บทที่ 8 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

หลังจากที่ยายแก่ตนนั้นพูดจบมาสก็ได้หันหลังไปตามที่มาของเสียงและในจังหวะนั้นโนรินก็ได้โผล่เข้ามาในห้องน้ำชายที่มาสอยู่ตอนนี้นั้นจึงทำให้เขาหันไปมองหาโนรินแทนและโนรินก็ได้จับมือมาสและเดินจูงมือมาสออกจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนที่เธอจะพูดกับมาสด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ 

''มาสเราก็ตามหานายตั้งนานมาๆเราทำข้าวของมาให้มากินข้าวกล่องเราสิอร่อยนะ''

จากนั้นเมื่อมาสออกไปจากห้องน้ำแล้วจู่ๆก็มีชายหนุ่มที่มีนามว่า วิน ได้เดินสวนมาสเข้ามาในห้องน้ำเนื่องจากเขาปวดอุจจาระหรือปวดขี้นั้นเอง หลังจากที่ชายหนุ่มที่มีนามว่าวินเข้ามาในห้องน้ำแล้วเขาก็นั่งลงไปที่ชักโครกกำลังจะขับถ่ายอุจจาระ

แต่ว่าในขณะนั้นประตูห้องน้ำที่วินปิดอยู่ก็ได้เปิดออกอย่างช้าๆเผยให้เห็นร่างของยายแก่ใส่ชุดพื้นเมืองสีน้ำเงินแววตาสีขาวรูปร่างหน้าตาดูน่ากลัวได้มายืนอยู่ที่หน้าประตูที่กำลังที่กำลังเปิดอย่างช้าๆที่เบื้องหน้าของเขาก่อนที่ยายแก่ตนนั้นจะเดินเข้ามาหาวินอย่างช้าๆก่อนที่ยายแก่ตนนั้น

จะเอามือข้างซ้ายที่เรียวยาวเข้าไปในปากของวินก่อนที่ยายแก่ตนนั้นจะดึงกระดูกสันหลังของวินออกมาจากทางปากและยายแก่ตนนั้นก็ค่อยๆอ้าปากกว้างก่อนจะนำร่างวินทั้งตัวเข้าไปในปากอย่างน่าสะอิดสะเอียนและสยองจนน่าขนลุก

หลังจากที่ยายแก่ตนนั้นเขมือบร่างวินทั้งตัวเข้าไปในปากจนหมดแล้ว ยายแก่ตนนั้นก็พูดขึ้นว่า สักวันไอ้หนุ่มนั้นจะต้องท่องบทสวดบริกรรมคาถาของกูให้จงได้ กูจะต้องกลับมาเป็นปอบห่าก้อมอีกครั้ง

ตัดมายังส่วนของรันพีและพี่พารานหลังจากที่ทั้งสองคนเป็นแฟนกันและคบกันมาได้สองอาทิตย์แต่แล้วความสุขและความรักนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่นานในระหว่างที่รันพีและพารานกำลังจะเดินเช้าโรงเรียนนั้นพ่อของพารานได้ขับรถมาแอบดูพารานเพราะว่าเขารู้สึกว่าช่วงนี้ลูกของเขามีความสุขแปลกๆและพ่อของพารานนั้นยังเป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านที่ยิ่งใหญ่ต้นๆของเมืองไทย 

และเมื่อเขาได้ขับรถตามมาดูลูกของเขาเขาก็พบว่าลูกเขาได้มาเดินจัลมืออยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีลักษณะร่างเล็กมีผมสีชมพู และเมื่อเขาเห็นอย่างงั้นเขาก็เปิดกระจกรถและถามเด็กนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั้นก็คือโนรินนั้นเองจากนั้นพ่อของพารานก็ได้ถามกลับโนริน

''หนูๆ หนูพอจะรู้จักสองคนนั้นมั้ย''

หลังจากที่พ่อของพารานพูดจบเขาก็ได้ชี้มือไปทางพารานและรันพีที่กำลังเดินอยู่จากนั้นโนรินก็ได้ตอบกับพ่อของพารานที่อยู่ในรถว่า

