เกิดใหม่ทั้งทีข้าจะแข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพ

เกิดใหม่ทั้งทีข้าจะแข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพ

บทที่ 1: ระบบวุ่นวายกับการเริ่มต้นที่วุ่นวายกว่า

 เสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านใบไม้ในป่ารกชัฏ ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่กลางพื้นดิน ใบหน้าของเขาซีดเซียวเหมือนคนเพิ่งฟื้นจากความตาย

 “อืม… ทำไมปวดหัวแบบนี้…” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะมองรอบตัวด้วยสายตาสับสน

 “นี่มันที่ไหน?” เขาพึมพำ เสียงของเขาแหบพร่า

 ทันใดนั้น เสียงกลไกประหลาดก็ดังขึ้นในหัว

 > “ติ๊ง! ยินดีต้อนรับสู่ระบบผู้แข็งแกร่งแห่งยุทธภพ!”

 “ระบบ? ผู้แข็งแกร่ง? นี่มันอะไร? ฉันกำลังฝันอยู่เหรอ?” เขาขมวดคิ้ว แต่ก่อนจะได้คิดอะไรมาก เสียงนั้นก็พูดต่อ

 > “เจ้าถูกเลือกให้เกิดใหม่ในยุทธจักร! เป้าหมายของเจ้าคือการเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพ! ข้าคือระบบที่จะช่วยให้เจ้าบรรลุเป้าหมายนี้!”

 ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ความทรงจำค่อยๆ ไหลย้อนกลับมา ชื่อของเขาในชาติก่อนคือ "ลูคัส" พนักงานบริษัทธรรมดาที่ถูกตู้เย็นตกใส่หัวจนตายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในโลกใหม่ แถมยังมีเสียงประหลาดในหัว

 “เจ้าบอกว่าจะช่วยข้า? แล้วจะช่วยยังไง?” ลูคัสถามกลับด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

 > “ข้าจะมอบภารกิจให้เจ้า หากเจ้าทำสำเร็จ เจ้าจะได้รับรางวัลที่จะช่วยให้เจ้าฝึกฝนและเอาตัวรอดในยุทธภพนี้ได้”

 > “และภารกิจแรกของเจ้าคือ…”

 ทันใดนั้น ข้อความโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

 > "ภารกิจที่ 1: ฝึกวิทยายุทธ์พื้นฐานให้สำเร็จภายใน 7 วัน! มิฉะนั้น เจ้าจะถูกลดค่าความแข็งแกร่งจนกลายเป็นคนไร้ค่า!"

 "ลดค่าความแข็งแกร่งจนกลายเป็นคนไร้ค่า?! มันจะโหดไปแล้ว!" ลูคัสโวยวาย

 > “นี่เป็นโอกาสของเจ้า! หากสำเร็จ เจ้าจะได้รับทักษะพื้นฐาน ‘ลมปราณแรกเริ่ม’ และ 10 เหรียญยุทธจักร!”

 “เอาล่ะๆ ไม่มีทางเลือกสินะ…” ลูคัสถอนหายใจ เขาลุกขึ้นยืน แม้จะยังปวดหัวและรู้สึกแปลกๆ กับร่างกายนี้

 ขณะที่เขากำลังสำรวจตัวเอง เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ลูคัสหันไปมอง พบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณห้าคนกำลังเดินมาทางเขา สีหน้าของพวกเขาดูไม่เป็นมิตร

 “เฮ้ เจ้านั่น! เจ้ากล้าบุกเข้ามาในเขตของเราได้ยังไง?” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งตะโกนพลางชักดาบออกมา

 ลูคัสใจเต้นรัว “นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีก!?”

 > “คำเตือน: ศัตรูกำลังเข้าใกล้ ระบบแนะนำให้เจ้าหนี หรือหากต่อสู้ ควรใช้ก้อนหินที่พื้นเป็นอาวุธ!”

 “ก้อนหิน?! เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรได้ด้วยก้อนหิน?” ลูคัสสบถ

 แต่ไม่มีเวลาให้คิดนาน ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับฟาดดาบใส่ ลูคัสเบี่ยงตัวหลบอย่างหวุดหวิดและหยิบก้อนหินขึ้นมาตามคำแนะนำ

 “เจ้านี่ช่างบ้าบิ่นนัก!” ลูคัสสบถก่อนจะปาใส่หน้าศัตรูอย่างสุดแรง

 ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้ เสียงแหลมคมของกระบี่ดังขึ้นกลางอากาศ

 ฉัวะ!

