รูหนอน

ดาวโอลิมปัส ถูกตั้งชื่อตามเขาโอลิมปัสซึ่งเป็นที่ประทับของเทพซุส คนที่ค้นพบดาวดวงนี้คือ มาร์โก้ แบล็กโรส เขาได้ก็ตั้งจักรวรรดิกาแล็คซี่ร่วมกับแร็กน่า คาร์ริน ศาสดาของนิกายคาร์รินในตอนนั้น พวกเข้าใช้ดาวโอลิมปัสเป็นดาวหลวงศูนย์กลางของจักรวรรดิ มาร์โก้ แบล็กโรสได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิมาร์โก้แห่งราชวงค์แบล็กโรส แร็กน่าได้ปกครองจักรวรรดิในทางเชื่อและผู้นำทางจิตวิญญาณ ส่วนจักรพรรดิมาร์โก้ได้ดูแลในส่วนการเมืองของจักรวรรดิ

ในตอนที่พวกเขากำลังสำรวจดาวโอลิมปัสพบว่าดาวดวงนี้เคยเป็นที่อยู่ของอารยธรรมทรงภูมิปัญญามาก่อน แต่ตอนนี้มันเหลือแค่เศษซากเท่านั้น พวกเขาสันนิฐานว่าอารยธรรมทรงภูมิปัญญานี้สู้รบกันจนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ หลักฐานที่มาสนับสนุนทฤษฎีนี้คือ ค่ากัมมันตภาพรังสีที่หลงเหลืออยู่ พวกเขาน่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อสู้เลยทำให้อารยธรรมของพวกเขาจนสิ้นก่อนที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินทางระหว่างดาวได้ ค่ากัมมันตภาพรังสีบนดาวดวงนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่ามาตฐานเล็กน้อย คาดว่าเหตุการณ์ล้างโลกนี้น่าจะเกิดขึ้นประมาณ 10000 ปีก่อน ซากของเมืองยังคงเหลืออยู่เล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ถูกพืชเกลือนกินจนหมดแล้ว

ซากกระดูกที่หลงเหลืออยู่มีขนาดใหญ่กว่าของมนุษย์ประมาณ 1.5 เท่า พวกเขาทำการตรวจสอบพบว่า DNA ใกล้เคียงกับมนุษย์ถึง 98 % เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากหรือจริงๆแล้วพวกเขาคือญาติของมนุษย์ที่อยู่อีกฝั่งของกาแล็คซี่

หลังจากสมรภูมิลวงตาจบลงจักรวรรดิได้พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องจนถูกดันไปที่ชายแดนของสหพันธ์ที่จักรวรรดิยึดไว้ กองทัพจักรวรรดิได้มีการประชุมด่วนโดยเนื้อหาในการประชุมคือ แผนการป้องกันเพื่อไม่ให้กองทัพสหพันธ์ข้ามรูหนอนมายังดินแดนของจักรวรรดิได้ พวกเขาประชุมกันที่สำนักงานใหญ่กระทรวงกลาโหม คนที่เข้าร่วมประชุมนั้นมีนายพลของจักรวรรดิ 15 คน เจ้าหญิงแคทเทอรีน รัชทายาทลำดับที่ 2 และรัฐมนตรีกลาโหมร่วมไปถึงเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 1 และนายกรัฐมนตรีก็ได้เขาร่วมการประชุมด้วยเช่นกัน คนสุดท้ายที่มาเข้าร่วมประชุมคือพลโทอเล็ก รูดอร์ฟ เสนาธิการใหญ่ของกองทัพจักรวรรดิ เขาเข้ามาพร้อมกับแผนการที่จะนำเสนอในที่ประชุม สักพักอเล็กก็ลุกขึ้น

“กระผมขอพูดเลยนะครับ”

“เชิญ ท่านรูดอร์ฟ” เจ้าชายวิลเลียมพูดขึ้นโดยไม่ต้องรอพิธีการ

“ในตอนนี้กองทัพของเราถอยร่นจนไปถึงชายแดนของสหพันธ์ซึ่งมีระบบดาวเวก้าเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่จะข้ามรูหนอนซาร่าไปยังดินแดนจักรวรรดิ แน่นอนว่าทางระบบดาวเซ็นธอร์ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่จะข้ามรูหนอนสมิธที่เป็นรูหนอนอีกจุดหนึ่งที่สามารถข้ามมายังดินแดนของจักรวรรดิได้”

“แผนของผมคือเราจะกองทัพที่ประจำการอยู่ระบบดาวเซ็นธอร์ถ่อยออกมาและข้ามรูหนอนมาตั้งรับที่ดินแดนของจักรวรรดิ ปล่อยให้กองทัพสหพันธ์บุกข้ามรูหนอนมา”

“แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่ากองทัพสหพันธ์จะโจมตีทางนี้”

พลเอกไมครอฟ มิเลอร์ถามด้วยความสงสัย

“พวกสหพันธ์จะโจมตีทั้งสองทาง พวกมันกำลังได้ใจเพราะชนะมาต่อเนื่อง”

“ถ้าเราป้องกันการโจมตีที่ระบบดาวเวก้าสำเร็จเราจะเอากองทัพไปโจมตีแนวหลังของสหพันธ์ในขณะที่มันเคลื่อนทัพผ่านรูหนอนสมิธ”

“แล้วเราจะให้ใครไปป้องกันระบบดาวเวก้าล่ะ”

จอมพลอเล็กซานเดอร์ มิวนิก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พูดขึ้น

“เราจะไปเอง” เจ้าหญิงแคทเทอรีนตอบ

“...เออ...องค์หญิงกระหม่อมคิดว่า...”

“ไม่เป็นไรหรอกท่านเสนาธิการ เราเชื่อใจน้องของเรา”

เจ้าชายวิลเลียมพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ

“ไม่ไปอะไรหรอกรูดอร์ฟ นายก็องค์หญิงยังไม่เคยแพ้ใคร”

จอมพลอเล็กซานเดอร์พูดเสริม

“เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ด”

“ขอรับฝ่าบาท”

“ฝากคุ้มกันน้องของเราด้วย”

“พะยะค่ะฝ่าบาท”

“งั้นเราขอพูดต่อนะ” เจ้าหญิงแคทเทอรีนยืนขึ้น

“กองยานที่ 1 ขอเราจะประจำการอยู่ที่ระบบดาวเวก้า ส่วนกองยานที่ 5 และ 8 จะประจำการอยู่หน้ารูหนอนซาร่า ส่วนกองยานที่ 11 14และ 17 ตั้งรับรอที่ดินแดนฝั่งจักรวรรดิหน้ารูหนอนสมิธ”

“แผนเหมือนกับที่ท่านคิดไว้หรือเปล่าท่านเสนาธิการ”

เจ้าชายวิลเลียมถาม

” ...พะยะค่ะ”

“เอาล่ะเลิกประชุมได้”

เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเทอร์รีนได้ลุกขึ้นเดินออกไปทหารที่อยู่ในห้องลุกขึ้นทำท่าวันทยาหัตถ์ จากนั้นเซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดก็เดินตามออกไป

“ไปไงบ้างอเล็ก” จอมพลอเล็กซานเดอร์เดินเข้ามาถามหลังจากที่ทุกคนออกไป

“ผมแค่รู้สึกกังวลเล็กน้อย”

“คุณพึ่งได้เลื่อนขั้นเป็นเสใหญ่ ถึงแม้คุณจะไม่เคยเห็นการรบจริงขององค์หญิง คุณก็น่าจะได้ยินชื่อเสียงขององค์หญิงมาบ้าง”

“เรื่องความสามารถผมก็รู้ แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่าเจ้าจะได้รับอันตรายในศึกครั้งนี้”

