'03' / 1

งานสังคมเป็นงานประเภทที่ลูซี่เกลียดที่สุด มันไม่ใช่ไม่ดีแต่มันวุ่นวาย ต้องปั้นหน้าเข้าหาคนที่ไม่รู้จักไม่ก็คุยแต่กับเรื่องที่ไม่อยากจะเข้าใจ กวาดสายตามองรอบๆ ก่อนจะผละทอดมองออกไปที่นอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่าย

“อยากกลับบ้านว่ะ” ลุคเดินมายืนขนาบข้างพร้อมกับกับเอนหลังพิงกับกำแพงด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย “ไม่คิดว่าจะมา” ลุคไหวไหล่ เล็กน้อยพลางถอนหายใจ

“ถ้าแม่ไม่บังคับกูก็ไม่มาหรอก” ก่อนหน้านี้สองวันพ่อกับแม่ขอให้ทั้งสองมาออกงานนี้แทน ตอนแรกพวกเธอก็ปฏิเสธไปนั่นแหละ แต่พวกท่านขอเพราะด้วยเหตุหนึ่งก็คือพวกท่านต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ เลยไม่สะดวกที่จะไปงาน

ส่วนเหตุผลที่สองก็คือเจ้าของงานเป็นเพื่อนสนิทของพ่อ มันเป็นงานเปิดตัวสินค้าของเครือบริษัทอัสดากรุ๊ปจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่งานเปิดตัวสินค้า ซึ่งจริงๆ เธอมาแค่คนเดียวก็ได้แต่แม่สั่งว่าให้ลุคมาเป็นเพื่อน ตอนแรกลุคก็ปฏิเสธค้านหัวชนฝานั่นแหละ อ้างด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่มันเอามาอ้างได้แต่ก็ต้องแพ้ด้วยคำประกาศิตของแม่

“งั้นก็เลือกเอาระหว่างไม่ไปงานกับเครื่องเกมส์ของแกที่จะถูกขายต่อเป็นของมือสอง” นั่นแหละเลยเป็นเหตุที่ทำให้ลุคต้องมายืนอยู่ตรงนี้

เสียงดนตรีหยุดลงพร้อมกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ปรากฏบนเวทีคาดว่าน่าจะเป็นพิธีกร ผู้คนในงานต่างพากันหันไปให้ความสนใจก่อนที่ผู้ชายบนเวทีจะพูดเปิด

“ยินดีต้อนรับ แขกผู้มีเกียรติ ทุกท่าน ขอต้อนรับ เข้าสู่งานเปิดตัวแบรนด์… ”

ไม่นานคุณผู้หญิงท่านหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของคุณอาอัสดาเจ้าของแบรนด์ที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อก็ขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับพูดกล่าวบรรยายถึงสินค้าแบรนด์ของตัวเอง

งานเปิดตัวสินค้าดำเนินต่อไปเรื่อยๆ “ไปห้องน้ำนะ”

ลุกขึ้นก่อนจะหันไปบอกคนข้างๆ ลุคหันมาพยักหน้าให้ด้วยใบหน้าที่พร้อมหลับทุกเมื่อ

เดินออกจากฮอลล์จัดงานไปตามทางเดินที่ทอดยาวก่อนจะเลี้ยวเข้าห้องน้ำ จัดการทำธุระระหว่างนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นไปพลาง

“แก ผู้ชายคนนั้นโคตรหล่อเลย” เสียงเจี้ยวจ๊าวที่หน้าห้องน้ำแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร “คนไหนของแกวะ”

“ก็คนนั้นไง คนผมน้ำตาลหล่อๆ ที่ฉันชี้ให้แกดูอ่ะ”

“อ๋อ คนนั้นน่ะหรอ ที่ชื่อโลๆอะไรนะ”

“โลอะไรล่ะ เขาชื่อลุค”

เมื่อได้ยินชื่อคนคุ้นเคยก็ถึงกับขมวดคิ้วทันที มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของลุคจะถูกพูดถึง ด้วยหน้าตาที่หล่อบวกกับพื้นฐานฐานะเลยทำให้มันมักจะมีสาวๆ พูดถึงหรือชื่นชอบอยู่ไม่น้อย “แต่ว่าเขามากับแฟนนี่”

“แฟนเฟินอะไรล่ะ นั้นน้องสาวเขา ชื่อลูซี่” ดูเหมือนว่า คนพวกนั้นจะเริ่มพูดถึงเธอแล้ว “เอ๊ะ? ลูซี่หรอ เดี๋ยวนะเหมือนเคยได้ยิน ที่ไหนมาก่อน”

“ที่ไหนวะ”

“อ๋อ นึกออกล่ะ เหมือนว่าคนที่ชื่อลูซี่นี่จะเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับ ฉันด้วยนะดังด้วย”

“ดังเรื่องไหนหรอแก”

“ก็หลายเรื่องนะ แต่เรื่องที่ดังๆก็ไม่พ้นเรื่องผู้ชายอ่ะ” ประโยคพูดของคนพวกนั้นทำเอามือที่จะกดชักโครกต้องชะงัก ดูท่าเรื่องของเธอที่คนพวกนั้นพูดถึงคงไม่ใช่เรื่องดีซะแล้วสิ “เรื่องมันว่าไงหรอ”

“ก็แบบ เปลี่ยนผู้ชายบ่อย ทำตัวหยิ่งจนหน้าหมั่นไส้อ่ะ”

“หรอ แต่นางก็หยิ่งจริงนะ ขนาดฉันยังไม่ชอบเลย”

ว่าแล้วต้องเป็นเรื่องแบบนี้ ก็นะ มันเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะชอบลุค เพราะหน้าตาที่หล่อสมาร์ทและโปรไฟล์ดี ต่างกับลูซี่ที่โดนเกลียดเพียงเพราะหน้าหยิ่งและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

จัดการกดชักโครกเดินออกจากห้องน้ำหญิง สองคนนั้นเมื่อเห็นเธอต่างก็ทำหน้าตกตื่นก่อนจะหลบสายตาและรีบเดินออกจากห้องน้ำไป ก็อย่างนี้แหละ พวกเก่งแต่ลับหลังพอต่อหน้ากลับไม่กล้าแม้จะสบสายตาก็ได้แต่ทำตัวกากแบบนี้แหละ

จัดการธุระจนเสร็จเดินตรงออกจากห้องน้ำ ไปเรื่อยๆ ตามทางเดิน สายตาทอดมองออกด้านนอกหน้าต่างบานใหญ่ สายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่อยู่ด้านล่างหน้าโรงแรมหยุดยืนมองพร้อมกับหรี่ตาเพ่งพบว่าเป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาดี เขาคือไทม์หนุ่มแว่นคนนั้นที่พึ่งกันเมื่อวันก่อนนี่เอง มุมปากยกยิ้มก่อนจะรีบเดินลงลิฟต์ลงไปชั้นล่าง

ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่างก็รีบกวาดสายตามองหาพบไทม์ในชุดไปรเวทที่กำลังถือถุงบางอย่างเดินมาอย่างทุลักทุเล มุมปากยกยิ้มอัตโนมัติให้กับท่าทางเก้ๆ กังๆ ของเขา

เดินตรงดิ่งเข้าไปพร้อมกับยกมือแตะที่แขนหนาของเขาเบาๆ “อ๊ะ! พี่ลูซี่”

 ไทม์หันมาพร้อมกับทำสีหน้าตื่นตกใจ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกเอ็นดูยิ่งขึ้นไปอีก

“สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วนะ”

“ครับ ว่าแต่วันนี้พี่ลูซี่แต่งตัวสวยเชียว มางานปาร์ตี้หรอครับ”

“ก็ไม่เชิงค่ะ แล้วไทม์ล่ะ ” เอ่ยทักพลางมองถุงพลาสติกขนาดใหญ่สองถุงในมือของเขา “มาส่งของน่ะครับ”

ทั้งสองคนเดินมานั่งที่ม้านั่งหน้าทางเข้าเพื่อรอคนรับของ ไทม์วางถุงตรงที่ว่างข้างๆ ของด้านในมันเหมือนเป็นของกินอะไรสักอย่างที่เป็นสีส้มแดงคล้ายๆกับพวกน้ำพริกกากหมูที่เคยเห็นเลยคิดว่าน่าจะใช้

“น้ำพริกกากหมูหรอ”

“ครับ อร่อยนะครับพี่ลูซี่สนใจมั้ย”

“อร่อยเหมือนคนขายรึเปล่า” ยกยิ้มพร้อมกับเท้าแขนเขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้ให้อีกคนตกใจเล่น

“พะ-พี่ลูซี่อย่าแกล้งกันสิครับ ผมเขินนะ” ไทม์เอี้ยวตัวออกพร้อมกับยกถุงขึ้นบังหน้าที่แดงระเรื่อง ใบหน้าที่เขินอาย คนอะไรไม่รู้น่ารักจนใจเจ็บอยากจะเสียนิสัยฟัดแก้มนั่นให้รู้แล้วรู้รอด

นั่งคุยกันไปสักแป๊บไทม์ก็จัดการเข้าไปส่งของก่อนจะเดินออกมาด้วยสีหน้าสดใส เขาเดินตรงมานั่งลงข้างลูซี่ที่เดิม “พี่ลูซี่จะเข้าไปข้างในเลยมั้ยครับ”

“ไล่พี่หรอ เสียใจจัง” ฉันแกล้งทำหน้าเศร้าทั้งที่ในใจนึกสนุก และก็เป็นอยย่างที่คิดไทม์ทำสีหน้าตกใจพร้อมกับส่ายหนน้ารัว “ปะ-เปล่านะครับ ผมแค่ถามเฉยๆ”

“หึ พี่ล้อเล่นค่ะ ว่าแต่เราจะกลับแล้วหรอ” ไทม์ยักหน้าพลางเม้มปากแน่นเผยให้แก้มแดงระเรื่อล้นแก้มออกมา จู่ๆ หัวสมองก็เกิดความคิดอกุศลขึ้นมา ถ้าเกิดเธอฟัดแก้มแดงของคนน่ารักตรงหน้าแรงๆ มันจะเป็นยังไงนะ

“ผมจะกลับแล้วครับ”

“กลับยังไงหรอ”

“มอเตอร์ไซค์ที่บ้านน่ะครับ เดี๋ยวผมขี่กลับ”

“คนเดียวน่ะหรอ”

“ครับ มีอะไรรึเปล่าครับ” จู่ๆ ก็เกิดนึกเป็นห่วงขึ้นมา ทั้งที่ปกติเขาอาจจะทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติก็ได้ แต่ไม่รู้สิ แค่รู้สึกเป็นห่วงไม่อยากให้เขาขี่รถขับกลับคนเดียว แล้วจู่ๆ หัวสมองนึกอะไรบางอย่างได้ “ไทม์รีบกลับมั้ย”

“ไม่นะครับ พี่ลูซี่จะไปไหนรึเปล่าครับ”

“พี่อยากนั่งรถเล่นน่ะค่ะ จะรบกวนไทม์พาไปได้รึเปล่า” ไทม์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ “ได้นะครับ แต่พี่ลูซี่ไม่ต้องเข้าไปข้างในแล้วหรอครับ”

เอาจริงๆ เธอก็ต้องกลับเข้าไปในงานแหละ แต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องเข้าไปพบปะผู้คนมันมีมากกว่า

“ก็ต้องเข้านั่นแหละค่ะ แต่พี่อยากอยู่กับเรามากกว่า”

“มันจะดีหรอครับ”

“ดีสิ ถ้าอยู่กับไทม์อะไรมันก็ดีไปหมดแหละ” ยกยิ้มให้อีกคนเล็กน้อยแล้วก็เป็นไปตามคาด ไทม์หน้าแดงระเรื่อจากความเขินก่อนเขาจะหลบสายตามองพื้น

“พี่ลูซี่อ่ะ แกล้งผมอีกแล้ว”

“หึ ไม่ต้องกังวลเรื่องของพี่หรอกค่ะ เแค่ออกมานอกงานแป๊บเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก”

“งั้นก็ได้ครับ งั้นพี่ลูซี่รออยู่ตรงนี้สักครู่นะครับเดี๋ยวผมไปเอารถก่อน”

มองตามแผ่นหลังของไทม์จนเขาลับสายตาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าถือขึ้นมาส่งข้อความหาใครบางคน

Lucyxx : ออกไปข้างนอกนะ

Lukeggeasy : มึงจะทิ้งกูหรอไอ้ลู

Lucyxx : ป่าวทิ้ง

Lucyxx : แค่เบื่อ

Lukeggeasy : ส่งสติ๊กเกอร์

Lukeggeasy : แล้วมึงไปกับใคร

Lucyxx : น้อง

Lukeggeasy : น้อง?

Lukeggeasy : ไอ้เด็กนั่นอ่ะนะ

Lucyxx : อือ

Lukeggeasy : นี่มึงทิ้งพี่ไปเที่ยวกับผู้ชายหรอ

Lukeggeasy : ใช่สิ เดี๋ยวพี่ชายคนนี้มันสำคัญแล้วสินะ

Lucyxx : รำคาญ ไปล่ะ

Lukeggeasy : ไอ้ลู!!!

Lukeggeasy : ไอ้น้องเวรกูจะฟ้องแม่

Lucyxx : ส่งสติ๊กเกอร์

ปิดหน้าจอมือถือเก็บลงกระเป๋าในเวลาเดียวกันไทม์ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดเทียบด้านหน้าพอดี ลุกตรงไปหาเขารับหมวกกันน็อกมาใส่ก่อนจะจัดระเบียบชุดก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงิน WAVE 110

“รถเก่าหน่อยนะครับ ขับได้ไม่เร็วมาก”

“ถ้าเป็นไทม์ขี่รถอะไรพี่ก็นั่งได้หมดค่ะ” จัดการหยอดคนตรงหน้าไปทีนึงพอหอมปากหอมคอ แล้วก็เป็นอย่างที่คาด ไทม์หันพูดงุบงิบพร้อมกับใบหน้าแดงระเรื่อภายใต้หมวกกันน็อก “พี่ลูซี่อ่ะ!!”

“หึ ก็พี่พูดจริงนี่คะ ถ้าเป็นไทม์ไม่ว่าจะอะไรพี่ก็ไม่เกี่ยงหรอก”

“งือ” เสียงอู้อี้ของคนข้างหน้าแม้จะเบาแต่ก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

“ผะ-ผมว่าออกรถเลยดีกว่า เดี๋ยว จะยิ่งดึก”

ไทม์เปลี่ยนเรื่องคุยก่อนจะค่อยๆ ออกรถอย่างช้าๆ ลูซี่เอื้อมมือไปจับเอวของเขาอย่างเบามือ  แต่ก็พอจะรู้ได้ว่าไทม์เป็นผู้ชายที่เอวบางมาก เหลือบเห็นใบหูของเขาที่แดงระเรื่อ ให้มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดูท่าเขาคงจะเขินไม่น้อยนะเนี่ย

รถมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงิน WAVE 110 เคลื่อนตัวไปบนถนนเส้นหลักด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. มันไม่ช้าไม่เร็วจนทำให้ฌะอได้เห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ ได้ชัดเจน “พี่ลูซี่เคยนั่งมอเตอร์ไซค์มั้ยครับ”

ไทม์ตะโกนถามผ่านลมที่ดังจนแทบหูอื้อ “ไม่เคยค่ะ นี่ครั้งแรก”

“โห จริงหรอครับเนี่ย”

น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่เชื่อแต่มันคือเรื่องจริง นี่เป็นการนั่งมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิตของเธอก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาเวลาเดินทางไปไหนก็จะเดินทางด้วยรถยนต์ตลอด ไม่ขับเองก็มีคนขับให้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่บ้านจะไม่มีมอเตอร์ไซค์เลย ก็มีอยู่สองคันเป็นของลุคทั้งหมดแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยซ้อนเลยสักครั้งเดียว ไม่ใช่เพราะไม่อยากซ้อนแต่ลุคมันไม่ยอมให้เธอซ้อนด้วยเหตุผลที่ว่า

“จะมานั่งมอเตอร์ไซค์ทำไม อย่างมึงนั่งรถยนต์ไปเถอะ” ถึงแม้ปากคนเป็นพี่จะพูดไปแบบนั้นแต่เธอก็รู้ดีว่าที่ลุคไม่ยอมให้ซ้อนเพราะเป็นห่วงนั่นแหละ

ขับมาเรื่อยๆ จนมาถึงยังสวนสาธารณะกลางเมืองจากโรงแรมมามันไม่ได้ไกลมากห่างกันแค่ประมาณ 10 กิโลเมตรได้ รถมอเตอร์ไซค์ค่อยๆเทียบจอดที่ลานจอดรถ “พี่ลูซี่ผมขอแวะกินข้าวก่อนได้มั้ยครับ ผมหิว”

“ได้ค่ะ แล้วเราจะกินอะไร”

“บะหมี่ร้านตรงนั้นน่ะครับ ผมเคยมากินกับเพื่อนเมื่อวันก่อนอร่อยมากเลยครับ พี่ลูซี่ลองมั้ยครับ”

ไทม์พูดพลางชี้นิ้วไปทางร้านบะหมี่ที่อยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถที่ทั้งสองคน“ถ้าไทม์บอกขนาดนั้นพี่ก็คงไม่ขัด”

เดินเข้ามานั่งในร้านบะหมี่พลางกวาดสายตามองสำรวจ รอบๆ มีร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่ประมาณสองสามร้านแต่ละร้านลูกค้าไม่ได้เยอะมากอาจจะเพราะด้วยเวลาที่ตอนนี้ดึกแล้วคนคงเริ่มบางเบา แต่ก็ยังมีลูกค้ารวมถึงไรเดอร์รับอาหารเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไม่ขาดสาย

“พี่ลูซี่กินอะไรครับ มีบะหมี่น้ำ เกี๊ยวน้ำ บะหมี่เกี๊ยวแล้วก็บะหมี่แห้ง”

“พี่ไม่รู้ว่าอันไหนอร่อยกว่ากัน ไทม์ช่วยแนะนำให้พี่หน่อยได้มั้ยคะ” ไทม์หันมองป้ายเมนูบนร้านชั่งใจอยู่ครู่

“งั้นเกี๊ยวน้ำมั้ยครับ ถ้าเป็นบะหมี่ผมกลัวว่าพี่ลูซี่จะอิ่มเกิน”

“ได้ค่ะ”

ไทม์ลุกขึ้นตรงไปสั่งอาหารอยู่แป๊บนึงก่อนจะกลับมานั่งรอตามเดิม ระหว่างรอทั้งสองคนก็นั่งคุยไปเรื่อย ไม่นานบะหมี่สองชามก็มาเสริฟ ลูซี่จัดการปรุงบะหมี่ในชามของตัวเองก่อนจะเริ่มลงมือชิม ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกลิ่นของน้ำซุปก็ตีขึ้นมาทันที ส่วนเรื่องรสชาติทั้งกลมกล่อมและความเข้มข้นของน้ำซุปบวกกับความอร่อยของตัวเกี๊ยวมันกับลงตัวจนไม่อยากจะหยุดกินเลย

 “อร่อยมั้ยครับ”

“อร่อยมากเลยค่ะ ไม่แปลกเลยที่คนจะเยอะ”

“ใช่มั้ยครับ ผมน่ะวันไหนเลิกเร็วก็จะพากันมากินบะหมี่ที่นี่ไม่ก็ซื้อกลับไปฝากที่บ้านบ้าง แต่ถ้ามาช่วงสามสี่โมงคนจะเยอะมากเลยครับ รอกันเป็นชั่วโมงเลย”

ไทม์เล่าด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข รอยยิ้มนั่นมันทำให้เธอเผลอหลุดยิ้มอีกครั้ง

“พี่ลูซี่ลองชิมบะหมี่แห้งนี่ดูสิครับ อร่อยมาก” ไทม์ยื่นช้อนที่ใส่เส้นบะหมี่แห้งมาตรงหน้า เธอมองอย่างชั่งใจช้อนตามองคนตรงหน้า “ให้พี่ชิมหรอคะ”

“ครับ” มองช้อนที่ยื่นมาตรงหน้าอย่างชั่งใจก่อนจะอ้าปากกินมัน ทั้งที่ปกติเธอจะคอยหยอดไทม์อยู่ประจำเพื่อทำให้เขาเขินเพื่อที่จะได้เห็นเขาเขิน แต่พอเขาทำแบบนี้มันทำให้ใจของเธอสั่นระห่ำอย่างที่ไม่เคยเป็น นี่เธอเป็นโรคหัวใจรึไงกันเนี่ย

“อร่อยมั้ยครับ” ไทม์มองอย่างตั้งใจ เพื่อรอคำตอบ “อร่อยมากเลยค่ะ” พอได้ยินคำตอบไทม์ยกยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ

“ใช่มั้ยครับ บะหมี่ร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลยครับ ผมชอบมาก”

“ขายเก่งแบบนี้พี่คงต้องมาบ่อยๆ แล้วค่ะ”

“ใช่มั้ยครับ แต่ถ้าพี่ลูซี่ไม่อยากมาคนเดียวเดี๋ยวผมมาเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ”

“แล้วถ้าพี่อยากให้ไทม์มาในสถานะอื่นไทม์จะมามั้ย” ยกยิ้มลอบหัวเราะเบาๆ กับสีหน้างงงวยของคนตรงหน้า “มะ-หมายความว่ายังไงหรอครับ”

“ก็หมายความว่า…พี่อยากให้ไทม์มาในสถานะแฟนไงคะ”

“แค่ก!! พะ-พี่ลูซี่อ่ะ! พูดอะไรอ่ะครับ อย่าแกล้งกันแบบนี้สิครับ ผมเขินนะ” ไทม์ก้มหน้างุดเผยให้เห็นแก้มกลมที่แดงระเรื่อโผล่ออกมา

น่ารัก

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!