Episode 7

ตอนที่ 7 คิดไม่ถึง

“เจ้านาย บอสเป็นอะไรไปครับ?” เป็นอีกครั้งที่ทาเคชิเอ่ยถามเจ้านายคนใหม่ของเขา ช่วงเวลาสองวันที่เขาไม่มาทำงาน ยอมอยู่บ้านเพื่อพิจารณาตัวเองตามคำสั่งของชินโนซึเกะ โดยไม่รู้เลยว่าคำสั่งของบอสในตอนนั้นแฝงความต้องการบางอย่างที่มีต่อคนรักเอาไว้ นั่นคือเวลาที่ชินโนซึเกะต้องการให้โทโอรุได้พักผ่อน

“ทำไมเหรอครับ?” ร่างเล็กถามกลับ ดวงตาคู่สวยแทบไม่มองคู่สนทนาด้วยซ้ำ กลับจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่เลิก มือทั้งสองขยับไปมาคล้ายพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา

“บอสไม่เคยทำงานเสร็จเร็วขนาดนี้ แถมยัง...” ลูกน้องของเขาไม่ว่าเปล่า ยังงัดหลักฐานออกมาโชว์ ทาเคชิรีบเปิดกล่องสำหรับใส่เสื้อผ้าส่งลูกค้า มือหนาหยาบกระด้างหยิบเสื้อด้านในขึ้นมาโชว์ให้เจ้านายคนใหม่ได้เห็น

“ดูสิครับ งานเนี๊ยบมาก ความจริงบอสก็ทำงานเนี้ยบละเอียดและสวยอยู่แล้ว แต่เจ้านายดูสิ เหมือนผ้ามันบอกกับผมว่าเจ้านายใส่ใจมันมากกว่าทุกครั้ง” ดวงตาสีเข้มเปล่งประกายระยิบระยับราวหญิงสาวยามพูดถึงเทพนิยาย โทโอรุส่ายหน้าน้อยๆ ไม่เข้าใจว่าแปลกตรงไหนกัน คนที่แปลกดูจะเป็นทาเคชิมากกว่า

“เขาทำแบบนี้มาสามวันติดแล้ว เริ่มทำงานหกโมงเช้า เลิกงานห้าทุ่มทุกวัน” ร่างบางตอบอย่างที่เห็น ตลอดสองวันที่ผ่านมา ชินโนซึเกะแทบจะไม่ยุ่งกับเขาสักเท่าไร เอาแต่ทำงานและทำงาน อย่างมากก็นอนกอดเขาในตอนกลางคืนเท่านั้น กระนั้นร่างสูงก็ยังดูแลเขาอย่างดี หาข้าวหาปลาให้กิน ย้ำนักย้ำหนาให้เขากินยา มันทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการแค่ความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่ยังต้องการหัวใจของเขาด้วยเช่นกัน

“เจ้านาย...ขออีกทีสิครับ เมื่อกี้ผมฟังไม่ถนัด” ทาเคชิกลืนน้ำลายอึกใหญ่มองหน้าโทโอรุอย่างมึนงง

“เขาทำติดต่อมาสามวันแล้ว ถ้านับวันนี้ด้วยก็สี่วันแล้วล่ะ”

“บอสอะนะ!! เจ้านาย! รีบพาบอสไปตรวจสมองกันเถอะครับ!” ทาเคชิตะโกนเสียงดัง มือหนาหยาบกระด้างรีบพับเสื้อผ้าเก็บลงกล่องอย่างเรียบร้อย ท่าทีรีบร้อนของลูกน้องคนสนิทยิ่งทำให้โทโอรุสับสนไม่เข้าใจ

“ทาเคชิซัง ใจเย็นๆ ก่อนครับ”

“เจ้านาย นี่มันเรื่องใหญ่แบบใหญ่มากๆ เจ้านายก็รู้ใช่ไหมล่ะครับว่า ดีไซเนอร์ผู้ลึกลับ เจ้าของผลงานอันยอดเยี่ยม ใช้นามแฝงว่าชิเกะ ทำงานช้าแต่งานดี ตัวหนึ่งใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ว่าลูกค้าต้องการแบบไหนก็สามารถทำให้ได้ ออกแบบให้เข้ากับรูปร่างใส่ชุดไหนก็รอดถ้าเขาเป็นคนตัดเย็บ ในตอนนี้กลับทำเสร็จ...” ช่วงท้ายๆ ทาเคชิแอบภูมิใจไม่น้อย เพราะตนคือลูกน้องคนสนิทของคนดังในโลกแฟชั่น ก่อนจะรีบหันกลับไปนับกล่องของขวัญด้านหลังอย่างตั้งใจ

“สิบห้ากล่อง...แม่เจ้า ไวกว่าเดิมตั้งหลายเท่า แต่คุณภาพงานกลับดีมากๆ ไม่ได้ด้อยลงเลย...เป็นแบบนี้ล่ะก็ เจ้านายครับ บอสต้องเคลียร์งานของปีที่แล้วหมดภายในเดือนนี้แน่ๆ” เจ้าของเสียงแหบแห้งดีใจไม่น้อย นอกจากจะไม่โดนลูกค้าจิกแล้ว บอสของเขายังจะได้ยอดสั่งซื้อใหม่อีกด้วย แค่คิดร่างสูงก็ยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น

“เขาคือชิเกะ?” โทโอรุพึมพำเสียงแผ่ว นิ้วเรียวรีบกดพิมพ์อักษรหาข้อมูลเจ้าของชื่อทันที ดวงตากลมโตค่อยๆ เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหันกลับไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง สีหน้าจริงจังยามทำงานแสดงถึงความตั้งใจ ไม่ได้ปล่อยชิ้นงานออกมาลวกๆ ยังคงรักษามาตรฐานงานของตนเป็นอย่างดี

ดีไซเนอร์คนนี้ใช่ว่าโทโอรุจะไม่รู้จัก เป็นดีไซเนอร์ที่แม่ของเขาพูดถึงบ่อยๆ พูดจนเขาจำได้ขึ้นใจ แต่ไม่คิดว่าคนคนนั้นจะคือชินโนซึเกะเท่านั้นเอง

‘โทโอรุจังรู้ไหมลูก ดีไซเนอร์คนนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสั่งได้นะลูก ต้องโชคดีด้วย’ คำพูดของแม่ดังก้องในหัว คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะลอบมองชินโนซึเกะอีกครั้ง นี่มันเรื่องจริงเหรอ! ผู้ชายที่สวมผ้าปิดปาก ไม่ก็ให้เห็นเพียงเงายามสัมภาษณ์ คนที่สื่อต่างพากันตามตัว คนคนนั้นกลับเป็นคนข้างกายเขา

ยิ่งคิดเขายิ่งไม่เชื่อตัวเองมากขึ้นทุกที

“ครับ? ใช่ครับ นั่นเป็นชื่อในวงการของบอส บอสต้องการความเป็นส่วนตัว เรื่องนี้มีแค่ผมที่รู้หน้าตาจริงๆ ของบอส” คิ้วบางกระตุกเล็กน้อย เสียงใสเอ่ยเย็นยะเยือก พลางหันกลับไปมองทาเคชิ

“แล้วคนเมื่อวันนั้นล่ะครับ...”

“เจ้านายครับอย่าเข้าใจผิด นั่นเป็นญาติผมเองครับ ผมไม่ได้บอกว่าบอสคือใคร เธอเคยเจอบอสแค่ครั้งเดียวตอนที่บอสขับรถไปส่งผมที่บ้าน คือวันนั้นเธอมาเยี่ยมโดยไม่บอกแถมช่วงนั้นรถผมก็เข้าอู่ ก็เลย...”

“...” โทโอรุขมวดคิ้ว ไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อทาเคชิ แต่เพราะเขากำลังไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหาก คนที่ตอนเป็นเด็กเอาแต่วิ่งไล่พี่สาวคนสวยไปมา ในหัวคิดถึงแต่หน้าอกใหญ่ๆ ขนมช็อกโกบี หรือไม่ก็หน้ากากแอ็คชั่น ไหนจะพูดจาสลับกันไปมา ใช้ความหมายผิดๆ ตอนนี้กลับเป็นคนที่มีหน้าที่การงานมั่นคงกว่าเขาเสียอีก

“เจ้านาย ผมขอไปส่งของให้ลูกค้าก่อนนะครับ” ทาเคชิไม่รู้ว่าร่างบางกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพยายามแสดงให้เจ้านายคนใหม่ได้เห็น ว่าตัวเขาจริงจังกับงานและเต็มที่เสมอ แม้จะมีบ้างบางครั้งที่เขาหาเบี้ยเลี้ยงพิเศษโดยการรับ ‘เร่งงาน’ หรือ ‘ลัดคิว’ ให้ลูกค้า แต่ก็ใช่จะบ่อยนัก

และไม่เคยพาใครมาบ้านของบอสเลย เว้นแต่ญาติของเขาที่เอาความเป็นญาติมาบังคับ ส่วนนอกนั้นเขาก็ไม่เคยพามา

“ครับ...” โทโอรุตอบ เสียงนิ่งจนเขาเริ่มกังวล กระนั้นลูกน้องอย่างเขาก็ยังทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างน้อยก็หวังว่าเจ้านายตัวเล็กของเขาจะเห็นแก่ความดีความชอบ ความขยันขันแข็งของเขา แล้วไม่ไล่เขาออก ยอมปล่อยให้เขาทำงานอยู่ที่นี่อย่างเดิม เมื่อได้ยินคำตอบจากเจ้านาย เขาก็รีบขนกล่องมากมายออกจากห้องไป

“โทรุจัง?” ร่างสูงเงยหน้าออกจากไม้บรรทัดโค้งง้อสีใสสำหรับวัดผ้า ก็พอจะรู้ว่าคนตัวเล็กของเขากำลังคุยเรื่องเขากับทาเคชิ แต่ไม่คิดว่าจะมองเขานานขนาดนี้ ชินโนซึเกะระบายยิ้มเมื่อสบตากับอีกฝ่าย เขาละมือจากงานตรงหน้า สองเท้าเดินตรงมาหาร่างบาง ท่าทีดูไม่รีบไม่ร้อน ไม่มีแม้แต่ร่องรอยความเหนื่อยล้าปรากฏให้เห็น

“หิวแล้วเหรอ...นี่ก็บ่ายแล้วด้วยฉันลืมหาอะไรให้นายกินเลย” เสียงเข้มเอ่ยราบเรียบ ใบหน้าคมยังคงประดับรอยยิ้มเอาไว้ ก่อนจะนั่งบนโต๊ะทำงานที่เขาซื้อมาใหม่ เพื่อโทโอรุโดยเฉพาะ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันออกไปซื้ออะไรกินที่ร้านข้าวปั้นใกล้ๆ” ร่างเล็กรีบหันหน้าหนีไปทางอื่น พลางพ่นลมร้อนออกมาเบาๆ นี่เขามัวทำบ้าอะไรอยู่...เอาแต่จ้องเจ้าบ้านั่นอยู่ได้

“แผลยังไม่หายเหรอ? ...”

“หายแล้วล่ะ” โทโอรุตอบกลับ มือบางทำเป็นพิมพ์ข้อความบางอย่างต่อ แกล้งไม่สนใจชายร่างสูง และไม่คิดจะไล่อีกฝ่ายลงจากโต๊ะให้เปลืองแรง เพราะต่อให้ไล่อย่างไร เจ้าชินโนซึเกะก็ไม่มีทางยอมลงจากโต๊ะของเขาอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นสู้ปล่อยให้ร่างสูงนั่งจนพอใจ แล้วยอมลงมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ เองไม่ดีกว่าเหรอ?

“งั้น...แล้ว” โทโอรุเงยหน้ามองทันที เหมือนตนจะได้ยินอะไรบางอย่างแต่ไม่ชัด มีเพียงคำแรกและคำสุดท้ายที่เขาฟังออก เมื่อกี้เจ้านี่พูดอะไรนะ? แววตาคู่สวยมองชายหนุ่มคิ้วหนาอย่างไม่เข้าใจ ราวกับตนเพิ่งพลาดเรื่องสำคัญๆ ไปอย่างไรอย่างนั้น

“นายว่าอะไรนะ?”

“เปล่านี่ ว่าแต่นายเถอะ เหมือนนายเพิ่งจะรู้ใช่ไหมว่าฉันทำงานอะไร?” ชินโนซึเกะเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ก่อนจะดันตัวลงจากโต๊ะทำงานของคนรัก พลางคว้าเก้าอี้ใกล้ๆ มานั่งทันที

“...”

“เห็นฉันแบบนี้ แต่ฉันก็ดังในหมู่คนบ้าแฟชั่นนะ แถมยังหน้าตาดีมากๆ แค่เห็นเงาทุกคนก็กรี๊ดแล้ว ถึงอย่างนั้นฉันก็รักนายคนเดียวนะ” ได้ทีก็ขอโม้เสียหน่อย โทโอรุของเขาจะได้รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่เจอผู้ชายรักจริงหวังแต่ง แถมยังเป็นคนดังมีชื่อเสียง รายได้ก็มั่นคง มีเงินเก็บอีกพอสมควร ถึงจะดูเหมือนเจ้าชู้ก็จริง แต่ใจของเขาก็มีเพียงคนตัวเล็กตรงหน้าเพียงคนเดียวมาเสมอ

“เว่อร์ไปแล้วนาย” โทโอรุส่ายหัวน้อยๆ พยายามกดเม้มริมฝีปากไว้แน่น เรียวนิ้วสวยที่เคยขยับกลับหยุดนิ่ง ดวงตาคู่สวยกดต่ำมองมือน้อยๆ ของตนทั้งสองอย่างเหม่อลอย

‘ไม่! จะยิ้มไม่ได้นะ ห้ามยิ้มนะ! อดทนไว้!’ โทโอรุพยายามสะกดกลั้นอารมณ์สุดความสามารถ ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย!!

“ชิ...นายนี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลยนะ ฉันไปทำงานต่อดีกว่า” ร่างสูงอมลมไว้ในปาก อุตส่าห์พูดถึงขนาดนี้จะเออออกับเขาหน่อยไม่ได้รึไง ไม่รู้จะจริงจังไปไหน

“นายไม่ไปหา...อะไรกินเหรอ?” เสียงใสเอ่ยขาดเป็นช่วงๆ

“พ่อบอกป๊ะป๋าแล้วไม่ใช่เหรอครับ จะตั้งใจทำงานหาเงินมาให้ใช้ งานพ่ออีกเยอะเลย ป๊ะป๋าก็ซื้อมาฝากพ่อก็แล้วกัน อ่า ทำงานๆ คุณนายโนะฮาร่าครับ กระเป๋าตังค์ผมอยู่บนหัวเตียง ใช้ได้ตามสบายเลยนะครับ” อีกฝ่ายตั้งใจแซว หยอกล้อให้คนตัวเล็กโวยวายใส่เขาเช่นทุกที แต่โทโอรุกลับนิ่งเงียบ ก่อนจะตอบกลับเขาสั้นๆ ง่ายๆ

“อืม...”

“วันนี้ไม่โวยวาย? หืม? ...” ชินโนซึเกะเลิกคิ้วมอง แปลกจริงๆ หรือเขาแค่คิดไปเองนะ ร่างสูงเดินออกมาส่งคนตัวเล็กออกจากบ้าน ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้คนรัก เมื่อบานประตูปิดลงอีกครั้งเขาจึงกลับมาทำงานตัดผ้าอย่างเดิม

“เพราะจีบผู้หญิงตั้งแต่เด็กๆ รึไงนะ ถึงได้พูดอะไรเลี่ยนๆ ออกมาได้ไม่อายปากแบบนี้” ร่างบางพึมพำเสียงแผ่ว มือคู่น้อยรีบยกขึ้นปิดหน้าทันที ซ่อนรอยยิ้มและความเขินอายใต้ฝ่ามือของตัวเอง ดีจริงๆ ที่ฝืนอดทนจนตนพาตัวเองออกมาข้างนอกได้

ไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็เจ้าบ้าชินโนซึเกะต้องเห็นรอยยิ้ม เห็นใบหน้าแดงเถือกของเขาแน่ๆ

“เจ้าบ้าเอ๊ย...ไปตายซะชินโนซึเกะ...”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!