ในยามบ่ายที่สายลมพัดเอื่อยผ่านตำหนักหลวง ถัวกัวกำลังฝึกซ้อมดาบกับเหล่าทหารในลานฝึก เสียงเหล็กกระทบกันดังสะท้อน ขณะที่ชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วทุกจังหวะ
“ฝีมือดีสมกับเป็นทายาทของแม่ทัพใหญ่” เสียงเรียบเย็นดังขึ้นจากทางด้านหลัง
ถัวกัวหยุดมือแล้วหันกลับไป ก่อนจะพบว่าองค์ชายหลิงเหยียนกำลังยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มบาง ดวงตาคมแฝงแววสนใจ
“องค์ชาย เหตุใดท่านถึงมาในลานฝึกเช่นนี้?” ถัวกัวถามพลางค้อมตัวอย่างเคารพ
“ข้าเพียงอยากเห็นฝีมือของแม่ทัพหนุ่มผู้ถูกเล่าขาน เจ้าไม่คิดจะประลองกับข้าสักกระบวนท่าหรือ?” หลิงเหยียนถามพร้อมยื่นมือไปรับดาบไม้จากทหารคนหนึ่ง
“ข้าหาอาจกล้าล่วงเกินองค์ชายไม่” ถัวกัวปฏิเสธ แต่แววตาองค์ชายกลับไม่ยอมแพ้
“เจ้ากลัวข้าจะพ่ายแพ้หรือ?” หลิงเหยียนยิ้มมุมปาก
ถัวกัวไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงจำยอมรับคำท้า เขาหยิบดาบไม้อีกเล่มขึ้นมา และทั้งสองเริ่มต้นการประลอง
องค์ชายหลิงเหยียนแม้จะไม่ได้ฝึกซ้อมหนักเช่นทหาร แต่ท่วงท่าและการเคลื่อนไหวกลับสง่างามและเฉียบคม ความคล่องแคล่วและการอ่านเกมขององค์ชายทำให้ถัวกัวต้องจริงจังมากขึ้น
หลังจากผ่านไปหลายกระบวนท่า ในที่สุดถัวกัวก็สามารถใช้จังหวะอันเหนือชั้นจู่โจมจนองค์ชายต้องยอมแพ้ หลิงเหยียนยกมือขึ้นพลางหัวเราะเบา ๆ “เจ้าช่างเก่งกาจยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นความภาคภูมิใจของแผ่นดิน”
“ข้าขออภัยหากล่วงเกินองค์ชาย” ถัวกัวค้อมตัวลงต่ำ
“ไม่ต้องขอโทษ ข้าชอบที่เจ้าไม่ออมมือ เพราะมันแสดงว่าเจ้าเคารพข้าในฐานะคู่ต่อสู้” หลิงเหยียนพูดพร้อมมองถัวกัวด้วยแววตาที่อ่อนโยน
การประลองครั้งนี้ไม่เพียงแค่สร้างความประทับใจให้ทั้งสอง แต่ยังทำให้ถัวกัวรู้สึกว่าองค์ชายไม่ได้เป็นเพียงคนที่สูงศักดิ์ แต่เป็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญและมีน้ำใจ
แต่ในคืนวันนั้น ขณะที่ถัวกัวกำลังพักผ่อนในตำหนักเล็กของตน ความคิดที่เริ่มก่อตัวในใจกลับทำให้เขานอนไม่หลับ การได้อยู่ใกล้องค์ชายหลิงเหยียนทุกวัน ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้น ความผูกพันและความชื่นชมในตัวองค์ชายกำลังกลายเป็นความรู้สึกที่เกินกว่าหน้าที่
ถัวกัวได้แต่ครุ่นคิดเงียบ ๆ ว่า ความรู้สึกนี้จะนำพาชะตาของเขาและองค์ชายไปในทิศทางใด…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 11
Comments