Episode 5 ตราพยักทมิฬ

หลังจากแยกทางกับเป้าซ่านสานเหรินที่ป่าไฝ่ เว่ยอู๋เซียนมิได้กลับไปที่บ้านสกุลฟ่าง แต่กลับส่งสัญญานลับเพื่อนัดเจอกับผู้เยาว์ของสกุลหลานที่ออกเดินทางมาพร้อมกัน วันรุ่งขึ้นทั้งหมดล้วนมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านซีเช่า

“อาจารย์อาเว่ย พวกเรารออยู่หน้าถ้ำนี้มาเกือบหนึ่งชั่วยามแล้วนะ ยังต้องรอถึงเมื่อไร” เสียงดังเบาๆ ของ หลานจิ้งเตียนดังมาจากด้านข้างด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายปนกังวล

“เจ้าจะบุกเข้าไป ข้างในเป็นอย่างไร เจ้ารู้หรือไม่ มีกับดักหรือไม่ มีศัตรูกี่คน” เว่ยอู๋เซี่ยนถาม

 

 

“ข้าไม่ทราบ” หลานจิ้งเตียน อึกอัก หันไปทาง หลานพิงเหอ เหมือนขอความช่วยเหลือ

“พวกเราตามนักพรตพวกนี้มาจากสุสานอี้เหมิน ตั้งแต่เมื่อก่อนรุ่งสาง ตลอดทางพวกมันไม่เพียงไม่หยุดพัก ไม่ซ่อนศพที่ขุดมาเพียงเร่งเดินทางมาที่ถ้ำนี้ จากนั้นหายเข้าไปข้างใน ได้หนึ่งช่วยยามแล้ว หากเราบุ่มบ่ามบุกเข้าไป ไม่แน่ว่าต้องปะทะกับศัตรูที่อาจมีจำนวนมากกว่า ศพพวกนั้นไม่แน่ว่าอาจถูกทำลาย สุดท้ายแล้วหากคาดเดาผลสุดท้ายไม่ได้ ไม่สมควรลงมือ ใช่หรือไม่อาจารย์อาเว่ย” หลานพิงเหอกล่าว

“ถูกต้อง หากไม่อาจคาดเดาภาพรวมได้ไม่ควรเคลื่อนไหวก่อน” เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าวพลางพยักหน้าไปทางหลานพิงเหอ

“พวกเจ้าดูมีคนออกมาแล้ว”

ที่หน้าถ้ำมี คนแต่งกายแบบนักพรตวิ่งออกมา สองสามคน ดูไปยังอายุไม่มากนัก แต่ท่าทางดูผิดปกติอย่างยิ่ง คล้ายวิ่งหนีสัตว์ดุร้ายใดมา คนด้านหลังสุดมีร่องรอยถูกทำร้าย มือถือกระบี่ปัดป่ายไปทางด้านหลัง ชั่วอึดใจ สิ่งที่ไล่ตามมา ดูจากการแต่งกายกลับคลับคล้ายศพที่ถูกหอบหิ้วมาก่อนหน้านี้ ท่าเดินของศพดูไม่ช้าไม่เร็ว แต่ไล่ตามกลุ่มนักพรตที่ออกมาเกือบจะทันแล้ว

เว่ยอู๋เซี่ยนหันไปทาง หลานพิงเหอ กล่าวอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าดักสกัดพวกนักพรตนั้นไว้ ข้าจะต้านทานศพเดินได้เอง” กล่าวพลางลอยตัวไปดักอยู่หน้าศพที่พุงออกมา ดูคล้ายหุ่นเชิด แต่แรงอาฆาตไม่รุนแรงเท่า เว่ยอู๋เซี่ยนคิด ในมือส่งยันต์ปลิวไปทางซากศพเดินได้ สองนิ้วเขียนอักขระกลางอากาศ แผ่พุ่งฝ่ามือไปด้านหน้า ซากศพคล้ายเท้าถูกตรึงไว้กับพื้นไม่อาจเดินไปด้านหน้าได้อีก สองมือคล้ายถูกเชือกที่มองไม่เห็นมัดไว้ อย่างรวดเร็ว เว่ยอู๋เซี่ยน พุ่งไปใกล้ ศพเดินได้ สองมือพลิกดูดวงตาของศพ ลำคอ

“ไม่มีร่องรอยของตราพยัคฆ์ทมิฬ” เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าวเบาๆ จากนั้นใช้สองนิ้ว เขียนอักขระสะกดที่หน้าผากของศพเดินได้ ไม่ถึงอึดใจ ศพเดินได้ก็ล้มลงมีสภาพไม่ต่างจากศพทั่วไป ทางฝาก หลานพิงเหอดูเหมือนไม่มีปัญหาใด นักพรตทั้งสามคนถูกมัดไว้ด้วยเชือกมัดเซียน เว่ยอู๋เซี่ยน เดินเข้าไปใกล้ปากทางเข้าถ้าสำรวจดูไม่เห็นมีสิ่งใดเคลื่อนไหวจึงเดินไปทางนักพรตที่ถูกจับตัวไว้

“พวกเจ้ามีกี่คน ด้านในเกิดอะไรขึ้น ด้านในยังมีคนอยู่หรือไม่ ยังมีศพเดินได้อีกหรือไม่” เว่ยอู๋เซี่ยนระดมคำถามใส่ นักพรตที่ถูกมัดไว้ นักพรตชุดเหลืองไว้เคราห้าแฉก ดูไปอายุราวสี่สิบเศษ

“พวกเราเป็นศิษย์สำนักเซียนสกุลฟ่าง ด้านใน ด้านในยังมี ศิษย์พี่กับพวกที่มาด้วยอีกราวห้าคน หุ่นเชิดพวกนั้นอยู่ ๆ ก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ พวกเราใช้ตราพยัคฆ์ทมิฬแล้วแท้ๆ”

“ตราพยัคฆ์ทมิฬ พวกเจ้าบอกว่า ตราพยัคฆ์ทมิฬ” เว่ยอู๋เซี่ยน ย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฟังผิด ตอนนั้นข้าผนึกตราพยัคฆ์ทมิฬ กับศพของเนี่ยหมิงเจวี๋ย ไว้ที่วัดกวนอิม ซ้ำยังมีศิษย์จากสี่สำนักใหญ่พลัดเปลี่ยนเฝ้าระวัง หลายสิบปีมานี้นอกจากพวกที่หวังรวยทางลัด ไม่เคยเกิดเหตการณ์ร้ายใดมาก่อน หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ที่ เว่ยอู๋เซี่ยนจะไม่รู้

 

 

“พิงเหอ เจ้ามากับข้า จิ้งเตียนเจ้ากับคนที่เหลือเฝ้าระวังไว้ด้านนอก หากเกินครึ่งชั่วยามพวกเรายังไม่ออกมา ให้ส่งสัญญาณขอกำลังเสริมทันทีห้ามเข้าไปด้านในถ้ำเด็ดขาดจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง” เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าวพร้อมคิดเตรียมรับมือหากเกิดเป็น ตราพยัคฆ์ทมิฬจริง

ในถ้ำมีเพียงแสงจากคบไฟ มีขนาดไม่ใหญ่นัก เดินเพียง 1 เค่อ (ราวสิบห้านาที) ก็ถึงบริเวณโถงใหญ่ บนพื้นถ้ำมีนักพรตในชุดเหลือง นอนหายใจรวยรินอยู่สี่ห้าคน ดูท่าไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตรงกึ่งกลางมีวงเวทย์ขนาดสองช่วงแขนวาดด้วยเลือด มีสิ่งของดูไปคล้ายทำจากโลหะสีดำวางอยู่กึ่งกลาง ไอสีดำจางๆ เกาะกุมอยู่ ด้านข้างยังมีซากศพอีกสาม คล้ายนั่ง คล้ายนอนพิงพนังถ้ำอยู่ เว่ยอู๋เซี่ยนเพียงสำรวจ วงเวทย์ด้วยสายตา เป็นวงเวทย์เรียกวิญญาณหยิน ไม่นับเป็นคาถาระดับสูง เพียงใช้การได้หากเพียงแค่เรียกวิญญาณเพื่อเข้าร่างศพทั่วไป แต่ยังห่างไกลกับหุ่นเชิดมากนัก คิดพลางเดินเข้าใกล้โลหะสีดำที่อยู่กึ่งกลางวง หลานพิงเหอตรวจดู นักพรตที่นอนอยู่สายตาระแวดระวังมือจับที่ดามกระบี่

นี่ดูไม่คล้ายตราพยัคฆ์ทมิฬ เว่ยอู๋เซี่ยนคิด จากนั้นยื่นมือจับโลหะสีดำ พลันร่างกายคล้ายถูกดึงดูด ไอสีดำที่ตอนเข้ามามีให้เห็นเพียงจางๆ กลับขยายออก ทั้งยังเห็นได้ชัดขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้มิเพียงขยายขนาดขึ้นกลับห่อหุ้มตัวของเว่ยอู๋เซี่ยนไว้จนมองไม่เห็นแล้ว หลานพิงเหอชักกระบี่ พุ่งตัวไปทางเว่ยอู๋เซี่ยน แต่กลับไม่อาจฝ่ากลุ่มหมอกสีดำเข้าไปได้

เว่ยอู๋เซี่ยนล้วงยันต์จากอกเสื้อกัดนิ้วเล็กน้อยใช้เลือดเขียนอักขระบนยันต์อย่างรวดเร็ว ยันต์ระเบิดออกกลุ่มหมอกสีดำ หายไปวูบหนึ่งจากนั้นกลับคืนสภาพ หมอกสีดำยังคงห่อหุ้มเว่ยอู๋เซี่ยน อยู่อย่างเดิม เว่ยอู๋เซี่ยนพลางหยิบขลุ่ยเฉิงฉิงออกมา เสียงขลุ่ยเมื่อดังขึ้นหมอกสีดำเริ่มรวมตัว คล้ายหดกลับเข้าไปในตราโลหะ เว่ยอู๋เซี่ยนเพิ่มจังหวะเร็วขึ้น เสียงระเบิดดังขึ้นคราหนึ่ง

ตราโลหะแตกระเบิดออก กลุ่มหมอกขยายตัวจากนั้นจากหายไป หลานพิงเหอเห็นเว่ยอู๋เซี่ยน ล้มฟุบอยู่กลางวงเวทย์ เรียกวิญญาณ ทันใดนั้นกลับมีแสงสีเขียวสว่างจ้าขึ้นกลางถ้ำ เปลวไฟสีเขียวลุกโชนกลับไม่รู้สึกร้อน

หลานพิงเหอเห็นคนผู้หนึ่งก้าวออกมาจากเปลวไฟ เร่งรุดไปยังที่ ที่เว่ยอู๋เซี่ยน ล้มฟุบอยู่

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!