กานต์สินีไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการปรากฏตัวของภูวริศในช่วงนี้ดูจะ "บังเอิญ" บ่อยเกินไป และทุกครั้งที่เธอพบเขา เขาก็มักจะมีข้ออ้างที่ทำให้ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจเข้ามายุ่งเกี่ยว
อย่างเช้านี้ที่เธอกำลังเดินเข้าไปในห้องสมุดเพื่อคืนหนังสือ ภูวริศก็โผล่มาจากทางเดินอีกด้านพอดิบพอดี
“อ้าว คุณกานต์สินี” น้ำเสียงของเขาฟังดูสดใสเหมือนเดิม “คุณมาห้องสมุดแต่เช้าเลยนะครับ”
กานต์หยุดกึก มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”
“ผมก็มาคืนหนังสือเหมือนกันครับ” เขายกหนังสือในมือขึ้นให้ดูพร้อมรอยยิ้ม
เธอย่นคิ้วเล็กน้อย “คุณแน่ใจนะคะว่าไม่ได้ตามฉันมา?”
“คุณคิดว่าผมตามคุณเหรอครับ?” ภูวริศทำหน้าประหลาดใจเกินจริง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ผมว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่านะครับ หรือคุณคิดว่าผมตั้งใจเจอคุณทุกที่จริง ๆ?”
กานต์เม้มปากนิด ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินนำเขาเข้าไปในห้องสมุด โดยพยายามไม่สนใจสายตาของเขาที่มองตามมา
วันหนึ่งในช่วงเย็น กานต์กำลังเดินกลับหอพัก แต่บรรยากาศดูเงียบผิดปกติ ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก เธอเร่งฝีเท้าเพราะไม่อยากเปียก
ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องดังขึ้นอย่างน่ากลัว ก่อนที่ฝนจะเทลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย กานต์พยายามกางร่มที่พกมา แต่ลมแรงทำให้ร่มกลับด้าน เธอยืนมองมันอย่างสิ้นหวัง
“คุณกานต์สินี!” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
เธอหันไปเห็นภูวริศวิ่งฝ่าสายฝนเข้ามาหา พร้อมร่มขนาดใหญ่ในมือ
“ร่มคุณเสียเหรอครับ?” เขาถามทั้งที่ตัวเองเปียกปอนไปครึ่งตัว
“ค่ะ...” เธอตอบเสียงเบา
“งั้นมาใช้ร่มผมสิครับ” เขากางร่มบังเธอทันทีโดยไม่รอคำตอบ
“แล้วคุณล่ะคะ?”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมยังโอเค” เขายิ้ม ก่อนจะดึงเธอเข้ามาใกล้ใต้ร่ม
กานต์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าความอบอุ่นจากร่มและการอยู่ใกล้ภูช่วยทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยในสถานการณ์นี้
“คุณมาทำอะไรแถวนี้คะ?” เธอถามในที่สุด
“ผมเพิ่งซื้อกาแฟมาครับ แล้วบังเอิญเห็นคุณเดินผ่านหน้าร้าน” เขาตอบง่าย ๆ
เธอพยักหน้าเบา ๆ แม้ในใจจะยังมีความสงสัยอยู่
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น กานต์เริ่มพบว่าภูวริศไม่ได้ทำให้เธอรำคาญเหมือนครั้งแรก ๆ แม้เธอจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพยายามเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้ แต่เธอก็อดรู้สึกดีไม่ได้ทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้
ครั้งหนึ่งในคาบเรียนที่เธอทำงานกลุ่มอยู่ เพื่อนในกลุ่มแซวเธอว่า “กานต์ ช่วงนี้เห็นเธออยู่กับผู้ชายหล่อ ๆ บ่อยนะ ใครเหรอ?”
กานต์ชะงักไป ก่อนจะตอบเสียงเรียบ “แค่คนรู้จักค่ะ”
“เหรอ? แต่เขาดูสนใจเธอมากเลยนะ”
คำพูดนั้นทำให้กานต์เริ่มคิดมากขึ้น เธอพยายามบอกตัวเองว่าเขาอาจจะแค่เฟรนด์ลี่กับทุกคน แต่ลึก ๆ ในใจเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเจตนาอะไรกันแน่
ในที่สุด กานต์ตัดสินใจถามภูวริศตรง ๆ
วันหนึ่งที่ทั้งสองบังเอิญเจอกันในร้านกาแฟอีกครั้ง เธอเอ่ยขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม “คุณภูคะ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
เขาวางแก้วกาแฟลงก่อนจะยิ้ม “ได้สิครับ”
“คุณเข้ามายุ่งกับฉันเพราะอะไรคะ?”
ภูชะงักไปเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มออกมา “คุณสงสัยเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงบังเอิญเจอกันบ่อยขนาดนี้ คุณตั้งใจหรือเปล่า?”
เขาเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดคำตอบ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “ผมตั้งใจครับ”
คำตอบนั้นทำให้กานต์เบิกตากว้าง เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะยอมรับตรง ๆ
“ทำไมคะ?”
“เพราะผมอยากรู้จักคุณให้มากขึ้น” เขาตอบโดยไม่หลบสายตา
คำพูดของเขาทำให้กานต์รู้สึกสับสน เธอไม่แน่ใจว่าจะเชื่อเขาได้แค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความอบอุ่นที่เขามอบให้ทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่าภูวริศอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิดในตอนแรก
“ฉันยังไม่รู้ว่าคุณมีเจตนาอะไรกันแน่ แต่ถ้าคุณคิดจะทำอะไรที่ไม่จริงใจ ฉันจะไม่ยอมง่าย ๆ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
ภูยิ้มกว้าง “ได้เลยครับ ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเอง”
คืนนั้น กานต์กลับมาที่ห้องพร้อมความคิดที่สับสน เธอเริ่มถามตัวเองว่าภูวริศทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่เธอพยายามตั้งกำแพงไว้ตั้งแต่แรก
แม้จะยังไม่เชื่อใจเขาเต็มร้อย แต่เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าภูวริศมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments