สมรภูมิวงแหวน ปฐมบท

หลังจากที่ทั้งสองเผชิญหน้ากันภายใต้ฉากเบื้องหลังเป็นดาวเคราะห์แก๊สสีน้ำเงินและวงแหวนอันงดงามกองยานของจักรวรรดิได้ตั้งขบวนป้องกันรออยู่แล้วที่วงแหวนของดาว พลเอกมูฮัมมัด อาบีรก็ได้สั่งให้กองยานที่ 31 ของตนจัดรูปขบวนเป็นแบบลูกศรและพุ่งโจมตีกองยานของเจ้าหญิงแคทเทอรีนทันที

“คุณรอดูอยู่เฉยๆก็ได้” มูฮัมมัดพูดกับสยาม

เหตุผลที่ทุกคนเรียกพลเอกมูฮัมมัด อาบีรว่าตัวปัญหาเป็นเพราะว่าเขาคนที่ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลรับที่ตนเองต้องการ ถึงแม้การรบของเขาส่วนใหญ่จะได้รับชัยชนะ แต่เขาก็มักจะสูญเสียทหารในการบังคับบัญชาของตนเป็นจำนวนมาก ถึงแม้เขาจะนำชัยชนะมาให้แต่ก็แลกด้วยความสูญเสียมากกว่าศัตรูเสียอีก มันมากเกินจนกองทัพและรัฐบาลมองเขาว่าเป็นตัวปัญหา ชื่อเสียงของเขาดังไปทั่วทั้งกาแล็คซี่ มูฮัมมัดนั้นเป็นคนที่ไม่ฟังใคร เขามักจะคิดว่าตัวเองนั้นถูกต้องเสมอ การที่สยามมาประจำการที่กองยานของเขา เป็นสิ่งที่เขายินดีเป็นอย่างมากถึงแม้เขาจะพูดชมสยามและแสดงท่าที่ต้องการให้สยามช่วยนั้น แท้จริงแล้วเขามองสยามเป็นเพียงแค่ตุ๊กตานำโชคเท่านั้น เขาตั้งใจที่จะไม่ฟังคำแนะนำของสยามตั้งแต่แรก

ชัยชนะทั้งสองครั้งของสยามนั้นมูฮัมมัดเชื่อว่าเป็นเพราะเขาโชคดีเพียงเท่านั้น มุกตลกที่เขาเล่นเป็นเพียงแค่การข่มตัวของสยามเท่านั้น คำชื่นชมและยินดีเป็นแค่ขั้นตอนในการขอพรต่อยักษ์จินนี่

กองยานของจักรวรรดิค่อยๆถอยร่นไปจนใกล้จะชนกับวงแหวนของดาววี-7 กองยานของจักรวรรดิแตกกระเจิงไปสองทาง ถึงแม้ในตอนแรกนั้น มูฮัมมัดจะรู้สึกหวังเกรงต่อชื่อเสียงของเจ้าหญิงบ้าง แต่สิ่งที่เกิดตรงหน้าทำให้เขารู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก มันเหมือนทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เขาคิดและตอนนี้กองยานของเขาสูญเสียไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน

‘ก็ไม่เห็นจะเก่งสักเท่าไหร่เลยนะองค์หญิง ต้องขอบคุณตุ๊กตานำโชคจริงๆ’ มูฮัมมัดคิดอยู่ในใจ

**********

2 ชั่วโมงก่อนการเผชิญหน้ากัน เจ้าหญิงรู้อยู่แล้วว่าตัวของมูฮัมมัดนั้นเน้นโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวแล้วทุ่มสุดกำลังโดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียของฝ่ายตัวเอง แผนของเจ้าหญิงคือ จะมีการแบ่งกองยานเป็นสองกอง กองยานแรกนั้นเป็นตัวล่อให้ศัตรูเข้ามาใกล้ๆกับวงแหวงของดาววี-7และกองยานสองซุ่มโจมตีอยู่ที่วงแหวน และได้ติดตั้งไอพ่นไว้ที่ก้อนน้ำแข็งที่รวมกันเป็นวงแหวนของดาววี-7 เพื่อที่จะใช้โจมตีกองยานของศัตรู

“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าศัตรูไม่น่าจะติดกับของเราง่ายๆน่ะขอรับ”

เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดถามด้วยความกังวลใจ

“มันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนสั่งการกองยานของศัตรู ตามนิสัยส่วนตัวของมูฮัมมัด เราเชื่อว่าเชาจะเป็นคนสั่งการเองอย่างแน่นอน”

“ฝ่าบาทพ่อมดคนนั้นก็อยู่ด้วยนะขอรับ”

“พ่อมดน่าจะได้แค่นั่งดูอยู่เฉยๆ ไม่ต้องกังวลไปเซอร์รัทเทอร์ฟอร์ด”

‘นั้นสินะเซนส์ขององค์หญิงมักจะถูกเสมอไม่อย่างนั้นก็คงไม่ชนะติดต่อกัน 30 ครั้งหรอก’ เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดคิดอยู่ในใจ

“เข้าใจแล้วขอรับ ฝ่าบาท”

**********

สถานการณ์ในตอนนี้ฝ่ายสหพันธ์กำลังได้เปรียบสยามก็พูดขึ้น

“ท่านไม่ต้องฟังผมก็ได้ แต่ตอนนี้เรากำลังเดินหน้าไปหากับดัก”

“ไม่ต้องห่วง พันโทมันจะจบลงก่อนที่กับดักจะทำงาน”

สยามไม่เข้าใจสิ่งที่มูฮัมมัดพูด ‘ไม่ได้เป็นแค่ตัวปัญหาธรรมดา ท่าทางจะมีปัญหาทางจิตด้วย’ สยามคิดในใจ พร้อมกับคิดถึงเหตุผลที่กองทัพส่งเขามาประจำการที่กองยานนี้ สยามใช้มือกำไปที่จีหอยขอแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง

‘คงต้องให้เอมมี่สืบประวัติของเขาย้อนหลังแล้วล่ะ’

‘ทำไมผู้บัญชาการถึงมีท่าทางประหลาด อย่างกับถูกควบคุมอยู่เลยเหมือนไม่ได้พูดออกมาจากใจ’

คำพูดและท่าทางของมูฮัมมัดมันทำให้สยามคิดไปในทางนั้น

**********

ดาวเอมเมอร์รัล ฟิลิปส์ได้นัดเจอกับเอมิลี่ที่ดาวดวงนี้ เพื่อคุยถึงแผนการก่อตั้งสถาบันห้องสมุด ที่ที่พวกนัดเจอกันเป็นโรงแรมนอร์ม่า เป็นโรงแรมที่หรูที่สุดของดาวดวงนี้

ฟิลิปส์ได้นั่งดื่มกาแฟรอเจอกับเอมิลี่ ผ่านไป 15 นาที เอมิลี่ก็มาถึง

“ขอโทษที่มาสาย”

“ไม่เป็นไร”

“นายมีความคืบหน้ายังไงบ้าง”

“มีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกฉันได้เจอกับดอกเตอร์เอริก ฮิวมังกาซอ เขาเป็นคนที่ได้รับสืบทอดความรู้และเจตนารมณ์ของเรเซอร์ มารีน่า ข้อมูลของเขาทำให้ตอนนี้ฉันสามารถเขียนหนังสือประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติได้แล้วล่ะ”

“เรื่องที่สอง นิกายมอริสและนิกายคาร์รินนั้นกำลังร่วมมือกันทำบางอย่างอยู่ และพวกเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสงครามครั้งนี้ด้วย”

“ข้อมูลที่ฉันได้ มีความขัดแย้งกับข้อมูลของนาย”

“ว่ามาสิ”

“ต้นเหตุของสงครามครั้งนี้คือบริษัทเปเรซ บริษัทที่ผลิตอาวุธให้กับสหพันธ์”

“ข้อมูลของเธอดูน่าเชื่อถือกว่าฉันอีกนะ แล้วการก่อสร้างโครอสเสร็จรึยัง”

“เสร็จแล้วละ ย้ายบ้านได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย”

“กว่าจะไปถึงตั้ง 46 ล้านล้านปีแสง ไปสร้างซะไกลเลยนะ”

“จะได้ไม่ต้องรับอิทธิพลแรงโน้มถ่วงจากหลุมดำมวลยิ่งยวดไง”

“ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะเดินทางไปถึง”

“5 ชั่วโมง”

“มุกปะเนี่ย”

“ฉันเตรียมรูหนอนไว้แล้ว ไม่งั้นคงไปสร้างที่นั้นไม่ได้หรอก”

“แล้วสมาชิกของเราล่ะ”

“1216 คน เพียงพอแล้วล่ะ”

“พร้อมทุกอย่างแล้วสินะ”

“ฟิลิปส์ ตอนนี้มีสิ่งที่เราต้องระวังมีอยู่สามอย่าง”

“ศาสนจักร บริษัทเปเรซและสหพันธการค้าลูเซียน”

ฟิลิปส์ถอนหายใจ

“ทำลายมันทิ้งให้หมดไปเลยน่าจะดีกว่า”

“ไม่ล่ะฟิลิปส์ ต่อให้ทำลายไปรากเหง้าของมันก็ยังเหลืออยู่”

“งั้นต้องรอให้น้องทรายสุดที่รักทำลายรากเหง้าของมันสินะ”

“ความฝันของพวกเราเหลือขั้นสุดท้ายแล้ว ฟิลิปส์”

ฟิลิปส์ลุกขึ้นก่อนที่เขาจะเดินจากไปเขาก็ได้หันมาพูดกับเอมิลี่

“แล้วเจอกันเอมิลี่ ฝากความคิดถึงไปให้น้องทรายด้วย”

สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้กองยานของสหพันธ์ได้ไล่ตอนกองยานจักรวรรดิจนถึงหลุมพลางที่เจ้าหญิงแคทเทอรีนวางไว้ เศษซากก้อนน้ำแข็งที่ถูกติดตั้งจรวดไอพ่นก็ได้พุ่งใส่กองยานของสหพันธ์พร้อมกับการยิงตอบโต้ของกองยานจักรวรรดิ กองยานของสหพันธ์ไม่สามารถตอบโต้ได้เนื่องจากมีก้อนน้ำแข็งเป็นโล่ที่ป้องกันกองยานจักรวรรดิอยู่

“อะไรกัน” มูฮัมมัดอุทานด้วยความประหลาดใจ

“ผมเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วล่ะ ท่านผู้บัญชาการ” สยามตอบกลับ

“หมายความว่ายังไง”

“คุณหน่ะ เป็นตัวหมากที่ถูกทิ้งแล้ว”

ทุกคนในสระพานเดินเรือต่างอึ้งกับคำพูดของสยาม

“คำพูดของท่าน วิธีการพูดท่าน สิ่งที่ท่านคิดอยู่ ขาขวาที่สั่นอย่างประหลาดแต่ขาซ้ายกับไม่ขยับ ตอนนี้คุณถูกควบคุมสมองอยู่”

จากนั้นสยามก็ใช้ปืนพกยิงเข้าที่หัวของมูฮัมมัด ทุกคนในสระพานเดินเรือต่างสับสนต่อสิ่งที่สยามกระทำไป

“ทุกคนฟัง ตอนนี้พวกเราแพ้อย่างราบคาบ สิ่งที่พวกคุณต้องทำตอนนี้คือใส่ชุดอวกาศแล้วขึ้นกระสวยหลบหนีซะ”

ทุกคนยังรู้สึกมึนงง จากนั้นก้อนน้ำแข็งได้พุ่งชนกับปืนใหญ่ของยานจนยานได้รับความเสียหาย

“เร็วเข้าก่อนที่พวกเราจะตายกันหมด”

ทหารทุกคนในสระพานเดินเรือต่างก็รีบไปที่กระสวยหลบหนี จากนั้นสยามก็ประกาศให้ทุกคนในกองยานสละยานของตนและขึ้น

กระสวยหลบหนี แต่ตัวของสยามเองนั้นก็ยังคงยืนดูความพังพินาศของกองยานที่ 31 อยู่ที่สระพานเดินเรือต่อ

“นั่งคิดนานไปหน่อยสินะ เห้อ...เราน่าจะเอะใจได้ตั้งแต่แรกแท้ๆ สงสัยดวงของเราคงหมดไปแล้วสินะ”

**********

บางอย่างเหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปตาที่คิดแท้ๆแต่กับไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งที่เราเข้าใจใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลจนแทบจะไม่เห็นขอบเขตของมัน สิ่งที่มนุษย์ต้องการนั้นก็สามารถคว้ามันมาได้ทั้งหมดแล้ว นี่รุ่นพี่ปารีสเพราะอะไรทำไมมนุษย์ยังคงต่อสู้กันอยู่ทั้งๆที่จักรวาลก็มีทรัพยากรและที่อยู่เพียงพอให้กับมนุษยชาติ

น้องทรายที่รักเหตุผลง่ายๆไม่ว่าจะมนุษยชาติหรือสิ่งมีชีวิตทั้งจักรวาลที่พวกเขาสู้กันเพราะพวกเขาไม่เหมือนกันไง

หน้าตา รูปร่าง สีผิว วิธีคิดและภาษาที่ต่างกัน ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลต้องต่อสู้กัน เพราะแตกต่างจากตนเลยรู้สึกหวาดกลัวและเป็นภัย สาเหตุที่แตกต่างกันเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

ในตอนนี้ปัจจัยภายนอกนั้นเหมือนกันทุกอย่าง เหลือแต่เพียงจิตใจนั้นยังคงแตกต่างกัน

งั้นถ้าเราเหมือนกันทั้งร่างกายและจิตใจ

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจักรวาลก็ถึงคราวดับสูญ

นั่นสินะขนาดดวงดาวในจักรวาลยังแตกต่างกันเลย

สงครามนั้นจะยังไม่มีวันจบสิ้นจนกว่ามนุษย์จะดับสูญ

มีความสุขแล้วก็ต้องมีความทุกข์ มีความมืดแล้วก็ต้องมีแสงสว่าง

ถ้าขาดอย่างใดอย่างนึงไปสมดุลของจักรวาลก็จะจบสิ้นสินะรุ่นพี่ปารีส

นี่รุ่นพี่ปารีสแล้วเราควรทำยังไงต่อดี

เราต้องนำพามนุษย์สู่หนทางใหม่ที่หลุดออกจากวัฏจักรของจักรวาล

แล้วหลังจากนั้นล่ะ

ไม่รู้เหมือนกัน

แต่ฉันเชื่อว่ามีสิ่งอื่นที่หลุดจากวัฏจักรไปแล้วและกำลังเฝ้ามองจักรวาลอยู่

สรุปแล้วเราก็ไม่มีจุดหมายที่แท้จริงเลยหน่ะสิ

ใช้แล้วมันเป็นไปตามภาษาคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น

จำนวนนับ

จำนวนเต็มบวก

จำนวนเต็มลบ

จำนวนเฉพาะ

พวกมันก็ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือน

ในเมื่อไม่รู้จุดหมายปลายทางแล้วเราจะคิดหามันทำไม

เราก็แค่เดินไปเรื่อยๆเท่านั้น

ไม่มีจุดหมายปลายทางแล้วมีจุดเริ่มต้นหรือเปล่า

มีแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนและเมื่อเดินผ่านมันไปแล้วไม่สามารถเดินย้อนกลับไปได้

งั้นเราอยู่กับที่ได้ไหม

ได้แต่เมื่อสิ่งไหนหยุดอยู่กับที่แปลว่าสิ่งนั้นมันสูญสิ้นไปแล้ว

งั้นบางทีการอยู่กับที่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หรือเปล่า

ตามแต่ที่เราจะปรารถนา

“จะว่าไปสีน้ำเงินของดาวดวงนี้ก็สวยดีเหมือนกัน เอาไงต่อดีเรา”

สยามยังคงเฝ้ามองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าต่อไป

**********

ชัยชนะของจักรวรรดิกำลังจะมาถึง แต่สิ่งที่เจ้าหญิงแคทเทอรีนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทุกอย่างมันเหมือนเป็นไปได้ด้วยดี แต่ภายในใจก็ยังรู้สึกกังวล

“เซอร์รัทเทอฟอร์ด”

เจ้าหญิงหันหน้าไปหาองครักษ์ของเธอ ในเสียงของเธอที่พูดออกไปมีความรู้สึกกังวลใจบางอย่าง มันแสดงให้เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดเห็นได้อย่างชัดเจน

“ขอรับฝ่าบาท”

“ทำไมมือของเราถึงสั่นล่ะ ทั้งๆที่ชัยชนะกำลังอยู่ต่อหน้าแท้ๆ ตลอดที่เราเข้าร่วมสงครามมา เราไม่เคยรู้สึกกังวลและหวาดกลัวขนานนี้มาก่อน”

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ถ้ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกระหม่อมจะปกป้ององค์หญิงอย่างสุดความสามารถ ในฐานะอัศวิน 4 ดาวของจักรวรรดิ”

กองยานของสหพันธ์ถูกทำลายจนแทบหมดสิ้น

ทหารในสระพานเดินเรือคนนึงได้เข้ามารายงานผลของสงครามต่อเจ้าหญิงแคทเทอรีน

“ฝ่าบาท ตอนนี้กองยานของศัตรูถูกทำลายหมดสิ้น แต่ก็ยังมีทหารของศัตรูบางส่วนที่หลบหนีไปกลับกระสวยหลบหนี ให้ตามไปไหมขอรับ”

“มันจบแล้วขอรับฝ่าบาท ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วขอรับ”

เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดพูดแทรกขึ้นก่อนที่เจ้าหญิงจะตอบกลับทหารที่รายงานผลของสงครามมา

“นั้นสินะ ไม่ต้องตามไป ชัยชนะเป็นของพวกเราแล้ว”

ทหารทุกคนต่างส่งเสียงเชียร์หลังจากที่เจ้าหญิงแคทเทอรีนประกาศชัยชนะ

“ขอบใจนะ เซอร์รัทเทอฟอร์ด”

เจ้าหญิงได้หันไปกล่าวขอบคุณ

“ไม่เป็นไรขอรับฝ่าบาท”

“ขอไวน์หน่อย เซอร์รัทเทอฟอร์ด”

“ได้ขอรับ”

เซอร์รัทเทอฟอร์ดก็ได้นำไวน์มารินใส่แก้วและถวายให้แก่เจ้าหญิง

ในขณะที่ทหารทุกคนกำลังฉลองชัยชนะ มีลำแสงประหลาดพุ่มมาจากก้อนน้ำแข็งที่โคจรกันเป็นวงแหวน โดนเข้าที่ยานประจัญบานฮูดแต่เกราะป้องกันของยานยังป้องกันได้

“ทหารทุกนายเตรียมพร้อมรบ ประจำตำแหน่งและตรวจสอบที่มากับความเสียหาย”

เซอร์รัทเทอฟอร์ดสั่งการอย่างรวดเร็ว

“ทหารทุกนายใส่ชุดอวกาศให้พร้อม”

เจ้าหญิงได้สั่งการต่อจากเซอร์รัทเทอฟอร์ด

“ฝ่าบาท...”

