ความกังวลและหวาดกลัวของเจ้าหญิงสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการรบที่ผ่านมา สิ่งเหล่านั้นมันมาอยู่ต่อหน้าเจ้าหญิง เธอสัมผัสได้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้านั้นแข็งแกร่งกว่าเธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้เจ้าหญิงเจอเคยต่อสู้กลับจอมเวทย์แบบตัวต่อตัวมากมาย ก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน เจ้าหญิงได้ตั้งสติสลัดความกลัวในใจออกไปและมองไปที่ชายคนนั้นตั้งท่าพร้อมรับการโจมตี
เซอร์รัทเทอฟอร์ดได้เข้าโจมตีชายคนนั้นก่อน ชายคนนั้นรับการโจมตีของเซอร์รัทเทอฟอร์ดได้อย่างง่ายดาย
“ผมบอกคุณไปแล้วไง การที่คุณร่ายเวทย์โล่พลาสม่าป้องกันให้องค์หญิง มันใช้พลังเวทย์มหาศาลการโจมตีของคุณเลยไม่มีพลังมากพอที่จะจัดการผม”
“หุบปาก”
“องค์หญิงอย่ามัวแต่ยืนเฉยสิ มาช่วยสู้กับอัศวินด้วย”
ชายคนนั้นได้ยั่วยุเจ้าหญิง แต่แท้จริงแล้วเจ้าหญิงไม่ได้ยินอยู่เฉยๆแต่เธอกำลังจับตามองกระบวนท่าในการต่อสู้ชายคนนั้นและพยายามหาจุดอ่อนของชายคนนั้น
ดาบของเซอร์รัทเทอฟอร์ดได้หักลงเนื่องจากพลังเวทย์ของเขาใกล้หมดทำให้เวทย์เสริมพลังของเขาอ่อนลงจนดาบรับการโจมตีไม่ไหว
จังหวะนั้นเองเจ้าหญิงได้อ้อมไปด้านหลังของชายคนนั้นและใช้ดาบเอ็กคาลิเบอร์พร้อมกับร่ายเวทย์เสริมการโจมตีไปที่ดาบฟันไปที่หลังคอของชายคนนั้น
แต่ชายคนนั้นเขาร่ายเวทย์โล่พลาสม่าได้ทันทำให้รอดจากการโจมตีไปได้
“ผมรู้อยู่แล้วว่าการที่ให้อัศวินของคุณเขามาโจมตีผมก่อนเพื่อเป็นการผลาญพลังเวทย์ของผม แล้วคุณก็จะจัดการผมในครั้งเดียว แล้วเพราะอะไรทำไมผมถึงเหลือพลังเวทย์มากพอที่จะป้องกันการโจมตีคุณได้รู้ไหม? นั้นก็เพราะพลังเวทย์ของผมมันไร้ขีดจำกัด”
“พูดมากจังนะแก...”
สิ้นเสียงของเซอร์รัทเทอฟอร์ดหัวของเขาก็หลุดออกจากบ่าโดยที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“เซอร์รัทเทอฟอร์ด!!!”
“เอาหล่ะ คุณน่าจะเหลือท่าไม้ตายอยู่ ผมจะนั่งรอตรงที่ๆคุณนั่ง เอาออกมาได้เลยท่าไม้ตายของคุณ”
“แก...ดูถูกกันมากเกินไปแล้ว”
เจ้าหญิงได้ร่ายเวทย์ที่เป็นท่าไม้ตายของเธอ ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที
ท่าไม้ตายของเจ้าหญิงคือการรวบรวมอนุภาคโฟตรอนมาไว้ที่ดาบจนเกิดพลังงานความร้อนมหาศาล จากนั้นเธอก็ได้ฟันไปที่ชายคนนั้น
“ไม่มีชื่อท่าไม้ตายงั้นเหรอ?”
หลังจากชายคนนั้นพูดเสร็จดาบก็ได้ผ่าไปที่ตัวเขา
“นี่ ผมซ่อมยานให้คุณแล้ว”
เจ้าหญิงไม่ได้ทันสังเกตุการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่ดาบผ่าไปที่ชายคนนั้นแสงสว่างที่เกิดจากท่าไม้ตายวาบขึ้นมาไม่ถึง 2 วินาที
สระพานเดินเรือกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหญิงล้มตัวลงเนื่องจากพลังเวทย์หมดแต่เธอยังคงใช้ดาบพยุ่งตัวเองไว้
จากนั้นชายคนนั้นก็ได้ถอดหมวกออกทำให้เจ้าหญิงได้เห็นใบหน้าของชายคนนั้น และเขาก็ได้ถอดหมวกขององค์หญิง
“ของขวัญสำหรับชัยชนะขององค์หญิงที่ผมจะมอบให้นั่นก็คือ บาดแผลแห่งชัยชนะ”
ชายคนนั้นได้ใช้ดาบของเขาฟันไปที่ตาข้างซ้ายขององค์หญิงทำให้ตาซ้ายของเธอบอดสนิท เธอหมดสติก่อนที่ชายคนนั้นจะจากไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตั้งแต่ที่สระพานเดินเรือถูกทำลาย จนกระทั่งสระพานเดินเรือกลับมาเป็นปกติ ผ่านไปแค่ 4 นาที 2 วินาที
กว่าความช่วยเหลือของทหารจะมาถึงก็ใช้เวลาไป 8 นาที สภาพของสระพานเดินเรือเป็นเหมือนปกติก่อนที่จะถูกโจมตี แต่ภายในนั้นของสระพานเดินเรือนั้นเต็มไปด้วยศพของทหาร ทุกคนเสียชีวิตทั้งหมดยกเว้นเจ้าหญิงที่นอนหมดสติและได้รับบาดเจ็บที่ตาซ้าย
สถานการณ์โดยรวมคือกองยานที่ 1 ของจักรวรรดิสามารถป้องกันการโจมตีและทำลายกองยานของศัตรูได้แทบทั้งหมด
ส่วนทางฝั่งรูหนอนสมิธกองยานของสหพันธ์ถูกจักรวรรดิตั้งวงล้อมและทำลายจนกองยานของสหพันธ์แทบไม่เหลือรอดเช่นกัน
การรบในครั้งนี้สหพันธ์ได้พ่ายแพ้อย่าราบคาบ ทำให้ถูกประชาชนวิจารณ์อย่างหนัก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องก็ตาม ทำให้แฮรี่ เฉิน ประธานาธิบดีของสหพันธ์ดาวเคราะห์และคณะรัฐมนตรีทั้งหมดลาออก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อให้รัฐบาลนั้นเจรจาและยุติสงครามครั้งนี้
หลังการลาออกก็ได้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้น โดยพรรคเพื่อประชาธิปไตยของอดีตประธานาธิบดีแฮรี่ เฉิน ได้ส่ง คิม จอง อิล เป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ นโยบายของพรรคคือการทำลายระบอบศักดินาของจักรวรรดิให้สิ้นซาก
ส่วนพรรคแรงงานฝ่ายค้านได้ส่งมิคาอิล มาคารอฟเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ นโยบาลของพรรคคือการหาทางเจรจาอย่างสันติเพื่อยุติสงคราม
พันโทสยาม เนรมิตได้ถูกสืบสวนสอบสวนจากทางกองทัพถึงเหตุการณ์ที่เกิดทั้งหมด แต่เขาไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เขาไปโจมตีเรือธงกองยานที่ 1 ของจักรวรรดิ เขาไม่ได้ถูกลงโทษอะไรแถมเขายังมีส่วนช่วยให้เพื่อนทหารรอดตายจากคำให้การของทหารที่ถูกเขาช่วย ทำให้เขาได้เลื่อนยศจากพันโทเป็นพันเอก จากนั้นเขาก็ได้ขอกองทัพลาพักร้อนและทางกองทัพก็อนุญาติให้เขาได้ลาพักร้อน
**********
ทางฝั่งของจักรวรรดิ ผ่านไป 1 เดือนกว่าเจ้าหญิงแคทเทอรีนจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เธอตื่นขึ้นที่ห้องนอนของตัวเองจากนั้นก็มีสาวน้อยอายุประมาณ 10 ขวบ โหมเข้ากอดเธอ
“ท่านพี่ในที่สุดท่านก็ฟื้นขึ้นสักที”
ชื่อของเธอคือเจ้าหญิงโมนิก้า รัชทายาทลำดับที่ 8
“...อืม...พี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”
จากนั้นหมอหลวงก็มาตรวจอาการของเจ้าหญิงแคทเทอรีน
“ฝ่าบาทตาซ้ายของท่านนั้นบอดสนิทจะให้กระหม่อมนำตาเทียมมาใส่ให้หรือไม่ขอรับ”
“ไม่ต้องหรอกหมอ ตาเดียวก็เพียงพอแล้ว”
เจ้าชายวิลเลียมได้มาเยี่ยมหลังจากนั้น
“เป็นยังไงบ้างน้องพี่...เออ...แล้วตาของน้อง...”
“ไม่จำเป็นต้องใส่ตาเทียมหรอกท่านพี่ ให้มันเป็นสัญญาลักษณ์ที่แสดงถึงความอ่อนแอ่ของน้อง”
“แล้ววันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ทหารเล่าให้พี่ฟังว่ายานของน้องถูกโจมตีทหารที่สระพานเดินเรือทั้งหมดเสียชีวิต”
“เซอร์รัทเทอฟอร์ด...”
“งานศพของเขาจบลงไปแล้วล่ะ น้องจะไปเยี่ยมเขาที่หลุมศพก็ได้นะ”
“แต่ถ้าน้องยังไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องเล่าก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะท่านพี่ ในวันนั้นสระพานเดินเรือถูกโจมตี เป็นฝีมือของเขาเพียงคนเดียว พันโทสยาม เนรมิต”
“พ่อมดคนนั้นสินะ”
“สิ่งที่เขาทำมันเกินความคาดหมายของน้องมาก เขาใช้เวลาแค่ 10 วินาที ก็จัดการทหารทั้งหมดบนสระพานเดินเรือ เหลือเพียงแค่น้องกับเซอร์รัทเทอฟอร์ด”
“จากนั้นเขาก็จัดการเซอร์รัทเทอฟอร์ด และใช้ดาบฟันที่ตาซ้ายของน้อง เขาจงใจไว้ชีวิตน้อง”
“ร้ายกาจจริงๆเลยนะพ่อมดคนนั้น”
“ท่านพี่ช่วยติดต่อท่านอาจารย์เทเซอร์ให้หน่อยได้ไหมค่ะ”
“ได้สิ แต่ช่วงนี้พี่ว่าน้องพักผ่อนไปก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องการฝึกกับอาจารย์เทเซอร์เอาไว้ทีหลังดีกว่า”
“ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ต้องห่วงพี่จัดการให้หมดแล้ว”
“ขอบคุณค่ะท่านพี่”
**********
หนึ่งในหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิมีชื่อว่า อัศวินแห่งดวงดาว หน้าที่หลักของพวกเขาคือคอยคุ้มกันเชื้อพระวงค์ เป็นหน่วยที่รวบรวมจอมเวทย์ที่เก่งที่สุด มีทั้งหมด 8 คน เรียงลำดับความแข็งแกร่งจากจำนวนดาวที่ได้รับมาจากองค์จักรพรรดิ ลำดับจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีการท้าสู้จากอัศวินที่มีดาวน้อยกว่า เช่น อัศวิน 1 ดาว ท้าสู้กับอัศวิน 2 ดาว ถ้าอัศวิน 1 ดาวชนะก็จะได้เลื่อนเป็นอัศวิน 2 ดาว อัศวิน 2 ดาวที่พ่ายแพ้ลำดับก็จะลดลงเป็น อัศวิน 1 ดาว
ณ ห้องประชุมของอัศวินแห่งดวงดาว หลังจากที่การสู้รบที่รูหนอนทั้งสองแห่งจบลงด้วยชัยชนะของจักรวรรดิ อัศวิน 8 ดาว ได้เรียกทุกคนในหน่วยมาประชุมกันเรื่องการหาอัศวิน 4 มาแทนที่เซอร์รัทเทอฟอร์ด ในตอนนี้ทุกคนก็มากันครบแล้ว
เซอร์มิเกล ยาโนโควิช อัศวิน 8 ดาว หัวหน้าหน่วย
เซอร์อลิส ชอว์ อัศวิน 7 ดาว รองหัวหน้าหน่วย
เซอร์มาร์ริบา เฮลเมอร์ อัศวิน 6 ดาว
เซอร์อเล็กซิส ซานตินา อัศวิน 5 ดาว
เซอร์เลโอ อาเตต้า อัศวิน 3 ดาว
เซอร์ฟรานซิส เลโต อัศวิน 2 ดาว
เซอร์เอลล่า ซิกรันน์ อัศวิน 1 ดาว
ทุกคนนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง การประชุมได้เริ่มขึ้น
“หัวหน้าคะ เซอร์รัทเทอฟอร์ดถูกจัดการในดาบเดียวเป็นเรื่องจริงเหรอคะ” เซอร์ซิกรันน์เริ่มบทสนทนา
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับหัวหน้า” เซอร์อาเตต้าถามด้วยความสงสัย
“งั้นให้เซอร์ชอว์อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดล่ะกัน” เซอร์ยาโนโควิชได้ตอบกลับอัศวินทั้งสอง"
จากนั้นเซอร์ชอว์ก็ลุกขึ้น
“หลังจากการต่อสู้ที่ระบบดาวเวก้าจบลง ในขณะที่ทุกคนกำลังฉลองชัยชนะก็มีลำแสงปริศนาโจมตีที่สระพานเดินเรือของยานประจัญบานฮูด ครั้งแรกทำให้เกาะของยานจาก 75 % เหลือ 9% และครั้งที่สองทำให้สระพานเดินเรือเสียหายและทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ทหารบนยานไม่สามารถไปช่วยเหลือองค์หญิงที่สระพานเดินเรือได้ และนี้ก็คือภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่บันทึกได้จากสระพานเดินเรือ”
เซอร์ชอว์ก็ได้ฉายภาพกลางโต๊ะที่ประชุม
“ระบบไฟฟ้าขัดข้องแต่ทำไมถึงบันทึกวิดีโอนี้ได้” เซอร์อาเตต้าถาม
“เราไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน” เซอร์ชอว์ตอบกลับ
วิดีโอที่บันทึกได้เริ่มบันทึกตอนที่ทหารกำลังยืนล้อมชายปริศนาและถูกจัดการหมดในคราวเดียวภายใน 10 วินาที จากนั้นเซอร์รัทเทอฟอร์ดก็ได้เข้าไปสู้กับชายคนนั้น
กระบวนท่าของเซอร์รัทเทอฟอร์ดไม่สามารถทำอะไรชายคนนั้นได้และชายคนนั้นแทบไม่ขยับตัวเลย องค์หญิงได้อ้อมไปที่ได้หลังของชายคนนั้นและโจมตีเขา แต่เขาก็สามารถร่ายเวทย์โล่พลาสม่าทันทำให้การโจมตีขององค์หญิงไร้ผล ชายคนนั้นกันได้หันไปโจมตีเซอร์รัทเทอฟอร์ด คอของเซอร์รัทเทอฟอร์ดหลุดจากบ่าในพริบตา
จากนั้นชายคนนั้นก็ถอดหมวกของตัวเองออกมาและเดินไปถอดหมวกขององค์หญิง ใช้ดาบฟันไปที่ตาซายขององค์หญิง จู่ๆสระพานเดินเรือก็ค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิม ชายคนนั้นได้หันมายิ้มให้กล้องและหายตัวไปด้วยเวทย์ล่องหน สระพานเดินเรือถูกซ่อมทำให้ระบบไฟฟ้ากับมาเป็นปกติและทหารได้เข้าไปช่วยองค์หญิง
หลังจากวิดีโอจบลงเซอร์ซานตินาก็ได้พูดขึ้นเป็นคนแรก
“เจ้านั้นเป็นใครกัน?”
“ก่อนที่เขาจะโจมตีได้มีการติดต่อมาทางช่องสื่อสารสากลชื่อของเขาคือ พันโทสยาม เนรมิต” เซอร์ชอว์ตอบคำถามของเซอร์ซานตินา
‘พ่อมดคนนั้นงั้นเหรอ’ เซอร์เลโตพูดในใจ
“...น...น... นี่...ทำไมเจ้านั้นถึงไม่จัดการองค์หญิงล่ะ” คำพูดของเซอร์ซิกรันน์ติดขัดเล็กน้อยเพราะรู้สึกกลัวสยาม
ทุกคนนิ่งเงียบประมาณ 10 วินาทีจากนั้นเซอร์ชอว์ตอบกลับ
“ไม่มีใครรู้ คงต้องรอให้องค์หญิงฟื้นและถามองค์หญิง”
“เซอร์เฮลเมอร์จากการวิเคราะห์ของเจ้าชายคนนั้นมีความสามารถอะไรบ้าง?”
เซอร์เฮลเมอร์ลุกขึ้นยืนและอธิบายการวิเคราะห์ของตัวเอง
“เวทย์ของชายคนนั้น ลำแสงโฟตอน โล่พลาสม่า เวทย์เสริมพลังเวทย์ที่ซ่อมแซมยาน เวทย์ล่องหนและการที่กล้องตัวนี้บันทึกได้ทั้งๆที่ระบบไฟฟ้าขัดข้องก็น่าจะเป็นเวทย์ของเขาเช่นกัน”
“ปัญหาไม่ใช่จำนวนเวทย์ที่ร่ายแต่เป็นพลังเวทย์ของเขาต่างหาก ทั้งๆที่ร่ายเวทย์ที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นทำพลังเวทย์ของเขาไม่หมดกัน”
เซอร์ซานตินาพูดต่อจากเซอร์เฮลเมอร์
“สิ่งที่เราเห็นนี้ทำให้รู้ว่าชายคนนี้มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งมา ข้าคิดว่าชายคนนั้นสามารถจัดการพวกเราพร้อมกันทีเดียว 7 คนได้”
หลังจากที่เซอร์ยาโนโควิชพูดขึ้นทุกคนก็นิ่งเงียบ และตกตะลึงกับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้ในวันนี้
“ดังนั้นเราทุกคนจะมีการฝึกเพิ่มอย่างหนัก ส่วนตำแหน่งที่ว่างของเซอร์รัทเทอฟอร์ดให้เลื่อนลำดับเอาและตำแหน่งอัศวิน 1 ดาวให้ทุกคนช่วยกันตามหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม”
เซอร์ชอว์ได้สรุปการประชุมครั้งนี้
“...ร... เราจะเอาชนะเจ้านั้นได้จริงๆเหรอ” เซอร์ซิกรันน์พูดขึ้นด้วยความกังวล
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เซอร์ซิกรันน์ไม่ต้องกลัวไปพวกเราต้องทำให้ได้” เซอร์เลโตพูดให้กำลังใจเซอร์ซิกรันน์และทุกคน
“งั้นก็จบการประชุมเพียงเท่านี้”
เซอร์ยาโนโควิชกล่าวปิดการประชุม
**********
เหตุการณ์ก่อนการโจมตียานประจัญบานฮูด สยามได้ออกมาจากซากยานที่เสียหายและใช้ไอพ่นของชุดอวกาศพุ่งไปที่วงแหวนของดาววี-7
สยามสัมผัสกับก้อนน้ำแข็ง
“ไม่นึกเลยว่าวงแหวนของดาวจะมีก้อนน้ำแข็งเพียวๆแบบไม่ใช้ก้อนน้ำแข็งที่เกราะกับเศษซากของดาวเคราะห์น้อย”
สยามมีเวทย์ที่สามารถเปลี่ยนอนุภาคและสสารให้เป็นพลังเวทย์ได้ก้อนน้ำแข็งนั้นมีโครงสร้างโมเลกุลที่ไม่ซับซ้อนเท่ากับเศษซากของดาวเคราะห์น้อยซึ่งมีแร่ธาตุหลายชนิด ทำให้สามารถเปลี่ยนเป็นพลังเวทย์ได้ง่ายและใช้เวลาร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้น สยามได้ร่ายเวทย์ทำให้สามารถสะสมได้มหาศาล
ตาซ้ายของสยามคือควอนตัมคอมพิวเตอร์ เขาใช้มันวิเคราะห์โมเลกุลของสสารที่เขาสัมผัสและใช้มันในการคำนวณสูตรเวทมนตร์ทำให้ร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้น
หลังจากรวบรวมพลังเวทย์ได้มากพอสยามจึงใช้เอนดูแลนซ์โจมตีไปที่ยานประจัญบานฮูดในระยะ 10 กิโลเมตรจากนั้นก็ใช้เวทย์ล่องหนในการพลางตัวเพื่อไม่ถูกตรวจจับ
“เกราะยังไม่ถูกทำลายอีก พลังเวทย์ 1% ของพลังเวทย์น้อยเกินไปสินะ”
“งั้นเพิ่มเป็น 2 % ล่ะกัน อ๊ะ...เกือบลืม”
สยามได้ใช้ช่องสื่อสารสากลติดต่อพวกเขา
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมพันโทสยาม เนรมิตเป็นครั้งแรกที่เราเจอกันสินะองค์หญิง แต่ก็ไม่นึกเลยว่าฝ่ายผมจะแพ้อย่างราบคาบ ต้องแรกก็นึกว่าเอนดูแลนซ์จะยิงเข้าสงสัยพลังเวทย์คงไม่พอ ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองชัยชนะของคุณ ผมจะสิ่งดีๆให้”
จากนั้นสยามก็โจมตีอีกครั้ง ครั้งนี้สามารถสร้างความเสียหายกับสระพานเดินเรือของยานได้อีกทั้งยังทำให้ระบบไฟฟ้าของยานขัดข้อง
“ตอนนี้ใช้ไป 4 % แล้ว พลังเวทย์ที่เหลืออยู่ 96 % น่าจะเหลือเฟือนะ”
สยามใช้เวทย์เร่งความเร็วและพุ่งไปที่ยานประจัญบานฮูด พอไปถึงเขาแปลกใจเล็กน้อยที่ทหารทุกคนบนสระพานเดินเรือใส่ชุดอวกาศไว้พร้อมและชุดอวกาศทำให้คนที่ใส่ยึดเกราะกับยานไม่ลอยไปในอวกาศ
สยามได้ใช้เวทย์สร้างกระแสไฟฟ้าทำให้กล้องทำงานและบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น
พอทุกอย่างจบลงสยามได้ใช้เวทย์ล่องหนและอาศัยจังหวะชลมุนไปที่กระสวยฉุกเฉิน ใช้มันในการหนีออกมา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments