(Daybreak) Afternoon Is Rainy #ชั่วโมงเกือบรัก

(Daybreak) Afternoon Is Rainy #ชั่วโมงเกือบรัก

1st afternoon | Tempest and Clear Sky

                                                                                                  01

 

 

 

 

 

Storm_rider07

 

มันเป็นตอนบ่ายสามของวันอังคารที่ผมกับกลุ่มเพื่อนกำลังนั่งอ่านข่าวมหาวิทยาลัยผ่านเพจประชาสัมพันธ์ชื่อดัง

และเรื่องมันควรจะดีกว่านี้ถ้าเราสามารถจองห้องเวิร์คกิ้งสเปซที่ประจำในหอสมุดได้ทันเพื่อหลบอากาศร้อนนรกแตก  คือมันร้อนฉิบหายเลยว่ะคุณ

ร้อนจนคิดว่านรกถูกย้ายขึ้นมาอยู่บนดิน ส่วนโลกของกูก็ถูกสลับไปอยู่ในนรกแทน

“รันวงการมากค่ะ

อดีตเดือนมหาลัยกำลังทำแคมเปญเปิดหมวกเล่นดนตรีเพื่อนำเงินไปสมทบทุนให้กับชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”

แล้วก็...เรื่องมันคงจะดีกว่านี้ถ้าตำแหน่งอดีตเดือนมหาลัยที่ว่านั่น…

“สร้างภาพสัด”

เป็นของผม!

“เนี่ย แอดมินเพจแอนตี้”

“ก็ไม่ได้เกลียดอะไร แค่ถ้ามันตกท่อ กูก็คือคนผลัก”

สวัสดีผมชื่อพายุ พายุเหมือนไอ้พายุเรื่องก่อนหน้านั่นแหละ

เพียงแค่ผมเป็นมันในโลกคู่ขนาน ส่วนมันก็เป็นผมในโลกคู่ขนาน

ถึงจะเป็นพายุเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่เหมือนกันเลยซักนิด

เราต่างกันสุดขั้ว ทั้งนิสัย การใช้ชีวิต มุมมองหรือทัศนคติต่อสิ่งต่างๆ

จะมีก็พวกเซ็ตติ้ง รวมถึงบริบทของทั้งสองโลก ไม่สิ...ต้องทั้งสามโลก ทั้งหมดถูกเซ็ตให้มีตัวละครเหมือนกัน

มีคนรอบข้างชุดเดียวกัน

ทว่าสุดท้ายตัวละครเหล่านั้นก็จะดำเนินชีวิตโดยใช้ลักษณะของตนเอง

เหมือนอย่างผม ที่พอคุณค่อยๆอ่านไปก็จะรู้ว่ากูโคตรไม่เหมือนไอ้ไม่หล่อสองคนนั่นหรอก

และนั่นก็เป็นทฤษฏีที่ไซโคลนเคยบอกเอาไว้เมื่อนานมากๆ อ้อ...คุณคงจะงง

งั้นเอางี้ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายถ้าไม่อยากย้อนกลับไปอ่านเรื่องของไต้ฝุ่น

คืองี้ ผมเป็นโรค

ไม่สิ...เรียกว่ามีความสามารถพิเศษจะดีกว่า คล้ายๆเอ็กซ์เม็นล่ะมั้ง คือผมสามารถสื่อสารกับตัวตนในโลกคู่ขนานได้

คุยกันได้เหมือนเพื่อนเลย แต่ไม่ใช่อยากคุยตอนไหนก็คุยได้นะ

มันต้องรอให้จังหวะที่จิตซิงค์กัน อย่างเช่นตอนเงียบๆ

หรือไม่ก็ตอนที่พิกัดเวลาทับซ้อนกันพอดีเป๊ะๆ

จิตผมซิงค์กับพายุอีกสองคนที่อยู่คนละมิติ

มันเกิดขึ้นครั้งแรกในตอนวันเกิดอายุครบสิบเจ็ด ทีแรกกูนึกว่ากูเป็นบ้าครับ

ต้องใช้เวลาอยู่นานถึงจะหาคำตอบได้ว่าสิ่งที่กำลังเจออยู่คืออะไร

พายุคนที่มีสติที่สุดคนหนึ่งจึงเสนอให้เราตั้งชื่อเรียกเพื่อป้องกันความสับสน

คือเราต่างไม่รู้ว่าจิตจะเลิกซิงค์กันเมื่อไหร่ เพราะงั้นเป็นเพื่อนกันไว้น่าจะดีกว่า

เผื่อบังเอิญซิงค์กันขึ้นมาจะได้ไม่งง

ไต้ฝุ่น

ไซโคลน

แล้วก็ผม...สตอร์ม

ส่วนจะสะดวกเรียกผมว่าสตอร์มหรือพายุก็แล้วแต่จ้า

เพราะตอนนี้เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรในการใช้ชีวิตเพราะสิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆสำหรับกูก็คือ...ไอ้เหี้ยนั่น!

“ต่อยเลยมั้ยสัด ยกพวกไปถล่มงานมัน เหมือนตอนปีหนึ่งอะ”

“เอาตีนคิดหรือเปล่าเอ่ย

ถ้ายกไปอีกรอบครั้งนี้ไม่โดนแล้วนะคะทัณฑ์บน อธิการจะไล่มึงออกแทน”

โอเค เพื่อให้เรื่องมันสมูธอ่านกันยาวๆอีกต่อ

ผมจะแนะนำตัวละครทั้งหมดทีเดียวแม่งเลย ขี้เกียจแบ่งไปเล่าหลายๆตอนเหมือนไอ้ฝุ่นด้วย

ไม่รู้เป็นห่าอะไร ชอบทำเรื่องซับซ้อน ใครเขาก็ต้องการความชัดเจนและฟีลกู๊ดโว้ย

ดราม่าน้ำตาแตกน่ะพักก่อน

“ก็ครั้งนั้นมึงเรียกตำรวจกับยามมาทำแมวไรล่ะเอิ๊ต

ถ้ามึงไม่เรียกอธิการก็ไม่รู้”

คนแรกที่ป่าเถื่อนและกักขฬะที่สุดชื่อลีโอ

พูดอะไรเพราะๆได้ไม่เกินสองคำก็ต้องหลุดความหยาบโลนออกมา หยาบโลนมาจากเนื้อแท้

หยาบโลนโดยกมลสันดาน อย่างตอนปีหนึ่งที่กลุ่มเราเคยทำชาเลนจ์ภาษาดอกไม้ ใครพูดคำหยาบโดนปรับ

ปรากฏว่ามีคนนึงแพ้ภัยตัวเองตั้งแต่สิบนาทีแรก ว้ายๆๆ

“มึงจะนอนคุกกับพี่ตำรวจ

หรือนอนวัดกับเจ้าอาวาสห๊า”

“ปากดีอีสัด”

คนที่สองชื่อเอิ๊ต เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม

นิสัยก็อย่างที่เห็น ห้าวมากๆ ห้าวกว่าผมกับไอ้ลีโอสิบคนรวมกัน ห้าวจนขัดกับลุคสวยเปรี้ยวโคตรนางแบบ

แถมยังไว้ผมยาวตัดหน้าม้าแบ๊วกระชากใจ คือถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนคงมีซักคนในกลุ่มตกหลุมรักมันแหละ

“ถ้ามึงไม่ต่อ เดี๋ยวทางนั้นก็เลิกไปเองน่า”

“ถ้าจะบอกให้กูหยุด บอกให้เด็กแว๊นเลิกบิดมอไซตอนตีหนึ่งยังง่ายกว่า”

คนที่สามคือวาฬ สุภาพ อ่อนโยน

เปี่ยมไปด้วยศีลธรรมและมีน้ำใจ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือหน้าตาดีมาก แต่ขอโทษนะครับ

หล่อน้อยกว่ากูเยอะเลยจ้า อิอิ

“ฟี้...”

ส่วนคนที่สี่ คุณคงไม่ได้เห็นอีกฝ่ายในบทสนทนานี้แน่นอน

เพราะแม่งกำลังคัฟเวอร์เป็นคนตายอยู่ ชื่อไอ้พูห์

พูห์ที่เหมือนหมีพูห์ชอบกินน้ำผึ้งน่ะ นอนเก่ง นอนจนลืมว่ามีมึงเป็นเพื่อนแล้วเนี่ยไอ้สัด

“มันต้องเตรียมรับมือการโดนถล่มงานแน่ๆ

เพราะครั้งที่แล้วมันเล่นมึงไว้เยอะ”

ตัดกลับมายังช่วงเวลาปัจจุบัน ผม ไอ้เอิ๊ต

ไอ้ลีโอแล้วก็ไอ้วาฬกำลังนั่งวางแผนเพื่อทำการแก้แค้นอดีตเดือนมหาวิทยาลัยที่กำลังจะจัดกิจกรรมเปิดหมวดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“ใช่ หลายเดือนก่อนตอนกีฬาเฟรชชี่

แม่งจ้างคนเอาอาหารใส่ยาถ่ายมาให้เด็กปีหนึ่งชมรมเรากิน อีห่าเอ๊ย

สรุปยิงธนูแทบไม่ได้เหรียญอะไรทั้งนั้น เพราะต้องไปขี้ทั้งชมรม

พูดแล้วก็มวลท้องรอเลยจ้ะ”

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นมันวะ” ลีโอถาม

“มึงคะ สายกูน่ะเยอะเป็นปลวก น้องแนนปีหนึ่งนั่นก็เด็กกู

ตามจีบกูเป็นปี หลอกถามแค่นี้ทำไมจะไม่รู้”

“เห้ย มึงสวยอยู่นะเอาจริง”

“แน่นอน” คนพูดสะบัดบ๊อบ

“มึงว่ากูทำแบบมันคืนดีปะ” ผมเสนอ

“มันคงจะให้มึงทำอยู่หรอกค่า งานใหญ่เลยนะ

จัดในนามกองประกวด ความปลอดภัยต้องที่หนึ่งอยู่แล้ว”

“โว้ยยย!! กูเกลียดไอ้เหี้ยภาส!”

ผมบ่นออกมาราวกับภูเขาไฟไมโลใกล้ปะทุ

ความโกรธที่มีต่ออดีตเพื่อนสนิทกัดกินหัวใจจนชักอยากเดินไปหยิบกีต้าร์ฟาดหัวมันแรงๆ

อืม...คุณฟังไม่ผิดหรอก ผมกับบุคคลที่เกลียดกันเข้าไส้แบบนั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทกันเมื่อนานมาแล้ว

แต่เพราะด้วยเหตุการณ์บางอย่างจึงทำให้ไอ้ภาสเกลียดผมยันเงา

เกลียดเหมือนหมา แต่แค่เกลียดคงไม่พอ เพราะแม่งหาทางเล่นงานกูทุกครั้งที่มีโอกาส เจ็บสุดก็ตอนแอบเข้ามาเปลี่ยนอันดับเลือกมหาวิทยาลัยตอนมอหก

เสียดายความสนิทฉิบหาย มันแม่งรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผมอะ ขนาดรหัสเอทีเอ็มยังรู้ เฮ้อ...ดีนะตอนนั้นไอ้วาฬให้ผมเช็คอันดับอีกรอบ

ไม่งั้นกูคงได้ไปเรียนนู่นแหละบนเขา

แต่แรงแค้นของไอ้ภาสยังไม่จบแค่นั้น

มันแอดเข้ามาเรียนบัญชีคณะติดกับผม แถมยังลงประกวดดาวเดือนเพื่อแข่งกับผม

ลำพังหน้าตามันน่ะสู้ผมไม่ได้หรอก คือเอาจริงๆนะ ไม่อยากอวยตัวเองเท่าไหร่เลย

แต่ตั้งแต่เกิดมา กูยังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนบนโลกใบนี้จะหล่อสู้กูได้

เฮ้อ...ความหล่อเป็นบาปที่แท้พายุเอ๊ย

กลับมาที่ไอ้เหี้ยภาส มันขี้โกงกว่านั้น

โกงเก่งกว่านักการเมือง คุณรู้ไหม ตอนก่อนรอบตอบคำถาม มันแสร้งว่าจะขอคืนดีกับผม พร้อมเอาอะไรให้ดื่มร่วมสาบานว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง

ซึ่งไอ้โง่แต่หล่ออย่างกูก็หลงเชื่อเพราะนิสัยดีเหมือนหน้าตา กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าเป็นยาถ่ายก็สายเกินแก้

กูปวดขี้จนต้องรีบตอบคำถามลวกๆแล้วลงจากเวทีเพื่อพาตัวเองตรงไปยังห้องน้ำ

ตำแหน่งเดือนที่ควรจะได้เลยกลายเป็นของมัน!!

“จ้างนักเลงไปตีดีกันมะ

กูพอรู้จักแถวปากซอยคอนโดกู”

“อีลี มึงเป็นอะไรกับการทะเลาะวิวาทก่อน”

“งั้นจ้างเด็กแว๊นไปบิดรถมะ แง้นๆไล่คนทั้งงาน”

“ส่วนมึงน่ะเป็นอะไรกับเด็กแว๊น”

ผมกับลีโอยู่ปากเมื่อเสนออะไรไปก็ถูกปัดตก

คือกูหัวร้อนกับไอ้ภาสมากครับโว้ย ไม่ได้เป็นคนร้ายกาจอะไรนักหรอก อย่างไอ้ความคิดด้านบนที่เสนอไปก็ล้วนโดนไอ้เวนตะไลภาสทำมาก่อนทั้งนั้น

ทำตั้งแต่ปีหนึ่งยันปัจจุบันแม่งก็ยังไม่เลิก ต้องเกลียดกูแค่ไหนคิดดู

“มึงจะยอมให้ไอ้ภาสหยามศักดิ์ศรีแก๊งเต่าคะนองของเราหรอวะเอิ๊ต”

“ยังยืนยันจะใช้ชื่อนี้จริงดิ”

“แล้วมันจะทำไม กูภูมิใจที่มีนามสกุลเต่าคะนองต่อท้าย

ใช่ไหมยุวาฬเพื่อนรัก” ลีโอทุบอก

“เอิ๊ต เต่าคะนอง จบแล้วชีวิตกู” หญิงสาวกุมขมับ

“จบเหี้ยไร ความภาคภูมิใจของวงตระกูล มึงน่ะมันวัวลืมตีน”

“อีสัด มึงภูมิใจ หรือชื่อมังกรฟ้า หงส์แดง

พยัคฆ์ขาวโดนใช้ไปก่อน”

“ควx กูจะดึงหน้าม้ามึง!”

ผมปั้นหน้าละเหี่ยใจเหมือนโลกพังทลายเมื่อเพื่อนในกลุ่มทำตัวไร้สาระ

แถมแผนการแก้แค้นก็มักเป็นรองไอ้ภาสเสมอ

ว่ากันตามตรงผมก็ไม่ได้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้นหรอกถ้าฝั่งนั้นไม่เริ่มก่อนอะ

แถมไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยที่มันหักหน้าผม

“แค่ทำให้ภาสจัดงานไม่ได้ก็พอใช่ไหม”

ผมเลิกคิ้วเมื่อวาฬยื่นโทรศัพท์มาให้ดู บนหน้าจอปรากฏแอคเค้ารูปหนึ่งผ่านแอพพลิเคชั่นนกจิ๊บ

มันเป็นแอคเค้ารูปท้องฟ้าตอนเย็นๆที่มีพระอาทิตย์สีแดงลอยเด่นหลาอยู่ตรงมุมภาพ

“อะไร?”

“หนุ่มฝนตก”

ผมเลื่อนสายตาไปดูชื่อแอคของไอ้หนุ่นฝนตกที่ว่า รวมถึงคำบรรยายในไบโอ

หนุ่มฝนตก @rainychild

รับงานเรียกฝนทุกชนิด

ราคาขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้ สนใจดีเอม

“หมอนี่เคลมว่าสามารถเรียกฝนได้”

“ไร้สาระ คนห่าไรจะเรียกฝนได้ เป็นเอ็กซ์เม็นหรอ”

ผมยื่นโทรศัพท์คืนไอ้วาฬแบบไม่ต้องคิดให้ยาก ประสาท...เขามีแต่สาวฟ้าใสเรียกฝนให้หยุด

แต่ไอ้หนุ่มฝนตกนี่ดันเรียกฝนให้ตก สงสัยมึงต้องดูอะนิเมะมากไปแหงๆ

เห้ย ผมก็ดูอยู่นะเว้ยเรื่อง weathering

with you อะ

“แต่รีวิวในแท็ก #หนุ่มฝนตก

มีแต่คนชอบผลงานของหมอนี่นะ”

วาฬคะยั้นคะยอยื่นข้อความที่ผู้คนต่างทวิตลงในแท็กดังกล่าวให้ผมดู

มันไม่ได้มีเยอะจนถึงขนาดติดเทรนทวิตเตอร์

แต่ทุกข้อความที่ผู้คนรีวิวไอ้หนุ่มฝนตกนี่ล้วนประทับใจกันทั้งสิ้น

Staii_bio: วันก่อนแถวบ้านร้อนมากค่ะ แต่พอเรียก #หนุ่มฝนตก มาปุ๊ป อากาศก็เย็นสบายมากขึ้นปั๊บเยย

Zaiynce: #หนุ่มฝนตก เรียกฝนได้จริงค่า

แนบรูปเลย เรากับเพื่อนเรียนเกษตร ขี้เกียจรดน้ำแปลงผักเพราะแปลงกว้างมาก

เลยจ้างหนุ่มฝนตกให้ลองมาช่วยดู ปรากฏว่าฝนตกจริงจ้า สบายสุดๆ

wickedwish: เริศมากค่ะคุณพี่ #หนุ่มฝนตก มาปุ๊ป แฟนเก่าน้องก็หมดโอกาสออกไปเดทกับอีแฟนใหม่ปั๊ป หึหึ สะใจค่าาาาาาา

ครั้งหน้าใช้บริการอีกแน่นอน

“ในพันทิปก็มีว่ะ ถึงไม่ใช่กระทู้ดัง

แต่คนรีวิวว่าฝนตกจริงเยอะมาก” ลีโอขี้เสือกยื่นโทรศัพท์ให้ดูบ้าง

มีใครเคยใช้บริการหนุ่มฝนตกบ้างมั้ยครับ? พอดีมีเรื่องอยากให้ฝนตกจริงๆ แต่ประเทศเรานอกจากฤดูร้อนกับฤดูร้อนผมก็มองไม่เห็นฤดูอะไรอีกเลย

ความคิดเห็นที่1: เคยจ้า

น้องเค้าพูดจาเพราะอยู่นะ บริการก็ไม่แพง ฝนตกจริง

ความคิดเห็นที่6: เลือกระดับได้ด้วยครับ

รุ่นพี่ผมขอแรงสุด สรุปบ้านแม่งโดนน้ำท่วม ของเขาดีจริง

ความคิดเห็นที่15: ไม่เคยจ้า

แต่ว่าจะลองดูอาทิตย์หน้า แม่เราบังคับให้ไปวัด แต่เราไม่อยากไป ถ้าฝนตกหนักๆคงหาเรื่องโดดได้

555555

และยังมีอีกประมาณสิบกว่าคอมเม้นท์ที่การันตีความสามารถของไอ้หนุ่มฝนตกนี่

ซึ่งผมก็ไถดูผ่านๆเพื่อเช็กว่ามีใครแหกมันบ้างไหม สรุปไม่มีเลยจ้า ทุกคนออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่า

ฝนตกจริงไม่จิงโจ้

“ความคิดดีนะเว้ย แค่ทำฝนตก งานจัดต่อไม่ได้

ไม่ต้องมีใครเจ็บตัว ได้แก้แค้นไอ้ภาสด้วย”

“ลองดูมั้ย...ยังไงก็แค่ฝนตกเอง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงว่ามันจะเรียกฝนได้จริงๆหรอวะ”

ผมบ่นกระปอดกระแปดกับวาฬหลังเราปลอมตัวเข้ามายืนอยู่ในงานเปิดหมวกที่จัดโดยกองประกวดดาวเดือน

วันนี้เป็นวันศุกร์แห่งชาติที่นักศึกษาต่างเลิกเรียนพอดี

ทุกคนจึงมีเวลาแวะมาดูดนตรีสดของเหล่าคนหน้าตาดี

แต่ขอโทษทีนะที่ทุกคนคงต้องเสียใจเพราะบนเวทีนั่นไม่มีกู

“เสียดายตังหรือไง”

“เสียตังไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้!”

เห็นระดับงานแล้วตามันร้อน! พอเป็นกองประกวดจัดงาน องค์การนักศึกษาแม่งก็ดันให้งบมากมายมหาศาลอย่างกับจะเอาไปจัดเลือกตั้ง

ลองเป็นชมรมยิงธนูของกูดิ จัดได้อย่างมากก็หน้าถนนคนเดิน

ไม่มีโอกาสเหมาลานกิจกรรมทำอะไรแบบนี้ร้อก

“แล้วหนุ่มฝนตกจะมาอยู่ใช่มั้ย

กูเห็นทวิตเขาดูยุ่งๆช่วงนี้”

“มาแน่นอน กูกลายเป็นลูกค้าวีไอพีไปแล้ว

จ่ายเร็ว จ่ายไว จ่ายไม่อั้น”

ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งขัน เพราะเมื่อหลายวันก่อนผมทักไปดีลกับไอ้หมอนั่นเสร็จสรรพว่าให้มาเรียกฝนช่วงสี่โมงถึงหกโมงเย็น

เอาขั้นแรงสุดเลย น้ำท่วมได้ยิ่งดี เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับป๋า ขอแค่ให้ไอ้ห่าภาสหมดโอกาสโชว์ความหล่อก็พอ

“ดูเป็นคนขี้อิจฉาเนาะ”

“ขอร้องเลยวาฬ

คนที่หล่อจนสาวต้องเหลียวหลังอย่างกูอะนะที่ขี้อิจ...”

“ใส่แว่นดำทำไมวะยุ แมสด้วย มึงไม่สบายอ่อ”

ไม่ทันจะได้เถียงกับวาฬจบ เพื่อนสาวคนสวยก็เดินมาทักจากด้านหลังตัดบทสนทนา

“กูเป็นรองเดือนมหาลัยนะเผื่อมึงลืม

เดี๋ยวคนมาขอถ่ายรูปกูจะกลายเป็นจุดสนใจ แล้วพอกูเป็นจุดสนใจตรงที่กูยืนอยู่ก็จะมีคนจับตามอง

ถึงตอนนั้นไอ้ภาสคงรู้แน่ๆว่ากูมาแก้แค้นมัน”

“เป็นตุเป็นตะเลยจ้าพายุเต่าคะนอง

อะไรทำให้มึงโตมาเป็นคนแบบนี้คะ”

“มึงไม่เข้าใจหรอกว่าการเกิดมาเบ้าหน้าฟ้าประทานมันลำบากแค่ไหน”

“อยากเอาตีนลูบเบ้าหน้าฟ้าประทานของมึงจัง”

“พี่คะ หนูขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ย”

“เห็นมั้ย ความหล่อเป็นบาปแท้ๆ”

ผมถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้

ก่อนจะหันหน้าไปทางน้องผู้หญิงสองคนที่เดินเหนียมๆเข้ามาทักทาย

แมสบนหน้าถูกถอดออกพร้อมอมยิ้มถามไปว่า...

“ได้ครับ แต่แปปเดียวนะพี่ต้องรีบไป”

“อ๋อ หนูหมายถึงถ่ายกับพี่เอิ๊ตน่ะค่ะ

พอดีหนูเป็นเอฟซีพี่เอิ๊ต”

เพล้ง!

ชาแปล้บเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาด คุณเธอเดินผ่านกูไปอย่างไม่ใยดี

ทิ้งให้ความกระดากอายร่วงกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ไอ้วาฬที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต้องตบไหล่ปุๆให้กำลังใจ

“ขอโทษนะคะ พอดีความสวยเป็นบาปอะค่ะ”

สัด!

แยกเขี้ยวใส่เจ้าของผมหน้าม้าที่กำลังสะบัดมือเป็นพัดเพื่อไล่ความฮอตของตนเองออกไป

เออเอิ๊ต...มึงสวย สวยที่สุดในกลุ่มแล้วครับ ทั้งชายทั้งหญิงล้วนตกเป็นเป้าหมายมึงหมดเลยครับ

“แล้วไอ้ลีโอไปไหน”

“รับงานวาดรูปจ้า”

“อะไรนะ

มันเป็นคนบอกว่าจะมาดูความฉิบหายของไอ้เวนภาสด้วยกันแท้ๆ”

“เงินกับเพื่อน เป็นกูก็เลือกเงิน”

“ใจหมาจริงๆ”

“หมายถึงไอ้ภาส?”

“มึงเนี่ยแหละ”

ฟาย ชงมาให้เขาด่าตัวเองแท้ๆ

“แล้วไอ้พูห์?” วาฬถามบ้าง

“ให้ทาย”

“นอน”

ผมกับเพื่อนรักตอบเป็นเสียงเดียวกัน

ก่อนจะหันไปตามทิศที่เอิ๊ตชี้นิ้วเพื่อพบกับมนุษย์หมีพูห์กำลังนอนตายคาไม้หินอ่อนหนึ่งอัตรา

อืม...กูควรตกใจเวลาที่มึงตื่นมากกว่าสินะ

“แล้วมึงรู้ไหมว่าหนุ่มฝนตกคือคนไหน” ไอ้เอิ๊ตว่าพลางชโงกหน้าดูรอบๆ

“ไม่รู้ มันว่ามันเป็น Anonymous”

“แสดงว่าน่าจะอยู่ในงานแล้ว เพราะอีกสิบนาทีจะสี่โมงเย็น

เราควรตามหาปะ”

“อย่าเลย เขาไม่อยากเปิดเผยตัวก็อย่าไปตามหาเขา

ปล่อยเขาทำงานให้เราก็พอ”

“เป็นผัวกูมั้ยวาฬ พร้อมมาก ณ จุดนี้ แสนดี

อ่อนโยน ไม่เหมือนอีหน้าหมาพายุกับลีโอ”

“รู้สึกว่าคนที่เกลียดกูจะไม่ได้มีแค่ไอ้ภาสแล้วเนาะ”

ยกนิ้วกลางใส่คนที่ด่ากูไม่หยุดตั้งแต่เข้ามาในงาน

ว่าจะเถียงกับไอ้เอิ๊ตต่ออีกซักสองสามประโยค ทว่าพอมองขึ้นไปบนฟ้า อารมณ์หัวร้อนเมื่อครู่ก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อสภาพอากาศด้านบนมืดครึ้มมาแต่ไกล

อีกหน่อยบริเวณที่ผมยืนอยู่ก็คงเปียกชุ่มไปด้วยฝน ความสุขในอกตีกันจนล้นเอ่อ

ว้ายยย ไอ้ภาส งานกร่อยแน่มึง

“เชี่ย หนุ่มฝนตกทำงานแล้ว”

เอิ๊ตอุทานออกมาเมื่อหยดน้ำจากบนฟ้าเริ่มหยดแหมะลงบนศีรษะของพวกเรา

สายลมแรงพัดปลิวว่อน

ผู้คนในงานเริ่มยืนอยู่ไม่ติดกับที่เมื่อเมฆดำกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โห

มองขึ้นไปกูนึกว่าเฮอรินเคนจะเข้าประเทศไทย แต่ไม่เป็นไร นายทำดีมากพ่อหนุ่มฝนตก

จบงานนี้ป๋าจะตบรางวัลเพิ่มให้อย่างงาม

“เราไปหลบในอาคารรอเถอะ”

“ได้เสมอวาฬเพื่อนรัก”

ตอบรับอย่างสบายอารมณ์

พร้อมกอดคอวาฬเพื่อนรักกับเอิ๊ตเพื่อนรักให้เข้าไปยังอาคารพละศึกษาด้านในด้วยกัน

เวลานี้คนที่พกร่มติดมือมาเริ่มกางหวังจะดูดนตรีสดกลางสายฝน แต่ขอร้องเลยคุณ

ฝนไม่ตกแค่นี้แน่นอนคร้าบ กูจ้างหมดไปเป็นหมื่นคร้าบ ตกยันหว่าง

ชาติหน้าเกิดเป็นหมาก็ยังตกอยู่!

“โอ๊ย!”

เป็นตอนนั้นเองที่ผมเผลอเดินชนเข้ากับใครบางคนเพราะมัวแต่มีความสุขที่สามารถแก้แค้นไอ้ภาสได้สำเร็จ

อีกฝ่ายเป็นผู้ชายตัวขาวจนเกือบซีด

ในมือถือร่มใสที่บังเอิญหลุดออกจากมือเพราะโดนคนซุ่มซ่ามอย่างกูกระแทกเข้าให้อย่างจัง

บนกระเป๋ามีตุ๊กตาไล่ฝนน่ารักน่าชังห้อยอยู่ และที่แปลกก็คือ...

กูสังเกตเขามากมายขนาดนั้นทำไมก่อน

“ขอโทษๆ เป็นไรหรือเปล่า”

“ไม่ครับ ขอบ...คุณ…”

คำพูดของอีกฝ่ายหยุดชะงักเมื่อเงยหน้ามองผม

ชะงักเหมือนติดสตั้นอะ แย่ว่ะ...เขาคงช็อคจริงๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา คนหน้าตาดีอย่างผมก็มักถูกคนมองด้วยอาการตกตะลึงแบบนั้นเสมอ

คือบางทีก็แอบคิดว่าตนเองใช้ชีวิตลำบาก ไม่รู้จะทำยังไงให้มันหล่อน้อยลงกว่านี้

เฮ้อ...

“ยุ เดี๋ยวกูไปเรียกไอ้พูห์ก่อนนะ

เดี๋ยวแม่งจะเปียกฝนเอา”

“โอเค เจอกันในตึ...”

กำลังจะหันไปตอบเอิ๊ตเพื่อนรัก แต่โลกของผมก็ต้องหยุดหมุนฉับพลันเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วพบว่าไม่มีอีกแล้วเมฆครึ้ม

ไม่มีอีกแล้วหยดฝนพรำ ลมแรงๆห่าอะไรก็ไม่มี หยดน้ำเปียกๆที่พรมลงบนหน้ากูเมื่อตะกี้ก็แห้งเหือดไปเป็นที่เรียบร้อย

“เหี้ย! ทำไมเป็นแบบนี้วะ”

“กูไม่รู้” วาฬส่ายหน้าหงึกงักด้วยความงุนงงไม่ต่างกัน

ผมละแขนที่กำลังกอดคอเพื่อนสนิททั้งสองออก

ยกกวาดขึ้นไปบนฟ้ายึกๆเหมือนคนบ้าหวังว่าจะได้สัมผัสกับสายฝนอีกครั้ง แต่ไม่มี

ไม่มีสายฝน ไม่มีเมฆครึ้ม ไม่มีเฮอริเคน

ไม่มีเหี้ยอะไรทั้งนั้น!

“เอิ๊ต! มึงปักตะไคร้ใช่มั้ย”

“ตะไคร้เตี่ยมึงสิ

กูยืนอยู่ข้างมึงตลอดจะให้เอาเวลาไหนไปปักหา”

เสียงครึกครื้นกลับมาดังสนั่นอีกรอบเมื่ออดีตเดือนมหาลัยอย่างไอ้ภาสก้าวขึ้นเวที

ผู้คนในงานที่กระจายตัวเบาบางเปลี่ยนมาหุบร่มแล้วกลับเข้ามายืนออกันอยู่หน้าลานกิจกรรมตามเดิม

‘สวัสดีครับ ผม ภาส ภาสกร ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมช่วยโลกกันในวันนี้’

มือของผมยิ่งกำแน่นเมื่อเสียงของคู่อริตลอดกาลดังผ่านไมค์ด้วยความสดใส

มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมา ตอนนี้ทั้งตัวผมสั่นมาก! มันสั่นมากๆจังหวะนี้

“มึงกล้าดียังไง!”

“ไอ้ยุ...ใจเย็น”

“กล้าดียังไงมาหลอกคนที่หล่อที่สุดในมหาลัยอย่างกู...ไอ้หนุ่มฝนตก!!”

                                                                                                                                                                                   tbc.

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!