''สองคนนั้นหรอคะรู้จักค่ะรู้จักค่ะ คนผมดำหน้าตาหล่อๆชื่อพารานค่ะส่วนอีกคนหนึ่งชื่อรันพีค่ะทั้งสองคนเป็นแฟนกันค่ะ อุ๊ยลุงหนูไปก่อนนะคะ''

และโนรินก็รีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนเพราะว่าเธอนั้นเจอพี่มาสกำลังเดินถือกล่องกระดาษอยู่เธอจึงจะเข้าไปช่วย

จากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปเรื่อยๆจนถึงตอนเย็นตัดมาที่บานของพารานที่ทั้งด้านนอกบ้านและด้านในบ้านนั้นหรูหราหลังจากที่พารานกลับมาจากโรงเรียนเขาก็เห็นพ่อของเขามายืนรอเขาอยู่หน้าบ้านแล้วแต่พ่อเขานั้นทำสีหน้าโกรทเกรี้ยวจนเส้นเลือดขึ้นหน้าก่อนที่พ่อของพารานจะเดินเข้าไปหาลูกตัวเองและเดินเข้าไปต่อยหน้าลูกหนึ่งทีจนพารานนั้นปากแตก

''ไอ้ลูกไม่รักดีมึงคบเพศเดียวกันได้ไงวะกูเลี้ยงมึงมาหวังให้มึงมีอนาคตมีแฟนมีลูกที่ดีมึงทำอย่างงี้กับพ่อมึงได้ไงวะ''

''มึงไปเลิกกับไอ้หนุ่มนั้นซะถ้ามึงยังไม่เลิกก็ตัดพ่อตัดลูกกันไปเลย และรูปแม่มึงของต่างๆที่เกี่ยวกับมึงกูจะเผาทิ้งแม่งให้หมดตอนนี้นี่แหละทำกูเสียอารมณ์''

ส่วนทางด้านของพารานนั้นเขาก็น้ำไหลพรากทั้งสองข้างหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่พ่อของเขาพูดเขาก่อนที่พารานจะตอบพ่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ

''ผมผิดมากขนาดนั้นเลยหรอพ่อที่คบเพศเดียวกัน ถ้าพ่อทำอย่างงี้กับผมผมก็จะหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นก็ได้''

แต่ว่าสิ่งที่พารานพูดนั้นก็ยิ่งทำให้พ่อของเขาโกรทขึ้นไปอีกและพ่อของเขาก็ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระทุ่มแรงๆ

''มึงอย่ามาปากดีนะ ถ้ามึงคิดจะเอาอย่างงั้นกูจะสั่งให้คนของกูไปฆ่าแฟนมึงมึงจะเอายังไง''

และเมื่อพ่อของเขาพูดแบบนั้นพารานก็หัวใจแตกสลายและขอร้องพ่ออย่าทำอะไรแฟนเขาเลยและเขานั้นจะทำตามทุกอย่างที่พ่อบอกขอแค่อย่าทำร้ายแฟนของเขาก็พอ

จากนั้นช่วงเย็นของวันถัดมาพารานก็ได้ขับรถพารันพีไปสถานที่หนึ่งซึ่งนั้นก็คืองานวัดที่พวกเขาสองคนเคยมานั้นเองและทั้งคู่ก็ได้เที่ยวเล่นบ้านผีสิงซื้อของกินต่างๆนาๆจนกระทั่งทั้งคู่ก็ได้นั่งชิงช้าสวรรค์และรันพีก็สังเกตุว่าแฟนของตนทำสีหน้าเศร้าเครียดตึงมาสักพักแล้วจากนั้นรันพีจึงตัดสินใจถามพารานไปตรงๆ

''เตงเป็นอะไรหรือเปล่า เราเห็นเตงทำหน้าเครียดเศร้าๆมากสักพักแล้วมีอะไรก็บอกกันตรงๆสิ''

พารานเมื่อได้ยินรันพีพูดแบบนั้นเขาก็จับมือรันพีและน้ำตาไหลออกมาส่วนทางด้านของรันพีเมื่อเห็นแฟนของตนร้องไห้รันพีจึงยื่นมือข้างซ้ายลูบหัวพารานเบาๆ อย่าร้องสิพารานเตงมีไรก็พูดมา

จากนั้นชิงช้าก็ได้หยุดหมุนและทัั้งคู่ก็ได้มาจุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์พอดีก่อนที่พารานจะพูดกับด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนพร้อมกับร้องไห้หนักกวาเดิม

''ถ้าเราบอกเธอเธออย่าร้องไห้นะ....คือเราสองคน..เลิกกันเถอะ ''

ภายในใจรันพีตอนนี้หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่มาสพูดหัวใจของรันพีก็แทบแตกสลายเป็นเสี่ยงๆและภายในบรรยากาศตอนนี้ภายในใจของทั้งสองคนมีแต่ความเศร้าจากนั้นชิงช้าสวรรค์ก็ค่อยๆเคลื่อนที่ลงมาอย่างช้าๆพร้อมกับน้ำตาของทั้งสองคนที่ไหลพรากไปพร้อมๆกัน

ตอนนี้ทั้งสองคนได้แต่นิ่งเงียบไม่คุยกันจากนั้นทุกอย่างก็กลับมายังปัจจุบันในตอนที่รันพีร้องไห้และโอบกอดพารานและกำลังร้องไห้อยู่

จากนั้นในระหว่างที่รันพีกำลังกอดพารานและพารานก็กำลังลูบหลังรันพีเบาๆอยู่นั้นหลวงพ่ออินศรท่านก็ได้พูดกับทั้งสองว่า 

''พวกเองสองคนไม่ต้องเสียใจไปหรอกเพราะว่าพวกเองสองคนเกิดมาคู่กันเพียงแต่ในตอนนี้มีอุปสรรคมาขัดขวางพวกเองอยู่ก็เท่านั้นเองอย่าเสียใจไปเลย''

จากนั้นหลวงพ่ออินศรก็ได้บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำไปหาข้าวหาปลากินกันก่อน ก่อนที่ทั้งหกคนจะกราบลาหลวงพ่อเพื่อขอตัวไปอาบน้ำและกินข้าวกันก่อน

และทางด้านของพาราน รันพี มาส พรานอิน พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะอาบน้ำกันก่อนส่วนทางด้านของยานีและรินดาทั้งคู่ก็ตัดสินใจอาบน้ำทีหลังและช่วยหลวงพ่ออินศรกวาดวัดในตอนเย็น

ตัดมาทางฝั่งของรันพี พาราน มาส และพรานอินเมื่อทั้งหมดเตรียมเสื้อผ้าผ้าขนหนูแปรงสีฟันยาสีฟันเรียบร้อยแล้วพวกเขาทั้งสี่คนก็ได้เดินไปที่ห้องน้ำหลังวัด

โดยทั้งสี่คนก็เข้าห้องน้ำกันคนละห้องและเตรียมตัวที่จะอาบน้้ำและเมื่อพารานมาสพรานอินเจามาในห้องน้ำและล็อคประตูเรียบร้อยแล้วพารานมาสพรานอินก็ได้ถอดเสื้อออกจนเห็นซิกแพคแน่นๆก่อนที่พวเขาจะเนำสบู่ก้อนถูตัวทั่วร่างกายส่วนทางด้านของรันพีนั้นเขาก็ค่อยๆถอดเสื้อออกเผยให้เห็นผิวที่ขาวสุขภาพดีจากนั้นรันพีก็หยิบขันมาราดที่หัว

เวลาผ่านไป15นาทีทั้งสี่คนก็ได้อาบน้ำกันเสร็จและพวกเขาก็นำผ้าขนหนูที่พวกเขาเตรียมมานำมาเช็ดตัวเช็ดหน้าจากนั้นทั้งสี่คนก็ใส่เสื้อผ้าและเดินออกจากห้องน้ำและกำลังเดินไปที่รถเพื่อเอาของใช้ส่วนตัวที่เอาไปอาบน้ำไปเก็บไว้ที่รถนั้น

ทางด้านของพรานอินเขาก็ได้เดินไปเหยียบเข้ากับบางสิ่งจนสิ่งนั้นมันกรีดร้องเหมือนเด็กทารกและเมื่อทั้งสี่คนได้ยินเสียงนั้นพวกเขาก็หยุดเดินและค่อยๆก้มหน้าไปมองที่พื้นและเมื่อทั้งสี่คนก้มลงไปมองนั้นพรานอินมาสพารานก็อุทานออกมาพร้อมกันว่า ''เชี่ย'' ส่วนทางด้านของรันพีก็กรี๊ดเสียงดังลั่นและรีบไปหลบหลังของพาราน 

ซึ่งเจ้าสิ่งนั้นที่พวกเขาเห็นนั้นก็คืองูที่มีลำตัวยาวขนาดเล็กแต่ว่าเจ้างูนี้นั้นมันมีหัวเป็นคนและเส้นผมของมันยังยาวมากอีกด้วยและนอกจากนี้เส้นผมของเจ้างูตัวนี้เหมือนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตลอดเวลา

และเมื่อพรานอินเห็นแบบนั้นเขาก็รีบเอาเท้าของเขาออกจากตัวของเจ้างูหัวคนและรีบวิ่งไปหามาสทันทีจากนั้นเจ้างูหัวคนนั้นก็ค่อยๆเลื้อยหนีพวกเขาไป

จากนั้นเมื่อทั้งสี่คนมาถึงรถแล้วยานีและรินดาที่นั่งรออยู่ในรถทั้งสองก็เตรียมของใช้ส่วนตัวและไปอาบน้ำทันทีหลังจากที่รันพีพารานมาสพรานอินมาถึงรถแล้ว จนกระทั่งเวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนถึงหกโมงเย็นทั้งหกคนหลังจากอาบน้ำและกินข้าวกินอาหารที่ซื้อมาจากเซเว่นแล้วพวกเขาทั้งหกคนก็กลับเข้าไปในโบสถ์

และเมื่อทุกคนกลับเข้าไปในโบสถ์ พวกเขาก็เห็นหลวงพ่ออินศรมานั่งรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้วจากนั้นแสงจากดวงอาทิตย์ด้านนอกก็ค่อยๆหายไปและเปลี่ยนเป็นบรรยากาศเป็นท้องฟ้าที่มืดมิดในยามค่ำคืนพร้อมกับมีลมพัดเบาๆจนได้ยินเสียงใบไม้ ก่อนที่หลวงพ่ออินศรจะสั่งให้ทั้ง6คนปิดหน้าต่างและปิดประตูโบสถ์ให้เรียบร้อย

และเมื่อทั้ง6คนได้ฟังสิ่งที่หลวงพ่ออินศรท่านพูดพวกเขาก็แยกย้ายกันไปปิดประตูหน้าแต่แล้วในขณะที่รันพีกำลังจะปิดประตูโบสถ์นั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นปอบยายแก่ยืนมองเขาอยู่นอกโบสถ์ไม่ไกลนักจากนั้นรันพีก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

จากนั้นจู่ๆยังไม่ทันที่รันพีจะได้ปิดประตูโบสถ์สนิทขาข้างซ้ายของเขาก็มีมือมือหนึ่งที่ขาวซีดได้มาจับขาของเขาไว้ก่อนที่ตัวของรันพีจะตกใจและล้มลงไปนอนที่พื้นแต่เมื่อรันพีล้มลงไปนอนที่พื้นแล้วตัวของเขาก็มาโผล่อยู่ด้านนอกโบสถ์พร้อมกับมีปอบห่าก้อมยายแก่ที่กำลังเดินมาใกล้ๆเขา

ตอนที่ 8 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!