วิถีกระบี่เมิ่งเทียน #หวังเมิ่ง
...เคร้งๆ...แกร๊ก...เคร้ง!...
...เสียงฟาดฟันคมกระบี่ดังระห่ำท่ามกลางสงครามระหว่างเผ่ามารและมนุษย์ หลังจากที่เผ่ามารคิดการใหญ่และนำทัพมาก่อสงครามนี่ก็เป็นวันที่สิบแล้วที่สงครามยังคงดำเนินต่ออย่างดุเดือด...
...ในศึกครั้งนี้มีทั้งเหล่าผู้อาวุโสหลายสำนักรวมทั้งเหล่าปรมาจารย์มากฝีมือจากทั่วทุกหนแห่งมาเข้าร่วมการต่อสู้ เพื่อรักษาสันติสุขให้กับโลกมนุษย์...
...เสียงกระบี่ฟาดฟัน เสียงเนื้อฉีกขาด เสียงคนกรีดร้อง และกองซากศพเป็นหลักพยานอย่างดีว่านี่คือสงครามที่ตัดสินว่าระหว่างมนุษย์และมารใครจะเป็นผู้อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร...
...ถึงศึกครั้งนี้จะใหญ่จนทำให้โลกอาจสิ้นไปได้ แต่กลับไร้วี่แววของเทพบนสวรรค์ ไม่มีแม้แต่การช่วยเหลือใดๆ ราวกับว่าการฆ่าฟันในครั้งนี้เทพบนสวรรค์จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วดูการต่อสู้นี้ไปก็แค่นั้น...
...สงครามยืดเยื้อขึ้นเรื่อยๆจนฝั่งทางทัพมนุษย์เริ่มจะเสียเปรียบเนื่องจากร่างกายของพวกมารนั้นไม่ได้เหมือนกับมนุษย์ ความอึดถึกทนก็มีมากกว่าแถมยังร่างกายที่สูงใหญ่และพลังอันแกร่งกล้าอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะมารพวกนี้ได้อย่างเร็ววัน...
...ความสิ้นหวังค่อยๆคลืบคลานเข้ามาช้าๆ หากยังเสียเปรียบแบบนี้ต่อไปทุกคนที่ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบแห่งนี้ก็คงเป็นซากศพให้พวกมารไว้ดูเล่นในอนาคตเป็นแน่...
..."มารชั้นต่ำ พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"...
...เสียงปริศนาดังขึ้น ฟังจากน้ำเสียงแล้วน่าจะเป็นหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ เมื่อหันไปตามต้นเสียงก็พบกับชายปริศนาที่ใส่เสื้อคลุมมิดชิดและใส่หมวกปิดบังใบหน้า...
...ชายคนนั้นชักกระบี่ออกมาก่อนจะร่ายรำเพลงกระบี่อย่างช่ำชองและจัดการพวกมารอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นชายคนนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาแม่ทัพของเผ่าการก่อนจะทำการสู้กันจนรู้ผล...
...สงครามครั้งนี้มนุษย์เป็นฝ่ายชนะทำเอาทุกคนมีความสุขปลื้มปิติกันทั่วหน้า แต่พวกผู้อาวุโสกลับแสดงท่าทีต่างออกไป พวกเขายืนอึ้งกับภาพตรงหน้าก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า...
..."นั่นมันวิชากระบี่ของสำนักเมิ่งเทียน"...
...หลังสงครามจบลงชายปริศนาคนนั้นก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้จะมีผู้อาวุโสบางสำนักส่งสายสืบไปตามหาก็ไม่เจอ ราวกับว่าชายคนนั้นหายไปกับอากาศยังไงยังงั้น...
.......
.......
...เวลาผ่านไป16ปี...
...ณ ป่าอี้เจิ้นซือ...
...มีเสียงฝีเท้าดังลั่นทั่วป่าพร้อมกับเสียงของตัวอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ราวกับกำลังวิ่งไล่ตามคนที่เป็นต้นเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งจนเสียงดังระห่ำไปทั่วป่าในขณะนี้...
...ภาพปรากฏให้เห็นเป็นชายวัยรุ่น ใบหน้าหล่อเหลา ที่ตอนนี้กำลังวิ่งหน้าตาตื่นหนีเจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งไล่ล่าเขาอยู่อย่างไม่ลดละ...
...ก่อนหน้านี้เขาได้เดินไปพบกับถ้ำแปลกๆในระหว่างที่ออกมาเดินหาของป่าเพื่อเอาไปขาย ด้วยความสงสัยจึงเดินเข้าไปในถ้ำนั้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มคนนี้เดินไปเหยียบเข้ากับตาของสัตว์ประหลาดที่กำลังหลับอยู่...
...ทำให้สัตว์ประหลาดตื่นขึ้นมาด้วยความโมโหและเจ็บที่ตามากๆ มันจึงวิ่งไล่ตามชายหนุ่มคนนี้อย่างไม่ลดละ ราวกับว่าถ้าหากชายคนนี้ไม่สิ้นใจตายไป มันจะไม่หยุดไล่ล่าเป็นอันขาด...
..."แฮ่ก...แฮ่ก..ทำไมข้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย!"...
...ชายหนุ่มได้กระโกนออกมาอย่างตัดพ้อกับชีวิตของตนที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ และนึกด่าตัวเองในใจว่าทำไมตนถึงเข้าไปในถ้ำนั่น แค่เห็นบรรยากาศรอบข้างก็คงไม่มีใครคิดจะเข้าไปแล้ว เขานี่บ้าจริงๆ...
...หลังจากวิ่งไปเรื่อยๆสุดท้ายเขาก็วิ่งมาถึงทางตัน ด้านหน้าของเขาเป็นเหวลึกที่มองไม่เห็นแม้แต่ก้นเหว ชายหนุ่มรีบหันไปมองด้านหลังพร้อมกับหอบหายใจด้วยความเหนื่อย สัตว์ประหลาดวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าไปหาเขา ชายหนุ่มคนนั้นหลับตาปี๋และยอมรับชะตากรรมตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกเสียงคำรามของสัตว์ประหลาด...
...เคร้ง!...
...เสียงเหมือนของมีคมบางอย่างไปชนกับของแข็งอีกอย่างดังขึ้น ถึงจะไม่มีความรู้ด้านวิทยายุทธมากมาย แต่ก็พอรู้ได้ว่าเสียงที่ตนได้ยินนั้นเป็นเสียงกระบี่ไม่ผิดแน่...
...ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าต้นเสียงกระบี่นั้นมีร่างของชายคนหนึ่งในชุดคลุมและใส่หมวกปิดใบหน้ามิดชิด ในมือมีกระบี่ที่มีด้ามแปลกตาไม่เคยพบเห็นมาก่อน และตรงกระบี่ยังมีคำสลักเอาไว้ว่า...
...消滅惡魔,保護人民 ...
...กำจัดมาร ปกป้องปวงประชา...
...ชายปริศนาคนนั้นพุ่งไปหาสัตว์ประหลาดก่อนร่ายรำเพลงกระบี่ที่ดูนุ่มนวลแต่ก็แฝงไปด้วยความอํามหิตและรังสีที่มีแรงกดดันจำนวนมาก ชายปริศนาฟาดฟันกระบี่ใส่สัตว์ประหลาดด้วยความรวดเร็วจนสัตว์ประหลาดยังตั้งตัวไปทัน และแล้วสัตว์ประหลาดก็ถูกจัดการไปอย่างง่ายดาย...
...ชายหนุ่มอึ้งได้เพียงไม่นานก็รีบตั้งสติและรีบโค้งคำนับและกล่าวขอบคุณอย่างทันท่วงที...
..."ข...ขอขอบพระคุณที่ช่วยชีวิตข้า!"...
..."หากไม่เป็นการรบกวนท่านเกินไปข้าขอเลี้ยงข้าวท่านสักมื้อจะได้หรือไม่ขอรับ"...
...ชายปริศนาหันมาทางเขาก่อนเก็บกระบี่เข้าฝัก ชายคนนั้นเดินมาใกล้ชายหนุ่มสามเก้าก่อนจะเอ่ยพูด ทำให้ได้ยินเสียงที่หากสาวใดมาได้ยินก็คงมีใจละลายกันไม่น้อย...
..."ต้องขออภัยที่รับน้ำใจของท่านไว้ไม่ได้ "...
...ว่าจบชายปริศนาก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไปแต่แต่ชายหนุ่มก็รีบรั้งเขาไว้ก่อนจะขอถามชื่อชายคนนั้นไป...
..."อย่างน้อย ข้าขอรู้ชื่อของท่านได้หรือไม่"...
...ชายคนนั้นนิ่งไปสักครู่ นึกคิดอะไรบางอย่างก่อนจะบอกชื่อเสียงเรียงนามของตนไป...
..."ข้าชื่อ เมิ่ง เซวียนอี้"...
...หลังจากรู้ชื่อของชายคนนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาก่อนจะยืดอกทำตัวตรงและแนะนำตัวกลับไป...
..."ข้าชื่อ หวัง ซานเยว่"...
..."ข้าอาศัยอยู่ใกล้เขาอวิ๋นชาน หากท่านต้องการความช่วยเหลือมาหาข้าได้ ข้าพร้อมตอบแทนท่าน"...
...เมิ่ง เซวียนอี้พยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้หวัง ซานเยว่มองตามตาละห้อยอยากจะตอบแทนพระคุณครั้งนี้ ...
...ซานเยว่มองตามเซวียนอี้จนเขาเดินลับสายตาไปก่อนซานเยว่จะมานั่งคิดกับตัวเองว่า...
..."หากพบกันอีกครั้ง ข้าจะตอบแทนท่านให้ได้"...
..._________________________________________________...
...นิยายออริเรื่องแรกของฝากไว้ในอ้อมอกทุกคนด้วย😭...
...หวังว่าจะชอบแนวนี้กันนะคะ...
...แล้วขอชี้แจงไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องนี้จะมีการติดเหรียญนะคะ...
...เราสมัครเป็นนักเขียนแล้ว แต่อย่าพึ่งตกใจไป เราจะเปิดให้อ่านฟรีอยู่นะคะ แต่จะมีการติดเหรียญหลังจากให้อ่านฟรี...
...เข้าใจไรท์ด้วยนะ ไรท์ไส้แห้งแล้ว😭...
...ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ✍️💕...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments