การพบกันครั้งแรก
**บทที่ 1 : การพบกันครั้งแรก**
อากาศในเช้าวันจันทร์ที่สำนักงานของบริษัท 'ชาญชัย จำกัด' เต็มไปด้วยความตึงเครียดจากงานที่รออยู่ข้างหน้า เมื่อมองออกไปที่หน้าต่างที่มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพมหานครในยามเช้า ฉันรู้สึกหน้าที่อันหนักอึ้งที่เตรียมรออยู่ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาประธานบริษัทคนใหม่ ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบที่มากกว่าเดิม งานของฉันต้องดูความเรียบร้อยของงานนั้นนั้นก่อนส่งให้ท่านผู้จัดการก่อนจะส่งท่านประธาน เสียงพนักงานที่เข้ามาสัมภาษณ์กระซิบกันว่าท่านประธานหล่อมาก ฉันจะเป็นคนสัมภาษณ์พนักงานที่เข้ามาทำงานแทนฉัน
ฉันชื่อ "มินตรา" หญิงสาวอายุยี่สิบหกปีที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานในบริษัทนี้ได้ไม่กี่ปี พ่อแม่เลี้ยงฉันมาด้วยความหวังให้ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต และฉันก็ได้ทำงานที่นี่อย่างตั้งใจ จนได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับ "ประธานภูมิ" ผู้ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงเป็นพิเศษ บุคลิกภาพของท่านจะเป็นคนเข้มเข้มคิวดกดก
ประธานภูมิเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบ ปี หน้าตาหล่อเหลาและมีความมั่นใจในตัวเองมาก เขาสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างดีพร้อมกับหนวดเคราเล็กน้อยที่ทำให้เขามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แม้จะดูเย็นชาในบางครั้ง แต่ลึกๆ แล้วเขาก็มีความอบอุ่น และใส่ใจพนักงานอยู่ไม่น้อย ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าจะได้ทำงานร่วมกับเขา ฉันทุ่มเท ฉันขยันกับงานมาก เพื่อได้เป็นเลขาท่านประธานได้ใกล้ชิด ได้สบตา ได้พูดคุย อืออออ...ฟินนนนนน
**บทที่ 2 : การทำงานที่ใกล้ชิด**
การทำงานในบริษัทในช่วงแรกนั้นท้าทายมาก ฉันต้องตามงานของประธานภูมิและจัดการเรื่องต่างต่างให้เขา ตั้งแต่การนัดหมาย อีเมล ออกนอกพื้นทีไปดูงาน ไปจนถึงการเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม สิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงมากคือเมื่อมีโอกาสได้อยู่ใกล้เขา และวันนี้ฉันหัวใจจะหยุดเต้น เมื่อท่านประธานให้ฉันไปเอาเอกสารที่บ้านก่อนเข้างาน
และท่านสั่งให้ฉันผูกเน็คไทย์จังหวะที่ท่านสบตาฉันคือแบบโอ้ยยยอยากจะละลายละลายไปเลย และแล้วมีเสียงนาฬิกามาปลุกท่านถึงเวลาไปทำงานเท่านั้นแหละคร้า ฝันสลายไปในพริบตา เราทั้งสองไปทำงานด้วยกัน
“มินตรา ช่วยหาความเป็นไปได้ในการขยายตลาดใหม่ให้ผมหน่อย” เขาสั่งการด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ได้ค่ะ ประธานภูมิ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่ในใจกลับสั่นคลอน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันเห็นเงาของความเครียดในใบหน้าของเขา เมื่อเจอกับปัญหาที่เรื้อรังของบริษัทเขา พยายามหาทางแก้ไขโดยไม่ให้พนักงานคนไหนได้เห็นความเครียดนั้น แต่ในขณะนั้น ฉันรู้สึกอยากช่วยเขาให้มากที่สุด
**บทที่ 3 : ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น**
เวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของเราก็เริ่มสร้างรากฐานที่มั่นคง ขณะที่เราทำงานร่วมกัน เรามีโอกาสได้พูดคุยกันมากขึ้น เรามักจะหัวเราะเรื่องเล็กน้อยในการประชุม หรือแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในช่วงพักเบรก
“คุณมินตรา เคยมีความฝันว่าอยากเป็นอะไรในอนาคตไหม?” เขาถามด้วยสายตาที่จริงจัง
“ก็อยากทำงานที่ช่วยเหลือคนอื่นค่ะ” ฉันตอบไปด้วยความจริงใจ
เขายิ้มให้ และนั่นทำให้หัวใจของฉันแทบหยุดเต้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกต่อเขานั้นไม่ใช่เพียงแค่คนทำงานที่ฉันเคารพ แต่เป็นคนที่ฉันเริ่มมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น
**บทที่ 4 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป**
เมื่อเข้าสู่เดือนที่สองของการทำงานร่วมกัน ความรู้สึกของฉันเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ฉันพบว่าไม่มีวันไหนที่ฉันจะไม่คิดถึงเขา ในทุกๆ ครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน ความเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ของเขาทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าเขายังเป็นคนที่น่าสนใจ น่าหลงไหล เป็นคนที่อยู่ด้วยอบอุ่น และนั้นคือความรู้สึกฉันตอนนี้ อยู่ตลอดเวลา
จนวันหนึ่ง เมื่อประชุมสำคัญจบลง เขาเรียกฉันให้เข้าไปในห้องทำงานแล้วสั่งให้ปิดประตู ปิดม่าน
“มินตรา มีอะไรที่คุณอยากจะบอกผมไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นทำสีหน้าเข้มเข้ม
ฉันอึกอักพยายามหาคำพูด “เอ่อ… ประธานภูมิ ถ้าพูดตามตรง ฉันรู้สึกว่าถ้ามีโอกาส เราน่าจะทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี” น้ำเสียงฉันสั่นเหมือนจะชวนเขาไปออกเดทและนั้นคือสั่งฉันคิดไว้
เขามองมาที่ฉันนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มออกมา “อยากพบเจอผมในเวลาที่ไม่ทำงานเหรอ?”
“ใช่ค่ะ” ฉันตอบด้วยความเขินอาย
“โอเค งั้นทำไมเราไม่เริ่มต้นด้วยการไปทานข้าวกันสักวันดีไหม”
หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนกับว่าเขาเพิ่งยื่นมือมาจับใจฉันไว้
**บทที่ 5 : การออกเดทครั้งแรก**
วันนั้นมาถึงที่เรานัดหมายกันไว้ ฉันรู้สึกเบิกบานมากขึ้นทุกนาทีที่รอ ผมสีเข้มของเขาถูกจัดแต่งอย่างดี ส่วนเสื้อผ้าก็สวมใส่ให้ความรู้สึกที่สง่างามอย่างลงตัว
“คุณสวยมาก” เขาพูดขึ้นขณะสั่งอาหาร ทั้งที่ฉันยังรู้สึกเขินจนไม่รู้จะวางตัวอย่างไร
“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบด้วยรอยยิ้ม ยิ่งทำให้บรรยากาศระหว่างเราอบอวลไปด้วยความโรแมนติก
ระหว่างที่พูดคุยกัน เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวกันมากขึ้น เขาชอบการเดินทาง และมีความรักในธรรมชาติ ขณะที่ฉันก็มีงานอดิเรกในการอ่านหนังสือและทำอาหาร เราแชร์ประสบการณ์และหัวเราะกันได้อย่างสนุกสนาน
“ผมชอบเวลาที่ได้พูดคุยกับคุณ มินตรา คุณทำให้ผมรู้สึกเป็นคนปกติ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
ฉันรู้สึกอบอุ่นในคำพูดของเขา เป็นครั้งแรกที่เราไม่ได้อยู่ในสถานะแบบหัวหน้ากับลูกน้อง แต่เป็นเพื่อนที่คอยประคับประคองกันและกัน
**บทที่ 6 : ความรักที่ก่อตัว**
เวลาผ่านไปเร็วมากในช่วงฤดูกาลนั้น เมื่อใดที่ได้อยู่ใกล้เขา รู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความสุข ทั้งสองได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยว หรือดูหนังในวันหยุด
“มินตรา ฉันรู้สึกว่าเราน่าจะเริ่มทำอะไรที่มากกว่านี้” เขาพูดขึ้นในขณะที่เรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
“หมายถึงอะไรคะ?” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจ
“คือ… ฉันคิดว่าเราอาจจะลองเป็นมากกว่าคนทำงาน เพราะฉันรู้ว่าในใจของฉันมีบางอย่างที่รู้สึกดีกับคุณมาก”
คำพูดนั้นทำให้โลกหยุดหมุน ฉันมองไปที่เขาและหัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบจะออกมานอกอก
“ฉันก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันค่ะ”
“เขาขยับมานั่งใกล้ๆๆฉัน มองมาตรงริมฝีปาก ฉันมองลูกกระเดือกเขากลืนนำ้ลายแบบอืมมมม...และเขาก็ผลักฉันลำตัวเอนลงบนโซฟา เอามือมาประโลมใบหน้าจับคางฉันบรรจงจูบฉันแบบเร้าร้อน ในคืนนั้นอันแสนพิเศษและมีความสุขกันและกัน
ตื่นมาตอนเช้าอรุณสวัสดิ์ เขาตื่นก่อนฉัน ฉันอยากจะนอนต่อแต่ละสายตาจากหน้าตาอันหล่อเหลา ที่ยืนจับแก้วกาแฟอยู่ตรงหน้าต่าง บวกกับแสงแดดอ่อนอ่อนมากระทบที่ตัวเขา แล้ววันนี้ทั้งเราสองคนอยู่ด้วยกันทั้งวัน...
และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความรักที่สวยงามระหว่างฉันกับประธานภูมิ
**บทที่ 7 : ฝันที่เป็นจริง**
หลังจากที่เราตกลงคบหากัน ประธานภูมิจะแอบส่งซิก เรียกฉันมาส่งรายงานเรื่องในบริษัทในห้องทำงานของเขาความรักที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน มันจะทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึก ตื่นเต้นตลอดเวลา เพื่อนรวมงานจะไม่มีใครรู้เราโรแมนติกกันแบบสึดสุด ไม่ได้มีแค่ความโรแมนติก แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานด้วย ฉันทำงานอย่างหนักมากทั้งงานบริษัทและงานประธานภูมิอิอิ และเขาก็เป็นแรงจูงใจที่ทำให้ฉันก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
ความรักของเราค่อยๆ เติบโตขึ้น และสร้างความสุขให้กันเรื่อยมา ทุกครั้งที่มีเสียงหัวเราะ ทุกครั้งที่ได้สำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ ทุกคนในบริษัทก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเราทั้งสอง ฉันรู้สึกว่าเราได้ร่วมสร้างอะไรหลายอย่างไปพร้อมกัน
ในที่สุด ฉันและเขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดใจให้กันและกันอย่างเต็มที่ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ใฝ่ฝัน
และจนถึงทุกวันนี้ ความรักของฉันและเขาก็เป็นความรักที่สวยงามที่ถูกสร้างขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างซื่อสัตย์ และการเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง
“มินตรา คุณเชื่อไหมว่าเราสามารถฝ่าฟันทุกอย่างไปได้ด้วยกัน” เขามักจะพูดแบบนี้เสมอ
“แน่นอนค่ะ เพราะเรามีกันเสมอ” ฉันตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
อุปสรรคทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้เราเลิกกัน แต่กลับทำให้ความรักของเรายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น มีคุณภาพทั้งด้านงานและชีวิตคู่
**บทสรุป**
ความรักระหว่างเลขากับประธานที่เริ่มต้นจากความใกล้ชิดในที่ทำงาน กลายเป็นความรักที่สวยงามและมั่นคง ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา และให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
และในที่สุด การสร้างฝันให้เป็นจริงนั้นเกิดจากความรักที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน จนเราไม่สามารถแยกจากกันได้ และสะท้อนให้เห็นว่าความรักอาจเกิดขึ้นได้ในทุกที่ แม้จะเป็นที่ทำงานที่เคยเต็มไปด้วยความเครียด แต่กลับกลายมาเป็นสถานที่ที่สร้างความสุขให้กับเราได้ในที่สุด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments