ดีไซน์รักของเราสองคน(ชินจังxคาซาม่าคุง)

ดีไซน์รักของเราสองคน(ชินจังxคาซาม่าคุง)

Episode 1

ตอนที่ 1 เหตุผลโง่ๆ

“ผมไล่คุณออก! คาซามะ โทโอรุ!” เป็นอีกครั้งที่เขาถูกไล่ออก...และเหตุผลหรือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาเจออะไรแบบนี้มันช่างไร้สาระ ย้ำว่าไร้สาระแบบสุดๆ ยิ่งกว่าเพื่อนคนหนึ่งสมัยอนุบาลด้วยซ้ำ!

“ครับ” คาซาม่าตอบสั้นๆ ทั้งยังให้เกียรติอดีตเจ้านายโดยการโค้งลาเล็กน้อย ก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากห้อง ซ่อนความหงุดหงิดและความรู้สึกขุ่นมัวเอาไว้ในใจ

นี่มันรอบที่เท่าไรกันที่เขาต้องมาเจอเรื่องงี่เง่าอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มรีบเก็บข้าวของใส่กล่องอย่างเร่งรีบ ไม่คิดจะส่งยิ้มหรือทักทายใครเช่นทุกครั้ง และไม่สนใจเสียงซุบซิบนินทารอบกายเช่นกัน จะพูดอะไรก็ช่าง จะมองแบบไหนก็แล้วแต่ เพราะต่อจากนี้ไปตัวเขาก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอคนพวกนี้อีกแล้ว

“แบบนี้เรื่องของคาซามะซังก็เป็นความจริงน่ะสิ...”

“ไม่น่าเลยเนอะ หน้าตาก็ดี ทำไมทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นกับลูกท่านประธานได้”

“โรคจิตแน่ๆ แบบนี้ เสียดายของชะมัด” เสียงนินทาดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่สนใจว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่า ไม่สิ...บางทีอาจจะตั้งใจให้เขาได้ยินอยู่แล้วก็ได้ ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้

คาซาม่าไม่ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้าเก็บของทั้งหมดของตนลงกล่อง และเลือกที่จะเก็บความจริงเอาไว้กับตัวเอง เพราะเรื่องที่ฝ่ายหญิงจงใจปล่อยข่าวออกมาทุกคำ ทุกเหตุการณ์ ล้วนโกหก ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย และผู้ชายอย่างเขาก็ไม่คิดจะแก้ข่าวลือพวกนั้น เลือกที่จะให้เกียรติหญิงสาวโดยการเก็บเงียบมาตลอด แต่สุดท้ายคนที่เจ็บตัวกลับเป็นเขาเสียเอง

“คนที่เสียหายมันผมต่างหาก...” คาซาม่าพึมพำกับตัวเอง มือบางคู่สวยทำหน้าที่ยกกล่องขึ้นแนบอก แล้วเดินจากห้องทำงานแสนคุ้นเคยนี้ไป

ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็เหมือนกันหมด ไม่โดนไล่ออกก็โดนร้องเรียน ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไร และไม่คิดจะทำอะไรคนพวกนั้นเลย กลับกันหญิงสาวพวกนั้นมากกว่าที่เข้าหาเขา เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหาย ชายหนุ่มพ่นลมร้อนอีกครั้งอย่างเหลืออด

“ต้องหางานใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย...” เขาบ่นน้อยๆ ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาก็ยิ่งหงุดหงิด อยู่ดีไม่ว่าดีก็ถูกไล่ออก เพียงเพราะเขาไม่ตามใจลูกสาวของเจ้านาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนเอาเรื่องของเขาไปพูดอีท่าไหน ท่านประธานถึงเรียกเขาเข้าไปพบโดยตรง จากนั้นก็ด่าเขาถึงสามชั่วโมง

ทำเหมือนเขาไม่ใช่มนุษย์อย่างไรอย่างนั้น เฮ้อ...แบบนี้เขาคงหางานยากกว่าเดิมเป็นแน่ ข้อหาลวนลาม โดนใส่ร้ายว่าจับก้นลูกค้า พูดจาไม่สุภาพ แอบตามไปถึงบ้าน จ้องแต่จะทำเรื่องอย่างว่า? ขอโทษเถอะ เรื่องพวกนั้นเขาเป็นคนโดนเองต่างหาก อย่างลูกสาวท่านประธานก็ด้วย ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่แอบจับก้นเขา แอบตามเขากลับบ้าน มันกลับกันไปหมด ความจริงเขาคือผู้เสียหายนะ!

แล้วจะมีใครเชื่อล่ะ? จะให้เขาไปแจ้งความเหรอ? หรือปรึกษาคนอื่น? มันคงจะมีคนหน้าโง่เชื่อเขาหรอก คงคิดว่าเขาพูดเล่นมากกว่า คิดว่าเรื่องพวกนี้คือเรื่องตลก...เพราะเป็นผู้ชาย เรื่องพวกนี้จึงไม่มีใครเชื่อ เพียงเพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิง...

คาซาม่ากลับมานั่งพักในคอนโดของเขา ใช้เวลาอยู่กับตัวเองโดยเก็บปัญหาเรื่องงานไว้กับตัว ไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง ในหัวพยายามหาทางออกเรื่องงานอย่างใจเย็น ก่อนจะหลุดถอนหายใจอยู่หลายครั้ง เมื่อพบว่าปัญหาในครั้งนี้มันใหญ่เกินกว่าเขาจะหาทางแก้ไขได้

แค่โดนไล่ออกก็หางานใหม่ยากพออยู่แล้ว ยิ่งข้อหาคือลวนลามลูกสาวท่านประธาน...อย่าหวังเลยว่าชาตินี้เขาจะหางานได้ง่ายๆ หรือเขาควรออกมาทำงานของตัวเองดีล่ะ? คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกจริงๆ

ครืด ครืด

แรงสั่นจากมือถือบนหัวเตียงเรียกความสนใจอันน้อยนิดของชายหนุ่ม คาซาม่ามองชื่อบนหน้าจอเล็กน้อย หัวคิ้วที่เคยขมวดพลันหายไป ก่อนจะตามมาด้วยรอยยิ้มหวานอย่างที่ยากจะเห็นในช่วงนี้

“ครับแม่” เขาทักทายผู้เป็นแม่อย่างสดใส ไม่เหลือร่องรอยคนคิดมากแบบเมื่อครู่เลย

(โทโอรุ มีจดหมายมาที่บ้าน เป็นงานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม มัธยม มหา’ ลัย ลูกจะไปงานไหนดีจ๊ะ) ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างอารมณ์ดี คำถามของเธอทำเอาลูกชายไปต่อไม่ถูก เมื่อก่อนเขายังพออ้างได้ว่าติดงาน ติดประชุม ทั้งที่เขาจะโกหกแม่ก็ได้ แต่ไม่รู้เพราะอะไรครั้งนี้คาซาม่าอยากพบเพื่อนๆ ของตนสักครั้งจริงๆ

“ผมจะไปงานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนอนุบาลครับ” เขาตอบอย่างมั่นใจ มีเพียงเพื่อนกลุ่มนี้เท่านั้นที่เขาสามารถคุยได้อย่างสนิทใจ ไม่ต้องแกล้งวางตัวเป็นผู้ดี หรือพยายามทำตัวให้เก่งเพื่อให้เข้าพวก และยังเป็นกลุ่มเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาอีกด้วย

(ดีจังเลย ชินจังเองก็มาหาลูกด้วยนะ แม่จำเขาแทบไม่ได้เลยล่ะ) เธอหัวเราะน้อยๆ แค่ได้ยินเสียงแม่แบบนี้ ความกังวลที่เคยมีก็ค่อยๆ ลดลงอย่างเชื่องช้าและหวังว่าความรู้สึกนี้จะหายไปก่อนที่เขาจะได้เจอเพื่อนๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

คาซาม่าคุยกับผู้เป็นแม่ต่ออีกหน่อย ก่อนจะวางสายไปพร้อมหัวใจที่เปี่ยมสุข...แต่นั่นมันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เมื่อรอบข้างเงียบสงบ ความรู้สึกขุ่นมัวก็กลับมาอัดแน่นในใจของเขาอีกครั้ง...

ในที่สุดวันงานก็มาถึง คาซาม่าเลือกแต่งตัวเรียบๆ แต่กลับดูดีตามแบบของเขา กลายเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนในงาน ชายหนุ่มพยายามหาเพื่อนในกลุ่มของตนเมื่อครั้งยังเยาว์วัย แต่นั่นก็ผ่านมานานแล้ว หากเขาจะจำเพื่อนของตนไม่ได้ก็ไม่แปลก หวังว่าเพื่อนของเขาจะทำตัวเด่นเหมือนเมื่อก่อนนะ

“เนเน่มาแล้วค่ะ!!! ผู้หญิงหน้าตาดีทำกับข้าวอร่อยยังไม่มีแฟน” เสียงหวานตะโกนเรียกความสนใจทันทีที่ก้าวเข้ามาในงาน ร่างบางอยู่ในชุดเดรสสีขาวเสริมให้เส้นผมของเธอดูเด่นขึ้นหลายเท่า นี่แหละเพื่อนของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย...คาซาม่ายิ้มน้อยๆ ยังไม่ทันได้เอ่ยทักอีกฝ่ายก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาทันทีที่เขาและเธอสบตากัน

“คาซาม่าคุง! ปีนี้นายมาด้วยเหรอ! ฉันนึกว่านายจะไม่มีเวลาเสียอีก” หญิงสาวมองเพื่อนสมัยอนุบาล ดวงตากลมโตก้มมองอีกฝ่ายหัวจรดเท้าอยู่หลายครั้ง ก่อนจะจ้องใบหน้าของคาซาม่าอย่างจับผิด

“ฮั่นแน่...แอบติดต่อกับชินจังเหรอเนี่ย”

“เปล่า ฉันไม่ได้มาที่นี่ตั้งหลายปี จะไปติดต่อเจ้าบ้านั่นได้ยังไงเล่า ขนาดเบอร์เพื่อนๆ คนอื่นยังไม่มีเลย” คาซาม่ารีบปฏิเสธ

“เหรอ...ก็จริง ชินจังเองก็หายไปหลายปีเหมือนกัน พวกเราพยายามติดต่อกันตลอด แต่นายน่ะสิ ตั้งแต่ชั้นประถมก็ย้ายไปโรงเรียนชื่อดัง ไปหาที่บ้านก็ไม่ยอมออกมาเล่นด้วยกัน ใจร้ายชะมัด” เนเน่กอดอกมองเพื่อนของตนอย่างคาดโทษ

“ฮ่าๆ ขอโทษนะ”

“เดี๋ยวนี้ทำงานที่ไหนล่ะ? คงมีเงินเก็บเยอะเลยล่ะสิ มีแฟนรึยังคะ? คา-ซา-ม่า-คุง อัปเดตข่าวหน่อยสิ” เธอรีบหยิบสมุดขนาดเล็กขึ้นมาจดข้อมูล พร้อมหัวเราะคิกคักอย่างสดใส

“คือ...”

“อ้าวเนเน่จัง! คาซาม่าคุง? ใช่ไหม?”

“ยังไม่มีความมั่นใจเหมือนเดิมเลยนะเจ้าหัวข้าวปั้น หัดจำหน้าเพื่อนให้ได้บ้างสิยะ” เนเน่หันไปติเพื่อนอีกคนในกลุ่มของตน รู้ตั้งแต่ได้ยินเสียงไม่มีความมั่นใจว่าเป็นใคร โดยไม่ต้องหันกลับไปมองก่อน

“ก็...แบบว่า คาซาม่าคุงหล่อขึ้นจนฉันจำไม่ได้นี่นา...” มาซาโอะตอบ ดวงตาสีเข้มขยับไปซ้ายทีขวาที ดูไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย

‘ทุกคนยังเหมือนเดิมเลย...มีแต่ฉันสินะที่เปลี่ยนไป’ คาซาม่าอดคิดแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เขาได้แต่มองเพื่อนรักทั้งสองพูดคุยกัน บ้างก็หัวเราะตาม บ้างก็ส่งยิ้มให้ พลางยกแก้วขึ้นจิบอยู่หลายครั้ง

“โบจังยังไม่มาเหรอ?” เนเน่ถามถึงเมื่องานเลี้ยงเริ่มมาได้สามสิบนาทีแล้ว กลับไร้วี่แววเพื่อนอีกคนของเธอ

“เขาติดวิจัยงาน เห็นบอกว่าจะตามมาทีหลัง” มาซาโอะตอบพร้อมส่งยิ้ม ท่าทีแบบนี้มันอะไรกันยะ อินเลิฟงั้นเหรอ? คิดว่าจะรอดพ้นจากสายตาสาวสวยคนนี้ไปได้รึไง!?

“กล้ามากนะที่แซงหน้าฉัน” เธอกดเสียงต่ำมองคนที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุดในกลุ่มอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“พูดอะไรน่ะเนเน่จัง? ฉันไปแซงหน้าเธอตอนไหน” มาซาโอะเอียงคอมองอย่างสงสัย โดยมีคาซาม่าพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา

“นายน่ะคบกับโบจังใช่ไหมล่ะ...ทำไมกันนะสาวสวยน่ารักๆ อย่างฉันถึงได้ไร้คู่แบบนี้”

“ดะ ดะ เดี๋ยวสิ! เนเน่จังนี่ล่ะก็...อย่าพูดเสียงดังแบบนั้นจะได้ไหม น่าอายออกจะตาย” เนเน่ตีไหล่มาซาโอะพลางกัดฟันพูดพร้อมจิกตามองอย่างเหลืออดเต็มที

“หยุดพูดก่อนที่ฉันจะซ้อมนายแทนน้องต่ายของฉัน”

“คาซาม่าคุงล่ะมีแฟนรึยัง?” มาซาโอะลอบกลืนน้ำลายแล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที ใครจะไปอยากโดนซ้อมกัน!

“ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเป็นของใคร...” เนเน่กอดอกแน่น คิ้วสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเห็นใบหน้าขาวนวลขึ้นสีเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในมือ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าในงานส่วนใหญ่มักจะเสิร์ฟของแบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคาซาม่าคุงเป็นพวกคออ่อนกัน

“โย่ว...ทำอะไรกันอยู่ มาซาโอะคุง โบจังรออยู่ข้างนอกแน่ะ ฝากฉันให้มาตาม...คาซาม่า?” เจ้าของคิ้วหนาสีเข้มมองร่างชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะมีโอกาสได้เจออีก คนที่เขาพยายามไปหาที่บ้านอยู่หลายครั้งตั้งแต่ประถมลากยาวไปถึงมัธยมปลาย...อีกฝ่ายก็ไม่ยอมออกมาเจอเขาเลย

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ วันที่เขาตัดสินใจไปหาอีกฝ่ายที่บ้านอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าตอนนี้คาซาม่าทำงานอยู่ในตัวเมืองหลวง และในตอนนั้นคุณน้าก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าลูกชายสุดที่รักของเธอจะมาร่วมงานรึเปล่า เขาก็ทำใจเอาไว้แล้วครึ่งหนึ่งว่าอีกฝ่ายอาจไม่มารวมงานอย่างทุกปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าการเจอคาซาม่าในงานครั้งนี้มันทำให้เขาทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน

“มาซาโอะคุง แวะส่งฉันที่บ้านก่อนนะ แล้วพวกนายค่อยไปเดตกันตกลงไหม” เนเน่รีบกอดแขนเจ้าของชื่อ เธอส่งสายตาให้กำลังใจชินโนซึเกะอยู่เงียบๆ แล้วรีบดึงมาซาโอะออกไปข้างนอกพร้อมกับเธอ

“ชินจัง? อึก...เหรอ?” คาซาม่าถามขึ้น ยามนี้มองอะไรไม่ชัดเหมือนก่อน สายตาพร่ามัวไปหมดจนเห็นหน้าของร่างสูงไม่ถนัดตา มีเพียงคิ้วหนาอันเป็นเอกลักษณ์ของชินโนซึเกะเท่านั้นที่เขาเห็น และจำมันได้ทันที

“โทรุจังสุดที่รักของฉัน ท่าจะเมาแล้วนะเนี่ย” ชินโนซึเกะเอ่ยกระซิบที่ข้างหูแดงก่ำนั้น ก่อนจะหัวเราะน้อยๆ ร่างสูงรีบคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปจากเขาอีก

“ใครเป็น...อึก...ที่รักของนายมิทราบ ยังชอบ...อึกพูดจาไร้สาระเหมือนเดิม” เจ้าบ้านี่ ทั้งที่เมื่อก่อนขนาดตัวพอๆ กับเขาแท้ๆ ตอนนี้ทำไมถึงได้สูงกว่า ทั้งมือและช่วงไหล่แตกต่างจากเขามากจริงๆ เป็นอย่างที่แม่เขาพูดเลย...หากเจอกันข้างนอกเขาคงจำไม่ได้ และถ้าในตอนนั้นคนคนนี้ไม่ได้เข้ามาทักมาซาโอะ เขาก็คงไม่รู้ตัว

“ครับๆ มานั่งพักตรงนี้ อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ...พี่สาวคนสวย ผมขอน้ำส้มแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์แก้วหนึ่งสิครับ ใส่ความรักของพี่ที่มีต่อผมมาด้วยเยอะๆ” ร่างสูงออกแรงดึงให้คาซาม่านั่งลงข้างกายพลางสั่งสิ่งที่ต้องการอย่างอารมณ์ดี

“ค่ะ ทราบแล้ว” คาซาม่าไม่รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวทำหน้าแบบไหน รู้แค่เธอต้องอายในสิ่งที่ชินจังพูดแน่ๆ น้ำเสียงถึงได้สั่นมากขนาดนั้น ชิ! ...น่ารำคาญ

“ชินจัง! นายนี่นะอึก...ยังทำนิสัยเหมือนเด็กอยู่ได้”

“พี่สาวคนสวยครับ ขอเบียร์เย็นๆ อีกแก้วให้เขาด้วยนะครับ” ชินโนซึเกะไม่ได้รำคาญหรือโกรธคำพูดของคนเมา กลับส่งเสริมให้คนตัวเล็กข้างกายดื่มน้ำเมาเพิ่มอีกต่างหาก ท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของชินจังไม่ต่างจากสมัยเด็กเลยสักนิด...

“ชินจัง...นายเชื่อไหมว่าคนอย่างฉันกำลังตกงาน” หากเป็นตอนที่เขามีสติครบถ้วนมากกว่านี้ คงไม่ยอมปริปากเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแน่ หรือต่อให้เมาแบบตอนนี้เขาก็คงไม่เล่า...แล้วมันเพราะอะไรกันล่ะเขาถึงอยากระบายความรู้สึกนี้ให้คนคนนี้ได้ฟัง ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีเพียงชินโนซึเกะเท่านั้นที่สามารถรับฟังปัญหาจากเขาได้

“มาทำงานกับฉันไหมล่ะ?” ร่างสูงถามกลับน้ำเสียทีเล่นทีจริง ดูไม่ทุกข์ร้อนกับปัญหาที่คนเมากำลังระบาย

“นี่ฉันตกงานจริงๆ นะ! อึก! ข้อหาอะไรนายรู้ไหม! ลวนลามผู้หญิง ทั้งที่ฉันเป็นฝ่ายถูกพวกเธอลวนลามด้วยซ้ำ” คาซาม่าตบโต๊ะเสียงดังไม่พอใจกับความอยุติธรรมนี้ พลางกัดกรามแน่นเตรียมรับเสียงหัวเราะที่จะเกิดขึ้นจากปากของชินโนซึเกะ เชิญ! จะหัวเราะเขาก็เชิญเลย! ทำมันซะตอนนี้นี่แหละ!

