Episode 13

ตอนที่ 13 ของขวัญวันเกิด #โทโอรุ

ช่วยด้วยครับ...ผมกำลังคิดหนัก ของขวัญวันเกิดของชินจังผมยังไม่ได้เตรียมได้เลย และที่สำคัญผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำหากอีกฝ่ายไม่พูดถึง หลังจากที่พวกเราทานข้าวเช้าง่ายๆ เสร็จ ผมก็ขันอาสาเตรียมกระเป๋าเดินทางของเขาและของผม

ชินจังไม่ได้ว่าหรือเซ้าซี้อะไร เขากดจูบกลางหน้าผาก แล้วเดินออกจากห้องไปทำงานต่อ ผมใช้โอกาสที่อยู่ตามลำพัง เห็นผมแบบนี้ผมก็เป็นพวกใส่ใจกับของขวัญของคนรักนะ

ถึงผมจะเป็นคนลืมเองก็เถอะ...เฮ้อ วันเวลาที่ได้อยู่กับเขามันรวดเร็วเสียจนผมแทบจำไม่ได้ว่าวันนี้คือวันอะไร จันทร์ อังคาร หรือวันไหน เพราะทุกๆ วันผมตื่นมาก็เจอเขา ในตอนกลางคืนก็มีเขาโอบกอดให้ความอบอุ่น มีความสุขทุกๆ วันจนลืมเรื่องวันเวลาไป

แล้วจะเอาอย่างไรต่อล่ะทีเนี้ย ผมเตรียมเก็บเสื้อผ้าของผมและชินจังใส่ในกระเป๋า ยังไม่ทันได้พับให้เป็นระเบียบผมก็รีบเดินออกจากห้องนอนไปหาเขาที่ห้องทำงาน ให้ตายสิ ก็ผมลืมไปเลยน่ะสิเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องถาม

“ชินจังไปกี่วัน ฉันจะได้เตรียมเสื้อผ้าไปถูก” ผมเอ่ยถาม โชคดีจริงๆ ที่ผมชะโงกหน้าเข้าไปถาม ไม่ได้ไปทั้งตัวแบบตอนแรก ทาเคชิซังมองผมเล็กน้อยพลางโค้งทักทายผม

“เจ้านาย อรุณสวัสดิ์ครับ”

“ไม่ใช่ว่ามาตอนบ่ายเหรอครับ” ผมเอ่ยทัก เมื่อเห็นเวลาจากนาฬิกาที่ตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะทำงานของผม

“บอสอยากรีบเดินทางไวๆ น่ะครับ”

“อ้อ...”

“เราจะไปกันสี่คืนสามวัน โทโอรุนายไปเก็บของต่อเถอะ” เจ้าคิ้วหนาบอกผมมาแบบนั้นก่อนจะเรียกให้ลูกน้องของเขาช่วยกับแพ็คเสื้อผ้าที่เขาตัดเสร็จ ดวงตาคู่คมมองผมเล็กน้อย สายตาแบบนี้เหมือนตอนที่เขามองผมหลังจากที่ผมเจอพวกนักข่าวเลย...มันคือสายตานักล่าที่กำลังอดทนอยู่

ผมส่งยิ้มแห้ง ค่อยๆ เดินกลับห้องอย่างเงียบๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง ให้ตายสิ ไม่รู้ว่าชินจังเขารื้อหาอะไร ข้าวของถึงเละแบบนี้ ผมรีบจัดการเก็บมันเข้าที่ ดูสิ มีทั้งผ้าเป็นพับที่ยังไม่ได้ตัด เศษผ้าเล็กๆ ที่เขาเก็บไว้ในกล่องพลาสติก โบหลากสีสำหรับห่อที่ยังอยู่ในกล่องพลาสติก ไหนจะกระดาษห่อของขวัญหลากสีสำหรับแพ็คส่งลูกค้า

เห็นกระดาษพวกนี้มันก็ยิ่งตอกย้ำในใจผม ผมหันกลับไปมองด้านหลังดูว่ามีใครตามออกมาไหม เห็นไม่มีใครเดินออกมาก็นึกโล่ง หากตอนนี้ผมออกไปซื้อของมาให้เขาก็คงจะทัน ผมรีบเดินกลับเข้าห้องพับเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าพร้อมของใช้จำเป็นอีกสองสามอย่าง ก่อนจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

“โทโอรุ? อยู่ในห้องน้ำเหรอ?” วันนี้มันวันซวยจริงๆ ผมคิดคำอื่นนอกจากคำนั้นไม่ออก อุตส่าห์จะรีบออกจากบ้านไปซื้อของขวัญให้ เจ้าตัวก็โผล่มาขัดจังหวะได้ทุกทีสิน่า

“อืม” ผมตอบสั้นๆ ในหัวเริ่มคิดหาทางไปเรื่อยอย่างใจเย็น

“ไปกันเถอะ กระเป๋าจัดเสร็จแล้วใช่ไหม ฉันยกไปรอนอกบ้านนะ” น้ำเสียงของเขายามเอ่ยเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“ได้ๆ” ผมรีบตอบ มาคิดดูดีๆ แล้วเขามีเงินเก็บมากกว่าผมเสียอีก ผมยังจำเลขหลายหลักในบัญชีที่เขาให้ช่วยดูแลได้อยู่เลย บ้านหลังใหญ่ข้าวของราคาแพง เพียงแค่เขาดีดนิ้วอยากได้อะไรก็มีพร้อมให้หมดทุกอย่าง

สำหรับผมเรื่องนี้ถือเป็นงานช้างเลยนะ เพราะในโลกนี้คงไม่มีอะไรที่เขาซื้อไม่ได้หรอกถ้าเขาต้องการจริงๆ นั่นแปลว่าตัวเลือกของขวัญของผมมันแคบลง ให้อะไรเขาถึงจะดีใจ ให้อะไรเขาถึงจะมีความสุขที่ได้รับ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ในหัวตอนนี้นอกจากของทำมือแล้วผมก็คิดไม่ออก

สุดท้ายก็ต้องคอตกขึ้นรถเตรียมเดินทาง ก็เจ้าชินโนซึเกะทั้งทำอาหารอร่อย ขนมเองก็ทำได้ เย็บปักถักร้อยนั้นก็อาชีพหลัก มีอะไรที่ผมสามารถทำได้ดีกว่าเขาไหมล่ะครับ? คำตอบคือไม่มี เจ้าบ้านี่จะทำได้ทุกอย่างทุกด้านเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะ!

“เป็นอะไร ทำไมนายทำหน้าแบบนั้นล่ะ ร้อนจนหงุดหงิดเหรอ?” ร่างสูงถามกลับ ดวงตาสีเข้มมองผมเป็นพักๆ นายนี่ช่างไม่เข้าใจความรู้สึกของคนเตรียมของขวัญในเวลากระชั้นชิดอย่างฉันเอาเสียเลย

“เปล่า แค่กลัวว่านายจะไม่ถูกใจของขวัญจากฉันน่ะสิ” ผมตอบอย่างที่คิด ชินจังระบายยิ้มน่ามอง ดวงตาสีเข้มมองเส้นทางตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน

“แค่มีนายฉันก็มีความสุขแล้ว นายจะให้อะไรฉันก็ชอบ”

“เหรอ...” ถ้าเขาพูดแบบนั้นล่ะก็ ผมก็พอจะมีอยู่อย่างหนึ่งที่สามารถให้เขาได้ และมั่นใจว่าเขาต้องชอบมากๆ เฮ้อ...หากผมมีเวลามากกว่านี้ ผมคงเตรียมอะไรที่ดีกว่านี้ได้แล้วล่ะ

พวกเราเดินทางมาถึงโรงแรมที่หมาย ในตอนนี้ผมกับชินจังกำลังรออาหารเย็นกันอยู่ ผมไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน ระหว่างนั้นตัวเองก็เอาของออกจากกระเป๋า แล้วค่อยตามเขาไปทีหลัง กลับต้องมาเจอภาพเก่าๆ ที่เคยเห็นจนชินตา ทุกครั้งผมมักจะปล่อยผ่านไปเสมอ แล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

“พี่สาวมาคนเดียวเหรอครับ?”

“ใช่...ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ มาคนเดียวรึเปล่า” หญิงสาวที่ชินโนซึเกะกำลังพูดคุยด้วยบิดตัวด้วยความเขินอาย ก็แน่ล่ะ โดนคนหน้าตาดีตัวสูงกดกับกำแพงซะขนาดนั้น

“เหรอ ดีจังเลย ผมเองก็มาคนเดียวเหมือนกัน” ผมคิ้วกระตุก อ่า ให้ตายสิ ถ้าตอนนี้ผมไม่เดินมาอาบน้ำคงไม่รู้ว่าเขาเที่ยวจีบสาวๆ ขายดอกรักไปทั่วแบบนี้ เห็นแก่วันเกิดที่ใกล้ถึงของเขา และเห็นแก่หน้าตาที่เขาดูจะภูมิใจ ผมจะปล่อยผ่านก็ได้...ผมพ่นลมร้อนตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำรวม ให้น้ำพุกลางแจ้งช่วยให้หัวมันโล่ง โดยเลือกบ่อที่อยู่ไกลที่สุด ตอนที่ผมเดินลงไปแช่จึงไม่มีใครเห็นรอยรักบนร่างกาย นับเป็นความโชคดีอีกอย่างที่บ่อนั้นไม่มีใครลงมาแช่เลย

แต่...ไม่คิดว่าผมอาบน้ำเสร็จแล้ว พวกเขาก็ยังขายขนมจีบกันไม่เลิกแบบนี้...ฆ่าทิ้งซะเลยดีไหม?

ตุบ!

ผมเซตามแรงชนของอะไรบางอย่าง เวรแล้ว! ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มแน่ๆ! ผมรับตาพลางกัดกรามแน่นเตรียมรับแรงปะทะระหว่างตัวเองกับพื้นไม้ของโรงแรม แต่ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน ร่างกายของผมกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บหรืออะไร ผมตัดสินใจค่อยๆ ลืมตาดูภาพตรงหน้าอย่างเชื่องช้า

“เกือบไปๆ ไม่เป็นอะไรนะครับ” พร้อมเสียงนุ่มลึกชวนให้ผมหันไปมองชายแปลกหน้าก่อนจะก้มมองรอบเอวตัวเองที่ได้เขาช่วยเกี่ยวเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหน้าของผมคงได้ทดสอบความแข็งแรงของพื้นไม้แน่ๆ!

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยไปพลางพยายามขยับตัวให้ลุกยืนด้วยตัวเอง

“ไม่เป็นไร ผมผิดเองที่เดินไม่ดู เลยชนคุณเสียเต็มแรง แล้วคุณเจ็บมากไหมครับ” ชายแปลกหน้าเอ่ยถาม

“เอ่อ...ครับ” ผมตอบสั้นๆ ทั้งที่ตอนนี้ผมสามารถยืนทรงตัวด้วยสองขาของตัวเองได้แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือของตนออกจากเอวผม ผมมองมือที่กอดเกี่ยวเอวของตัวเองไว้ ก่อนจะหันไปสบตาเขาเป็นสัญญาณให้เขาปล่อยมือ แต่เจ้าตัวกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เอาแต่ยิ้มอยู่ได้

และเมื่อผมหันไปมองคนรักที่กำลังยืนจีบสาว หวังให้เขามองมาที่ผมและยื่นมือเข้ามาช่วย แต่เขากลับไม่แม้แต่จะหันมาเลย เฮ้อ...นี่เขารักผมจริงเหรอ เวลาที่เขาอยู่ข้างนอกบ้านต้องเป็นแบบนี้ตลอดเลยรึไงนะ?

“คุณมาคนเดียวเหรอครับ?” ชายแปลกหน้าถาม เป็นคำถามเดียวกับที่ชินจังเคยถามผู้หญิงคนนั้น ตอนนั้นชินโนซึเกะตอบว่าอย่างไรนะ ผมนึกถึงคำพูดของเขา บางทีเขาอาจจะไม่อยากให้ใครรู้ก็ได้ว่ามากับผม หรือมีคนมาด้วย งั้นถ้าผมตอบว่ามากับชินจังตอนนี้ ชินจังก็จะกลายเป็นคนโกหกสินะ

“ผมมาคนเดียว เอ่อ คุณปล่อยมือจากเอวผมก่อนได้ไหมครับ” ผมตอบแบบเดียวกับที่ชินโนซึเกะตอบ ชายแปลกหน้าระบายยิ้ม เขาเปลี่ยนจากมือที่เคยโอบกอดเอวผมเป็นกอดคอผมแทน ชักจะตีสนิทเกินไปแล้วนะ...

“คุณ...มันหนักนะครับ” ผมเริ่มไม่พอใจ แทนที่ชายแปลกหน้าจะยอมรามือ เขากลับหัวเราะยกใหญ่ ก่อนจะลากให้ผมเดินไปกับเขา

“ผมว่ามันต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ เราใส่ชุดกิโมโนแบบเดียวกัน แถมมาเที่ยวคนเดียวกันทั้งคู่ ผมกำลังหาเพื่อนเดินเล่นอยู่พอดี เราไปด้วยกันนะครับ” เจ้าบ้านี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ที่เราใส่ชุดกิโมโนแบบเดียวกันก็เพราะพักโรงแรมนี้เหมือนกันอย่างไรล่ะ! มันเป็นชุดที่โรงแรมให้ใส่ต่างหาก!

“เดี๋ยวครับ คุณลากผมไปแบบนี้ ชุดผมมัน...เหวอ!!” ชายแปลกหน้าไม่มีท่าทีจะหยุดลากง่ายๆ อาจเป็นเพราะเขาตัวสูงและรูปร่างค่อนข้างใหญ่ แรงของผมจึงไม่อาจหยุดการกระทำของเขา ให้ตายสิ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!

“ไปเดินเล่นซื้อของฝากกันเถอะครับ หรือจะซื้อไปเป็นของขวัญให้คุณแม่ที่บ้านก็ได้นะครับ ผมชื่ออากิโอะ คุณชื่ออะไรครับ?” ผมพยายามดึงมือหนาที่โอบกอดคอของผมไว้พลางมองเขาเล็กน้อย ไม่ลืมที่จะตอบคำถามตามมารยาทกลับไปเช่นกัน

“คาซามะ โทโอรุ ครับ...อากิโอะซังปล่อยผมก่อน ผมหายใจไม่ออก”

“งั้นเราไปเริ่มจากร้านของกินกันเถอะครับโทโอรุซัง!!” ขอร้องล่ะพ่อคุณ! ฟังที่คนเขาพูดหน่อยจะได้ไหม!!!

 

เรื่องนี้มี e-bookแล้วนะคะ เพื่อนๆสามารถกดสั่งซื้อเพื่ออ่านตอนพิเศษที่ไม่ลงในเว็บได้แล้ววันนี้!!!

ฮอต

Comments

เบื่อชีวิต-_-

เบื่อชีวิต-_-

เป็นใครบังอาจมายุ่งกับคาซามะ!!!

2024-01-04

1

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!