แมวไล่จับหนู

อากาศตอนกลางวันร้อนจนแทบละลายทุกสิ่ง ผมนั่งกินข้าวในโรงอาหารคนเดียวเช่นเคย จากนั้นจึงเดินเตร็ดเตร่ไปตามโถงทางเดิน หวังจะหาที่เงียบ ๆ ฆ่าเวลา ห้องสมุดคือจุดหมายของผม มันเย็นสบาย สงบ และเป็นที่ที่ผมสามารถซุกตัวอ่านหนังสือหรือแอบงีบหลับได้โดยไม่มีใครสนใจ

เสียงเอะอะดังมาจากหน้าห้องน้ำ และนั่นคือจังหวะที่ผมเดินผ่านพอดี เด็กชายโชคร้ายคนหนึ่งยืนชิดผนัง หน้าซีด ตัวสั่น ขณะมองไปยังรุ่นพี่ ม.6 สองคนที่ยืนขวางหน้า เฮกเตอร์นั่นเอง ผมเดาว่าเขาน่ามีปัญหาเรื่องผูกมิตรกับคนในโรงเรียน

“ฉันรู้ว่าแกยังมีอีก เอาออกมาซะดี ๆ อย่าขี้เหนียว” รุ่นพี่ตัวโตพูดเสียงแข็งอย่างไร้ความปรานี

“ผม... ผมไม่มีจริงแล้ว ๆ” เฮกเตอร์ตอบเสียงสั่น พยายามกุมกระเป๋ากางเกงไว้แน่น

“โกหกเหรอ” อีกฝ่ายกระชากคอเสื้อของเขาเบา ๆ พอให้รู้ว่าไม่อาจหนีไปไหนได้ “รู้มั้ยว่าคนโกหกจะต้องโดนอะไร”

เฮกเตอร์มองไปรอบ ๆ เหมือนจะขอให้ใครสักคนช่วย แต่ไม่มีนักเรียนคนไหนสนใจ บางคนคนแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น บางคนมองแวบเดียวแล้วรีบเดินหนี ใจผมบอกให้ทำเหมือนคนอื่น เดินผ่านไปเสีย ไม่ใช่เรื่องของเราที่ต้องเข้าไปยุ่ง

แต่แล้วเฮกเตอร์ก็สบตาผม น้ำตาคลอเหมือนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ ช่างเขาเถอะ เดี๋ยวก็มีคนอื่นมาช่วยเอง แต่… ผมรู้ดี ความจริงคือจะไม่มีใครหน้าไหนมาช่วยเด็กอ่อนแอที่กำลังถูกรังแกอยู่หรอก

เดินต่อไปอย่าหยุด ใจผมสั่ง แต่ปากของผมมันทะลึ่งไวกว่าสมอง “สวัสดีครับคุณครู!” ผมตะโกนสุดเสียง หาเรื่องตายชัด ๆ

อันธพาลทั้งสองสะดุ้ง รีบปล่อยมือจากเฮกเตอร์ หันมองซ้ายมองขวา แต่ไม่เห็นครูอยู่แถวนั้น คนหนึ่งหันมาหรี่ตาใส่ผมอย่างหงุดหงิด

“อะไรของแก”

“อ้าว ผมคิดว่าครูเดินมา” ผมพึมพำ “โทษทีครับ สงสัยตาฝาด” ผมควรจะวิ่งหนีไปตั้งแต่ตอนนี้ แต่เงาร่างใหญ่ที่ทาบทับลงบนตัวผมมันน่ากลัวจนผมก้าวเท้าไม่ออก

รุ่นพี่คนนั้นหัวเราะ “เฉิงตู แกว่าไอ้เตี้ยนี่มันมีเงินติดตัวเท่าไหร่วะ”

“เท่าไหร่ก็เป็นเงินทั้งนั้นแหละเขื่อน เอาน่า… ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย” เฉิงตูตอบ

เฮกเตอร์ขยับมาหลบข้างหลังผมทั้งที่เขาตัวสูงกว่า อย่างกับผมจะช่วยอะไรได้

ผมสูดลมหายใจลึกก่อนกระซิบบอกเฮกเตอร์ “นับถึงสามแล้ววิ่งเลยนะ หนึ่ง…” แต่เฮกเตอร์ไม่อยู่แล้ว เขารีบวิ่งหนีทันทีทิ้งให้ผมเผชิญหน้ากับสองพี่เบิ้ม

เขื่อนคว้าตัวผมไว้ได้ทันก่อนจะวิ่งหนีไปอีกคน “ไงล่ะพระเอก เพื่อนแกไปซะแล้ว ทีนี้ก็… มีเท่าไหร่ควักออกมาให้หมด”

ในที่สุดผมก็จนมุม พยายามคิดหาทางออก “ช่วยด้วยครับครู” ผมตะโกนเต็มเสียง หัวใจเต้นแรงเหมือนกลองรัว

“แกหลอกเราเป็นครั้งที่สองไม่สำเร็จหรอก” เฉิงตูทำเสียงดุใส่ผมพร้อมกับย่างสามขุมเข้าหา

ผมกลืนน้ำลาย หัวสมองวิ่งพล่านหาทางหนี แล้วทันใดนั้นเอง

“ทำอะไรกันนักเรียน” เสียงทุ้มต่ำของใครคนหนึ่งดังขึ้น เหมือนระฆังช่วยชีวิต ครูกีรติเดินพรวดเข้ามาอย่างรวดเร็วและหยุดที่พวกเรา เขื่อนปล่อยมือจากแขนผมทันที

“ผมถามว่าพวกคุณกำลังทำอะไร” น้ำเสียงของครูเย็นเฉียบจนผมขนลุก เดาว่าคงมีใครสักคนไปฟ้องครู ทำไมผมไม่ทำแบบนั้นแต่แรกนะ

“ไม่มีอะไรครับ เราแค่เจอกันหน้าห้องน้ำเฉย ๆ” เฉิงตูดึงผมเข้าไปกอดคอพลางยิ้มให้กับครู ผมแอบหยิกเฉิงตูตรงขาหนีบด้านในอย่างสุดแรงจนเขากระโดดโหยง ครูกีเห็นทุกอย่างแต่นิ่งเฉย

“ไม่มีอะไรก็ไปซะ” ครูพูดเสียงเรียบ

ขาทั้งสองข้างของผมวิ่งไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ เฮกเตอร์ที่แอบดูอยู่ห่าง ๆ ออกมาจากที่ซ่อน

“เจมส์ นายจะไปไหน” เขาถามขณะที่ผมวิ่งผ่าน

“หุบปาก” ผมตะโกน “ฉันจะฆ่านายแล้วมัดศพกับรถม้าลากไปทั่วโรงเรียน คอยดูเถอะ” ผมคิดถึงจุดจบของเจ้าชายเฮกเตอร์ในหนังเรื่องทรอย

เฮกเตอร์วิ่งตามผมมาติด ๆ เสียงหอบของเราสะท้อนในโถงทางเดิน จนกระทั่งมาถึงห้องสมุด ผมถอดรองเท้าวางไว้ข้างนอกรีบปิดประตูแล้วพิงตัวกับผนัง ลมหายใจหอบไม่เป็นจังหวะ เฮกเตอร์เองก็เช่นกัน

“นายตามฉันมาทำไม” ผมมองเขาก่อนจะเบือนหน้าหนี

“ฉันแค่อยากมีเพื่อน” เขาตอบอย่างจริงใจ

“ทุเรศมาก ฉันเกือบซวยเพราะนายแล้วรู้มั้ย” ผมยังโกรธไม่หาย

“ยังไงก็เถอะ ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน” น้ำเสียงเฮกเตอร์มีความโล่งอกเจืออยู่ในนั้น

...****************...

ในห้องสมุดมีคนอยู่สองประเภท แบบแรกคือหนอนหนังสือขยันอ่าน กับแบบที่สองคือพวกขี้เกียจสันหลังยาวที่เข้ามางีบหลับหลังจากกินข้าวเสร็จ ผมน่าจะเป็นส่วนผสมของทั้งสองแบบ และเมย์… เธอเป็นแบบไหนถึงได้วุ่นวายกับผมไม่หยุด

“มาช้าจัง” เมย์ร้องขึ้นทันทีที่เห็นผมกับเฮกเตอร์เข้ามาในห้องสมุด

“นี่เธอพูดกับฉันเหรอ” ผมถามพลางหันไปมองซ้ายขวา

เด็กหญิงลุกจากโต๊ะที่เต็มไปด้วยกองหนังสือแล้ววิ่งตรงมาหาผม

“ก็ใช่น่ะสิ เจ้าบื้อ คราวหน้าคราวหลังก็หัดรักษาเวลาด้วย” เมย์พูดแล้วดึงแขนผมไปนั่งที่โต๊ะของเธอ เฮกเตอร์เดินตามมาอย่างช่วยไม่ได้

“นั่งลง!” เธอสั่ง

ผมกับเฮกเตอร์นั่งลง เมย์กอดอกทำหน้าขึงขัง “เอาล่ะ ไม่ต้องเกรงใจ พูดออกมาได้เลย”

“พูดอะไร” ผมถาม

“ก็พูดเรื่องของเราไง” เธอตอบ

“เรื่องของเราที่ไหน ไม่มี” ผมส่ายหน้ารีบปฏิเสธ

“แหม ก็เรื่องนั้นแหละ” เมย์ยังคงพูดเป็นปริศนา

“เรื่องนั้นน่ะมันเรื่องอะไรล่ะ” ผมชักเริ่มหงุดหงิด

เมย์ขยับเข้าใกล้ผม เอามือป้องปากกระซิบคล้ายกับกลัวใครได้ยิน

“เรื่องที่นายจะขอให้ฉันรับเข้าทีมค้นหาสมบัติยังไงล่ะ” ในที่สุดเธอก็เฉลย

“ห๊ะ ฉันพูดแบบนั้นตอนไหน” ผมเลิกคิ้วถาม

“เธอนี่ปากแข็งจริง” เมย์พูดพร้อมใช้มือจิ้มหน้าอกผม

“ส่วนเธอก็ไม่ฟังใครเหมือนกัน” ผมย้อนบ้าง แต่ไม่ได้จิ้มกลับ เพราะมันคงไม่สุภาพ

“โอเค งั้นตกลงตามนี้” เมย์พูดเองเออเอง

“เดี๋ยว ฉันยังไม่ได้ตกลง” ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนผมงงไปหมด

“เป็นอันว่ารู้กัน” เมย์ยกมือทำท่าโอเค

“ส่วนเธอ… เฮกเตอร์ มาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ” เมย์ชะโงกหน้าไปพูดกับเฮกเตอร์

“เอ่อ… เปล่า คือฉันแค่…” ผมว่าเฮกเตอร์ก็คงสับสนไม่แพ้กัน

“ก็ได้ เห็นแก่เจมส์ ฉันจะรับเธอเข้าทีมอีกคนก็แล้วกัน” เมย์ยื่นมือออกไป เฮกเตอร์จับมือเธออย่างงง ๆ

“เดี๋ยวสิ ทีมอะไร” เฮกเตอร์ปล่อยมือแล้วหันมามองผมคล้ายขอคำอธิบาย

“อย่ามาถามฉัน ฉันก็เพิ่งเข้ามาในนี้พร้อมกับนาย” ผมปฏิเสธจะตอบคำถาม

เมย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เอาเถอะ เธอเพิ่งมาใหม่คงไม่เข้าใจหรอก”

“ไม่เข้าใจอยู่แล้ว” เฮกเตอร์ยอมรับ “เธอพูดว่าเอาเถอะอะไร”

“แสดงว่าเธอไม่ตั้งใจฟังใช่มั้ย เฮกเตอร์” เมย์ทำเสียงดุ

“ฉันฟังอยู่ แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอพูดเรื่องอะไร” เฮกเตอร์ยิ่งสับสนขึ้นเรื่อย ๆ

“เรื่องทีมของเราน่ะสิ”

“ทีมของเรา? ทีมอะไร”

“ก็ทีมค้นหาสมบัติยังไงล่ะ ซื่อบื้อเอ๊ย เธอไม่ได้ฟังที่ครูพูดเมื่อเช้าเหรอว่าสมบัติทั้งหมดถูกซ่อนไว้ที่โรงเรียน บ้านครูรินถึงไม่มีสมบัติอะไรเลย”

“เอ่อ… ฉันว่านั่นเป็นมุกตลกของครูมากกว่านะ” เฮกเตอร์ขอค้าน

“เธอนี่มันซื่อบื้อจริง ๆ ถ้าโรงเรียนนี้ไม่มีขุมทรัพย์ครูก็ต้องบอกว่าไม่มีสิ แต่ครูไม่ได้ปฏิเสธด้วยซ้ำ ซึ่งฉันเชื่อเต็มร้อยว่ายังไงมันก็ต้องมี เพราะทุกคนรู้ว่ามันถูกซ่อนไว้แต่ยังไม่เคยมีใครหาเจอ นั่นหมายความว่าสมบัติยังอยู่ในนี้ ที่นี่ ตรงไหนสักแห่งของโรงเรียน” เมย์ชี้นิ้วลงบนโต๊ะ

“ทีนี้เข้าใจหรือยัง” เธอจ้องหน้าเราอย่างเอาจริงเอาจัง

“เข้าใจว่า?” แน่นอน เฮกเตอร์ตามไม่ทัน

“โอ๊ย… ทำไมลูกน้องฉันซื่อบื้อได้ขนาดนี้เนี่ย” เมย์โอดครวญ

“เดี๋ยว ใครเป็นลูกน้องใครนะ” ผมประท้วง

“ก็เธอสองคนไง ฉันเป็นลูกพี่ เป็นหัวหน้าทีมค้นหาสมบัติที่เราเพิ่งก่อตั้งกันเมื่อกี้ ลืมแล้วเหรอ”

“อ่า…” เฮกเตอร์อ้าปากค้าง กะพริบตาปริบ ๆ ดูเหมือนสมองของเขาจะไม่ประมวลผลแล้ว

ยังไม่ทันที่เราจะตกลงกันเสร็จ ปัญหาใหม่ก็เดินผ่านประตูห้องสมุดเข้ามา สองรุ่นพี่เกเร เขื่อนกับเฉิงตูตามพวกเรามาถึงที่นี่แล้ว

เฮกเตอร์สบตากับผมแล้วเราก็หันไปมองหน้าเมย์พร้อมกัน “ช่วยด้วยเมย์ สองคนนั้นกำลังตามล่าเรา” ผมกระซิบขณะมุดลงใต้โต๊ะ

สัญญาเลย ถ้าวันนี้เมย์ช่วยให้พวกเรารอด ผมจะยอมเรียกเธอว่าลูกพี่ก็ได้

...****************...

ท่ามกลางความเงียบในห้องสมุด ผมกับเฮกเตอร์ซ่อนตัวอยู่หลังชั้นหนังสือขนาดใหญ่ โดยมีเงาร่างของสองอันธพาลไล่ล่าไปทั่วห้อง

“แกไปดูฝั่งนู้น ทางนี้ฉันหาเอง” เสียงเขื่อนร้องสั่งเฉิงตู

ผมดึงแขนเสื้อเฮกเตอร์เบา ๆ ส่งสัญญาณให้ขยับต่อไป ทีละแถว ทีละแถว พวกเรากำลังเข้าใกล้ประตูทางออกห้องสมุดไปทุกที ขณะที่ก้าวย่างอย่างระมัดระวัง ไหล่ของเฮกเตอร์ก็ไปชนเข้ากับชั้นหนังสือ

ปึ้ก!

เสียงหนังสือเล่มหนึ่งตกกระทบพื้นดังลั่น

เฮกเตอร์ตัวแข็งทื่อ ผมหันขวับไปตามเสียง รีบยกมือปิดปากเขาไว้ไม่ให้เผลอร้องออกมา

ฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาทางพวกเราทันที

เขื่อนหยุดยืนหน้าชั้นหนังสือ มองซ้ายมองขวา พร้อมกับขมวดคิ้ว หรี่ตาดูกองหนังสือที่ตกอยู่บนพื้น ราวกับกำลังชั่งใจ

เฮกเตอร์กำเสื้อผมไว้แน่นจนรู้สึกได้

เขื่อนหยิบหนังสือที่ตกขึ้นมา ก่อนจะพึมพำกับตัวเองแล้วหันหลังเดินออกไปสมทบกับเฉิงตู ทั้งสองหายลับไปอีกทาง

ผมปล่อยมือออกจากปากเฮกเตอร์ เขาสูดลมเข้าลึก ๆ ใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะ

“เกือบไปแล้ว…” เฮกเตอร์กระซิบเสียงสั่น

“ไปต่อ” ผมดึงเขาให้ก้มต่ำหลบอยู่หลังชั้นหนังสือ

พวกเราขยับตัวอย่างระมัดระวัง ทีละก้าว ทีละก้าว แต่แล้ว...

“จ๊ะเอ๋ตัวเอง” เขื่อนโผล่มาด้านหลังพวกเรา แสยะยิ้มยืนมองเหมือนเสือที่เจอเหยื่อของมันแล้ว

เฮกเตอร์หน้าซีด หัวใจผมเต้นโครมคราม แต่แล้วทันใดนั้น…

ปึ้ก!

เสียงหนังสือหล่นดังสนั่นไปทั้งห้องสมุด

“เอ๊อะ! ตีนฉัน” พี่เบิ้มร้องโอดโอยทันที

หนังสือปกแข็งหล่นทับอยู่บนนิ้วเท้าของเขื่อน สันของมันหนาจนผมรู้สึกเจ็บแทน

เมย์ยืนขวางพวกเราเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอยิ้มประกาศชัยชนะ

“อุ๊บ… ขอโทษที เผลอทำหลุดมือน่ะ” เมย์พูดเสียงใส แต่สีหน้าดูไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด

เด็กหญิงผู้กล้าหาญ เธอคือซาร่าห์ คอนเนอร์ เธอคือแคตนิส เอฟเวอร์ดีน คือฟูริโอซ่าของผม แต่ตอนนี้ผมต้องช่วยเธอจากอันตรายก่อน

“หนีเร็ว” ผมคว้าแขนเมย์กับเฮกเตอร์แล้ววิ่งไปตามซอกของชั้นหนังสือ

เขื่อนเดินกะโผลกกะเผลกพร้อมกับตะโกนสั่ง “เฉิงตู พวกมันไปทางแกแล้ว ดักไว้อย่าให้หนีไปได้”

เมย์ เฮกเตอร์ และผมหยุดชะงัก ชั้นหนังสือแถวสุดท้ายเป็นปราการเพียงหนึ่งเดียวที่กั้นพวกเรากับสองนักล่าเอาไว้ อันธพาลโรงเรียนมองผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือเหมือนสัตว์ร้ายที่จ้องเหยื่อของมัน

เมย์ขมวดคิ้ว กวาดสายตามองรอบตัวพยายามคิดแผนการบางอย่างในหัว ก่อนจะหันมากระซิบ

“ช่วยกันผลักชั้นหนังสือ”

“ห๊ะ” ผมกับเฮกเตอร์ร้องออกมาพร้อมกัน

“ไม่ต้องคิด ทำเลย”

เราสามคนวางมือแนบกับขอบชั้นหนังสือ นับจังหวะในใจ หนึ่ง… สอง… สาม… ผลัก!

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เร็วเข้า อีกที” เมย์กัดฟัน หนึ่ง… สอง… สาม…

ครืนนนน!!!

ชั้นหนังสือเอียงไปพิงกับอีกแถวหนึ่ง ก่อนจะล้มลงเป็นทอด ๆ ราวกับโดมิโน่ขนาดยักษ์ ดังสนั่นโครมครามไปทั่วห้องสมุด ฝุ่นคละคลุ้ง พร้อมกับเสียงร้องแตกตื่นของนักเรียนทุกคนที่อยู่ในนั้น

ผมยืนอ้าปากค้าง แทบไม่อยากเชื่อสายตาในสิ่งที่พวกเราทำลงไป

“พ่อกับแม่ต้องฆ่าฉันแน่ ๆ” เฮกเตอร์พูดอย่างสิ้นหวัง

“ช่างมันก่อน วิ่ง” เมย์สั่ง

เราสามคนพุ่งตรงไปที่ประตู ก่อนจะหายออกจากห้องสมุด ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง และสองรุ่นพี่เกเรที่ถูกฝังอยู่ตรงไหนสักแห่งใต้กองหนังสือที่ล้มระเนระนาด

“ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้นะ… ลูกพี่” ผมหันไปสบตาเมย์ที่กำลังเดินจ้ำอ้าวอย่างเร่งรีบ

“ด้วยความยินดี” เธอยิ้มให้ผมด้วยความภูมิใจ

วันนี้เองที่ผมได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความรู้คืออาวุธเป็นยังไง

...****************...

ฮอต

Comments

Gió mùa hạ

Gió mùa hạ

อะไรนี่! น่าอ่านมากๆ

2025-03-02

1

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!