“เซอร์รัทเทอฟอร์ดเตรียมตัวให้พร้อมซะ”

“ตอนนี้เกราะของยานเหลือ 9% ศัตรูโจมตีมาจากทางทิศ 12 นาฬิกา”

“ข้างหน้างั้นเหรอทำเราถึงไม่เห็น”

“ตอนนี้เรายังตรวจจับสัญญาณของศัตรูไม่ได้เลยขอรับ”

“ฝ่าบาทมีสัญญาณติดต่อมาจากทางช่องสื่อสารสากล”

“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมพันโทสยาม เนรมิตเป็นครั้งแรกที่เราเจอกันสินะองค์หญิง แต่ก็ไม่นึกเลยว่าฝ่ายผมจะแพ้อย่างราบคาบ ต้องแรกก็นึกว่าเอนดูแลนซ์จะยิงเข้าสงสัยพลังเวทย์คงไม่พอ ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองชัยชนะของคุณ ผมจะสิ่งดีๆให้”

การสื่อสารจบไปทุกคนในสระพานเดินเรือรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ค้นหาให้ทั่ว”

หลังจากที่สิ้นเสียงคำสั่งของเซอร์รัทเทอฟอร์ด ก็ไม่ลำแสงพุ่งมาจากทางเดิมครั้งนี้เกราะป้องกันไม่สามารถป้องกันได้ลำแสงได้ทำลายสระพานเดินเรือจนเสียหาย มีทหารบางส่วนถูกดูดออกจากยานไปนอกอวกาศ แต่ฟังก์ชั่นของชุดอวกาศนี้สามารถยึดเกราะกับวัตถุได้ ทำให้ทหารที่เปิดฟังก์ชั่นนี้ทันทำให้ไม่ถูกดูดออกไปนอกอวกาศ

“ฝ่าบาทเรารีบออกจากที่นี่ก่อนเถอะขอรับ”

“อย่าพึ่งรีบสิ ผมยังไม่ได้มอบของขวัญให้เลย”

หลังจบประโยค ก็ได้มีชายคนนึงสวมชุดอวกาศสีฟ้า ซึ่งเป็นของสหพันธ์

“ทหารจัดการมัน”

หลังการปรากฎตัวของชายคนดังกล่าวเซอร์รัทเทอฟอร์ดก็ได้สั่งให้ทหารที่เหลือโจมตีไปที่ชายคนนั้น

เขาร่ายเวทย์โล่พลาสม่าทำให้การโจมตีทั้งหมดไม่เป็นผล มีทหารสองคนอ้อมไปที่ด้านหลังและใช้ดาบฟันที่หลังของชายคนนั้น แต่เขาใช้ดาบคู่สีส้ม ฟันไปที่ทหารสองคนนั้นตัวขาดเป็นสองท่อน

“องค์หญิงนับ 1 ถึง 10 แล้วผมจะไปยืนอยู่ตรงหน้าคุณ”

เซอร์รัทเทอฟอร์ดได้ชักดาบออกมาพร้อมกับร่ายเวทย์โล่พลาสม่าป้องกันไว้ก่อน ส่วนเจ้าหญิงก็ได้ใช้เวทย์เรียกดาบของตนออกมาชื่อของมันคือ เอ็กคาลิเบอร์

พอนับครบ 10 ทหารที่เหลืออยู่ 14 นาย ถูกฟันทั้งหมดเลือดสาดกระเซ็นร่องลอยอยู่เต็มสระพานเดินเรือ ยังไม่ทันได้ยินเสียงร้องของทหารด้วยซ้ำ ชายคนนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าของเจ้าหญิงห่างจากเธอประมาณ 4 เมตร

“ผมจะบอกอะไรให้รึไม่พวกคุณอาจจะรู้อยู่แล้ว โล่พลาสม่ามันกินพลังเวทย์มหาศาล แต่ก็สามารถกันได้ทุกอย่างขอบจักรวาล ดังนั้นถ้ามัวแต่ร่ายเวทย์โล่พลาสม่าจะไม่มีพลังเวทย์เหลือพอที่จะโจมตีผมนะ”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!