 ชายฉกรรจ์คนแรกถูกฟันจนล้มลง หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีฟ้าปรากฏตัวขึ้น เธอถือกระบี่ในมือและมีแววตาเย็นชา

 “เจ้าอ่อนแอเกินไป ข้าเห็นเจ้าแล้วอดสงสารไม่ได้” เธอพูดเสียงเรียบ

 ลูคัสมองเธอด้วยความประหลาดใจ “ใครกัน… เจ้าเป็นใคร?”

 “ข้าคือ ลี่ชูเหยียน จอมยุทธ์จากพรรคฟ้าคราม เจ้าคงต้องขอบคุณข้าที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้”

 > “ติ๊ง! การพบเจอลี่ชูเหยียนเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งยุทธจักรของเจ้า! ภารกิจลับ: พิชิตใจลี่ชูเหยียน!”

 ลูคัสได้ยินคำสุดท้ายของระบบก็แทบจะร้องไห้ “เจ้าบอกให้ข้าพิชิตใจหญิงสาวเย็นชาแบบนี้? เจ้าบ้าไปแล้ว!”

 หลังจากสถานการณ์ชุลมุนจบลง ลี่ชูเหยียนถอนกระบี่กลับเข้าฝักอย่างสง่างาม เธอหันมามองซ่งหลิน (หรือในอดีตคือลูคัส) ด้วยสายตาที่เหมือนกำลังประเมินเขา

 “เจ้าคนซื่อบื้อเช่นเจ้า คิดอย่างไรถึงกล้ามาเดินเตร็ดเตร่ในเขตนี้คนเดียว?” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา

 ซ่งหลินอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบด้วยรอยยิ้มเจื่อน “ข้า… เอ่อ… ข้าแค่หลงทางน่ะ...”

 “หลงทาง? ที่นี่คือป่าทมิฬ เขตอันตรายที่เต็มไปด้วยโจรร้ายและสัตว์อสูร เจ้าไม่รู้เลยหรือ?”

 “เอ่อ... รู้...” ซ่งหลินพูดเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

 > "ติ๊ง! ภารกิจใหม่: ตอบคำถามลี่ชูเหยียนโดยไม่ถูกด่าว่าโง่เขลา! หากล้มเหลว เจ้าจะเสียค่าความน่าเชื่อถือ!"

 “อะไรอีกเนี่ย!?” ซ่งหลินคิดในใจอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะรีบหาคำตอบที่ดูไม่ไร้สาระ

 “ข้า… ข้ามาเพราะได้ยินว่ามีสมบัติอยู่ในป่านี้ ข้าคิดจะลองเสี่ยงดู...”

 ลี่ชูเหยียนเลิกคิ้วมองเขา “สมบัติ? เจ้าคิดว่าคนไร้พลังเช่นเจ้าจะหามันเจอหรือ?”

 ซ่งหลินได้แต่ยิ้มแห้งๆ ระบบก็ดังขึ้นในหัวอีกครั้ง

 > "ติ๊ง! เจ้าได้รับคำด่าว่า ‘คนไร้พลัง’ ความน่าเชื่อถือ -10!"

 “เดี๋ยวก่อน! นี่ระบบหรือศัตรูในคราบเพื่อน?” ซ่งหลินบ่นในใจ

 ลี่ชูเหยียนถอนหายใจ “ช่างเถอะ ข้าคงปล่อยเจ้าไว้ที่นี่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงตายเพราะความโง่เง่า…”

 เธอเดินนำหน้าไป โดยไม่ได้ถามซ่งหลินว่าจะตามมาหรือไม่

 “นี่! เดี๋ยวก่อนสิ! ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะไปกับเจ้าเลย!” ซ่งหลินร้องเรียก แต่ขากลับก้าวตามเธอไปโดยไม่รู้ตัว

 > "ติ๊ง! เจ้าตัดสินใจเดินทางร่วมกับลี่ชูเหยียน! ความสัมพันธ์: เป็นเพื่อนร่วมทางชั่วคราว!"

 ระหว่างการเดินทาง ซ่งหลินได้แต่จ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เธอมีรูปลักษณ์งดงามที่ยากจะละสายตา แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสเข้าใกล้เธอได้ง่ายๆ

 “เจ้าจ้องอะไร?” ลี่ชูเหยียนถามโดยไม่หันกลับมา น้ำเสียงของเธอเย็นเฉียบ

 “เอ่อ… ไม่มีอะไร! ข้าแค่สงสัย… เจ้าเก่งขนาดนี้ ทำไมถึงมาช่วยคนอย่างข้าล่ะ?” ซ่งหลินรีบเบี่ยงเบนความสนใจ

 “ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเพราะเห็นว่าเจ้ามีค่าหรอก” ลี่ชูเหยียนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ข้าแค่ไม่อยากให้โจรชั่วพวกนั้นได้ประโยชน์จากการปล้นคนอ่อนแอเช่นเจ้า”

 คำพูดนั้นทำให้ซ่งหลินสะอึกไปครู่หนึ่ง “นี่มันคำชม หรือดูถูกกันแน่?”

 > "ติ๊ง! เจ้าถูกลี่ชูเหยียนดูถูก ความน่าเชื่อถือ -5!"

 “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าเจ้าต้องการมีชีวิตรอดในยุทธภพ เจ้าต้องเลิกทำตัวเป็นภาระ และเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 ซ่งหลินพยักหน้าอย่างขมขื่น “เข้าใจแล้ว ข้าจะพยายาม…”

 ในค่ำคืนแรกของการเดินทาง ลี่ชูเหยียนสั่งให้ซ่งหลินเริ่มฝึกพื้นฐานของวิทยายุทธ์

 “นั่งสมาธิ และโคจรลมปราณในร่างเจ้า ข้าจะดูว่าเจ้ามีพรสวรรค์หรือไม่” เธอสั่งอย่างเคร่งครัด

 “ลมปราณ? โคจร? ข้าไม่รู้ว่าต้องทำยังไง…”

 “เจ้าก็แค่ทำตามที่ข้าบอก หายใจเข้าออกช้าๆ และพยายามสัมผัสพลังในร่างกายเจ้า”

 ซ่งหลินทำตามคำสั่ง เขานั่งไขว่ห้าง หลับตา และเริ่มหายใจเข้าออกช้าๆ

 > "ติ๊ง! เจ้าเริ่มต้นฝึกฝนลมปราณ! ภารกิจ: โคจรลมปราณรอบแรกสำเร็จ!"

 อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาพยายามโคจรลมปราณ มันกลับรู้สึกเหมือนบางอย่างในร่างกายขัดขวาง

 “ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย… หรือข้าจะไร้พรสวรรค์จริงๆ?” ซ่งหลินพูดขึ้นอย่างหมดหวัง

 ลี่ชูเหยียนถอนหายใจ “เจ้ามันโง่เง่าเกินไป… ข้าจะช่วยเจ้าอีกครั้ง” เธอนั่งลงข้างๆ และวางมือบนหลังเขา

 พลังลมปราณจากลี่ชูเหยียนถูกส่งผ่านเข้ามาในร่างของซ่งหลิน ทำให้เขารู้สึกถึงกระแสพลังบางอย่างเป็นครั้งแรก

 “นี่มัน… ข้ารู้สึกได้แล้ว!” ซ่งหลินร้องอย่างดีใจ

 “อย่าดีใจเร็วเกินไป เจ้าแค่สัมผัสมันได้ ยังไม่สามารถควบคุมมันได้”

 ซ่งหลินตั้งสมาธิต่อ เขาค่อยๆ โคจรพลังในร่างกายอย่างช้าๆ จนในที่สุด เสียงของระบบก็ดังขึ้น

 > "ติ๊ง! เจ้าสำเร็จการโคจรลมปราณครั้งแรก! ได้รับค่าประสบการณ์ 50 หน่วย และวิชาลมปราณระดับพื้นฐาน!"

 “สำเร็จแล้ว!” ซ่งหลินยิ้มกว้าง

 ลี่ชูเหยียนมองเขาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ “เจ้านี่ก็ไม่ไร้ค่าทั้งหมด… แต่ยังต้องฝึกอีกมาก”

 คืนแรกในยุทธภพ

 หลังจากฝึกฝนลมปราณจนสำเร็จขั้นพื้นฐาน ซ่งหลินรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เขาเอนตัวพิงต้นไม้ หายใจแรงพลางเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก

 “แค่พื้นฐานก็ดูดพลังชีวิตไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาพึมพำ

 > “ติ๊ง! เจ้าสำเร็จภารกิจแรก: โคจรลมปราณรอบแรก! ได้รับรางวัล: 10 เหรียญยุทธจักร และ ‘ตำราฝึกฝนขั้นต้น’”

 เสียงระบบดังขึ้น ซ่งหลินกะพริบตาเมื่อเห็นหนังสือเล่มเล็กปรากฏขึ้นในมือ เขารีบเปิดอ่านและพบว่ามันเต็มไปด้วยเทคนิคพื้นฐานที่สามารถช่วยให้การฝึกฝนของเขาก้าวหน้าเร็วขึ้น

 “โอ้! นี่มันสุดยอดเลย!”

 ลี่ชูเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ มองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าดีใจเกินไปแล้ว มันก็แค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น”

 ซ่งหลินหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเก็บตำราเข้าชุดเสื้อของเขา “ข้ารู้ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกฝนอะไรมาก่อน นี่มันความก้าวหน้าครั้งใหญ่เลยนะ”

 ลี่ชูเหยียนไม่ตอบอะไร เธอเพียงหลับตาและนั่งสมาธิ ฝึกโคจรลมปราณของตัวเองต่อ

 ซ่งหลินหันมองรอบๆ ป่าแห่งนี้มืดสนิท มีเสียงแมลงร้องและเสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ ทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว

 > "ติ๊ง! ภารกิจใหม่: เอาตัวรอดจากค่ำคืนแรกโดยไม่ถูกสัตว์อสูรโจมตี!"

 ซ่งหลินสะดุ้ง “เดี๋ยว! สัตว์อสูร?”

 ในขณะที่ซ่งหลินกำลังสงสัย เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากพุ่มไม้ด้านหลัง

 กรร…!

 เสียงคำรามต่ำดังขึ้น พร้อมกับเงาสีดำที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

 ซ่งหลินรีบหันไปมองและพบว่ามี หมาป่าเงาทมิฬ ตัวหนึ่งกำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ฟันของมันแหลมคมและมีไอเย็นกระจายออกมาเบาๆ

 “ระบบ! เจ้าช่วยข้าหน่อยได้ไหม!?” ซ่งหลินตะโกนในใจ

 > “คำแนะนำ: เจ้าสามารถใช้ก้อนหินเพื่อขัดขวาง หรือไม่ก็วิ่งหนีให้เร็วที่สุด!”

 “อีกแล้วเรอะ!? ทำไมข้ามีแต่ทางเลือกแย่ๆ แบบนี้!”

 หมาป่ากระโจนเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว ซ่งหลินแทบไม่มีเวลาคิด เขาคว้าก้อนหินจากพื้นแล้วปาใส่หน้ามันเต็มแรง

 ปั้ก!

 หมาป่าชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะคำรามอย่างเกรี้ยวกราดยิ่งขึ้น

 “โอ้โห! มันแค่โกรธขึ้นไปอีก!” ซ่งหลินร้องลั่น

 ทันใดนั้น ลี่ชูเหยียนที่กำลังนั่งสมาธิก็ลืมตาขึ้น เธอขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน “เจ้ามันช่างหาสารพัดเรื่องมาให้จริงๆ”

 เธอชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็ว และในพริบตาเดียว กระบี่ของเธอก็วาดเส้นแสงสีฟ้าสะท้อนแสงจันทร์ออกมา

 ฉัวะ!

 ก่อนที่ซ่งหลินจะกะพริบตาทัน หมาป่าเงาทมิฬก็ถูกฟันขาดเป็นสองท่อน เลือดสาดกระเซ็นลงพื้น

 > "ติ๊ง! เจ้าได้เห็น ‘กระบี่สายลมจันทรา’ ของลี่ชูเหยียน ค่าความเคารพ +10"

 ซ่งหลินอ้าปากค้าง “...ข้าควรฝึกให้หนักขึ้น”

 เช้าวันใหม่

 หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ซ่งหลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับความปวดเมื่อยไปทั้งตัว

 ลี่ชูเหยียนกำลังยืนอยู่ใกล้กองไฟ มองเขาด้วยสายตาเฉยเมย “เจ้าตื่นแล้วสินะ”

 ซ่งหลินยืดตัวก่อนจะพยักหน้า “ใช่… ข้าควรฝึกฝนให้มากขึ้น ไม่งั้นข้าคงรอดไม่ได้แน่ๆ”

 ลี่ชูเหยียนพยักหน้าช้าๆ “อย่างน้อยเจ้าก็เข้าใจเรื่องนี้”

 > "ติ๊ง! ภารกิจเสร็จสิ้น: เอาตัวรอดจากค่ำคืนแรก! ได้รับรางวัล: 20 เหรียญยุทธจักร และ ‘เทคนิควิ่งหลบระดับพื้นฐาน’”

 ซ่งหลินยิ้ม “ดีเลย! อย่างน้อยข้าก็ไม่ต้องวิ่งหนีแบบสะเปะสะปะอีกแล้ว!”

 “เราออกเดินทางกันเถอะ” ลี่ชูเหยียนพูดพร้อมกับเดินนำไปก่อน

 ซ่งหลินมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ แม้ว่าเขาจะยังอ่อนแอ แต่เขาก็มั่นใจว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น

 “ยุทธภพ... จงเตรียมตัวไว้เถอะ! ข้าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดให้ได้!”

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!