“ฉันเชื่อนาย...” แต่อีกฝ่ายกลับตอบเขาเสียงเข้ม โธ่โว้ย ตามัวจนไม่รู้ว่าอีกคนทำหน้าแบบไหนอยู่ แล้วแบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าชินจังกำลังคิดอะไร...

“เชื่อเรื่องอะไรล่ะ? เรื่องที่ฉัน...อึก...ถูกไล่ออก หรือเรื่องที่ฉันลวนลามผู้หญิง” คาซาม่าไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ มือบางรีบคว้าแก้วเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดในครั้งเดียว

“เชื่อที่นายถูกลวนลาม จนพวกเธอไล่นายออก” ชินโนซึเกะไม่หยอกล้อสาวๆ เช่นทุกที เขาเอาแต่มองร่างเล็กที่ไหล่กำลังสั่นเทาด้วยความห่วงใย และไม่คิดจะซักถามอะไรให้มากความ ทำหน้าที่เป็นขอนไม้ฟังสิ่งที่อีกคนจะเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น

“พี่สาว ผมของเบียร์อีกแก้ว” ร่างสูงยกมือเรียกพนักงานแล้วพยักหน้ารับทุกคำพูดของคาซาม่า ไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือร้าย จริงหรือหลอก ชินโนซึเกะก็เห็นด้วยไปเสียหมด เข้าข้างเพื่อนของตนทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้

“ตอนนี้ อึก...แม่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉัน...อึก...ตกงาน” ร่างบางเริ่มเซไปเซมานั่งไม่ติดเก้าอี้เช่นทุกที หรือว่าเขาจะสั่งเบียร์ให้มากเกินไปนะ?

“มาทำงานกับฉันสิ ฉันกำลังต้องการคนอยู่พอดี ถึงจะไม่ใช่พี่สาวหุ่นดี เนื้อนมไข่ก็เถอะ แต่ถ้าเป็นนายฉันก็โอเค” เขาหยักคิ้วหลิ่วตาให้อีกฝ่ายอย่างสนุกสนาน

“นายเลิกพูดเล่นแบบนั้นสักที” คราวนี้คาซาม่าเริ่มมีน้ำโหบ้างแล้ว ตอนนี้เขากำลังเครียดอยู่นะ อย่างน้อยก็ช่วยจริงจังหน่อยเถอะ! คนอย่างชินโนซึเกะจะไปช่วยอะไรเขาได้ คนที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่น ไม่ก็ตามจีบพี่สาวคนนั้นทีคนนี้ที คนที่ไร้แก่นสารไปวันๆ อย่างชินจัง จะช่วยเขาได้อย่างไร

“ฉันพูดจริง งั้นเอางี้...” ชินโนซึเกะหยิบมือถือของตนออกจากกระเป๋ากางเกง เขารีบกดถ่ายวิดีโอทันที โดยเลือกใช้โหมดกล้องหน้าสำหรับถ่ายตัวเอง

“ฉันจะให้นายทำงานเป็นผู้จัดการของฉัน นายจะทำไหม?” ว่าแล้วก็รีบกดเปลี่ยนโหมดเป็นกล้องปกติ ก่อนจะหันไปทางร่างบางเล็กน้อย

“เออ...ถ้าจริง ฉันจะทำให้ก็ได้” น้ำเสียงหย่อนยานตอบกลับมา พร้อมใบหน้าที่เริ่มเอนลงฟุบบนโต๊ะคล้ายคนหมดแรง

“ตกลงตามนี้ งั้นคืนนี้นอนบ้านฉันก็แล้วกัน โทรุจัง”

ฮอต

Comments

สกอร์เปี้ยน🧭

สกอร์เปี้ยน🧭

แต่งดีมากกก

2023-05-17

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!