พลอยร้อยเหลี่ยมเล่ห์
บทที่ 1
Line!! ~
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้พลอยมายาต้องหยุดชะงัก
แล้วล้วงเอามือถือของเธอออกมาจากกระเป๋าเพื่อกดดูว่าข้อความนั้นถูกส่งมาจากใคร
-หลิว-
‘ใส่ชุดนักศึกษาไปนะ เดี๋ยวส่งพิกัดให้ เจอกันที่นั่น
เดี๋ยวกูพาไปส่ง’
เป็นข้อความจากหลิว เพื่อนในคณะซึ่งค่อนข้างสนิท
เธอคือคนที่ชักจูงให้พลอยมายาได้รู้จักกับช่องทางการหาเงินง่าย ๆ
ในอาชีพที่เรียกว่า เด็กเสี่ย และวันนี้เธอก็ไม่ได้มาเรียน อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่วันนี้หรอกที่หลิวนั้นขาดเรียน
ช่วงนี้เธอขาดเรียนบ่อยเพราะเพิ่งได้งานใหม่ งานสบายได้เงินง่าย
และก็เป็นงานในสายงานเดียวกันกับที่เธอนั้นแนะนำให้กับพลอยมายา
หลิวเคยเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน แต่เพราะดันไปมีความรักเข้า
ทำให้เธอต้องยุติการทำงานบนเส้นทางนี้ลง
และผันตัวมาเป็นคนจัดหาเด็กสาวนักศึกษาให้กับอดีตเสี่ยที่เคยเลี้ยงเธอแทน
หลิวจัดการส่งโลเคชั่นสถานที่นัดพบให้กับว่าที่เด็กใหม่
พอได้ที่ตั้งแล้วพลอยมายาก็ต้องโทรไปบอกป้าว่ามีเรียนภาคค่ำ
เธอไม่ได้โกหกความจริงแล้วเธอมีเรียนภาคค่ำจริงๆ แต่เธอตัดสินใจไม่เข้าเรียน
หญิงสาวนั่งแท็กซี่ตรงไปยังจุดหมาย เพียงไม่นานก็มาถึง
ที่นี่เป็นคอนโดหรูมีชื่อเสียงถ้าเงินไม่ถึงจริง ไม่มีทางได้อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
“ฮัลโหล กูรออยู่หน้าตึกแล้ว มึงอยู่ไหน”
พลอยมายากดโทรศัพท์เครื่องเก่าของเธอ ที่ได้รับมาจากหลิวต่อโทรบอกกับคนนัด
ปลายสายบอกว่าให้เดินเข้าไปตรงส่วนรับรองแขกได้เลย เธอจะรออยู่ที่นั่น
คนเพิ่งเริ่มงานวันแรกรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น เธออ่านนิยายมาก็มาก
อาชีพนี้มันก็ไม่ได้แย่นักหรอก แต่ถึงมันแย่
แล้วคนอย่างเธอนั้นมีสิทธิเลือกด้วยหรือ
“หลิว...” เมื่อเดินมาถึงนิ้วเรียวของพลอยมายา
ก็สะกิดเรียกให้คนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ให้รู้ตัว
“อ้าว มาเร็วนี่”
เธอเงยหน้าขึ้นมามองคนทักทายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ แล้วหยัดตัวลุกยืนขึ้น
“รถไม่ติดเท่าไหร่น่ะ ก็เลยมาเร็วหน่อย”
“เฮ้ย!! แล้วนี่ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ”
หลิวกวาดตามองเด็กใหม่ของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า คนถูกถามทำหน้าซื่อไม่เข้าใจ
เธอก้มมองสำรวจตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ากลับมามองหน้าคนถาม
‘ก็บอกเองนี่ว่าให้ใส่ชุดนักศึกษาแล้วฉันผิดตรงไหน’ เธอพลางคิดในใจ
“ก็มึงบอกเองนี่ ให้ใส่ชุดนักศึกษามา”
เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดไม่จาอะไร พลอยมายาจึงได้กล่าวความคิดของตัวเองออกไป
“กูรู้ แต่กูหมายถึง ทำไมมันมิดชิดเรียบร้อยขนาดนี้ล่ะ
ดูไม่ยั่วเลย”
เพราะวันนี้เป็นการนัดดูตัวกันระหว่างเสี่ยที่เตรียมเงินจะรับดูแลสาวนักศึกษา
ไม่ใช่วันมอบตัวนักศึกษาใหม่ ถึงจะบอกว่าให้ใส่ชุดนักศึกษามา
แต่ก็ควรจะแสดงตัวให้มันดึงดูดคนซื้อหน่อย
“ปกติกูก็แต่งแบบนี้ปะวะ มันทำไมเหรอ?”
“เออๆ กูเข้าใจ ช่างเหอะ
เดี๋ยวกูพาไปส่งที่ห้องคุณอาชาก็แล้วกัน”
เพราะทำอะไรไม่ได้แล้วหลิวจึงต้องจำใจปล่อยเลยตามเลย
อย่างน้อยพลอยมายาก็ยังบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือผู้ชายมาก่อน อีกอย่างหน้าตาก็สะสวย
รูปร่างก็ดี ไม่แน่อาจจะไปเข้าตาลูกค้าใหญ่ของเธอก็ได้
“รุ่นอาเลยเหรอวะ” พอได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น
พลอยมายาก็โวยลั่นทันที ลูกค้าที่เธอจินตนาการเอาไว้
ก็น่าจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หล่อ รวย แบบในนิยายที่เธออ่าน แต่หากจะแก่จนถึงคราวอาก็ไม่รู้ว่าจะยอมทำดีไหม
“ชื่อเขา!! เขาชื่ออาชา คนนี้เงินหนา ถ้ามึงเอาใจเก่งๆ
อ้อนได้แต่อย่างี่เง่า เขาพูดอะไรต้องฟัง ห้ามคือห้าม ถ้ามึงได้คนนี้นะ
สบายเลยกูคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องอายุน่ะ แก่กว่าอาแน่ ๆ แต่มึงไปเจอเขาดูก่อนเถอะ
รับรองเลยว่ามึงจะลืมสนใจเลยเรื่องอายุเขาน่ะ”
ระหว่างขึ้นลิฟต์หลิวก็อธิบายรายละเอียดอื่นๆ ให้พลอยมายาฟัง
ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก
คนไม่เคยมาอย่างพลอยมายาเหมือนออกมาอยู่อีกโลก
การตกแต่งแสนหรูหราบ่งบอกว่าราคามันแพงขนาดไหน เธอก้าวเดินไปด้วยความตื่นเต้น
ทั้งเรื่องงาน แล้วก็ตื่นเต้นกับความหรูหราของชั้นนี้ด้วย
“กูส่งมึงได้แค่นี้นะ เขาอยากคุยกับมึงส่วนตัว”
เมื่อถึงหน้าประตูห้องหลิวก็หยุดเดินแล้วหันไปบอกกับเพื่อนของเธอที่พามาส่ง
“เดี๋ยวสิ!! เข้าไปเป็นเพื่อนหน่อย”
แต่อีกฝ่ายรีบรั้งแขนของหลิวเอาไว้ เธอไม่กล้าที่จะเข้าไปเพียงลำพัง
อย่างน้อยหากมีหลิวเข้าไปด้วยก็ยังมีเพื่อนไว้ให้อุ่นใจ
“ไม่ได้ เขาสั่งให้มาส่งมึงแค่หน้าห้อง
แล้วตอนกลับเขาจะจัดการให้คนไปส่งมึงเอง” หลิวปฏิเสธหนักแน่น
เพราะรู้จักกับอาชาคนนี้ดี หากเขาพูดว่ามันเป็นคำสั่ง สิ่งที่ต้องทำคือทำตามอย่างเคร่งครัด
“กูไม่เคย...ทำ...”
เธอไม่กล้าพูดมันออกมาอย่างเต็มเสียง ถึงจะมายืนตรงนี้แล้ว
เพียงอีกแค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องเริ่มทำงานแบบนั้นแล้ว
แต่มันก็กระดากปากเกินกว่าที่เธอจะพูดออกไป
“กูรู้ ตอนที่เขาติดต่อมาเขาก็ขอคนไม่เคยนี่แหละ
มึงสนใจงานพอดีก็เลยจัดมึงมาให้เขา วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรอก
แค่มาคุยตกลงกันเฉยๆ”
“กูตื่นเต้น แล้วก็กลัวด้วย”
“เขาถามอะไรมาก็ตอบไปตามตรง
แต่อะไรที่มันพอจะ...ตอแหลให้ตัวเองดูมีราคาได้ ก็ตอแหลบ้างก็ได้
ไม่ต้องพูดตามตรงไปหมดทุกอย่างหรอก แต่อย่างมึงซิงๆ แบบนี้ก็น่าจะได้ราคาดีอยู่หรอก
กูไปแล้วนะ โชคดี...”
“ดะ เดี๋ยวสิ...อีหลิว!! อีหลิว...”
หลิวรีบเดินจากไปอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของพลอยมายาเลยสักนิด
ทิ้งเธอให้ยืนงงอยู่หน้าประตูบานใหญ่คนเดียว ‘เอาวะอีพลอย มาถึงนี่แล้ว
จะกลัวอะไรอีก’ ตากลมใสยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าก่อนจะสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจอีกครั้ง
เอาวะ!! จะมากลัวตอนนี้ไม่ได้
มึงอยากเป็นเด็กล้างผักหลังร้านขนมจีนไปตลอดชีวิตหรือไงอีพลอย...
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
พลอยมายาตัดสินใจเคาะประตู แต่ทุกอย่างยังคงเงียบ
คนข้างในดูไม่มีทีท่าจะเปิดประตูรับ แต่พอเธอยกมือจะเคาะอีกที ตาก็เพิ่งจะเหลือบไปเห็นว่ามีกริ่งให้กด
“เวร” !!
เธออุทานขึ้นก่อนจะคิดว่าไม่รู้เขาได้ยินหรือเปล่า ถ้าเขารู้ละก็น่าอายตายเลย
บ้านนอก บ้านนา คนตัวเล็กหน้าประตูตั้งสติอีกรอบก่อนจะเอื้อมมือไปกดกริ่งแล้วยืนรอ
เพียงครู่เดียวเดียวประตูก็เปิดออก หลังจากที่ประตูบานใหญ่ค่อยๆ เปิด มันเผยให้เห็นเจ้าของห้องที่ดูก็รู้ว่าเขาน่ะรุ่นพ่อ
แต่ยังหล่อและดูดีอย่างไร้ที่จะติติง หุ่นล่ำกล้ามเป็นมัดๆ
เหงื่อที่อาบท่วมร่างกายส่งให้มัดกล้ามมันวาวน่าสัมผัส
ลมในห้องพัดออกมาทางช่องประตูพัดเอากลิ่นเหงื่อโชยมาปะทะหน้ายิ่งทำให้เด็กสาวจินตนาการไปต่างๆ
นานา
“อืม...เข้ามาสิ”
พลอยมายาหลุดจากจินตนาการเมื่อได้ยินคำเชิญจากเจ้าของห้อง
เธอพยักหน้ารับแล้วก้าวเข้าไปในห้องทันที
ภายในห้องเต็มไปด้วยของตกแต่งสไตล์คลาสสิก คุมโทนสีขาว ทอง และดำอย่างลงตัว
“ชื่ออะไรนะ ฉันจำไม่ได้แล้ว”
เจ้าของห้องเดินไปที่โซฟากลางห้องก่อนจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัวฝืนสีขาวที่พาดอยู่มาเช็ดตัว
ถ้าให้เดาเขาคงเพิ่งจะออกกำลังกายเสร็จแน่นอน ดูจากอาการหอบเล็กๆ
กับเหงื่อที่โชกตัวอยู่
“พลอยค่ะ หนูชื่อพลอยมายา” คนถูกถามตอบเพียงสั้นๆ
แต่หนักแน่นด้วยความมั่นใจ หลิวบอกกับเธอว่าคุณอาชาคนนี้ ไม่ชอบผู้หญิงขี้อาย
พูดจาอู้อี้ไม่ได้ความ การเหนียมอายปั่นราคาไม่ได้ ความฉลาดเท่านั้นที่จะชนะใจคนๆ
นี้
“มานั่งก่อนสิ ขอโทษด้วยกลิ่นตัวมันอาจจะแรงไปหน่อย
พอดีเพิ่งออกกำลังกายเสร็จก่อนจะมานี่เอง แล้ว...หลิวบอกอะไรบ้างแล้ว”
อาชาชื่นชอบการนำตัวของเด็กคนนี้ และพอใจกับการบรีฟของหลิวประมาณหนึ่ง
หลิวนั้นรู้จักกับเขาเป็นอย่างดี เพราะเคยถูกเขาเลี้ยงมาแล้ว
แต่เพราะเขาเบื่อง่ายหน่ายเร็ว เลี้ยงอยู่ได้ไม่นานก็เลิกแล้วต่อกัน
ทำให้เธอผันตัวจากผู้ขาย มาเป็นนายหน้าจัดหาผู้หญิงไปส่งแขกเก่าของตัวเอง
หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็เปลี่ยนจากกะหรี่ไปเป็น ‘แม่เล้า’ นั่นแหละ
“ยังไม่ได้บอกอะไรมากค่ะ แค่บอกว่าต้องทำงานแบบไหน
ส่วนเรื่องอื่นๆ หลิวบอกว่าคุณจะตกลงกับหนูเอง”
พลอยมายายังคงพูดจาฉะฉานแววตาไร้เดียงสาแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“อืม....เต็มใจทำใช่ไหม ไม่ได้ถูกหลอกมา
หรือว่าโดนใครบังคับมาใช่ไหม” อาชาเอ่ยถามก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เธอ
แต่ยังเว้นระยะห่างพอสมควร ยิ่งเขาเข้ามาใกล้พลอยมายายิ่งร้อนรุ่มบอกไม่ถูก
มัดกล้ามแน่นๆ ห่างไปแค่เอื้อมมือ
กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นน้ำหอมแบรนด์เนมผสมออกมาเป็นกลิ่นผู้ดีจน
เด็กสาวแทบจะประคองสติไม่ไหว
“ค่ะ หนูเต็มใจทำเอง ไม่ได้โดนหลอกหรือโดนบังคับมา”
“ทำไมถึงมาทำงานนี้ล่ะ ดูเธอก็สวยดี การศึกษาก็ดี จริงๆ
คนสวยที่มีการศึกษามาขายให้ฉันเยอะแต่ที่ต่างจากเธอ ก็ไอ้พวกข้าวของที่ใช้
คนอื่นเขาใช้แต่ของแพงๆ แบรนด์ดังๆ ดูเธอก็...ไม่ใช่คนที่จะฟุ่มเฟือยอะไร”
เขาว่าพร้อมกับลดสายตาลงมองมือถือของฉัน ที่กำอยู่ในมือสลับกับกระเป๋าไม่มียี่ห้อที่พอจะใส่ของไปเรียนได้วันต่อวัน
อีกอย่างท่าทางของเด็กคนนี้ก็ไม่เข้าข่ายผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เคยขายให้เขาเลย
“หรือที่บ้านมีปัญหาต้องใช้เงิน”
อาชาพยายามจะถามหาสาเหตุ เขาข้องใจเหลือเกินที่ได้มาเจอเด็กคนนี้
“ไม่ค่ะ เอาไปเพื่อใช้ส่วนตัว”
เธอยังคงเลือกที่จะตอบตามความจริง คนมากประสบการณ์เป็นผู้บริหารระดับสูงแบบนี้
ยิ่งอายุมากการจะโกหกตอแหลใส่คนแบบนี้ ยิ่งถือเป็นการฆ่าตัวตาย
“ขอโทษที่ถามเยอะนะ ฉันแค่อยากแน่ใจว่าเธอเต็มใจที่จะทำงานนี้จริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถามหนูได้เลย”
พลอยรู้สึกเหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์งานยังไงยังงั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้เลย
“เธอเรียนอะไรนะ?”
“การตลาดภาคอินเตอร์ค่ะ”
“ใช้เงินเยอะเอาเรื่องเลยสิ มหาลัยนี้ด้วย
แสดงว่าที่บ้านก็พอมีฐานะใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ หนูใช้ทุนรวมกับเงินที่ทำงานหาเก็บไว้”
เธอเริ่มรู้สึกเกร็งๆ บอกไม่ถูกสายตาของอาชาตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
เขากำลังใช้สายตาสอดส่องสำรวจดูร่างกายของเธอในระหว่างที่เราคุยกัน
“ได้ทุนเท่าไหร่?”
“ทุนเป็นทุนค่าเทอมค่ะ ประมาณ 70,000 บาท”
“แล้วที่ใช้กินทุกวันนี้ล่ะ” เขายังคงถามต่อเนื่อง
แต่ตาก็กวาดมองเรือนร่างของเธอต่อเนื่องเช่นกัน
“ก็เงินจากที่ทำงานพิเศษค่ะ”
“ทำงานอะไร?”
“ล้างผักร้านขนมจีนค่ะ”
พอฉันตอบไปแบบนั้นอาชาดูเหมือนกำลังกลั้นขำยังไงก็ไม่รู้
“สวยขนาดนี้ ไม่ไปทำพริตตี้ นั่งดริ้ง
หรือไปเป็นนางแบบอะไรแบบนั้นล่ะ ล้างผักมันจะได้สักกี่บาท”
“วันละ 150 ค่ะถ้าทำไม่ดีก็โดนหักเหลือ 120”
“แล้วแบบนี้มันจะไปพอค่าหอ ค่าข้าว ค่ารถเหรอ”
เขาถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูจะสนใจมาก
“จริงๆ ร้านเป็นของป้าค่ะ
เขาให้หนูพักอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ข้าวก็ซื้อกินโรงอาหารช่วงกลางวัน
เช้า-เย็นกินที่บ้าน ค่ารถเมล์วันหนึ่งก็ไม่กี่บาทพอได้ต่อเวลาไปวันต่อวันค่ะ”
“อ๋อ ถึงได้มาทำงานนี่งั้นสิ”
เขาว่าแต่ตายังคงเล้าโลมไปตามเนื้อตัวของเธอและค่อยๆ ฉายแววหื่นอย่างเห็นได้ชัด
“วันนี้คงยังไม่เริ่มงานหรอก
ฉันเหนื่อยแค่อยากเรียกมาตกลงราคากับพวกสัญญาก่อน แล้วนี่....
โทรศัพท์ที่เอาไว้คิดต่อกับฉัน ไลน์ที่อยู่ในเครื่องฉันจะใช้เพื่อเรียกเธอ
แต่เธอไม่ต้องติดต่ออะไรมา มีปัญหาอะไรไว้คุยตอนเจอกัน และเรื่องของเรา
เก็บเป็นความลับให้ดีที่สุด ฉันไม่อยากมีข่าวเสียหาย
ส่วนนี่สัญญาเอาไปอ่านให้ละเอียดสงสัยอะไรคราวหน้าจดมาถาม
วันนี้ถือว่าทำความรู้จักกันก่อน เดี๋ยวลงไปรอข้างล่าง แล้วฉันจะให้คนไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูกลับแท็กซี่เอง”
“เปลืองเงินเปล่าๆ ไหนว่าไม่มีเงินไง”
“หนูไม่อยากให้ป้าเห็น เดี๋ยวจะมีปัญหาค่ะ”
“อืม...ตามใจเดี๋ยวเอาเงินค่ารถไปก็แล้วกัน”
เขาว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะห่างออกไปไม่กี่ก้าว
“หวังว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจ แล้วเจอกันนะ”
“ค่ะ...”
เธอตอบรับก่อนจะยกมือไหว้และรับเงินค่ารถจากเขามา
‘นี่ขนาดแค่มาคุยยังได้ตั้งพันหนึ่งแน่ะ ไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอก
พอกันทีกับตำแหน่งล้างผักเฮงซวยได้เงินค่าแรงแค่ไม่กี่บาท สู้มาทำงานง่ายๆ
ได้เงินดีดีไม่ดีกว่าหรือไง’ พลอยมายาคิดในใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments
mama
กดติดตามค่ะ
2022-03-05
0
เจ้า' หุ้ย
sd
2021-04-08
0
โยษิตา ฯ.
😅
2021-03-04
0