ซึงฮยอนวิ่งมาหาพ่อแม่อีกครั้งก่อนที่จะขึ้นรถ เขาวิ่งไปหาพ่อแล้วดึงแขนของเขาไว้
“พ่อครับ พ่อจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ?”
อีจองฮวานยิ้มให้ลูกชายแล้วก้มลงลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน
“พ่อจะรีบกลับมาเร็วๆ นี้นะครับ”
กาญจนาโอบลูกชายแล้วจูบหน้าผากเขาเบาๆ
“อยู่บ้านกับคุณปู่และคุณย่าดีๆ นะลูก”
เมื่อพูดคุยกับลูกชายตัวน้อยเสร็จทั้งสองคนก็ขึ้นรถของพวกเขาก่อนจะขับออกจากบ้านไป, ซึงฮยอนยืนอยู่หน้าบ้านและโบกมือให้พ่อแม่พร้อมกับยิ้มกว้าง ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องสว่างในวันใหม่ ความอบอุ่นในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามคนในครอบครัวนี้มีความสุขและยั่งยืนไม่มีที่สิ้นสุด
และในวันนั้น, สายใยแห่งรักที่เชื่อมโยงระหว่างพ่อแม่และลูกทั้งสามคนยังคงเติบโตขึ้นไปในทุกๆ วัน
ผ่านไปไม่นาน"กาญจนากับสามี"ก็เดินทางกลับมาที่คฤหาสน์อันหรูหรา เสียงหัวเราะและความอบอุ่นในครอบครัวอีจองฮวานยังคงแผ่ซ่านไปทั่วบ้าน เด็กชายอีซึงฮยอนวิ่งไปมาอย่างตื่นเต้นในห้องนั่งเล่น เขาไม่สามารถหยุดยิ้มได้เมื่อคิดถึงน้องสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิดมา ความรักในครอบครัวทำให้ทุกๆ วันเต็มไปด้วยความสุขและความหวังใหม่
“แม่ครับ! ผมจะช่วยดูแลน้องเอง!”
ซึงฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ ขณะที่เขายิ้มกว้างและวิ่งเข้ามาหากาญจนา
กาญจนา ยิ้มให้ลูกชายอย่างอบอุ่น และยื่นมือไปลูบหัวของเขาเบาๆ
“ดีมากเลยจ๊ะ พ่อแม่มีความสุขมากที่มีลูกที่น่ารักแบบนี้นะ”
อีจองฮวานที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมายิ้มให้กับครอบครัวและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
“ซึงฮยอนของเรานับวันยิ่งน่าหล่อเหลาขึ้นในทุกๆวันนะครับ”
"จริงหรอครับ"ซึงฮยอนตอบด้วยเสียงใส
"จริงสิครับ"
พอจบประโยคคำพูดของจองฮวานไปซึงฮยอนก็ยิ้มแฉ่ง
"อา...อู"ซอฮาที่เป็นทารกตัวน้อยพูดเสียงอ่อนแอขึ้นมา
"ลูกสาวพ่อก็น่ารักเช่นกันครับผม"ของฮวานพูดขึ้นพร้อมเสียงอ่อนโยนและหันไปมองลูกสาวที่นอนอยู่ในเปลไม้ข้างๆ
"บาบู" เสียงทารกน้อยดังขึ้นมา
"เบื่อเปลแล้วหรอหืม"
"แอ้..แอ้..อู"
"ครับพ่อจะอุ้มเดี๋ยวนี้แล้วครับองค์หญิง"
ขณะที่จองฮวานกำลังอุ้มลูกสาวทารกตัวน้อยได้ดึงผมจองฮวานเล่นจนได้
"องค์หญิงตัวน้อยปล่อยผมพ่อได้แล้วครับ"
"บูๆ"
กาญจนา ยิ้มให้สามีที่มองมาทางเธอเพื่อขอความช่วยเหลือสายตาของเธอมองไปยังลูกสาวที่ยังดึงผมจองฮวานเล่น เธอก็ขำเบาๆก่อนที่จะอุ้มลูกชายไปหาจองฮวาน
วันเวลาผ่านไป ครอบครัว อี ก็ได้จัดงานเพื่อแสดงความยินดีและร่วมกันฉลองการคลอดลูกสาวคนใหม่ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข ซึงฮยอนวิ่งไปมารอบๆ บ้าน พยายามช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาทำได้ และพยายามเป็นพี่ชายที่ดีให้น้องสาวคนใหม่ของเขา
“พ่อครับ น้องจะทำอะไรได้บ้างเหรอครับ?”