“เข้าใจได้ ผมก็เคยใช้ลางสังหรณ์จนมาถึงจุดนี้เหมือนกัน”

‘จะเอาชนะพ่อมดได้ไหมนะองค์หญิง’ อเล็กคิดในใจ

ที่รถยนต์พระที่นั่งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเทอร์รีนกำลังเดินทางกลับพระราชวัง

“ที่จริงแล้วพี่ก็รู้สึกเป็นห่วงน้องเหมือนกันสีหน้าที่ท่านเสนาธิการคนใหม่ที่แสดงออกมาเหมือนกัน”

“เขาเก่งมากก็จริงท่านพี่ แต่เขายังขาดประสบการณ์”

“ให้พี่ส่งองครักษ์ไปเพิ่มไหม”

“แค่เซอร์รัทเทอร์ฟอร์ดก็พอแล้ว ท่านพี่”

“แล้วกองยานเดียวจะพอเหรอน้องพี่ ทำไม่ไม่ส่งไปเพิ่มสักสองสามกองยาน”

“ในแผนที่ท่านเสคนใหม่เขียนไว้ เหมือนเขาคาดการไว้ว่าสหพันธ์จะส่งมาแค่กองยานเดียว ท่านพี่ท่านรู้จะพ่อมดผู้สร้างปฏิหาริย์ไหม”

“เป็นคนที่เอาชนะท่านเคานต์เอ็ดมันผู้ไร้พ่ายได้สินะ”

“สองสมรภูมิที่ผ่านมาเขาเอาชนะกองทัพจักรวรรดิด้วยกองกำลังแค่นิดเดียว”

“น้องจะบอกว่าพ่อมดคนนั้นจากมาที่ระบบดาวเวก้า”

“ใช่และค่ะท่านพี่ ในเอกสารแผนการก็เขียนไว้แบบนั้น”

“เป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านเสคนใหม่กังวลสินะ”

“เดียวน้องจะทำให้พ่อมดนั้นไม่สามารถสร้างปฏิหาริย์เป็นครั้งที่สามเด็ดขาด แล้วจะทำให้สหพันธ์คิดผิดที่ส่งมาแค่กองยานเดียว”

**********

สำนักงานใหญ่กระทรวงกลาโหมของสหพันธ์ดาวเคราะห์ การประชุมวางแผนที่จะบุกยึดรูหนอนสมิธเสร็จสิ้น

จอมพลปีเตอร์ สมิธ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหพันธ์ดาวเคราะห์ได้เข้าไปคุยกับบัดเรย์ วอร์เชสเตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหพันธ์ดาวเคราะห์

“ท่านรัฐมนตรีเราน่าจะส่งกองยานสักสองสามกองไปช่วยกองยานที่ 31 จะได้ถ่วงเวลาได้เต็มที่”

“กองยานที่ 31 มีพ่อมดอยู่ไม่ใช่เหรอท่านผู้บัญชาการ”

“แต่ว่าแผนนี้มันไม่เสี่ยงเกินไป...”

“เราจะได้ทุ่มกำลังบุกยึดรูหนอนสมิธได้เต็มที่ ความสามารถของพ่อมดน่าจะถ่วงเวลาได้นานอยู่แล้วและไม่น่าว่าพ่อมดอาจจะนำชนะมาให้ก็ได้”

“ท่านครับช่วยคิดอีกทีได้ไหมครับ”

“...เห้อ...ท่านผู้บัญชาการแผนนี้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วนะ หน้าที่ของคุณแค่ทำตามคำสั่งก็พอ”

รัฐมนตรีก็ได้เดินออกไป

“แย่จริงๆทั้งๆที่เราเป็นผู้บัญชาการสุดท้ายก็ทำได้แค่ก้มหัวรอแค่คำสั่งจากนักการเมืองงั้นเหรอ ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยนะคุณพ่อมด”

**********

ผ่านไป 4 เดือน ตอนนี้ก็เข้าสู่ปีอวกาศที่ 2014 ปีอวกาศนั้นถูกนับขึ้นตอนที่ก่อตั้งสหพันธ์ดาวเคราะห์ถ้าคิดตามศักราชดั้งเดิมก็จะตรงกับปีค.ศ. 4403 ปีใหม่ผ่านไป สยามถูกย้ายมาประจำการในกองยานที่ 31 ของสหพันธ์ เขาเข้ามาประจำการในตำแหน่งเสนาธิการ ผู้บัญชาการคือพลเอกมูฮัมมัด อาบีร ในกองยานที่ 31 นั้นมียานทั้งหมด 38500 ลำ ประกอบด้วย ยานลาดตระเวน 15000 ลำ ยานไฟต์เตอร์ 15500 ลำ ยานไฟต์เตอร์จะบรรทุกมากับยานประจัญบานซึ่งมีอยู่ 8000 ลำ โดยยานประจัญบานอัลมาส เป็นเรือธงของกองยานที่ 31

ที่สระพานเดินเรือบนเก้าอี้ของผู้บัญชาการมีชายอายุประมาณ 40 ปลายๆ ผมสีน้ำตาลที่เกิดจากการย้อม ดวงตาสีดำ สูงประมาณ 175 เซนติเมตร เขาก็คือพลเอกมูฮัมมัด อาบีร

“การสำรวจยุทโธปกรณ์เป็นยังไงบ้าน พันโท”

“ดีกว่าสองสมรภูมิที่ผมผ่านมาครับ”

“ขนาดมีอาวุธน้อยชิ้นก็ยังเอาชนะมาได้ ผมหวังว่าครั้งนี้คุณจะโชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่นะ”

“สองครั้งที่แล้วนั้นเป็นการรบบนพื้นดาว แต่ผมไม่เคยมีประสบการณ์รบในอวกาศจริง ถึงผมจะได้คะแนนเต็มตอนอยู่โรงเรียนนายร้อยก็ตาม”

“ผมเชื่อว่านี่จะเป็นชัยชนะครั้งที่สามของคุณ พันโท”

“ผมจะทำอย่างเต็มที่ครับ ท่านผู้บัญชาการ”

‘ทำไมของกองทัพถึงส่งเรามาแค่กองยานเดียว กองทัพมั่นใจในฝีมือเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ อย่างน้อยก็น่าจะส่งมาสักสองสามกองยานถึงแม้จะเป็นการโจมตีหลอกก็ตามเพื่อที่จะสามารถทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ในการบุกรูหนอนสมิธ แม้แต่ท่านผู้บัญชาการก็คิดเหมือนกับกองทัพงั้นเหรอ’ สยามคิดในใจ

**********

ก่อนหน้านี้จักรวรรดิได้เข้ายึดครองดินแดนของสหพันธ์เกือบครึ่งหนึ่ง แต่ในช่วง 6 เดือนมานี้สหพันธ์ได้โต้กลับจนยึดดินแดนได้เกือบหมด ถ้าสหพันธ์ยึดระบบดาวเวก้าคืนมาได้ก็จะเป็นประตูไปสู่รูหนอนซาร่า หนึ่งในสามรูหนอนที่พาไปยังอีกฝั่งของกาแล็คซี่ซึ่งเป็นดินแดนของจักรวรรดิ ภารกิจของกองยานที่ 31 นั้นคือการยึดระบบดาวเวก้าคืนมาจากจักรวรรดิให้ได้(เป็นการโจมตีหลอก)

เจ้าหน้าที่สื่อสารบนสระพานเดินเรือได้เดินเข้ามารายงานข้อมูลหน้าเก้าอี้ผู้บัญชาการ

“ท่านผู้บัญชาการมีข้อมูลมาจากหน่วยข่าวครับ”

“ว่ามา”

“ศัตรูที่ประจำอยู่ระบบดาวเวก้าคือ กองยานที่ 1 ของจักรวรรดิมียานรบทั้งหมดประมาณ 30000 ลำครับ”

“เจอของหนักเข้าให้แล้วไง พันโท”

“ผู้บัญชาการของศัตรูคือเจ้าหญิงแคทเทอรีนสินะครับ”

“ใช่ คนนี้ล่ะของจริงเลยชนะมาต่อเนื่อง 30 ครั้ง คงไม่ชนะกองยานที่ 31 เป็นครั้งที่ 31 หรอกมั้ง ฮ่า ฮ่า”

มูฮัมมัดเล่นมุกตลกและหันหน้าไปทางสยาม แต่สยามนั่งนิ่งใช้มือขวากุมขมับดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอย่างจริงจัง จากนั้นมูฮัมมัดก็หันกลับและพึมพำกับตัวเอง

‘หวังว่าตุ๊กตานำโชคจะนำพาชัยชนะมาให้ฉันนะ’

ที่ระบบดาวเวก้ากองยานที่ 1 ของจักรวรรดิ ได้เตรียมตั้งรับการบุกของสหพันธ์อยู่บริเวณใกล้ดาววี-7 ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แก๊สขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีเล็กน้อย มีวงแหวนที่ใหญ่กว่าดาวเสาร์ 2 เท่า

กองยานที่ 1 ของจักรวรรดิมียานทั้งหมด 31400 ลำ ประกอบด้วย ยานลาดตระเวน 10000 ลำ ยานไฟต์เตอร์ 18100 ลำ ยานไฟต์เตอร์จะบรรทุกมากับยานประจัญบานซึ่งมีอยู่ 6000 ลำ โดยยานประจัญบานฮูด เป็นเรือธงของกองยานที่ 1

ที่สระพานเดินเรือของยานประจัญบานฮูด มีหญิงสาวอายุประมาณ 30 ต้นๆ ผมสีทอง ตาสีฟ้า รูปร่างของเธอคืออุดมคติของผู้หญิง สวมชุดเครื่องแบบทหารสีทองอร่าม นั่งอยู่ที่เก้าอี้ผู้บัญชาการก็คือเจ้าหญิงแคทเทอรีน

ทหารคนหนึ่งได้เดินเข้ามาที่หน้าเก้าอี้ของผู้บัญชาการและโค้งคำนับเล็กน้อย

“ฝ่าบาท...จากข้อมูลของหน่วยข่าวกรองพบว่าศัตรูในกำลังจะบุกมาในครั้งนี้คือกองยานที่ 31 ของสหพันธ์”

“กองยานของเจ้ามูฮัมมัดสินะ”

“ยังมีอีกเรื่องนึงขอรับฝ่าบาท”

“ว่ามา”

“พ่อมดแห่งปฏิหาริย์ก็เข้าร่วมรบกับกองยานที่ 31 ด้วยขอรับ”

“พ่อมดงั้นเหรอ” เจ้าหญิงแคทเทอรีนยืนขึ้น

“ทหารทุกนายดูเหมือนว่าศัตรูในครั้งนี้จะแข็งแกรงที่สุดเท่าที่เราเคยสู้มาฉายาของเขาคือพ่อมดแห่งปฏิหาริย์เขาสร้างปฏิหาริย์มาสองครั้งแล้ว แต่ทว่ามันจะไม่มีครั้งที่สาม ทหารทุกนายจงทุ่มสุดกำลัง เพื่อจักรวรรดิซะ”

ทหารทุกคนก็พูดพร้อมกัน

“จักรวรรดิจงเจริญ!!”

“จักรวรรดิจงเจริญ!!”

“จักรวรรดิจงเจริญ!!”

และในที่สุดกองยานทั้งสองก็ได้มาเผชิญหน้ากัน เป็นครั้งแรกที่สยามมีสีหน้าที่ไม่มั่นใจเหมือนกับสมรภูมิทั้งสองครั้งที่เขาเอาชนะได้ ด้วยความมั่นใจ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!