Return Of The Cursed Devil : ตอนที่2 ผูกพัธสัญญา
ก่อนหน้านั้น
ในขณะที่วิญญาณพ่อค้ากำลังพูดคุยอยู่กับคิิริน
ภายในกระเป๋าของเขา ได้มีดวงวิญญาณดวงหนึ่งติดมาอยู่ด้วย มันเป็นดวงวิญญาณที่แตกต่างจากดวงอื่นอย่างสิ้นเชิงทั้งสีที่เป็นสีดำและออร่าที่เป็นสีแดงพร้อมทั้งมีปีกและเขา
และเมื่อมันสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่คุ้นเคย มันจึงรีบรุดพุ่งทะลวงผ่านกระเป๋าออกมาโดยเร็ว
เมื่อมันพบกับเด็กหนุ่ม มันก็รู้สึกถึงโชคชะตาบางอย่าง ที่ได้นำพามันมาอยู่ในที่แบบนี้
หลังจากการโจมตีของเด็กหนุ่มได้จบลงไม่ทันไร ดวงวิญญาณดวงนี้ที่รู้สึกถึงพลังบางอย่างภายในตัวของเขาผู้นั้น
มันพุ่งเข้าสู่ร่างของเด็กหนุ่มทันทีราวกับว่าตรงหน้านี้คือบ้านเก่าบ้านแก่ที่ไม่ได้กลับมานาน
ปัจจุบัน
เบื้องหลังการหลับไหลของคิรินนั้น ได้ปรากฏความฝันแปลกประหลาดขึ้น
เขาเห็นสงครามอันไม่รู้จบของหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่ห่ำหันกัน เขาเห็นผู้คนล้มตายมากมาย
เขาเห็นคนผู้หนึ่งที่ถูกความเคียดแค้นครอบงำ ซึ่งคนผู้นั้นเขาทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อที่จะสังหารเทพองค์หนึ่ง แต่แล้วคนผู้นั้นก็ได้พ่ายแพ้และตายลง
แต่จู่ๆเขาก็ฟื้นขึ้นอีกครั้งด้วยพันธสัญญาบางอย่างที่แลกเปลี่ยนกับตัวตนปริศนา คนผู้นั้นเรียกเหล่าอสูรนับไม่ถ้วนออกจากโลกมืด เข้ากวาดล้างเหล่าเทพทั้งปวงลามไปจนถึงสรวงสวรรค์แล้วตายลงในกาลต่อมา
เรื่องราวทั้งหมดนี้มันคือเรื่องจริง และความทรงจำที่ได้จากความฝันนั้นมันยังไม่จบลงแค่นี้ เขายังรู้ถึงเรื่องราวการบ่มเพาะกายและศาสตร์การต่อสู่่อื่นๆอีกมากมาย และมีศาสตร์การต่อสู้ศาสตร์นึงที่เขาสนใจและพอจะมีเข้าใจกับมันได้มากที่สุด "ศาสตร์แห่งเลือด"
มันคือศาสตร์เฉพาะบุคคล ที่ส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครใช้มันได้นอกเสียจากผู้ที่มีสายเลือดของผู้ควบคุมเลือด หรือผู้เข้าใจ"ศาสตร์แห่งร่างกาย" อย่างถ่องแท้เท่านั้น
นอกจากนี้ความทรงจำที่ได้มานั้นส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นสิ่งที่มาจากดินแดนหรือโลกอื่นที่ไม่ใช่โลกแห่งนี้
หลังจากความทรงจําได้ทยอยเข้าสู่สมองของเด็กหนุ่มได้ครบถ้วนแล้ว ไม่นานนักเขาก็ฝื้นขึ้น....
ภายในท้อระบายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแค่สองทางถ้ามองจากจุดที่เด็กหนุ่มได้นอนอยู่ นั่นคือทางไหลเข้าและใหลออกของน้ำ
ตรงทางเดินฝั่งนึงจากสองฝั่ง
"โอ๊ยย.. เจ็บๆๆ.. นี่มันอะไรกัน ความฝันงั้นเหรอ ไม่ใช่สิมันน่าจะเป็นความจริงมากกว่า" เขารีบลุกขึ้นทันทีทันใดเมื่อเริ่มได้สติ พร้อมตรวจดูร่างกายตัวเองแต่เขากลับไม่พบอะไรที่ผิดปกติเลย
"ร่างกายข้ายังอยู่ดีนิแต่ทำใมถึง..."
จนกระทั่งเขาเข้าไปตรวจดูภายในห้วงแห่งจิตของเขาเองโดยบังเอิญตามความทรงจำที่ได้รับมา เข้ากลับพบว่ามีบางอย่างอยู่ในนั้นมันคือดวงวิญญาณสีดำเลือดที่พุ่งเข้าใส่ตัวเขานั่นเอง
" มันเกิดอะไรขึ้น!!... "
อยู่ดีๆดวงวิญญาณสีดำเลือดดวงนั้นก็เข้ามาหลอมรวมกับดวงวิญญาณของเขา ซึ่งเป็นดวงวิญญาณสีดำเช่นกันแต่มันกลับส่องแสงอร่ามสีทอง..
"อ๊ากก!!"
เสียงโหยหวนดังขึ้นช่วงครู่ก็เงียบลง
'มันต้องเป็นผลจากเจ้านั่นแน่เลย'
เมื่อการหลอมเริ่มขึ้น ร่างทั้งร่างก็รู้สึกปวดร้าวถึงขีดสุด มันทั้งร้อนทั้งหนาวในเวลาเดียวกัน
พร้อมทั้งออร่าด้านลบและไอพลังงานปริศนาที่ให้ความรู้สึกน่าหดหู่ก็กระจายออกมา
แต่ไม่นานนักมันก็สิ้นสุดลง..
"ผูกพันธสัญญา"
เสียงของหญิงสาวปริศนาดังขึ้นในหัวของเขา มันฟังดูเรียบง่าย แต่กลับให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขามและน่าเคารพอย่างยิ่งยวด
"พันธสัญญางั้นเหรอ!? นี่ท่านเป็นใครกัน"
เขาเอ่ยถามอย่างฉับพลัน ด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างพร้อมกับความดีใจ
'เธอผู้นี้จะต้องเป็นนางฟ้าหรือไม่ก็เทพธิดามาโปรดข้าแน่เลย'
เธอผู้นั้นแสยะยิ้มอยู่ในความมืดพร้อมกล่าว"ข้านั้นคือผู้ผูกพันธสัญญากับเจ้าไงล่ะเจ้าหนู"
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ความคิดของเขาก็เริ่มชัดเจนขึ้นพร้อมนัยน์ตาแห่งความสุขที่เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม
"ส่วนถ้าเจ้าอยากรู้ล่ะก็ว่าตัวตนของข้านั้นคือใคร ก็มาหาข้าได้ ณ ดินแดนแห่งเลือด เมื่อถึงครานั้นเจ้าก็จะรู้เองว่าข้าคือใคร?" เสียงของเธอดังกึกก้องอยู่ในหัวของเขา พร้อมกับคำเชื้อเชิญ
"ใช้พลังของข้าให้ดีล่ะเจ้าหนู แล้วเจอกัน"
สิ้นสุดคำพูดก็ไร้วี่แววซึ่งเสียงของเธอดังขึ้นอีกเลย
"ข้าจะใช้ให้ดีที่สุดเลยหล่ะ"
ถึงคิรินจะไม่รู้แต่เธอผู้นั้นก็ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเต็มสองรู้หูอย่างชัดเจนพร้อมยิ้มส่งอยู่ในความมืดมิด...
"ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่ข้าจะได้ทำพันธสัญญากะเขาสักที"เด็กหนุ่มกล่าวอย่างลิงโลดด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
'แม่ม! โคตรดีใจเลย'
"ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันที่โชคชะตาเข้าข้างข้าแบบสุดๆไปเลย"
"ตลอดทั้งชีวิตของข้าไม่เคยมีใครมาทำดีกับข้าเลยแม้แต่น้อย แต่กับเธอผู้นี้ที่ดันมาผูกพันธสัญญากับข้า มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง"
"ไม่ว่าท่านจะเป็นอสูรหรือมนุุษย์สักวันข้าจะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างแน่นอน"
คิรินนั้นไม่ได้รู้เลยด้วยซ้ำว่าการทำพันธสัญญานั้นต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน
แต่สิ่งแลกเปลี่ยนของเขาคืออะไรหล่ะ??
แล้วเขาทำพัธสัญญาได้อย่างไร??
ผ่านมาครู่หนึ่งเขาก็ฉุบคิดบางอย่างขึ้นมาได้
"อืม~...ถ้าข้าจำไม่ผิดล่ะก็ไอ้พลังที่ได้มานี้ มันคือพลังที่เกี่ยวกับเลือดนี่น๊า"เขารำลึกถึงความทรงจำที่เข้ามาใหม่ในหัว
'ไม่ลองก็ไม่รู้หล่ะ'
พร้อมกับทดลองใช้พลังตามความทรงจำเหล่านั้นดู
"ศาสตร์เลือด"
จากนั้นไม่นานเหล่าเลือดจากกองซากศพของอสูรงูขาวไร้ตาก็เคลื่อนไวขึ้นสู่พื้นที่เบื้องบน
มันเริ่มหมุนวนอย่างเป็นเส้นสายราวกับว่าจะเป็นคลื่นน้ำที่ถูกพายุฉุดขึ้นสู่อากาศ
จากนั้นเหล่าสายน้ำสีเลือดที่วนเวียนกันอยู่บริเวณเหนือซากศพของอสูรงูขาวไร้ตา ก็เริ่มกระจายออกเป็นเส้นสายนับสิบ
พร้อมพุ่งเข้ามาสู้มือที่แบออกของคิริน เป็นกลุ่มก้อนของเหลวสีเลือด ที่ราวกับว่าจะเป็นน้ำสีแดงที่ลอยอยู่บนมือของเด็กหนุ่มอย่างไร้แรงโนมถ่วง
เขาตรวจสอบพลังนี้อยู่สักพักก็เริ่มเข้าใจหลักการทำงานของมันเบื้องต้น แต่เขาก็ยังไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างใจนักและยังรู้สึกเหนื่อยเอามากๆอีก...
"จากไอ้ความทรงจำบ้านี่ คือข้ายังไม่มีพลังมากพองั้นสินะ ถึงได้ควมคุมมันได้แค่นี้"
เฮ้อ! ~เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างน่าเสียดาย
"สลาย"
เมื่อสิ้นสุดคำพูดเลือดเหล่านั้นก็เหือดละเหยหายไปกับอากาศ
"แต่ก็นะ ด้วยทักษะบ้านี่ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าจะเข้าร่วมการประลองระดับกลางได้แล้วสินะฮิ.ฮิ."
"ว่าแต่เลือดที่ข้าควบคุมมันมีพลังที่ห่างชั้นกับในความทรงจำอยู่มากโขเลย หลังจากนี้ข้าคงต้องฝึกหนักจนไล่ตามตัวตนในความทรงจำให้ได้ส่ะแล้วสิ"
หลังจากจัดการกับซากอสูรเสร็จ เขาก็นึกขึ้นได้ถึงกระเป๋าของวิญญาณพ่อค้า
"เจ้าวิญญาณนั่นมันบอกว่าอยากจะแลกอาวุธกับข้า งั้นก็แปลว่าในนี้คงจะต้องมีอาวุธอยู่มากมายชัว"
เมื่อเริ่มเปิดกระเป๋า จู่ๆก็มีก็มีบางอย่างเกิดขึ้น...
ฟิ้ว...... ฟู้ววววววววววว!!!
ลมทมิฬคลั่งโหมกระหน่ำพวยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับกระแสพลังด้านลบที่ปะปนมาด้วย ก่อเกิดเป็นเสาพลังงานสีดำที่ทะลวงผ่านเพดานของท้อระบายน้ำออกไปด้านนอก มันพุ่งสูงจนแทบจะเหนือตึกละฟ้าเชี่ยวหล่ะ
พร้อมทั้งคลื่นกระเพื่อมสีดำที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานด้านลบที่แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้่างพร้อมๆกับการประทุของลมคลั่งสีทมิฬ
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้มันยังเป็นชนวนในการเชื้อเชิญให้อสูรนับพันเข้ามาที่นี่เพื่อดูดกลืนพลังงานเหล่านี้อีกด้วย
"เหี้ยอะไรวะเนี่ย!!? "
คิรินตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ตรงหน้า
'แม่มเอ่ยอุสส่าคิดแล้วว่าวันนี้จะเป็นวันแห่งโชคชะตาแท้ๆ ไหงถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเนี่ย บ้าจริงข้ายังไม่ได้ฝึกการใช้ศาสตร์เลือดนั่นเลย..'
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น
ก็มีบางสิ่งได้ออกมาจากเสาพลังงานทมิฬนั่น มันเป็นอสูรที่มีลักษณะอันแปลกประหลาด ทั้งหัวที่ขาดเหลือแต่คอ ร่างกายที่กำยำเหมือนมนุษย์ มีขาเหมือนวัว พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ถือมีดปักตอขนาดยักษ์
'เชี่ยแล้วไง!! นี่มันอสูรระดับC'
'แค่เพียงอสูรระดับEก็ทำข้าแขนขาดไปสองข้างได้แล้ว'
'แต่นี่มันระดับสูงกว่านั้น! ระดับEก็เล่นข้าแทบตายแล้ว อย่าหวังเลยที่รอดจากระดับที่สูงกว่า'
'แต่ถึงข้าจะหนีไม่พ้นมันหรอก คงต้องสู้สถานเดียว'
'เอาไงเอากัน เสี่ยงเป็นเสี่ยง ตายเป็นตาย คงจะดีกว่าถ้าเลือกสู้แล้วตาย แทนที่จะเลือกโดนมันฆ่าตาย'
เขาหยิบมีดขึ้นพร้อมต่อสู้
"นี่มัน.."
แต่จู่ๆเขาก็เห็นตัวเลขบางอย่างลอยขึ้นเหนือตัวของอสูรวัวคอขาด "1,350" ??
ตามความทรงจำของเขานี่คือพลังรวม มันคือการวัดค่าความแข็งแกร่งออกมาเป็นตัวเลขนั่นเอง
อีกฝากนึงของท้อระบายน้ำ เหล่าสัตว์อสูรอัปลักษณ์มากมายที่ได้สัมผัสถึงพลังงานจากคลื่นกระเพื่อม
ณ บัดนี้ เหล่าตัวตนที่หิวกระหายกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดกำเนิดของพลังงานนี้กันอย่างวุ่นวาย
ภายในตัวเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นชั่งไม่ต่างอะไรกันมากนัก เพียงแต่ว่าพวกอสูรนั้นมีแต่พวกที่ตัวใหญ่กว่าฝาท้อระบายน้ำกันทั้งนั้น ก็เลยไม่มีอสูรตนใดผ่านเขาไปได้
แต่แล้วก็มีสัตว์อสูรบางตัวที่แข็งแกร่งทำการทุบแหลกพื้นที่บริเวณนั้นจนเหล่าอสูรทั้งหมดต่างพากันวิ่งกรูเขาไปในท้อระบายน้ำแห่งนั้นกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย
มันไม่ได้เกิดแค่ตรงปากท้อระบายน้ำที่นี้แห่งเดียวเท่านั้น แต่มันยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกนับสิบแห่งภายในตัวเมือง...
เขาจะรับมือกับอสูรวัวคอขาดนั้นได้หรือไม่!?
ตัวเลขเหล่านั้นจะช่วยเขาได้ไหม?
แล้วเขาจะรอดจากกองทัพอสูรได้อย่างไร!?
ตอนที่3อสูรผู้หิวโหย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments