ไม่นานก็เห็นเงารถคันหนึ่งสีดำจอดเทียบข้างๆ พร้อมกับพี่ผู้หญิงผมบลอนด์ลงจากรถตรงมาพาเขาขึ้นรถ ทันทีที่ก้นสัมผัสกับเบาะก็รับรู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้ต้องเป็นรถที่แพงมากแน่ๆ เพราะทั้งสัมผัสและกลิ่นมันดูหรูหราจนไม่กล้าขยับตัว มากเพราะกลัวจะไปทำรถของเขาเป็นรอย
“คาดเบลท์เองได้มั้ย”
“ได้ครับ”
พยักหน้าตอบพลางดึงสายคาดเบลท์เอามาเสียบกับแป้นเพราะตาที่เบลอจัดทำให้เสียเวลาอยู่พักใหญ่
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทจนได้ยินเสียงแอร์ยิ่งทำให้รู้สึกเกร็งกว่าเดิม ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ภาพตรงหน้ามันจะเบลอจนแทบไม่เห็น อะไรเลยแต่ก็รับรู้ว่ารถเคลื่อนตัวไม่ช้าและไม่เร็วมาก
เวลาผ่านพักใหญ่ เรายังคงอยู่บนถนนเส้นเดิมขยับบ้างเป็นพักๆ เพราะ ด้วยรถที่ติดขนัดจากช่วงเวลาเลิกงานและเด็กเลิกเรียนเลยไม่แปลกที่รถจะติดขนาดนี้ จะว่าไปก็พึ่งนึกขึ้นได้ตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่รู้ชื่อเธอเลย
“จะว่าไปพี่ชื่ออะไรหรอครับ ขอโทษ นะครับที่ถามเอาป่านนี้”
“ลูซี่ค่ะ” เธอตอบขณะที่สายตาของเธอยังคงจดจ้องไปที่ถนน
“ส่วนผม…”
“ไทม์สินะ” ยังไม่ทันที่ผมจะบอกชื่อตัวเองเธอก็พูดชื่อเขาขึ้นมาอย่างกับรู้อยู่แล้ว ไทม์หันไปมองเธออย่างตกใจขณะเดียวกันก็เห็นลางๆ ว่าเธอก็หันมามองเขาอยู่ครู่หนึ่งด้วย
“พี่เห็นป้ายชื่อเราตอนที่เราเกิดอุบัติเหตุ ที่ห้องสมุด น่ะ”
คำตอบของพี่ลูซี่ทำเขาถึงกับชะงัก ที่แท้เธอก็คือพี่ผู้หญิงคนนั้นที่ช่วยตอนที่เกิดอุบัติเหตุในห้องสมุดนี่เอง
พอยิ่งคิดแบบนั้นก็ยิ่งอายตัวเอง นั่นก็หมายความว่าเขาทำตัวเด๋อด๋าต่อหน้าเธอเป็นครั้งที่สองแล้วสิ ว่าแล้วก็ทุบหัวตัวเองไปหนึ่งที ไอ้ไทม์เอ้ย~โคตรน่าอายเลย
“ทุบหัวทำไมคะ ปวดหัวหรอ”
“อะ-อ๋อ ผมปวดตาน่ะครับ”
“ปวดมากมั้ย ” ฟังจากน้ำเสียง เธอดูเป็น ห่วงผมไม่น้อย
“ก็พอประมาณครับ” เพราะภาพทุกอย่างมันเบลอไปหมดทำให้เขาต้องเพ่งมองมากขึ้นมันเลยส่งผลให้ไทม์เริ่มจะปวดตาค่อนข้างมาก ไทม์ตอบพลางยกมือนวดตาให้คลายความปวดก่อนจะหลับตาสักครู่เพื่อพักสายตา
“ทนหน่อยนะคะ ใกล้จะถึงแล้ว”
สัมผัสอุ่นที่มือให้ใจเต้นตึกตัก ไทม์เม้มปากแน่นกลั้นความเขินเอาไว้แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รับรู้ได้ว่าสัมผัสเมื่อกี้มันคือมือสวยของเธอ
รถยนต์เลี้ยวเข้าลานจอดรถห้างสรรพสินค้าก่อนจะจอดสนิท ทำการปลดเบลท์ลงจากรถยืนรออีกคนอยู่ข้างรถ
“มาค่ะ จับมือพี่ไว้นะ”
ลูซี่เอื้อมมือมาดึงแขนเบาๆ ให้เดินตามก่อนเธอจะมาเดินขนาบข้างทำให้ได้กลิ่นน้ำหอมลอยเข้าจมูกได้อย่างชัดเจน
ระหว่างทางลูซี่จะคอยบอกคอยดึงแขนอยู่ตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเดินชนหรือสะดุดบันไดเลื่อน ทั้งสองเดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงร้านตัดแว่นลูซี่ดันตัวเขาให้เข้าไปข้างในก่อนที่เธอจะหันไปคุยอะไรบางอย่างกับพี่พนักงาน
“เดี๋ยวรบกวนน้องผู้ชายมานั่งตรงนี้เลยค่ะ”
ลูซี่ดึงแขนให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งพร้อมกับกระตุกกระเป๋าที่สะพายอยู่เบาๆ เป็นเชิงให้ถอด “น้องผู้ชายสายตาสั้นเท่าไหร่คะ”
“สามร้อยครับ”
“เพื่อความชัวร์พี่ขออนุญาตวัดค่าสายตาก่อนนะคะ” ขยับหน้าเข้าไปที่เครื่องวัดสายตาใช้เวลาอยู่พักนึงกว่าจะเสร็จ
“เดี๋ยวรบกวนน้องผู้ชายเลือกกรอบแว่นให้หน่อยนะคะ เดี๋ยวพี่จะได้ใส่กรอบให้เลย”
“ผมเอาอันเก่าเลยได้มั้ยครับ” พูดพร้อมกับหยิบแว่นอันเก่าที่แตกยื่นให้พี่พนักงานดู “ได้ค่ะ เอาทรงนี้เด๊ะๆ เลยเนาะ”
“ครับ”
“งั้นเดี๋ยวรอสักครู่นะคะ” นั่งรออยู่ที่เดิมพลางกวาดสายตามองไปรอบๆทั้งที่ก็รู้อยู่ว่ามองไม่ค่อยจะเห็นแต่เพราะมันว่างเกินเลยทำให้อยู่ไม่สุก “เป็นไงมั่ง”
ลูซี่เดินมาพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ “เสร็จแล้วครับ รอแค่แว่น”
“แล้วซื้ออันสำรองด้วยรึเปล่า” ส่ายหัวเป็นคำตอบ ก็อยากจะซื้อหอกนะแต่เงินมันไม่พอน่ะสิ
“เงินไม่พอน่ะครับ”
“ซื้อไปเลยเดี๋ยวพี่ออกให้” พอเธอพูดแบบนั้นไทม์ก็รีบส่ายหัวปฏิเสธทันที “ไม่ได้นะครับ พี่ลูซี่จะมาจ่ายใหผมทำไม”
“ก็พี่ทำแว่นเราแตกหนิ พี่ก็ต้องจ่ายให้มันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แต่เราพึ่งจะรู้จักกันเองนะครับ อีกอย่างพี่ลูซี่ก็อุตส่าห์พาผมมาตัดแว่นอีก ผมไม่อยากรบกวนพี่ลูซี่ไปมากกว่านี้แล้ว”
“มันไม่ใช่การรบกวนเลยค่ะ พี่ก็แต่ต้องการจะรับผิดชอบที่ทำแว่นเราแตกเฉยๆ”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ค่ะ”
ลูซี่ไม่รอให้ไทม์ได้ปฏิเสธอีกครั้งเธอหันไปบอกกับพี่พนักงานพร้อมกับลุกหนีเดินไปจ่ายเงินทันที ทำให้ไทม์ได้แต่มองตามแผ่นหลังเบลอๆ พลางเบะปากอย่างขัดใจ เอาจริงๆ เขารู้สึกเกรงใจเธอเอามากๆ เพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่ห้องสมุดเธอก็เป็นคนช่วยเขา มาครั้งนี้ก็ช่วยพามาตัดแว่นแถมยังออกเงินให้อีก
เขาไม่รู้ว่าการที่ลูซี่เลือกทำแบบนี้เธอมีแผนอะไรแอบแฝงรึป่าว แต่เท่าที่เซ้นต์มันบอก เขารู้สึกว่าเธอก็ดูจริงใจจริงๆ
รอไม่นานพี่พนักงานก็เอาแว่นใหม่มาให้ ทันทีที่รับถุงแว่นมาเขาก็ทำการลองสวมแว่นใหม่ทันที กระพริบตาถี่เพื่อปรับแสงจนภาพทุกอย่างจากที่เบลอกลับมาชัดแจ๋วอย่างที่มันควรจะเป็น
“เป็นไง”
“ชัดแจ๋วเลยครับ”
“แล้วเห็นพี่ชัดมั้ย” หันไปมองลูซี่ที่มานั่งข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอได้เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน
“ครับ…ชัดแจ๋วเลยครับ”
คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะเอาใบหน้าถอยห่าง ไม่ไหว เขินจนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว
“ก็ดีค่ะ งั้นเรากลับเลยมั้ย”
“ครับ…” เม้มปากแน่นกลั้นความเขินก่อนจะยกมือทาบยกวัดหัวใจที่เต้นตุบๆราวกับจะหลุดออกมาข้างนอก อยู่กับเขาตั้งนานไม่เขินมาเขินเอาป่านนี้ นี่เขาบ้าหรือดีกันแน่เนี่ย
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ…”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเอง” โบกมือปฏิเสธหยอยๆ แค่นี้ก็รบกวนเธอมากพอแล้วจะให้เธอไปส่งอีกก็กะไรอยู่
“แน่ใจเหรอ ฝนตกหนักนะ”
ลูซี่บุ้ยปากออกไปทางหน้าต่างพบว่าด้านนอกฝนตกนักมากจริงๆ แล้วแบบนี้เขาจะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย “อ่าว”
“ให้พี่ไปส่งเถอะ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะแย่เอานะ” ได้แต่บึนปากเล็กน้อยกลับไปด้วยความขัดใจ
“เอ่อ…สงสัยคงต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะครับ”
ท้ายสุดก็เลือกไม่ได้คงต้องกลับกับเธอจริงๆ แล้วล่ะ
ตลอดระหว่างทางไทม์กับลูซี่ก็คุยสัพเพเหระไปเรื่อยและก็ได้รู้จักเธอคร่าวๆ ลูซี่เรียนคณะมนุษย์ศาสตร์เอกธุรกิจภาคอินเตอร์ชั้นปีที่ 3 บ้านของเธอทำธุรกิจส่วนตัวแต่ดูจากรถที่ขับบวกกับที่เธออาสาจ่ายค่าแว่นให้ก็น่าจะรวยพอควร
ไทม์ได้แต่นั่งเปื่อยนับชั่วโมงกว่าจะหลุดออกจากถนนใหญ่ในที่สุดก็ถึง รถยนต์คันหรูเทียบจอดสนิทที่หน้าบ้านก่อนจะหันไปถอดเบลท์ก่อนจะหันขอบคุณเธออีกครั้ง
“ขอบคุณพี่ลูซี่อีกครั้งนะครับที่พาไปตัดแว่นแล้วก็มาส่งด้วย แถมยังช่วยดูแลทั้งครั้งแรกแล้วก็ครั้งนี้ด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เต็มใจ”
“แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังเกรงใจอยู่ดีครับ งั้น…ผมขอคอนแทคพี่ลูซี่ได้มั้ยครับ”
ลูซี่เลิกคิ้วมองด้วยสายตาราวกับกำลังคิดว่าไอ้เด็กนี่คิดจะจีบฉันหรือไง
“คือ-คือ ผมไม่ได้จะจีบพี่ลูซี่นะครับ คือ...ผมจะขอบคุณน่ะครับแต่ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก” ตอบไปอย่างร้อนรนกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด
คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปากพร้อมกับขยับตัวเข้ามาใกล้จนใบหน้าเกือบชิดกัน
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ แต่ถ้าเราจะจีบพี่จริงๆ จะก็จีบได้นะ พี่พร้อม”
“พะ-พร้อมอะไรล่ะครับ ผมไม่ได้จะจีบสักหน่อยนะ”
หันหน้าหลบสายตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นพร้อมกับดันไหล่ของเธอให้ออกห่างเบาๆ อีกคนหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับถอยตัวออกไป “พี่แค่ล้อเล่นเฉยๆ ไม่เห็นต้องกลัวขนาดนั้นเลย แต่ถ้าอยากจีบก็ได้นะเดี๋ยวพี่เคลียร์คิวให้พอดีคนจีบพี่เยอะ”
“พี่ลูซี่อ่ะ!!” หันไปบึนปากใส่แต่เธอกลับเอาแต่หัวเราะไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้ ลูซี่คนใจดีคนเมื่อกี้อยู่ไหนทำไมจู่ก็กลายเป็นนคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ได้ล่ะเนี่ย เอาพี่ลูซี่คนใจดีกลับคืนมานะ!!
“หึ เข้าบ้านได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคนในบ้านเค้าจะเป็นห่วง”
“งั้น ผมไปก่อนนะครับ พี่ลูซี่ก็…ขับรถดีๆนะครับ”
“ค่ะ ฝันดีนะครับ”
“ฝันดีครับ” โบกมือลายืนมองรถคันหรูที่ค่อยๆ ลับจากสายตาไปก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ลืมคอนแทคพี่ลูซี่!
“เวรเอ๊ย!” ตีหน้าผากตัวเองไปป๊าบนึง เด๋อไม่พอยังขี้ลืมอีก เอาไว้คราวหน้าถ้าเจอค่อยขอก็แล้วกัน
เดินเข้าบ้านก่อนจะมองหาแม่แล้วสวัสดีทักทาย
“กลับมาแล้วครับ”
พูดพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มไปหนึ่งที
“กลับมาแล้วหรอลูก หิวรึยัง”
“หิวแล้วครับ หิวมากกกกกก”
“งั้นหนูมาเก็บผ้าให้แม่ก่อน เดี๋ยวแม่ไปทำอาหารให้”
“ได้ครับ”
รับผ้าที่แม่เก็บแล้วก่อนจะเดินเก็บผ้าตามราวจนครบ เดินขึ้นชั้นสองเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจัดการผับแล้วก็แขวนให้เป็นระเบียบ
เสียงสั่นแจ้งเตือนจนทำให้ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดู
แจ้งเตือน Facebook มีการแนะนำเพื่อนใหม่
แนะนำอีกล่ะ แนะนำทั้งปีไอ้แอพเนี้ย ก่นบ่นไปงั้นสุดท้ายก็กดดูอยู่ดี เมื่อนิ้วเรียวกดอ่านก็ต้องกับขมวดคิ้ว
Lucyxx
ชื่อคุ้นๆ แฮะ
ด้วยความสงสัยเลยกดไปดูภาพโปรไฟล์ที่สีดำสนิทกับภาพหน้าปกที่มีแต่ท้องฟ้า เลื่อนลงมาดูพบว่าแอคเคาท์นี้โพสต์น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนในเฟสแท็กเสียมากกว่า อย่างเช่น
Lukeggeasy แท็ก Lucyxx
ฉันมาทำอะไรที่นี่…
หรือจะเป็นโพสต์
Lukeggeasy แท็ก Lucyxx
มึงแกล้งกูวววววว อีเด็กเ***
คอมเมนท์
Lucyxx
สม :-D
Lukeggeasy แท็ก Lucyxx, mommy
แม่ ไอ้ลูมันแกล้งผมมมมม
คอมเมนท์
mommy
ไม่ตีกันสิลูก
Lucyxx
:-D
Lukeggeasy
แม่ดูมันดิ
เหอๆ แต่ละโพสต์มีแต่ตีกัน เลื่อนลงมาอีกนิดก็ต้องหยุด โพสต์ที่ไม่มีประโยค มีแค่อิโมจิกับรูปๆ เดียว
🌕🌔🌓🌒🌑
รูปน้ำตกเล็กๆ ยามค่ำคืนที่มีแสงจันทร์ส่องลงมากระทบ หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีขาวเปิดหลังกับผมบลอนด์ที่คุ้นตาเหมือนกำลังวิ่งเล่นในแอ่งน้ำตรงกลาง
สวยจัง เหมือนนางฟ้าเลย
รู้ตัวอีกทีก็เผลอกดเซฟรูปไปแล้วไม่พอยังกดหัวใจอีก ตายล่ะ เขารู้แน่ๆ ว่ากำลังส่องอยู่
เสียงข้อความเข้าทำเอาสะดุ้งเฮือก และที่ยิ่งกว่านั้นเจ้าของข้อความที่ทักมาคือคนที่กำลังส่งอยู่
ชิบหายแล้ว!!!
