การค้นพบประตูมิติที่เชื่อมไปยังอีกโลกของ Isekai

การค้นพบประตูมิติที่เชื่อมไปยังอีกโลกของ Isekai

บทนำ

เสียงหวูดของเครื่องบินขับไล่ F-22 ดังก้องเหนือป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยหมอกเวทมนตร์ กองกำลังสหรัฐที่นำโดยกองทัพภาคพื้นดิน และหน่วยพิเศษ Delta Force ได้เข้ามาสำรวจดินแดนที่ไม่ปรากฏบนแผนที่โลก ด้วยการใช้ “ประตูมิติ” ที่ถูกค้นพบกลางทะเลทรายในเขต 51

เมื่อมาถึงโลกนี้ พวกเขาได้พบกับเมืองที่เหมือนหลุดออกมาจากยุคกลาง ปราสาทตั้งตระหง่านเหนือเนินเขา ผู้คนสวมเกราะเหล็กและใช้ดาบเหมือนในหนังสือประวัติศาสตร์ ทว่า ท่ามกลางวิถีชีวิตโบราณ กลับมีบางสิ่งที่กองทัพไม่คาดฝัน—มังกรตัวมหึมาที่พ่นไฟออกมา ดินแดนที่ปกครองด้วยราชินีเอลฟ์ผู้ใช้เวทมนตร์อันทรงพลัง และกลุ่มนักผจญภัยที่ออกสำรวจดันเจี้ยนเพื่อหาอัญมณีลึกลับ

การพบเจอระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับเวทมนตร์โบราณกลายเป็นหัวใจของเรื่องราว เมื่อจรวดต่อต้านรถถัง Javelin ถูกยิงใส่ยักษ์หินที่สูงเท่าตึกสิบชั้น เสียงปืนกลและระเบิดสะท้อนผ่านป่าที่มีต้นไม้พูดได้ การเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังทหารและเหล่าสัตว์อสูรทำให้สมดุลของโลกอิเซไกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่อาจคาดเดา

คำถามสำคัญ

• กองทัพจะเป็นผู้ปกป้องหรือผู้ทำลาย?

ชาวบ้านในโลกนี้ต่างหวาดกลัวอาวุธที่รุนแรงเกินจินตนาการ พวกเขามองว่าทหารเป็นทั้งผู้ปลดปล่อยจากภัยอสูรและปีศาจ แต่ก็เป็นผู้ทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิม

• การเมืองและสงครามระหว่างมิติ

จักรวรรดิในโลกอิเซไกที่มองเห็นศักยภาพของกองทัพจากโลกมนุษย์เริ่มวางแผนจับมือ—หรือทรยศ ขณะที่สหรัฐเริ่มตั้งคำถามว่าการแทรกแซงในโลกใหม่นี้จะนำมาซึ่งผลประโยชน์หรือหายนะ

• เวทมนตร์ปะทะวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์ของกองทัพพยายามถอดรหัสพลังงานลึกลับของเวทมนตร์เพื่อใช้ในสงคราม ขณะที่เหล่าจอมเวทในโลกอิเซไกมองว่านี่คือการล่วงล้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เวลาผ่านไปรัซเซียได้ส่งหน่วยสอดแนม หรือรบพิเศษเข้าไปในประตูมิติ แต่หน่วยนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย หลายเดือนต่อมา มีคนในหน่วยรอดออกมาได้คนนึง เค้าดูกลายเป็นคนวิกลจริตหวาดกลัวทุกอย่าง และที่สำคัญเค้าสามารถใช้เวทมนต์ได้นิดหน่อย รัฐบาลสหรัฐได้เข้าจับกุมตัวและสัมภาษณ์เค้า

บันทึกการสัมภาษณ์

สถานที่: ฐานลับของรัฐบาลสหรัฐ (ชั้นใต้ดิน 12)

ผู้ถูกสัมภาษณ์: ร้อยโท ดมิทรี อิวานอฟ (อดีตหน่วย Spetsnaz)

ผู้สัมภาษณ์: ดร. เอเลน่า มอร์แกน (นักจิตวิทยา) และ พ.อ. ริชาร์ด เคนเนดี้ (ผู้บัญชาการโครงการประตูมิติ)

[เริ่มบันทึกเสียง เวลา 22:03 น.]

ดร. มอร์แกน: ร้อยโทอิวานอฟ คุณบอกว่าคุณเป็นคนเดียวที่รอดกลับมาจากโลกอีกมิติหนึ่งได้ ขอให้คุณเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ดมิทรี: (เสียงแหบแห้งและตื่นกลัว) พวกคุณ…ไม่ควร…ไม่ควรเข้าไปในนั้น มันไม่ใช่โลก แต่มันเป็น…นรก

พ.อ. เคนเนดี้: ใจเย็นๆ ร้อยโท เราต้องการข้อมูลเพื่อประเมินสถานการณ์ คุณเจออะไรในโลกนั้น?

ดมิทรี: (เริ่มตัวสั่น) พวกเรา…เข้าไปกัน 12 คน มีอาวุธครบมือ เราฝึกมาทุกสถานการณ์…แต่ที่นั่น ไม่มีอะไรเหมือนโลกนี้…

ดร. มอร์แกน: โปรดอธิบายเพิ่มเติม

ดมิทรี: ตอนแรก ทุกอย่างดูสงบ มีแค่ป่า และเมืองเล็กๆ…แต่เมื่อค่ำคืนมา…พวกมันก็ปรากฏตัว (เสียงสะอื้น) สิ่งที่อยู่ในเงามืด…มันไม่ใช่สัตว์…พวกมันไม่มีรูปร่างแน่นอน แต่มัน เห็นเรา มันรู้ว่าเราอยู่ตรงไหน

พ.อ. เคนเนดี้: คุณหมายถึงอะไร? สิ่งมีชีวิตอะไร?

ดมิทรี: (เสียงสั่น) พวกมันเป็น…เหมือนหมอก แต่หมอกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง…มันกระซิบในหัวเรา…กระซิบชื่อของเราทั้ง 12 คน (เสียงแผ่วเบา) ผมยังได้ยินมันอยู่เลย…ตอนนี้ก็ยังได้ยิน…

ดร. มอร์แกน: (มองหน้าพ.อ. เคนเนดี้) กระซิบอะไร?

ดมิทรี: มันบอกว่า… เราจะไม่กลับไป…เราจะเป็นส่วนหนึ่งของมันตลอดกาล คนแรกถูกลากไปในความมืด ไม่มีเสียงปืน ไม่มีเสียงกรีดร้อง…มีแค่เสียงหัวเราะเบาๆ จากที่ไหนสักแห่ง…

พ.อ. เคนเนดี้: แล้วคุณรอดมาได้ยังไง?

ดมิทรี: ผมไม่รู้! (เริ่มตะโกน) ผมไม่รู้ว่ามันปล่อยผมไปทำไม! แต่ผม…ผมไม่ได้กลับมาคนเดิม… (ยกมือขึ้นที่เต็มไปด้วยแสงสีม่วงเรืองแสง) ดูนี่สิ! พวกมันให้ผมสิ่งนี้…มันสาปผม…ผมไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้ว!

ดร. มอร์แกน: (น้ำเสียงตื่นตัว) คุณบอกว่า “พวกมันให้สิ่งนี้” คุณหมายถึงอะไร?

ดมิทรี: (กระซิบ) มันพูดว่า… ข้าจะมอบของขวัญให้เจ้า…เพื่อให้เจ้าพาโลกของเจ้ามาสู่พวกเรา

พ.อ. เคนเนดี้: (เสียงเข้ม) คุณกำลังบอกว่าพวกมันต้องการมาที่นี่?