ซึงฮยอนถามด้วยความสงสัย ขณะที่เขานั่งลงข้างๆ พ่อมองไปที่น้องสาวตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่
อีจองฮวาน หันมามองลูกชายและยิ้ม
“น้องสาวของเรายังเล็กมากเลยลูก จะทำอะไรได้บ้างตอนนี้ก็คงต้องรอดูไปก่อน แต่อย่าลืมดูแลน้องให้ดีนะครับ”
ซึงฮยอนพยักหน้าอย่างเข้าใจและมองไปที่น้องสาวด้วยความรักและความห่วงใย
กาญจนาเห็นลูกชายและสามีพูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคตของครอบครัวแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจ เธอรู้ว่าไม่ว่าชีวิตจะมีอุปสรรคหรือความท้าทายใดๆ แต่ด้วยความรักในครอบครัวนี้ พวกเขาจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้
ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ กาญจนาไม่เคยรู้สึกขอบคุณที่ได้มีชีวิตที่ดีเช่นนี้เลย เธอมีทั้งสามีที่รักและเข้าใจเธออย่างลึกซึ้ง และลูกๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข
ครอบครัวอีจองฮวานก็ยังคงเติบโตไปในทิศทางที่ดี ทุกๆ วันเป็นวันที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้และการสร้างความทรงจำที่มีค่า การที่พวกเขามีเวลาให้กันและกันในทุกๆ วัน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็จะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้ด้วยกัน
เวลาในคฤหาสน์ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว ปีนี้
ซึงฮยอนอายุ17 เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ เขาไม่เพียงแต่เป็นพี่ชายที่ดีสำหรับอีซอฮาเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในธุรกิจของพ่อแม่ด้วย การเรียนและการบริหารต่างๆ เขาทำได้ดีเยี่ยม ภาพที่เขาหัวเราะและทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกภูมิใจ
“ซึงฮยอนครับ พรุ่งนี้จะไปดูงานที่ฮ่องกงกับพ่อมั้ย?”
อีจองฮวานถามลูกชายขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องทำงาน สายตาของเขาจับจ้องไปที่เอกสารสำคัญหลายแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ครับพ่อ ผมจะไปดูเองครับ”
ซึงฮยอนตอบอย่างมั่นใจ ขณะที่เขาก้มลงอ่านหนังสือที่เขากำลังศึกษาอยู่
ในขณะเดียวกัน อีซอก็เติบโตเป็นเด็กสาวอายุ12ปีเธอมีทั้งความสดใสและร่าเริง เธอกับพี่ชายมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในทุกๆวัน เธอหมั่นเรียนรู้และช่วยเหลือพี่ชายในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการศึกษาจนถึงกิจกรรมต่างๆ ในครอบครัว เธอรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักและการดูแลเอาใจใส่
“พี่ซึงฮยอนค่ะ ช่วยเลือกชุดให้หนูหน่อยค่ะ”
อีซอฮาถามพี่ชายขณะที่เธอยืนอยู่หน้าประตูพร้อมถือชุดมาสองชุดเพื่อให้พี่ชายเป็นคนเลือกให้
ซึงฮยอนหันไปมองน้องสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูเธอใส่ชุดเดรสสีชมพูพร้อมยิ้มให้ซึงฮยอน
“ชุดนี้ดูดีนะซอฮา แต่ลองตัวนี้อีกตัวสิ”
เขาชี้ไปที่ชุดเดรสสีขาวที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหรา
อีซอฮาทำหน้าทำตาแบบขบขัน ก่อนที่จะเดินไปลองใส่ชุดที่พี่ชายแนะนำ หลังจากนั้นเธอก็เดินมายิ้มให้พี่ชาย
“ดีค่ะ พี่ซึงฮยอนเก่งจังเลยนะคะ” เธอยิ้มและเอ่ยชมพี่ชาย
ซึงฮยอนยิ้มให้กับคำชมของน้องสาวและเริ่มพูดอย่างจริงจัง
“พี่แค่เห็นว่าเธอดูดีแล้วก็เลือกสิ่งที่เหมาะสมเท่านั้นเอง” เขาหัวเราะเบาๆ
ในช่วงเวลานั้นเอง คฤหาสน์แห่งนี้เต็มไปด้วยความสุขและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทุกคนในครอบครัวต่างให้ความสำคัญกับการเติบโตทั้งทางจิตใจและการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว รวมถึงการจัดการกับธุรกิจที่สำคัญของตระกูล
เมื่อวันเวลาผ่านไป อีซอฮาเริ่มแสดงความสนใจในธุรกิจของครอบครัวมากขึ้น เธอไม่ได้แค่เรียนรู้จากพ่อแม่ แต่ยังได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจบางประการด้วย การที่เธอได้เห็นภาพรวมของกิจการทำให้เธอเริ่มเห็นบทบาทของตัวเองในอนาคตอย่างชัดเจน และเมื่อเธอคิดถึงอนาคต เธอก็รู้ว่าเธอจะเดินตามรอยพ่อแม่ของเธอ เพื่อทำให้ธุรกิจของครอบครัวเจริญรุ่งเรืองไปตลอด
“แม่คะ พ่อคะ หนูอยากช่วยดูแลธุรกิจต่อจากพ่อกับแม่ค่ะ”
อีซอฮาพูดด้วยท่าทางมั่นใจ ขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
กาญจนาและอีจองฮวานหันมามองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มให้กับความตั้งใจของลูกสาว
“เราเชื่อในตัวลูกนะ ซอฮา” อีจองฮวานตอบเสียงหนักแน่น “เราจะสนับสนุนทุกความฝันของลูกเสมอ”
กาญจนาเสริมต่อ “ลูกจะไปได้ไกลแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน เราอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ”
คำพูดของพ่อแม่ทำให้ซอฮารู้สึกอบอุ่นและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เธอไม่เพียงแค่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเท่านั้น แต่ยังได้รับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากทั้งพ่อและแม่
ในขณะที่ครอบครัวอีจองฮวานกำลังก้าวไปข้างหน้า ความรักที่พวกเขามีให้กันยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และสิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ทุกการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวังและความสุข
ซอฮาก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหนักในทุกด้าน ตั้งแต่การศึกษาจนถึงการช่วยงานที่บ้าน เธอเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ทั้งความสามารถและทัศนคติที่ดีที่พ่อแม่ได้ปลูกฝังมา ทำให้เธอเป็นเด็กสาวที่มีความรับผิดชอบและยิ่งมีความรักต่อครอบครัวมากขึ้นทุกวัน
ช่วงหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ พ่อของเธอ อีจองฮวาน พาเธอไปเยี่ยมชมโครงการธุรกิจใหม่ที่พวกเขากำลังดำเนินการอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เธอได้เห็นและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
“พ่ออยากให้ซอฮาเห็นและเรียนรู้จากการบริหารงานจริงๆ บ้าง”
อีจองฮวานพูดกับลูกสาวขณะนั่งในเครื่องบินที่กำลังมุ่งหน้าไปยังประเทศที่พวกเขาจะขยายธุรกิจ
“ค่ะ พ่อ หนูอยากเรียนรู้มากๆเลยค่ะ” อีซอฮาตอบอย่างตั้งใจ
ทั้งสองคนเดินทางไปยังประเทศนั้นด้วยความหวังที่จะสร้างโครงการที่มีผลต่อทั้งครอบครัวและการเติบโตของธุรกิจ อีซอฮาได้เห็นความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้สัมผัสถึงความสำเร็จที่มาจากการทำงานหนักและการดูแลเอาใจใส่ทุกๆ รายละเอียด
“ธุรกิจไม่ง่ายเลยใช่ไหมค่ะพ่อ?” ซอฮาถามในขณะที่พวกเขากำลังนั่งพักอยู่ในห้องประชุมของโครงการ
“ใช่ค่ะ แต่ทุกความยากลำบากจะมีรางวัลเสมอ หากเรามีความพยายาม” กาญจนา ซึ่งตามมาร่วมด้วยตอบคำถามลูกสาวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
การเดินทางครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของอีซอฮา เธอได้เห็นภาพรวมของการบริหารธุรกิจและเรียนรู้ถึงความสำคัญของการดูแลคนรอบข้าง ความสำเร็จไม่เพียงแค่เกิดจากการทำงานหนัก แต่ยังมาจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและให้ความสำคัญกับทุกคนที่อยู่รอบตัว
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวยังคงอบอุ่นเสมอ แม้จะมีการเดินทางและงานยุ่ง แต่ทุกครั้งที่กลับมาที่คฤหาสน์ ทุกคนจะมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันเรื่องราวและความรู้สึกของแต่ละวัน
“พ่อคะ หนูจะไม่ทิ้งธุรกิจนี้ไปไหนหรอกค่ะ หนูจะทำมันให้ดีที่สุด” อีซอฮาเงยหน้าพูดอย่างมั่นใจในตัวเอง
“เรารู้ค่ะลูก เรารู้ว่าเธอทำได้ "
กาญจนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
ในที่สุดก็ถึงวันแห่งการตัดสินใจสำคัญ ซึงฮยอนซึ่งตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ในธุรกิจของครอบครัว ก็เริ่มมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง เขาคิดถึงความรับผิดชอบที่พ่อและแม่มอบหมายให้เขา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงความไม่แน่ใจในบางครั้งว่าเขาพร้อมที่จะเป็นทายาทที่ดีของธุรกิจนี้หรือไม่
“พี่ซึงฮยอนเป็นอะไรไปค่ะ?”
อีซอฮาถามพี่ชายที่นั่งอยู่ในห้องทำงานของบ้าน ขณะที่เขากำลังหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ
ซึงฮยอนหันไปมองน้องสาวและยิ้มให้
“พี่แค่คิดอะไรบางอย่างครับ ไม่มีอะไรหรอก”
แต่แม้จะพูดเช่นนั้น อีซอฮาก็รู้ว่าในใจพี่ชายกำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่ ในฐานะที่เป็นน้องสาว เธอรู้สึกถึงความไม่แน่ใจและภาระที่เขากำลังแบกรับ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอรู้ว่าเขาจะหาทางแก้ไขมันเอง
คืนหนึ่ง หลังจากที่ครอบครัวได้ทานอาหารค่ำร่วมกันและพูดคุยเรื่องงานและอนาคตของธุรกิจ เสียงโทรศัพท์มือถือของซึงฮยอนดังขึ้น มันเป็นข้อความจากพ่อของเขา อีจองฮวาน
“ซึงฮยอน เรามีการประชุมสำคัญกับหุ้นส่วนต่างประเทศ พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปอีกครั้ง มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจด่วน "
ซึงฮยอนอ่านข้อความและถอนหายใจลึก เขารู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ แต่ในใจเขาก็ยังมีคำถามที่ต้องหาคำตอบ
ซอฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและตาเป็นประกายด้วยความหวัง ขณะที่เธอยืนอยู่ข้างพี่ชาย ซึงฮยอนมองน้องสาวที่ยิ้มแย้มพร้อมกับขยับตัวไปหยิบชุดที่เหมาะสมให้เธอ
“ชุดนี้ดีมั้ยครับ?” ซึงฮยอนยื่นชุดสีขาวสะอาดที่มีลูกไม้ประดับให้กับน้องสาว เขาพิจารณาท่าทางของเธออย่างใส่ใจ
ซอฮายิ้มกว้างและพยักหน้าอย่างพอใจ “ชุดนี้น่ารักมากค่ะ ขอบคุณพี่ซึงฮยอนนะคะ!”
ซึงฮยอนยิ้มให้กับน้องสาว ก่อนที่จะรอเธออยู่ด้านนอก ขณะที่กาญจนาและอีจองฮวานยืนดูภาพการทำงานร่วมกันของลูกๆ ด้วยความภาคภูมิใจ ความรักที่ทั้งสองคนมีให้กันแผ่ซ่านออกมาในท่าทางและคำพูดที่เต็มไปด้วยความเอื้ออาทร
“พี่ซึงฮยอนเป็นพี่ชายที่ดีมากเลยนะคะ” กาญจนาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ขณะมองไปยังลูกชายที่คอยช่วยเหลือและดูแลน้องสาวของเขาอย่างดี
“ก็เพราะว่าเขารักน้องสาวมากไงครับ” อีจองฮวานพูดพร้อมยิ้ม
ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ที่หรูหรา สายใยแห่งความรักระหว่างครอบครัวอีจองฮวานยังคงเติบโตขึ้นทุกวัน และทุกการกระทำของพวกเขาเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งให้กับครอบครัวนี้ การที่ทั้งสองพี่น้องช่วยเหลือกันในทุกๆ เรื่อง ทำให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเคารพและดูแลกันและกันอย่างลึกซึ้ง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปีนี้ ซอฮาเธออายุ 18ปีแล้ว ทุกๆ วันในบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยการเรียนรู้และเติบโต ในขณะที่ความรักของพ่อแม่และลูกๆ ยังคงเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตครอบครัวอีจองฮวานอย่างไม่หยุดยั้ง.
อีซอฮายิ้มอย่างสดใสเมื่อเห็นพี่ชายกำลังยืนเลือกชุดให้เธอ ซึงฮยอนที่กำลังพิจารณาชุดต่าง ๆ มองไปที่น้องสาวและยิ้มให้เธอ
“หนูต้องการชุดไหนคะ?”
ซึงฮยอนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่เขาหยิบชุดเดรสสีชมพูหวาน ๆ ขึ้นมาให้ดู ถึงปีนี้เขาจะอายุ23ปีแต่ซึงฮยอนก็ยังคงเลือกชุดให้ซอฮาทุกครั้งไม่เคยเปลี่ยน
"ชุดนี้ไหมคะ ดูเป็นไงบ้าง"
อีซอฮายิ้มกว้างและพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“เอาชุดนี้ค่ะ ดูดีมากเลยพี่เลือกได้ดีมาก” เธอบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
ซึงฮยอนพยักหน้าและจัดการเลือกชุดตามที่น้องสาวต้องการ ขณะที่เขาหยิบชุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาให้ดูอย่างตั้งใจ บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความรักและการดูแลที่อบอุ่น ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
หลังจากเลือกชุดเสร็จ อีซอฮาก็รีบวิ่งไปยังห้องนํ้าข้างๆเพื่อเปลี่ยนชุด ขณะที่ซึงฮยอนยืนมองด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ด้วยความรู้สึกภูมิใจที่ได้ดูแลน้องสาวของเขา
“พี่ซึงฮยอนคะ!”
อีซอฮาตะโกนจากห้องข้าง ๆ ขณะที่เธอแต่งตัวเสร็จแล้ว
“อ้าว! หนูแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ?”
ซึงฮยอนถาม ขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้องน้องสาว
อีซอฮาหันมายิ้มให้พี่ชายก่อนที่จะหมุนตัวให้เขาดูชุดใหม่ที่เธอสวม
“พี่คิดว่าเป็นยังไงคะ?” เธอถามด้วยความตื่นเต้น
ซึงฮยอนยิ้มและพยักหน้าช้า ๆ
“น่ารักมากครับ สวยมากเลย” เขาพูดอย่างจริงใจ
อีซอฮาหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะกระโดดไปหาพี่ชายและโอบกอดเขาอย่างเต็มใจ
“ขอบคุณค่ะพี่ซึงฮยอน”
การแสดงออกของความรักระหว่างพี่น้องทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาแห่งความสุขและความเรียบง่าย ที่มาจากความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและจริงใจ
เวลาผ่านไปไม่นาน และหลังจากนี้ทั้งสองคนคงใช้เวลาร่วมกันไม่ได้แล้วเนื่องจากซอฮาเธอนั้นสอบติดมหาลัยชั้นนำของโลกได้
ที่ห้องทำงาน อีจองฮวานกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ขณะที่เอกสารสำคัญถูกวางอยู่เต็มไปหมด เขามองไปที่ซึงฮยอนและยิ้มให้
“ลูกอยากช่วยพ่อดูงานตรงนี้มั้ย?” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ซึงฮยอนพยักหน้าตอบทันที
“ครับพ่อ ผมอยากช่วยครับ” เขาพูดเสียงมั่นใจ
อีจองฮวานลุกขึ้นจากเก้าอี้และนำเอกสารสำคัญมาให้ลูกชายดู
“พ่อมีโครงการใหม่ที่ต้องดูแล ช่วยพ่อหน่อยนะครับ” เขาบอกด้วยความตั้งใจ
ซึงฮยอนรับเอกสารและเริ่มศึกษามันอย่างละเอียด ขณะเดียวกันความตั้งใจและความรับผิดชอบที่มีอยู่ในตัวเขาก็เริ่มเป็นที่ชื่นชมในครอบครัว ขณะที่อีจองฮวานยิ้มให้กับการเติบโตของลูกชาย
ในช่วงเวลานั้น อีซอฮานั่งอยู่ในห้องของตัวเองและกำลังศึกษามหาลัยที่เธอได้สอบติด
"กี่โมงแล้วนะ"
ซอฮาเงยหน้าขึ้นมองไปข้างนอกหน้าต่าง เห็นแสงแดดยามบ่ายที่ส่องเข้ามาในห้อง และรู้สึกว่าชีวิตในครอบครัวนี้ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“วันนี้จะศึกษาเสร็จไหมนะ?” เธอคิดในใจ ขณะที่เปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา เธอต้องศึกษาที่อยู่และอะไรต่างๆที่เธอกำลังจะเข้าไปเรียน
เวลาใน ครอบครัวยังคงเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และความสนิทสนม ทั้งสองพี่น้อง ซึงฮยอนและอีซอฮา ร่วมกันเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน ในที่สุด ทุกวันที่ผ่านไปก็กลายเป็นการสร้างความทรงจำที่เต็มไปด้วยความสุขสำหรับทั้งครอบครัว
ใกล้จะเข้าเนื้อเรื่องแล้วค่ะอดทนอีกนิดนะคะ ถ้าพิมพ์ผิดหรืออะไรต้องขอโทษด้วยนะคะ🙏
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 17
Comments
Lửa
อัพเบาๆนะแอด ไร้ความเร่งด่วนก็ได้สิ!
2025-03-08
1