นิ้วเรียวรีบกดอ่านเพื่อจะขอโทษแต่ก็ต้องชะงักเพราะข้อความที่พิมพ์มา
Lucyxx : สวัสดีค่ะ
Lucyxx : ไทม์ใช่มั้ยคะ
เขารู้จักเราได้ไงอ่ะ
time 00.00 : ขอโทษนะครับ เรารู้จักกันด้วยหรอครับ
ถามไปก่อนเป็นมารยาท ถ้าเขาทักว่าเห็นเราส่องค่อยขอโทษอีกที
Lucyxx : พี่ลูซี่เองค่ะ
Lucyxx : ที่ไปส่งเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
time 00.00 : พี่ลูซี่เองหรอครับ ผมตกใจหมดนึกว่าคนอื่น
Lucyxx : กลัวโดนว่าเรื่องส่องเฟสหรอคะ
ง่ะ รู้จริงๆ สินะว่าเขากำลังส่อง เขินเลย
time 00.00 : พี่ลูซี่ถึงบ้านยังครับ
Lucyxx : ยังค่ะ เป็นห่วงหรอคะ
time 00.00 : นิดหน่อยครับ
time 00.00 : เป็นผูัหญิงกลับบ้านดึกมันอันตราย แล้วพี่ลูซี่ยิ่งสวยๆ ด้วยมันเข้าตาพวกโรคจิตนะครับ
Lucyxx : ห่วงพี่แบบนี้พี่ก็เขินแย่สิคะ
time 00.00 : ง่า
Lucyxx : พี่มารับพี่ชายพี่น่ะค่ะ
Lucyxx : ถ้าเจอโรคจิตจริงเดี๋ยวพี่ให้พี่ชายต่อยสักป๊าบเอาก็ได้ค่ะ
“ไทม์ กับข้าวเสร็จแล้วลูก!!” เสียงตะโกนดังมาจากชั้นล่าง ดูท่าจะคุยต่อไม่ได้แล้ว
“เดี๋ยวลงไปครับ!”
time 00.00 : แม่ตามกินข้าวแล้วไว้ค่อยคุยใหม่นะครับ
Lucyxx : ค่ะ
Lucyxx : ทานเผื่อพี่ด้วยนะคะ
time 00.00 : ส่งสติกเกอร์
รีบเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ก่อนจะรีบลงไปยังชั้นล่าง “ทำไมเก็บผ้านานจังลูก คุยกับสาวอยู่หรอ”
ประโยคทักของแม่ทำเอาไทม์สะดุดบันไดเกือบหน้าทิ่ม “แม่~”
“แบบนี้ท่าจะจริงสินะ”
“แค่รุ่นพี่ที่รู้จักน่ะครับ”
“จ๊ะๆ รุ่นพี่ก็รุ่นพี่ มาๆ ทานข้าวกัน” แม่หัวเราะเล็กน้อย ดูจากสีหน้าก็รู้ไม่เชื่อกันแน่ๆ
จะว่าไปเหมือนลืมอะไรบางอย่าง มือเรียวกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้งกดเข้าแชทที่คุยล่าสุดกดเข้าโปรไฟล์แล้วรับเพื่อน
คุณกับ Lucyxx เป็นเพื่อนกันแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments