งานแต่งของเพื่อนเก่า

เมืองดาร์วิน ดาวโลก

เมืองดาร์วิน เป็นจุดที่ดาวเคราะห์น้อยตกลงมา มันตั้งอยู่ที่ชายฝั่งและยังคงสภาพเหมือนเดิมกับตอนที่อยู่ในอวกาศ  อีกทั้งเมืองดาร์วินได้เป็นเมืองหลวงของสหพันธ์ดาวเคราะห์ หลังจบศึกยุทธการภาพลวงตา สยามกับคริสโตเฟอร์ได้เดินทางมารับเหรียญกล้าหาญที่นี่ งานพิธีจัดอย่างยิ่งใหญ่เพราะศึกในครั้งนี้เป็นศึกที่มีความศูนย์เสียน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การสู้รบในอวกาศ แฮรี่ เฉิน ประธานาธิบดีของสหพันธ์ดาวเคราะห์ เขามามอบเหรียญกล้าหารด้วยตัวเอง

ที่ลานด้านหน้าเวทีสยามกับคริสโตเฟอร์นั่งอยู่ตรงนั้นเพื่อรอรับเหรียญ คริสโตเฟอร์ก็ได้หันไปคุยกับสยามที่นั่งอยู่ข้างๆ

“เพราะคุณเลยนะ ที่ทำให้ผมได้เป็นนายพล” 

“เป็นเพราะความสามัคคีของหน่วยมากกว่าน่ะครับ ท่านนายพล”

“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก ผู้พัน”

จากนั้นพิธีกรก็พูดขึ้นบรรยายความกล้าหาญของกองกำลังภาคพื้นดินที่ 1243 จากนั้นก็มีพิธีมอบเหรียญโดยท่านประธานาธิบดี

หลังจากพิธีมอบเหรียญ ประธานาธิบดีก็ได้กล่าวสุนทรพจน์

“ชัยชนะในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณพันโทสยาม เนรมิต ที่ได้สร้าง   ปฏิหาริย์ถึงสองครั้ง เขาอาจเป็นคนที่จะเปลี่ยนกระแสสงครามในครั้งนี้ก็ได้ มาช่วยกันสรรเสริญผู้กล้าด้วยกันนะครับทุกท่าน”

ทุกคนโห่ร้องแสดงความยินดี แต่ทว่าก็มีนายพลบางคนไม่พอใจ เพราะอิจฉาในตัวของสยาม

**********

พอถึงตอนเย็นสยามได้ถูกเชิญไปงานแต่ของเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์ แต่เพราะมัวฉลองในพิธีรับเหรียญ ทำให้สยามไปงานแต่งสาย งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมจอห์นตัน พอสยามมาถึงพิธีงานแต่งก็จบลงแล้ว แขกในงานก็กำลังรับประทานอาหารอยู่ สยามยืนงงๆอยู่หน้าทางเข้าจากนั้น

“มาสายนะทราย” คนที่เดินมารับเขาคือ ผู้หญิงผมสีแดง ดวงตาสีเขียว สวมชุดสูทสีขาว ชื่อของเธอคือ คริสติน่าเพื่อนสมัยเด็กของสยาม 

“ฮีโร่เขามาสายอยู่นะ คริส” คนที่เดินตามมาคือ ผู้หญิงผมสีขาว ดวงตาสีฟ้า สวมชุดเดรสสีขาว ชื่อของเธอคือ นาเวีย เพื่อนเก่าสมัยเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์

“ยินดีกับพวกเธอสองคนด้วยนะ” สยามตอบกลับ

คริสติน่ากับนาเวีย พวกเธอคบกันตั้งแต่สมัยเรียน จนในที่สุดก็ได้แต่งงานกันในวันนี้ พอเดินเข้าไปในงานสยามก็เจอเพื่อนๆสมัยเรียนกำลังยืนคุยกันอยู่

“ไงทุกคน” สยามกล่าวทักทาย

“มาสายนะน้องทราย” คนที่พูดกับสยามคนแรกคือ ผู้ชายที่สูงประมาณ 190 เซนติเมตร ผมสีดำทรงทูบล็อก ใส่ชุดสูทสีดำที่พบเห็นได้ทั่วไปในเลี้ยงต่างๆ ชื่อของเขาคือ ฟิลิปส์ หลุยส์ ปารีส รุ่นพี่ของสยามเขาคือจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

“หวัดดีค่า...รุ่นพี่” คนที่พูดต่อคือ ผู้หญิงตัวเล็กสูง 158 เซนติเมตร ผมสั้นสีฟ้า ดวงตาสีน้ำตาล ใส่ชุดเดรสสีแดง ชื่อของเธอคือ ยูมิ นากามุระ เป็นรุ่นน้องของสยาม

“ดีจ้า ยูมิจัง” 

“ไปเป็นทหารแล้วสินะ...ทราย” สาวสวยที่ท่าทางเงียบขรึมคือ      เอมิลี คราวน์ เธอมีผมสีดำยาวแต่รวดขึ้นเป็นทรงหางม้า ดวงตาสีฟ้า สวมชุดเดรสสีดำ ตามสไตล์ที่เธอชอบ อีกทั้งเธอยังเป็นแฟนเก่าของสยามและเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเวทมนตร์ของสยามอีกด้วย

“เย็นชาจังเลยนะ เอมมี่” 

หลังจากที่สยามได้เข้าพวกเขาก็คุยระลึกความหลังกัน

“ยูมิจังกำลังเรียนอยู่โรงเรียนนายร้อยงั้นเหรอ”

“ใช่ค่ะ ปีหน้าก็เรียนจบแล้ว แล้วเจอกันในกองทัพนะคะรุ่นพี่”

“เดี๋ยวฉันกับคริสจะไปคุยกับแขกท่านอื่นก่อนนะ” นาเวียพูดเสร็จก็เดินออกไปรับแขกพร้อมกับคริส

“ได้เลย” ทุกคนตอบกลับนาเวียพร้อมกัน จากนั้นก็คุยกันต่อ

“ได้ข่าวว่านายใช้เวลาแค่ครึ่งปีก็ได้เป็นพันโทแล้วสินะ”

“แน่นอนอยู่แล้วเพราะผมมันโครตเก่งไงล่ะรุ่นพี่ปารีส” สยามพูดจาโอ้อวด

“แต่ก็ยังไม่เก่งเท่าฉันหรอกนะ”

“ก็เคยแพ้ผมไม่ใช่เหรอคุณปารีส ในศึกประลองเวทมนตร์ครั้งนั้น”

“การแข่งกิ๊กก๊อกนั่น ฉันอ่อนให้นายต่างหากน้องทราย”

“โถ...โถ...รุ่นพี่ปารีสตอนนั้นก็ไม่เก่งเท่าไหร่นี่นา”

“อย่าปากดีไปหน่อยเลยน่า น้องทรายสุดที่รัก” เวลาที่ ฟิลิปส์เจอกับสยาม พวกเขาก็มักจะพูดจาโอ้อวดกันเป็นประจำ

“มานี่ทราย มาคุยกันหน่อย” เอมิลีได้ดึงแขนเสื้อของสยามและชวนเขาออกมาคุยกันที่ระเบียง

“ได้สิ” สยามก็ได้เดินตามเอมิลีไป พอถึงระเบียงสยามก็เอาหลังไปพิงกับระเบียงด้วยท่าทางสบายๆ

“มีอะไรงั้นเหรอเอมมี่”

“เรื่องของสถาบันห้องสมุดนะ ตอนรวบรวมข้อมูลได้เกือบทั้งหมดแล้วล่ะ” พอเอมิลีตอบกลับสยามก็ทำหน้าจริงจัง

“ฉันต้องรีบจบสงครามแล้วสินะ แล้วเรื่องของศาสนจักรล่ะ”

“ไม่ต้องห่วงฉันให้ ฟิลิปส์ เป็นคนจัดการ”

“ของทุกอย่างพร้อมแล้วสินะ แล้วเลือกที่ตั้งได้รึยัง”

“กำลังสร้างอยู่ที่ช่องว่างที่ไม่มีดาวและกาแล็คซี่”

“งั้นเหรอตอนนี้ก็เหลือแต่เรื่องที่ฉันต้องรีบจบสงครามสินะ”

“ระหว่างนั้นฉันจะคอยตรวจสอบเรื่องรัฐพันลึกของสหพันธ์”

“ตอนนี้มีตัวปัญหาอยู่ 2 กลุ่มสินะ”

“อาจจะมีมากกว่านั้น นายต้องระวังตัวหน่อยนะ มีความเป็นไปได้ที่ในกองทัพมีคนของศาสนจักรแฝงตัวอยู่”

“ได้ ฉันจะระวัง”

“อ๊ะ...นี่” เอมิลีได้ยื่นของบางอย่างให้

“มันคือ...” สยามรับมันมา

“จี้ห้อยคอ มันเป็นเครื่องมือที่เราสองคนจะใช้ในการติดต่อกันโดยตรงและยังสามารถบอกตำแหน่งของพวกเราสองได้โดยไม่มีสัญญาณใดมารบกวนได้”

“จี้นี่เธอทำขึ้นมาเองเหรอ”

“ใช่แล้วล่ะ”

จากนั้นสยามและเอมิลีก็ได้เอาจี้มาห้อยที่คอพร้อมกัน 

“เอมมี่เราน่าจะกลับมาคบ...”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ทราย”

จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในงานเลี้ยงต่อ

**********

ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น บัดเรย์ วอร์เชสเตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหพันธ์ดาวเคราะห์ก็ได้เข้าไปที่ห้องทำงานของประธานาธิบดี

“ท่านประธานาธิบดี”

“...อ่า...คุณบัดเรย์มีอะไรงั้นเหรอ”

“เรื่องเมื่อเช้าหน่ะครับ”

“พันโทสยามสินะ”

“ครับ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะทำให้สงครามจบลงแน่ๆ”

“นั้นสินะ แบบนี้ธุรกิจของผู้สนับสนุนพรรคเราคงไม่พอใจ”

“ผมมีแผนอยู่ครับ”

“ผมจะส่งพันโทสยามไปเป็นเสนาธิการประจำการกองยานที่ 31”

“ไปอยู่กับตัวปัญหาสินะ”

“ครับ พันโทสยามพึ่งเป็นทหารได้ไม่นานเขายังไม่รู้จักผู้บัญชาการของกองยานที่ 31”

“มันจะได้ผลงั้นเหรอ”

“นอกจากนี้ผมมีภารกิจที่ไม่สมเหตุสมผลให้กองยานที่ 31 ทำด้วยครับ”

“แล้วกองทัพจะยอมเหรอ”

“แค่บอกไปว่า เราเป็นตัวแทนของประชาชนถ้าไม่ทำตามถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นภัยต่อประชาธิปไตย”

“ร้ายจริงเลยนะคุณบัดเรย์ แต่แบบนี้คงถูกใจผู้สนับสนุนพรรคเรา”

“แน่นอนครับถ้าสงครามจบธุรกิจของผู้สนับสนุนพรรคเราคงเจ๊ง”

“นั้นสินะพวกเรายื้อสงครามมาได้ตั้ง 300 กว่าปี มันคงไม่จบลงตรงนี้”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!