สัญญาลูกหนี้ที่รัก
จดหมาย
*คุณนายจำปา คุณเอนก คุณสองคนได้เป็นหนี้ไร่งามตาเป็นจำนวน 10ล้าน ในสัญญาได้ลงนามไว้ว่าพวกคุณทั้งสองต้องใช้หนี้ให้ทางเราหรือไม่ก็ส่งลูกสาวของคุณให้มาแต่งงานกับลูกชายของเรา แจ้งมาเพื่อทราบ คุณหญิงเอ็มอร*
จดหมายที่อยู่ในมือของจำปาได้เขียนเอาไว้ว่า เธอต้องการเงิน10ล้านคืนหรือไม่ก็ส่งลูกสาวให้มาแต่งงานเพื่อใช้หนี้แทน เมื่อจำปาและเอนกเห็นแบบนั้นต่างก็ขมวดคิ้วทำหน้าเครียดก่อนจะหันไปมองลูกสาวที่ตอนนี้นั่งเล่นโทรศัพท์ปากแดงอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ มีอะไรคะคุณพ่อคุณแม่ มองแจงทำไมคะ “ แจงหญิงสาวที่ไม่ทำมาหากินอะไรวันๆเอาแต่แต่งตัวแล้วก็เที่ยวไปวันๆไม่สนว่าพ่อแม่จะเป็นยังไง ที่เธอสนคือกิน ขี้ ปี๊ นอน แล้วก็เที่ยวสนุกเท่านั้น จำปาและก็เอนกเมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็หันมองกันก่อนจะเดินเข้ามาหาลูกสาว ด้วยรอยยิ้ม
“ แจง…แจงลูกรักของแม่….” จำปาเดินเข้ามาหาลูกสาว พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเจ้าเล่ห์ แจงที่รู้อยู่แล้วว่าแม่ของเธอถ้าเข้าหาเธอแบบนี้หมายความว่าต้องการอะไรบางอย่างจากเธอ
“ มีอะไรก็ว่ามาคะอย่ามารวดราย “ แจงที่รู้ทันเธอก็พูดดักคอของคนเป็นแม่ทันทีด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเพราะมันเสียเวลาที่เธอต้องแชทกับหนุ่มๆที่เธอนัดกันไปกินตับคืนนี้
“ แจงคือว่าแม่เป็นหนี้ ป้าเอ็มอรลูกจำคุณป้าเอ็มอรได้ไหมลูก “ จำปาพูดเกิ่นกับคนเป็นลูกก่อนเรื่องหนี้ เรื่องหนี้สินแจงก็รู้อยู่แล้วว่าแม่ของเธอเป็นหนี้กับป้าเอ็มอรเจ้าของไร่ข่้าวที่ต่างจังหวัด
“ อื้ม แล้ว…” แจงเธอพูดแค่นั้นแต่ดูท่าแล้วแธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไม่ใช่แค่ไม่สนใจแถมเธอยังมานั่งพิมพ์กับผู้ชายต่อ จำปาที่เห็นว่าลูกสาวไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วอีกอย่างเรื่องหนี้สินก็สำคัญเพราะทุกคนที่จังหวัด…รู้กันดีว่าเอ็มอรเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น ถ้าไม่ทำเธอไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าทำเธอรับรองว่าเรื่องนี้งานช้างสุรินแน่
“ คุณป้าเอ็มอรเขาอยากได้ลูกไปแต่งงานกับลูกชายเขานะลูก “ จำปาตัดสินใจพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แจงเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอที่นั่งแชทอยู่กับผู้ชายเธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เอาแต่ใจทันที
“ ไม่คะ คุณแม่ใครจะไปแต่งงานกับไอ้บอดนั้นคะแล้วอีกอย่างแม่กับคุณพ่อเป็นหนี้ ไม่ใช่หนู // ไม่รู้ละเรื่องนี้คุณพ่อกับคุณแม่รับผิดชอบกันเองอย่าเอาหนูไปเกี่ยวด้วย “ แจงเธอตวาดใส่หน้าแม่แล้วก็ทำท่าจะเดินสบัดตูดออกไปแต่ก็ต้อหยุดแค่นั้นเมื่อ พิกุลที่เพิ่งเลิกเรียนกลับมา
“ สวัสดีคะคุณลุงคุณป้า พี่แจง “ พิกุลที่เพิ่งเลิกเรียนกลับมาเมื่อเห็นสามคนพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันอย่างเป็นปกติเธอก็ไหว้ แล้วก็ทำท่าจะเดินไปที่ห้องของตัวเองที่ถูกย้ายให้มาอยู่ข้างล่าง ทั้งที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านพ่อกับแม่ของเธอ จำปา เอนก และก็แจงเมื่อเห็นพิกุลที่เดินเข้ามาทั้งสามก็หันมามองหน้ากันอย่างกับนัดกันมา พร้อมกับทำสีหน้าท่าทางดีใจพร้อมๆกัน พิกุลเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกขนลุกอย่างแปลกๆเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่สามคนพ่อแม่ลูกทำท่าแบบนี้งานเข้าเธอแน่ พิกุลที่เห็นแบบนั้นเธอก็ทำท่าจะเดินเข้าไปที่ห้องของเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าจะได้มาทำงานบ้าน อย่างปกติ แต่ไม่ทันที่เธอจะก้าวขาออกจากที่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ อยู่ๆเสียงของแจงก็ดังขึ้นมาทันที
“ พิกุล….พิกุล พิกุลน้องพี่ พี่มีเรื่องอยากคุยกับพิกุลหน่อยนะจ๊ะ “ แจงเธอหันมองพ่อกับแม่ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์จากนั้นเธอก็เดินเข้ามากอดคอของพิกุลให้เดินมานั่งที่โซฟา จำปา เอนกที่เห็นแบบนั้นทั้งคู่ก็เดินตามมาด้วย จากนั้นทั้งสามก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินให้หญิงสาวฟังทั้งน้ำตาจระเข้ของพวกเขาที่ทำแบบนี้อยู่ตลอดเวลาอยากให้พิกุลช่วยทำอะไรให้ พิกุลที่รู้ทันเมื่อเธอเห็นแบบนั้นเธอก็ได้แต่ยิ้มแหยๆส่งให้เท่านั้น
“ คุณป้าคะพิกุลช่วยคุณป้าคุณลุง พี่แจงได้จริงๆเหรอคะ คุณป้าเอ็มอรอะไรนั้นไม่เคยเห็นหน้าหนูเลยนะคะ แล้วอีกอย่างที่ให้หนูไปทำงานที่นั้นใช้หนี้ให้คุณป้า ทางนู่นเขาจะให้เงินเดือนหนูด้วยเหรอคะ “ พิกุล ทีี่เห็นว่าผู้ปกครองของเธอมีปัญหาเธอที่อยากออกจากบ้านหลังนี้อยู่แล้วเพราะช่วงนี้ปิดเทรอมเธอก็อยากไปหางานทำ เมื่อได้ยินว่า ไร่งามตา ต้องการให้จำปาไปใช้หนี้ เธอก็เลยรู้สึกสนใจเพราะเธอเรียนเกี่ยวกับการเกษตรอยู่แล้วเธอก็เลยอยากไปหาความรู้อยู่ที่นั้นพอดี แต่ด้วยความที่จำปาไม่กล้าบอกว่าจะเอาพิกุลไปขายให้กับลูกชายของเอ็มอรที่เป็นคนตาบอด ทั้งสามกลัวว่าเธอจะไม่ยอมไปที่นั้น เมื่อเธอเห็นหน้าของหลานสาวดูไม่มีปัญหาเธอก็เลยพูดเสริมไปอีกว่า
“ รับสิลูก ทำไมจะไม่รับละแล้วอีกอย่างหนูก็เรียนเรื่องการทำเกษตรด้วยนี้ลูก เห็นไหมหนูมีแต่ได้กับได้นะลูก “ จำปารีบพูดเสริมทัพเอาเรื่องเรียนของพิกุลมาพูดเพื่อที่จะทำให้เด็กสาวยอมไปแล้วก็พูดให้เธอเห็นภาพว่าไร่งามตาทั้งสวยและก็ร่มรื่น อย่างกะในโทรทัศน์ แจงที่กลัวว่าน้องสาวจะไม่เชื่อเธอก็เอารูปไร่งามตาที่อยู่ในกูเกิลให้ดูทันที เมื่อพิกุลเห็นรูปเธอก็ทำสีหน้าท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่าสวยมาก แต่นั้นเธอยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลยว่าการไปครั้งนี้อาจเปลี่ยนชีวิตของเธอทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้
ไร่งามตา
“ ตานนท์ ลูกจะออกไปไหนอีกละลูกไม่กินข้าวก่อนแล้วค่อยไป “ คุณหญิงเอ็มอร ถามผู้เป็นลูกชายออกมาว่าทำไมไม่ทานข้าวก่อน เพราะเธอเห็นแต่ลูกชายวันๆคลุกอยู่แต่ไร่ แต่สวน นับตั้งแต่นนท์ผ่าตัดตามาเขาก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน แล้วก็ใช่ชีวิตอยู่แต่กับไร่นา วันๆเขาไม่สนใจผู้หญิงหรือว่าลูกสาวของเพื่อนๆเธอเลย ไม่ว่าจะแนะนำใครให้ลูกชายรู้จัก นนท์ก็ไม่เคยสนใจอะไรเลย นอกจากพูดแต่เรื่องนาข้าว และก็ปุ๋ยหมัก ควาย เท่านั้น สาวๆที่จบมาจากที่ดีๆเมืองนอกเมืองนา มาเมื่อเห็นนนท์ที่หน้าตาหล่อผิวพรรณดีอย่างกับไม่เคยโดนแดดมาเลย ถ้าลูกชายเขาไม่มาสนใจทางนี้ คุณหญิงเอ็มอรก็กระว่าจะเอาลูกไปเป็นดาราแต่เคราะห์กรรมกับเล่นตลกเมื่ออยู่ๆสารเคมีที่คู่แข่งทางการค้าเอามาใส่ที่นาทำปฏิกิริยากับลูกชายเมื่อลูกชายของเธอ ชอบเอานำจากริมธารที่มาจากบนเขาแล้วไหล่ลงมาที่ไร่ นนท์ชอบเอามาล้างหน้าเวลาที่เขารู้สึกเหนื่อยแล้วก็ร้อน แต่เป็นเพราะครั้งนั้นนั้นเลยทำให้นนท์กลัวการล้างหน้าเป็นอย่างมาก เคราะห์ดีที่สารเคมีไม่ทำลายกระจกตา มันแค่ทำให้ตาอักเสบเท่านั้น และนั้นก็เป็นภาพติดตาของแจงที่เห็นนนท์เอาผ้าก๊อดปิดตาแล้วชาวบ้านก็ลือกันว่านนท์ตาบอด จากนั้นแจงก็มาอยู่ที่กรุงเทพกับพ่อแม่เธอ
“ ไม่ละครับ ผมจะไปกินกับคนงานที่ไร่แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ “ นนท์พูดจบเขาก็ยิ้มหวานส่งให้คนเป็นแม่ก่อนจะใส่หมวกแล้วก็เดินลงมาจากบ้านมาที่รถจิ๊บคันเก่าๆของเขาแล้วขับออกไปดูไร่ข้าว ตามปกติของเขา
ตื้ด….ตื้ด….ตื้ด
“ จำปา “ เอ็มอรเมื่อยิ้มอย่างเอ็นดูลูกเธอก็ต้องหันมาสนใจเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนรักทันที ด้วยความรู้สึกดีใจ เพราะตั้งแต่จำปากับสามีและก็ลูกจากไปพวกเะอก็ไม่เคยได้ยินข่าวเลย พอเธอเห็นโทรศัพท์ว่าเป็นเบอร์ของจำปาเท่านั้นแหละคุณหญิงเอ็มอรถึงกับดีใจเป็นอย่างมาก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 41
Comments