ของตาย โดย ศศิศิลป์
ตอนที่ 13
______________________________
"พ่อครับ คิดถึงที่สุดเลย" ศรัณสวมกอดกุ่ย วันนี้วันหยุดเขาอยากมาเยี่ยมเยือน ไม่อยากให้คนที่เหมือนบิดาอยู่บ้านคนเดียว
"คิดถึงก็มาหาอย่างเดียวก็ได้ปลื้ม หอบหิ้วอะไรมาเยอะแยะละลูก แค่กๆ.." ชายสูงวัยไอเล็กน้อย
"นี่พ่อป่วยหรอครับ? ไปหาหมอมารึยัง.."
"ไม่ได้เป็นอะไรมากเสียหน่อย อากาศเปลี่ยนน่ะลูก ก็ตามสภาพคนแก่" บอกด้วยรอยยิ้มไม่อยากให้ใครคิดมาก
"ไม่ได้นะพ่อ ก้องรู้หรือเปล่า พ่อกินข้าวตรงเวลาบ้างมั้ย?" ไม่รู้ว่าพลกรได้ใส่ใจพ่อมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นก่อนหน้าคงไม่ห่วงแต่เพราะเขามีหน้าที่ดูแลใส่ใจแทนมาตลอดหลายปี มันเลยอาจจะทำให้คนเป็นลูกทำมันได้ไม่ดีพอ
"ไม่ต้องหรอกปลื้ม แล้วนี่มาซะเที่ยงเลยกินข้าวมาหรือยัง?"
"ยังเลยครับ ก็จะมากินพร้อมพ่อนี่แหละ อยากกินอะไรอย่างอื่นเป็นพิเศษมั้ย...นี่ปลื้มซื้อเจ้าโปรดพ่อมาด้วยนะ?" ศรัณยังมีสีหน้ากังวลแต่ก็เปลี่ยนเรื่องคุย
"ก็นี่แหละที่อยากกินอยู่น่ะ รู้ใจพ่อเหมือนเดิมเลยนะ"
"งั้นเดี๋ยวปลื้มไปจัดใส่จานให้นะ จริงๆปลื้มซื้อต้นไม้มาด้วยนะ เป็นต้นที่พ่อเคยบ่นอยากได้อยู่ด้วยไม่รู้ว่าพ่อซื้อมาก่อนหรือยัง.." พูดไปก็เดินเข้าครัวไปจัดอาหารใส่จานหันหลังชวนคุย
"ช่วงนี้พ่อไม่ได้ออกไปไหนหรอกปลื้มเอ้ย อากาศมันร้อน แค่กๆ .." กุ่ยพูดไปก็ปิดอาการไม่มิด
"ดูไม่โอเคเลยนะพ่อ .. ไปหาหมอนะ จริงๆแล้วพ่อบอก.. อ้าว ก้อง เพิ่งตื่นหรอ?" ระหว่างที่เดินเอาจานออกมาก็เจอพลกรเดินลงบันไดมาพอดี
"มาหาพ่อหรอ?" เสียงทุ้มถามคนที่จัดโต๊ะอยู่
"อืม เธอมากินข้าวด้วยกันสิ" เห็นชุดสบายๆที่ใส่เดินลงมาคงไม่ได้ออกไปไหน แถมข้าวก็ยังซื้อมาเผื่อขนาดนี้แล้ว
โต๊ะกับข้าวกลายเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ศรัณตักอาการให้คนที่นั่งหัวโต๊ะอย่างเอาใจ
"ปลื้มมาแบบนี้ก็ดีเลย บ้านมันสดใสขึ้นเชียวละ พ่ออยู่คนเดียวนี่ก็ซื้อเขากินเอาไม่ค่อยได้ทำเองหรอก กลัวมันเหลือ" กุ่ยยกยิ้ม
"งั้นพ่อทานเยอะๆนะ ปลื้มจะมาหาบ่อยๆเลย งานปลื้มไม่หนักอย่างเก่าแล้ว" ยกยิ้มกว้างตอบกลับ
"อย่าไปรบกวนเขาเลยพ่อ อยากได้อะไรบอกผมเลยนะ พ่ออยากไปไหนทำอะไรผมจะพาพ่อไปทำไปกินเอง" พลกรดักทางขึ้น
"แกทำงานตัวเป็นเกลียว ไหนจะแฟนแกอีก..พ่อไม่เอาล่ะ อีกอย่างก็แค่ชวนปลื้มเขาคุยตามประสา.." เขาไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่คุยเหมือนปลื้มเป็นลูกชายอีกคนที่มาเยี่ยม
"ผมแค่ไม่อยากให้พ่อไปกวนเขามาก เขาไปมีชีวิตของเขาแล้ว.." ไม่ได้ตั้งใจแต่มันก็อดฟังดูประชดไม่ได้
"ไม่เป็นไรครับพ่อ ก็รู้ว่าปลื้มเต็มใจและทำเท่าที่ทำได้ไม่ได้เดือดร้อน ในฐานะที่พ่อมีบุญคุณกับปลื้ม...หรือเธอไม่สะดวกใจให้เรามา" ศรัณมองหน้าอีกคนไม่พอใจ ไม่รู้จะพูดแบบนั้นทำไม
"ก็เดี๋ยวคนของเธอจะไม่พอใจเอาปล่าวๆ.."
"ก้องอย่าหาเรื่อง!!"
"เอาล่ะๆ พอแล้วๆ เฮ้ออ จะทะเลาะกันทำไมเล่าสองคน กินข้าวซะ.. แล้วเดี๋ยวเราไปปลูกต้นไม้ใหม่กันนะ.." กุ่ยห้ามทัพก่อนจะยิ้มและแตะมือศรัณเบาๆให้ใจเย็น
ศรัณใช้เวลาทั้งวันอยู่กับกุ่ยจนคล้อยบ่าย บิดาของพลกรจึงได้ขอตัวไปพักกลางวันเพราะหน้ามืดนิดหน่อย ศรัณถือโอกาสขึ้นไปเก็บของด้านบนบ้าน ระหว่างเดินผ่านโถงของบ้านนั้นเอง..
"จะขนหมดหรอ? ให้ช่วยเอาไปส่งมั้ย?" พลกรนั่อย่างนั่งอยู่ตรงนี้มาตลอด ทำเหมือนจะจับผิดเขาเสียอย่างนั้น
"เธอว่างหรอ? ไม่ไปหาแฟนเธอรึไง มานั่งคอยดูอยู่ได้ กลัวเราลักพาตัวพ่อหนีหรือไง?" กวนกลับบ้าง
"ก็ไม่แน่นะ.. พ่อรักเธอจะตาย ถ้าย้ายไปอยู่ด้วยได้ก็ไปแล้ว"
"นั่นพ่อเธอนะ..ประสาท!" เดินหนีขึ้นไปที่ชั้นสองให้พ้นหน้า นี่พลกรบ้าไปแล้วหรือไง พ่อที่ไหนจะหอบผ้าหนีลูกชายคนเดียวไปอยู่กับคนอื่น
ระหว่างกำลังเก็บอุปกรณ์บางส่วนที่เป็นของจุกจิกเช่นนาฬิกาสะสม แว่นตาและอัลบั้มภาพถ่ายที่ยกมาเปิดดูก็มีรูปฟิล์มที่เขาล้างไว้ตอนถ่ายกับพลกรและพ่อในบ้านหรือตอนไปเที่ยว จู่ๆก็มีแรงมากอดรัดจากด้านหลัง
"เธอ...ปล่อย!!" สะบัดยังไงก็ไม่ออก พลกรกลับเพิ่มแรงรัด
"ทำบ้าอะไร..เธอปล่อยเดี๋ยวนี้!!"
"เฉยๆได้มั้ย...ขอแค่กอดเธอแปปนึง" เสียงทุ้มนั้นบอกฝังหน้าลงบนไหล่ เขาเผลอซึบซับความอบอุ่นจากวงแขนแกร่งด้านหลังแต่เพียงชั่วครู่...ฝ่ายดีในใจก็บอกว่าที่ทำมันผิด
"ก้อง!" สะบัดตัวหลุดและผลักออกจนได้
เพี้ยะ!!
ตบอีกคนจนหน้าหัน
"เธอเป็นบ้าหรอ!! เธอมีแฟนแล้วนะ..มาทำแบบนี้ทำไม.."
"ไม่รู้สิปลื้ม.. คิดถึงเธอมั้ง" พลกรเอ่ยปากออกมา แต่ศรัณหัวเราะในลำคอ
"มันจะตลกนะก้อง ถ้าเธอเลือกของเธอแบบนี้แล้วจู่ๆก็จะมาอาวรณ์เราอะ" พูดแค่นั้นก็หันหลังไปเก็บของต่อ
"เธอเข้มแข็งขึ้นนะ .. มันคงปลอบใจและสอนให้เธอเก่งขึ้น" เหน็บไปยังคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้า
"พี่แม็กซ์น่ะหรอ? ก็ใช่มั้ง เขาใจดีที่สำคัญไม่หาเรื่องแบบเธอ รู้มั้ยว่าเขาไม่เคยเหน็บเธอเป็นเด็กๆแบบที่เธอทำอยู่น่ะ" เพราะรำคาญเลยกวนกลับไป
ยังไม่ทันจะเก็บของต่อก็โดนกระชากและผลักลงบนเตียงหนา ก่อนที่จะขึ้นไปคร่อมบนร่างบางเอาไว้
"ก้องเธอทำบ้าอะไร! ออกไป!!" ตะโกนใส่หน้าคนที่ตอนนี้ล๊อคแขนเขาไว้สองข้างกับเตียง
"มันถึงใจเธอเท่าเรารึปล่าวไอ้แม็กซ์น่ะ...หืม ลีลามันเป็นยังไงปลื้ม? เล่าให้ผัวคนนี้ฟังหน่อยซิ" ตอนนี้พลกรสิ้นแล้วซึ่งการควบคุม กัดฟันกรอดจนเส้นเลือดปูด
"ผัว? นี่เธอเป็นผัวเราหรอ..เมื่อไหร่อะก้อง เข้าใจว่าเป็นเซ็กส์เฟรนกันมาตลอดเลยนี่" ศรัณไม่หลบตาและปากเขาก็ไม่หยุดวาจายั่วโมโหเหมือนกัน
"ปลื้ม!! จะเป็นแบบไหนเราก็มั่นใจว่าเป็นคนแรกของเธอแล้วกัน...แล้วเขาว่าครั้งแรกน่ะ มันฝังใจ เธอคิดว่าไง หืม" พลกรไม่พูดเปล่ามือก็ลูบไล้ไปตามตัว เป่าลมร้อนที่ข้างหูจนศรัณขนลุกซู่
"อือ อ๊ะ .. กะ ก้อง! หยุด!!" ร้องห้ามเพราะตอนนี้มือมันเริ่มลามไปถึงจุดอ่อนไหวแล้ว
"เห็นมั้ยปลื้ม.. ขอร้องเราสิ... เธอต้องการมัน" ยกยิ้มได้ใจเมื่อเห็นอีกคนนอนหลับตาพริ้มเพราะสัมผัสจากเขา จุดไหนที่ไวต่อความรู้สึกพลกรรู้จักมันทั้งหมด
"อึก ฮ้าาา...ปะ ปล่อย!!" เสียงกระเส่าพยานามผลักออกแต่มันอ่อนแรงไปหมด
"เธอทนไม่ไหวหรอก เรารู้จักทุกส่วนของเธอดี.." คำพูดถูกยืนยันด้วยการกระทำ
