บทที่ 3: ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 3-4

ตอนที่ 3: แมตช์แห่งมิตรภาพ

เสียงกลองดังก้องกังวานทั่วสนาม เสียงเชียร์ของผู้ชมคละคลุ้งไปกับความร้อนระอุจากลาวาที่ล้อมรอบสนามประลอง ทุกสายตาจับจ้องไปยังสองนักสู้ที่ยืนประจันหน้ากันตรงกลางลานหินอัคนี อาคิระ เด็กหนุ่มจากต่างโลกที่ผ่านศึกหนักมาอย่างยากลำบาก และ ดราโก้ ดัสท์ฟลาร์ค ชายหนุ่มผู้มีชื่อเสียงพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือที่เก่งกาจในช่วงไม่กี่การประลองที่ผ่านมา

ดราโก้ยืนเด่นเป็นสง่า ดวงตาสีแดงราวถ่านเพลิงจ้องมองมาที่อาคิระราวกับจะทดสอบความแข็งแกร่งของเขา เสื้อเกราะหนังสีน้ำตาลเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีตเผยให้เห็นร่างกายกำยำทรงพลัง กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาราวกับถูกสร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะ ปลายแขนทั้งสองข้างมีเกราะหนา แต่ไม่มีอาวุธใดติดตัว มือเปล่าของเขาถูกขยับอย่างสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยแรงกดดันรุนแรงราวกับนักมวยไทยที่พร้อมจะปล่อยท่วงท่าเด็ดทุกเมื่อ

“ดูเหมือนเจ้าจะทนแรงกดดันจากรอบที่แล้วมาได้…เก่งมาก” ดราโก้กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ แต่หนักแน่นราวกับเปลวไฟใต้ภูเขา “แต่เจ้ารู้ใช่ไหม ว่าการประลองครั้งนี้จะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา”

อาคิระสูดลมหายใจลึก ยืนหยัดมั่นคง แม้จะมีเหงื่อซึมอยู่ที่ขมับจากความร้อนและความกดดันตรงหน้า แต่ในแววตาของเขาก็ยังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น “ฉันไม่คิดว่ามันจะง่ายอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่ถอยเหมือนกัน”

ดราโก้ยิ้มมุมปาก ดวงตาเปล่งประกายวาววับราวกับยอมรับความกล้าหาญของคู่ต่อสู้ตรงหน้า “ข้าชอบคนที่ไม่ยอมแพ้…” เขาพูดก่อนจะเข้าสู่ท่าพร้อมรบ มือยกขึ้นตั้งการ์ด สองเท้าก้าวย่อเล็กน้อย ท่าทางของเขาคล้ายกับท่ายืนของนักมวยไทยที่แข็งแกร่งและหนักแน่น

เสียงกลองสามครั้งดังขึ้น

ทันทีที่เสียงกลองเงียบ ดราโก้พุ่งเข้าหาอาคิระด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ เท้าของเขาตวัดไปที่ด้านข้าง อาคิระเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่แรงลมจากการเตะกลับทำให้เขาเสียหลัก

“เร็วเป็นบ้า!” อาคิระพึมพำ ก่อนจะตั้งสติกลับมาตั้งท่ารับการโจมตีต่อไป

ดราโก้ไม่ปล่อยให้มีเวลาหยุดพัก หมัดขวาที่เปี่ยมด้วยพลังพุ่งเข้าหาใบหน้าของอาคิระอย่างฉับไว อาคิระยกแขนขึ้นรับ แต่แรงหมัดนั้นกลับทำให้เขาถอยหลังไปสองก้าว

“รับมือได้แค่นี้เหรอ?” ดราโก้เอ่ยพลางก้าวตามติดอย่างไม่ให้พักหายใจ เขาเปลี่ยนจากหมัดเป็นศอกพุ่งเข้าหาเป้าหมายทันที

“ไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมแพ้!” อาคิระตะโกนออกมา เขาใช้จังหวะที่ศอกของดราโก้เข้าประชิด เบี่ยงตัวหลบพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปในระยะประชิด หมัดของเขาแทงสวนไปที่ลำตัวของดราโก้อย่างเต็มแรง

ดราโก้รับแรงหมัดนั้นไปเต็ม ๆ แต่กลับไม่สะทกสะท้าน “ดีขึ้น… แต่แรงยังไม่พอ!”

เขาจับไหล่อาคิระไว้แน่น ก่อนจะใช้หัวเข่าพุ่งกระแทกเข้าที่ท้อง อาคิระเบี่ยงตัวหลบทันเวลา แต่แรงเสียดจากการโจมตีนั้นทำให้เขาเซถอยไป

เสียงเชียร์จากผู้ชมดังกระหึ่มทั่วสนาม บรรยากาศร้อนระอุยิ่งขึ้นเมื่อทั้งสองแลกเปลี่ยนการโจมตีอย่างดุเดือด การโจมตีของดราโก้ดูหนักแน่นและช่ำชองราวกับมวยไทยที่ถูกฝึกฝนมาอย่างสมบูรณ์แบบ เขาใช้หมัด ศอก เข่า และเท้า โจมตีอาคิระอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อาคิระใช้ความคล่องตัวและเทคนิคที่เขาเคยฝึกมาในการหลบหลีกและสวนกลับ

“เจ้านี่มีเทคนิคดีใช้ได้… แต่เมื่อยืนระยะนาน ๆ เจ้าไม่มีทางสู้ข้าได้” ดราโก้กล่าวพลางโจมตีอย่างไม่ยั้ง

อาคิระหายใจหอบเล็กน้อย แต่ในแววตาของเขายังไม่มีแววถอดใจ “แรงของนายกดดันฉันจริง ๆ แต่ฉันเคยเจออะไรที่หนักกว่านี้มาแล้ว!”

อาคิระเริ่มใช้ “เพลงดาบดาว” แบบมือเปล่าของเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาเคลื่อนไหวเป็นวงกว้าง หลบการโจมตีที่ดุดันของดราโก้ได้มากขึ้น พร้อมกับแทงหมัดสวนในจังหวะที่อีกฝ่ายเปิดช่องว่าง เสียงหมัดปะทะเข้ากับร่างดราโก้ดัง “ปั้ก!” หลายครั้ง แต่ดราโก้ก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง

“เจ้ากล้าหาญมาก ชื่ออาคิระ สินะ…” ดราโก้พูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม ก่อนจะเข้าสู่ท่วงท่าที่หนักหน่วงกว่าเดิม “แต่ถึงเวลาจบแล้ว!”

ดราโก้พุ่งเข้าหาอีกครั้ง คราวนี้การโจมตีของเขาเร็วและหนักหน่วงราวกับพายุ อาคิระพยายามหลบและรับมือสุดความสามารถ แต่ในที่สุด หมัดขวาของดราโก้ก็พุ่งเข้าใส่เขาเต็มแรง

เสียงของฝูงชนเงียบลงไปครู่หนึ่ง อาคิระล้มลงกับพื้น หอบหายใจหนัก เลือดซึมออกจากมุมปาก แต่เขายังไม่ลุก

“เจ้าควรยอมแพ้ได้แล้ว…” ดราโก้กล่าวเสียงเรียบ แต่แฝงความห่วงใย

อาคิระกัดฟัน ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล “ฉันไม่ยอมแพ้…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง และมองตรงไปที่ดราโก้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ดราโก้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “ดี… เจ้าชนะใจข้าแล้ว”

ผู้ชมในสนามเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่เสียงเชียร์จะดังขึ้นดังกว่าครั้งไหน ๆ

“แมตช์นี้มันสุดยอดที่สุดเลย!” เสียงจากผู้ชมตะโกนดังลั่น

กรรมการประกาศชัยชนะให้กับดราโก้ แต่เสียงปรบมือกลับดังขึ้นให้กับทั้งสองคน

ดราโก้ยื่นมือไปหาอาคิระเพื่อพยุงเขาขึ้น “เจ้าทำได้ดีมาก อาคิระ ข้ายอมรับเจ้าแล้ว”

อาคิระจับมือดราโก้แน่น พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ครั้งหน้าฉันจะไม่แพ้นายอีกแน่”

ดราโก้หัวเราะเบา ๆ “ข้าจะรอวันนั้น”

และนี่คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่แข็งแกร่งท่ามกลางสนามประลอง การต่อสู้อันดุเดือดของทั้งสองคนไม่ได้สร้างเพียงชื่อเสียง แต่ยังสร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ได้ชมการประลองครั้งนี้…

ตอนที่ 4: ภารกิจแบบไม่ตั้งตัว

หลังจากการประลองจบลง ตลาดกลางเมืองดราเคนยังคงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้คนจับจ่ายใช้สอย ท่ามกลางเสียงหัวเราะและบรรยากาศคึกคักที่ไม่ต่างกับกับหัวใจของอาคิระ เขาเดินทอดน่องกลับที่พัก ขณะที่หัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะจากการประลองสุดดุเดือดกับ ดราโก้ ดัสท์ฟลาร์ค

ยูเอะเดินตามอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอยังคงมีแววตื่นเต้น “พี่อาคิระ! ยูเอะว่าเมื่อกี้ตอนพี่ต่อยเขาแล้วเขาไม่สะเทือนเลย มันน่าทึ่งมากเลยค่ะ!”

“อือ…” อาคิระตอบพลางยิ้มแห้งๆ “น่าทึ่ง…สำหรับเขา แต่พี่นี่สิ เจ็บไปทั้งตัว”

ยูเอะหัวเราะเบาๆ “แต่มันสนุกมากเลยนะคะ! พี่สู้เก่งขนาดนี้ยังทำให้ยูเอะตกใจหลายครั้งเลย!”

ในใจเขายังรู้สึกถึงหมัดที่หนักแน่นราวกับหินผา และการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมคล้ายมวยไทยที่ดราโก้แสดงให้เห็น แม้จะพ่ายแพ้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อาคิระรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่เติบโตขึ้นในใจ

“หมอนั่น…สุดยอดจริง ๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง

“พูดถึงฉันอยู่เหรอ?”

เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้อาคิระและยูเอะชะงักก่อนจะหันกลับไป เห็นดราโก้ยืนอยู่ ใบหน้าที่สงบนิ่งของเขามีรอยยิ้มบาง ๆ ประดับไว้

“นายอีกแล้ว?” อาคิระขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรือว่านายตามมาหาเรื่อง? อย่าบอกนะว่านายจะลากฉันไปซ้อมรอบสอง”

ยูเอะรีบเข้ามายืนข้างพี่ชาย เธอจ้องดราโก้ด้วยสายตาที่ระแวดระวัง “อย่าบอกนะคะว่าคุณตั้งใจจะเอาคืนพี่อาคิระ!”

ดราโก้หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ “ไม่หรอก ฉันไม่ได้มาหาเรื่อง แต่ฉันมีบางอย่างอยากพูดกับนาย”

“หือ? อะไรล่ะ?” อาคิระเลิกคิ้ว พลางมองเขาอย่างสงสัย

ดราโก้ยืนนิ่งสักพัก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “จะว่าไปก็แปลกนะ…”

“แปลกอะไร?”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สู้กับใครสักคนแล้วรู้สึกสนุกแบบนี้” ดราโก้เงยหน้าขึ้นมองฟ้า “ฉันฝึกหนักมาตลอด อยู่แต่กับการเก็บตัว ไม่มีใครกล้าสู้กับฉันจริงจังสักคน จนกระทั่งมาเจอนาย”

คำพูดนั้นทำให้อาคิระชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เดี๋ยวนะ นายกำลังบอกว่าฉันทำให้นายสนุกอย่างนั้นเหรอ?”

ยูเอะมองหน้าดราโก้ ก่อนจะพูดเสริม “พี่อาคิระน่ะ ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรอกค่ะ!” เธอหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาเปี่ยมความเชื่อมั่น

ดราโก้ยิ้มมุมปากเล็ก ๆ “ก็นายไม่ยอมแพ้เลยนี่ ไม่ว่าฉันจะเล่นงานไปแรงแค่ไหน นายก็ยังลุกขึ้นมาสู้ต่อ มันทำให้ฉันนึกขึ้นได้…” เขาหันมามองอาคิระตรง ๆ ด้วยสายตาที่จริงจัง “บางทีการมีคู่แข่งที่ดี มันก็ไม่เลวเลยใช่ไหม?”

อาคิระนิ่งไป มองใบหน้าที่แฝงไปด้วยความจริงใจตรงหน้า เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะยื่นมือออกไป “งั้น…ก็ยินดีด้วย นายมีคู่แข่งคนแรกแล้วล่ะ”

ยูเอะยิ้มตาม “แล้วคู่แข่งของคุณคนนี้ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากด้วยนะคะ!”

ไม่นานหลังจากนั้น ดราโก้พาอาคิระและยูเอะไปยังลานกว้างท้ายเมือง ซึ่งเป็นที่ประลองและฝึกซ้อมของเหล่านักสู้ชั้นนำ ลานแห่งนี้เงียบกว่าปกติ มีเพียงแสงสีส้มแดงจากลาวาที่ส่องประกายอยู่รอบ ๆ ที่ใจกลางลาน

“คุณจะพาเราไปที่ไหนกันแน่คะ?” ยูเอะถามด้วยน้ำเสียงระแวดระวัง เธอเดินตามพี่ชายไปติด ๆ ดวงตาเล็ก ๆ ของเธอกวาดมองรอบลานด้วยความสงสัย

“รออีกหน่อย” ดราโก้ตอบ น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง แต่แฝงความคาดหวังบางอย่างไว้

ทันใดนั้น ความร้อนมหาศาลแผ่ซ่านออกมาจากใจกลางวงเวียน เปลวไฟสีส้มทองลุกโชนขึ้นพร้อมกับเสียงกระพือปีกที่ดังก้องกังวาน จากท้องฟ้ามืดมิดเบื้องหลัง เงาของสิ่งมีชีวิตมหึมาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นกลางเปลวเพลิง

ร่างของ อิกนิส อินเฟอร์โนส สูงสง่าและน่าเกรงขาม ผิวของเขาเป็นสีเทาเข้ม ตัดกับลวดลายเปลวไฟที่ส่องแสงเรืองรองไล่ไปตามลำตัวราวกับลาวาที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนัง เส้นผมสีขาวบริสุทธิ์ของเขาปลิวไสวราวกับถูกลมจากเปลวเพลิงพัดให้ลุกโชติช่วง เขามีดวงตาสีส้มเพลิงที่ส่องประกายราวกับถ่านไฟที่ลุกไหม้

เขายืนเด่นด้วยปีกขนาดมหึมาที่เหมือนถูกสานจากเปลวเพลิง ปลายเขาที่โค้งงอเหนือศีรษะเหมือนของมังกร ตอกย้ำพลังอันยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขามของผู้พิทักษ์แห่งเพลิง

ยูเอะเบิกตากว้างก่อนจะหลบหลังพี่ชาย “พี่อาคิระ…นั่นมัน…มังกรเหรอคะ!?”

อาคิระเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลจากร่างของอิกนิส แม้จะพยายามทำใจให้สงบ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อซึม “ดูเหมือนจะใช่นะ…”

“ข้าคือ อิกนิส อินเฟอร์โนส ผู้พิทักษ์แห่งเปลวไฟ” เสียงของเขาดังกึกก้อง อบอวลไปด้วยพลังและแรงกดดันมหาศาล “เจ้า…คือผู้ที่ถูกเลือกให้ร่วมทางไปกับดราโก้ใช่หรือไม่?”

“เดี๋ยวๆ ฉันเหรอ?” อาคิระชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“ใช่ เจ้าคือคนที่ถูกเลือก และดราโก้จะเป็นเพื่อนร่วมทางของเจ้า”

“นี่มันอะไรกัน!?” ยูเอะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “แล้วหนูล่ะคะ? พวกเขาไม่ได้หมายถึงให้หนูไปด้วยเหรอ?”

อิกนิสมองยูเอะด้วยสายตาลึกซึ้ง เขาโน้มตัวลงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก “เจ้าคือแสงสว่างที่ส่องทางในความมืด แม้เจ้าจะยังไม่เข้าใจบทบาทของตนเอง แต่เจ้า…มีความสำคัญต่อภารกิจนี้มากกว่าที่เจ้าคิด”

คำพูดนั้นทำให้ยูเอะนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ถ้างั้น…หนูก็จะช่วยพี่อาคิระให้ได้ค่ะ!”

ดราโก้ยิ้มมุมปาก “ฉันรู้อยู่แล้วว่าพวกนายทั้งสองมีศักยภาพที่จะทำได้”

แม้จะรู้สึกสับสน แต่สายตาของดราโก้และคำพูดของอิกนิสกลับทำให้อาคิระรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เพิ่มขึ้นในใจ เขาเงยหน้าขึ้น มองตรงไปยังมังกรเพลิงที่ยืนสง่าผ่าเผยอยู่เบื้องหน้า

“ก็ได้ ฉันจะไป” อาคิระกล่าวเสียงหนักแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“การเดินทางของพวกเจ้าจะนำไปสู่ ภูเขาไฟสุริยะคำราม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยพลังอัคคีแห่งดราเคน แต่ตอนนี้ได้ถูก บาปแห่งความโกรธ ครอบงำเอาไว้” อิกนิสประกาศ เสียงของเขาก้องสะท้อนไปทั่วห้องโถง ลำแสงสีส้มทองแผ่จากปลายมือของเขาเข้าหาทั้งสามคนอย่างช้า ๆ

“ข้าขอมอบ พรแห่งอัคคีสุริยะ ให้แก่พวกเจ้า” เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่โปร่งแสงห่อหุ้มร่างของอาคิระ ดราโก้ และยูเอะ ความร้อนระอุรอบตัวค่อย ๆ เบาบางลง พลังนี้ซึมลึกเข้าสู่ร่างกายราวกับโล่คุ้มครองบางเบา

ยูเอะมองมือของเธอที่เรืองแสงอ่อน ๆ “มันอบอุ่น…เหมือนแสงอาทิตย์เลยค่ะ” เธอกระซิบพลางยิ้มบาง ๆ ให้กับพี่อาคิระ

ดราโก้ขยับกำปั้นของเขา เบาใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยในพลังนี้ “นี่แหละ พลังที่คู่ควรสำหรับการเดินทางของพวกเรา”

อาคิระมองทั้งสองคน ก่อนจะหันไปสบตากับอิกนิส “พวกเราจะทำให้ดีที่สุด” เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น

มังกรเพลิงพยักหน้า ดวงตาสีเพลิงของเขาแฝงด้วยความภูมิใจ “จงมุ่งหน้าไปยังภูเขาไฟสุริยะคำราม และขอให้เปลวเพลิงแห่งความมุ่งมั่นของพวกเจ้าแผดเผาความมืดที่รออยู่เบื้องหน้า”

ทั้งสามหันมามองหน้ากัน อาคิระพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ไปกันเถอะ”

ยูเอะพยักหน้าตาม “ค่ะ พี่อาคิระ”

ดราโก้เดินนำหน้าไป “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น…แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเราทำได้”

ทั้งสามก้าวเดินเข้าสู่เส้นทางใหม่ พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง…

เลือกตอน
1 บทที่ 1: จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 1 - 3
2 บทที่ 1 จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 4
3 บทที่ 1 จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 5 - 6
4 บทที่ 1: จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 7 - 8
5 บทที่ 2 โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 1-2
6 บทที่ 2: โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 3-5
7 บทที่ 2 :โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 6-8
8 บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 1-2
9 บทที่ 3: ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 3-4
10 บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 5-6
11 บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 7-8
12 บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 9-11
13 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 1
14 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 2
15 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 3-4
16 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 5
17 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 6
18 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 7
19 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 8-9
20 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 10
21 บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 11
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 21

1
บทที่ 1: จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 1 - 3
2
บทที่ 1 จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 4
3
บทที่ 1 จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 5 - 6
4
บทที่ 1: จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 7 - 8
5
บทที่ 2 โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 1-2
6
บทที่ 2: โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 3-5
7
บทที่ 2 :โลกที่ไม่รู้จัก ตอนที่ 6-8
8
บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 1-2
9
บทที่ 3: ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 3-4
10
บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 5-6
11
บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 7-8
12
บทที่ 3 ดินแดนแห่งเปลวไฟ ตอนที่ 9-11
13
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 1
14
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 2
15
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 3-4
16
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 5
17
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 6
18
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 7
19
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 8-9
20
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 10
21
บทที่ 4 ดินแดนแห่งอันดีน ตอนที่ 11

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!