ดมิทรี: (หัวเราะอย่างวิกลจริต) มันไม่ต้องการมา…เพราะมัน อยู่ที่นี่แล้ว! คุณได้ยินมั้ย? คุณไม่เห็นมันเหรอ? มันอยู่ตรงนั้น! ในเงามืด! (ชี้ไปที่มุมห้องที่ว่างเปล่า)

ดร. มอร์แกน: (พยายามปลอบใจ) ใจเย็น ร้อยโท ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น…

ดมิทรี: (ตะโกนลั่น) ไม่! คุณไม่เข้าใจ! มันตามผมกลับมา! มันอยู่ในหัวพวกเราทุกคน! คุณ…พวกคุณทุกคน…จะไม่รอด… (หยุดพูดกะทันหัน เหมือนบางสิ่งทำให้เขาเงียบ)

พ.อ. เคนเนดี้: (เรียกเจ้าหน้าที่) เอาตัวเขาออกไป! เดี๋ยวนี้!

ดมิทรี: (ขณะถูกลากออก) คุณควรเผาประตูนั้นทิ้ง! ปิดมันซะ! ก่อนที่มันจะเอาทุกอย่างไปจากคุณ! (เสียงหายไปพร้อมประตูที่ปิดลง)

[จบบันทึกเสียง เวลา 22:29 น.]

บันทึกเพิ่มเติมจากดร. มอร์แกน

“หลังการสัมภาษณ์ ร้อยโทดมิทรีเริ่มพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ก่อนที่จะหมดสติและถูกนำตัวไปยังห้องกักกัน เราตรวจสอบพลังงานแปลกประหลาดที่เกิดจากตัวเขา และพบว่ามันคล้ายคลึงกับการแผ่รังสีบางอย่างที่มาจากประตูมิติ

ข้อสรุปของฉันคือ สิ่งที่อยู่ในโลกนั้นไม่ได้เป็นเพียงภัยคุกคาม แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาจเข้ามาในมิติของเราได้ทุกเมื่อ และสิ่งที่ร้อยโทดมิทรีบอกว่า ‘มันอยู่ในเงามืด’ อาจเป็นความจริงที่เรายังมองไม่เห็น”ไม่กี่วันหลังจากนั้น ร้อยโทร ดมิทรี ได้เสียชีวิตลงอย่างประหลาด บุคลากรทางทหารและทางอื่นๆ เริ่มได้ยินเสียงกระสิบประหลาด ดังคำพูดที่ว่า“พวกมันอยู่ที่นี้” ของ ดมิทรี คำพูดนี้ได้แทรกเข้ามายังความคิดของเหล่าบุคลากร

สภาพการเสียชีวิตของร้อยโทดมิทรี อิวานอฟ

สามวันหลังการสัมภาษณ์ ร้อยโทดมิทรีถูกพบเสียชีวิตในห้องกักกันพิเศษที่มีการควบคุมอย่างแน่นหนา สภาพศพของเขาทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตกตะลึงและหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

• ร่างกาย: ผิวหนังของเขาซีดขาวเหมือนกระดาษแห้ง แต่กลับมีรอยไหม้เป็นลวดลายเรืองแสงสีม่วงทั่วทั้งร่าง ลวดลายดังกล่าวเหมือนกับอักขระโบราณที่ไม่สามารถระบุได้

• ดวงตา: เบิกโพลง แต่ว่างเปล่า ไม่มีลูกตาเหลืออยู่ มีเพียงความมืดมิดในเบ้าตา

• บริเวณโดยรอบ: ผนังห้องเต็มไปด้วยรอยขีดเขียนประหลาดราวกับถูกเผาด้วยมือเปล่า สัญลักษณ์เหล่านี้ส่องแสงแผ่วเบาแม้ไม่มีแสงไฟ

• การตาย: ผลชันสูตรไม่พบสาเหตุการเสียชีวิตชัดเจน ไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บภายใน หรือพิษในระบบร่างกาย แต่หัวใจของเขาหยุดเต้นอย่างไม่มีเหตุผล และสมองของเขาเหมือนถูกทำลายจากภายใน

ในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดรายงานว่า ก่อนร้อยโทดมิทรีจะเสียชีวิต กล้องจับภาพเงามืดในห้องได้ เงานั้นไม่ใช่ร่างมนุษย์ แต่มีรูปร่างเหมือนกลุ่มหมอกที่เคลื่อนไหวได้เอง และมันดูเหมือนจะ “โน้มตัว” เข้าไปหาเขา ก่อนภาพจะดับลงอย่างไร้สาเหตุเสียงกระซิบประหลาด

ไม่กี่วันถัดมา เจ้าหน้าที่ในฐานหลายคนเริ่มรายงานว่าได้ยินเสียงกระซิบในความมืด เสียงนั้นเป็นภาษาแปลกประหลาดที่ไม่มีใครเข้าใจ บางคนอ้างว่ามันเหมือนกำลังเรียกชื่อของพวกเขา เสียงกระซิบดังมาจากมุมห้อง เงามืด หรือแม้กระทั่งในหัวของพวกเขาเองเสียงกระซิบบางครั้งชัดเจนขึ้นและกล่าวคำว่า

“พวกมันอยู่ที่นี่แล้ว… ไม่มีใครรอด”กองทัพตัดสินใจปิดกั้นฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การเคลื่อนย้ายบุคลากรที่มีอาการประหลาดถูกระงับ และมีการตั้งหน่วยจิตวิทยาและแพทย์เฉพาะทางเข้ามาสำรวจบุคลากรที่ได้ยินเสียงกระซิบหรือมีอาการหวาดระแวง ถูกกักตัวในพื้นที่ปลอดภัยพร้อมการตรวจสอบพลังงานเวทมนตร์และจิตวิทยา การตรวจพบพลังงานเรืองแสงสีม่วงคล้ายกับที่พบในร้อยโทดมิทรีเริ่มแพร่กระจายในกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกระทรวงกลาโหมเรียกประชุมด่วน โดยแบ่งแผนเป็นสองแนวทาง

1 แผนทำลายล้าง: ส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมระเบิดขนาดใหญ่เข้าไปในประตูมิติ หวังปิดประตูด้วย

2 แผนวิจัย: ทีมวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธี “ถอดรหัส” เวทมนตร์ที่ติดมากับผู้ได้รับผลกระทบเพื่อทำความเข้าใจและหาทางต่อต้าน

ข่าวลือเกี่ยวกับเสียงกระซิบและการตายของดมิทรีถูกปิดกั้นอย่างเข้มงวด รัฐบาลสร้างเรื่องอธิบายว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นผลจากอาการประสาทหลอนที่เกิดจากสารเคมีที่รั่วไหล

เหตุการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ในคืนที่ 7 หลังการตายของร้อยโทดมิทรี ฐานที่ตั้งของประตูมิติรายงานเหตุขัดข้องทางไฟฟ้าทั้งระบบ ไฟทั้งหมดดับลงเป็นเวลา 15 นาที หลังจากไฟฟ้ากลับมา กล้องวงจรปิดเผยให้เห็น “บางสิ่ง” เดินผ่านทางเดินของฐาน

• ร่างนั้นดูคล้ายมนุษย์ แต่สูงผิดปกติและผอมแห้ง ดวงตาเป็นสีขาวเรืองแสง และทุกครั้งที่มันปรากฏ กล้องวงจรปิดจะมีเสียงกระซิบแผ่วๆ ดังขึ้น

• เจ้าหน้าที่หลายคนที่พบเห็นร่างดังกล่าวหมดสติไปทันที หรือไม่ก็เสียสติ

ข้อความสุดท้ายจากผู้รอดชีวิตในฐาน:

“พวกมันไม่ได้ต้องการแค่โลกของเรา…แต่ต้องการพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของมัน…”

การล่มสลาย หรือ การต่อสู้?

โลกของเรากำลังเผชิญกับสิ่งที่ไม่สามารถต่อกรได้ด้วยกระสุนและระเบิด พวกมันไม่ได้โจมตีด้วยพลังงาน แต่ด้วยจิตใจและความกลัวของมนุษย์เอง

คำถามคือ กองทัพและมนุษยชาติจะสามารถเอาชนะ “สิ่งที่มองไม่เห็น” นี้ได้หรือไม่? หรือจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เราพยายามสำรวจแต่ไม่ควรเข้าไปตั้งแต่แรก? โปรดติดตามต่อ————>

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 2

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!