"อ๊ะ... ก้อง... ปะ ปล่อย!! อย่า.." แกนกายถูกครอบงำ ตอนนี้เสื้อผ้าอาภรณ์กระจัดกระจายไปคนละทาง ศรัณระทวยไปหมดเพราะพลกรรู้จักเขาดีจริงๆ ระหว่างที่ถูกอีกฝ่ายรุกล้ำน้ำตาเขาก็ไหล เหมือนสำนึกชั่วดีมันร้องเตือนอีกครั้ง เขาผลักพลกรออกจนจุดเชื่อมกายเกือบหลุดออกจากกัน
"เฮ้ย! เธอทำบ้าอะไรปลื้ม!" ตอนนี้เลยกลายเป็นจากสมยอมเขาต้องมัดอีกคนด้วยมือข้างเดียวศรัณดิ้นไปมา
"ฮึก เอาออกไป! ก้อง ฮึก เอามันออกไป!!" ศรัณตะโกนทั้งน้ำตา
"อะไรของเธอวะ.." เขามัดไว้และเริ่มขยับแกนกายเข้าออก อีกคนตัวสั่นพับๆ
"อ๊ะ อ่ะ ฮืออ ก้อง พอ! ปล่อยนะ ไม่เอา ..ฮึก ไม่เอา.." เพราะเสียงร้องนั้นทำให้พลกรยอมหยุดและดึงตัวเองออกมา ศรัณลุกขึ้นนั่งก่อนจะคว้าเสื้อผ้ามาสวมลวกๆอีกคนนั่งมองไม่เข้าใจ...
"เธอเป็นบ้าอะไร! จู่ๆก็ร้อง จู่ๆก็จะหยุด?"
"ที่เราสองคนทำมันเรียกว่าชู้ก้อง! ถ้าเธออยากมากก็ไปเอากับแฟนเธอ!!" เช็ดน้ำตาก่อนจะลุกคว้าของที่เก็บยังไม่เสร็จจะเดินออกไป แต่โดนคว้าไว้
"ทำไม? เดี๋ยวนี้เธอปฏิเสธเราหรอ? หรือกลัวมันรู้ว่าเธอกลับมาหาคนเคยๆกัน ห้ะ?" บีบแขนไว้แน่น
"ก้อง!! เหอะ.. อย่าทำเหมือนหึงเราเลย อย่าให้เราเข้าข้างตัวเองแบบนั้นเลย.." ศรัณจี้ใจดำ อีกฝ่ายเงียบกริบ
"แล้วอีกอย่างใช่.. เธอเป็นครั้งแรก แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นคนเดียว!!" พูดจบก็หันหลังเปิดประตูออกไป ได้ยินเสียงสบถตามหลังมาไม่ได้ทำให้สนใจนอกจากออกไปจากที่นี่
ขับออกมาพ้นจากบ้านก็จอดก่อนที่น้ำตาจะไหลพรั่งพรูออกมา เปิดกระจกบังแดดดูมีร่องรอยตามคอเต็มไปหมด
คำที่เด็กหนุ่มเคยเตือนเขาดังก้องไปทั่วหัว
"จะอะไรก็ช่าง ผมขอบอกพี่เลยว่าผมรักพี่ก้อง และผมจะไม่เสียพี่ก้องไปให้สถานะเพื่อนปลอมๆของพี่สองคน"
"ผมโฟกัสแค่พี่ก้อง และขอให้พี่สองคนไม่ไปทำอะไรลับหลังผมนะครับ.."
เขาทำมันไปแล้ว แม้จะไม่ได้ไปถึงจุดที่ปลายสุดของต้นงิ้ว แต่เขาปีนมันขึ้นไปแล้ว
"สกปรกที่สุดเลยปลื้ม ฮึก เลวที่สุด..." พูดกับตัวเองทั้งน้ำตา
1.08.2020
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 24
Comments