แรงสั่นที่เอวเรียกความสนใจมือเรียวสวยหยิบมือถือที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมาก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าชื่อบนหน้าจอเป็นเพื่อนสนิท
“ว่า…”
[ไอ้ลู! ไปห้องสมุดหรือไปขี้เนี่ย นานแท้] ยังไม่ทันที่จะพูดเสร็จเสียงของคนปลายสายก็ตะโกนลั่นออกมาจนหญิงสาวต้องยกมือถือออกห่างจากหู
“เฮ้อ เจออุบัติเหตุนิดหน่อย”
[อุบัติเหตุอะไรวะ แล้วเป็นอะไรรึเปล่า โอ๊ย!] น้ำเสียงห้าวของเบลล์อ่อนลงพร้อมกับเสียงดังตึงและเสียงร้องคงน่าจะลุกแล้วชนโต๊ะเหมือนๆ เคยนั่นแหละ
“เปล่า แค่เข้าไปช่วยคนเฉยๆ” ระหว่างคุยลูซี่ก็เดินไปตามซอกซอยชั้นหนังสือพลางกวาดสายตาหาหนังสือที่ต้องการ
[อ่อ แล้วหาหนังสือเจอยังอ่ะ] สองขาหยุดเดินอยู่ที่ซอยชั้นหนังสือที่อยู่ด้านในสุดก่อนจะหันไปหยิบเก้าอี้สำหรับปีนมาใช้ในการหยิบหนังสือที่อยู่ชั้นที่สี่
“เจอแล้ว ทำไม”
[ฝากซื้อโกโก้หน่อยดิ เหมือนเดิมนะ]
“อือ”
หลังจากที่คุยกับเบลล์เสร็จก็รีบจัดการยืมหนังสือให้เรียบร้อย นี่ก็กินเวลามากแล้วยังไม่ได้เริ่มงานสักที ลูซี่เดินออกจากห้องสมุดตรงไปเรื่อยๆ ยังคาเฟ่ที่อยู่ห่างจากห้องสมุดประมาณ 200 เมตร เอาจริงๆ มันก็ถือว่าไกลอยู่แหละแต่ก็ไม่ไกลมากจนเดินไม่ไหว
“โกโก้หวานเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์กับคาปูชิโน่อย่างละแก้วค่ะ”
“ทั้งหมดเก้าสิบห้าบาทค่ะ” หยิบมือถือขึ้นมาสแกนจ่ายพร้อมกับหันหน้าจอสลิปให้พนักงานดู
“เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวรบกวนรอสักครู่นะคะ” ขณะที่กำลังนั่งรอลูซี่ก็กวาดสายตามองรอบๆ จนไปหยุดกับทาร์ตไข่ในตู้กระจกก่อนจะนึกได้ว่าทาร์ตไข่เป็นของโปรดเบลล์ ว่าแล้วก็ซื้อไปให้เธอสักหน่อยดีกว่า
ระหว่างรอก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นไปพลางแต่ก็เล่นได้แค่แปปเดียวก็ต้องยกมือถือลงเพราะเสียงจากด้านนอกทำให้ฉันต้องหันไปมอง นักศึกษากลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งหรือจะเรียกสาขาหนึ่งก็ว่าได้กำลังเดินจับมือกันเป็นแถวๆ เดินผ่านร้านโดยมีรุ่นพี่ปีอื่นเดินคุมอยู่จนไปหยุดที่เด็กปีหนึ่งคนหนึ่งที่เกือบปลายแถว
เด็กปีหนึ่งที่เธอเจอในห้องสมุดคนที่ทำหนังสือกว่ายี่สิบหล่นใส่หัวเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา เด็กปีหนึ่งหน้าหวานที่มีแว่นทรงกลมประดับอยู่บนหน้าริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เห็นแล้วก็รู้ว่าคงเป็นคนที่ดูแลสุขภาพได้ดีมาก
ไม่นานเสียงเรียกจากพนักงานก็ดังขึ้นให้ลูซี่ต้องละสายตาจากนอกกระจก ก่อนจะเดินไปรับเครื่องดื่มที่เหลือแล้วเดินออกจากคาเฟ่เพื่อที่จะตรงดิ่งไปยังตึกคณะบริหาร
หยุดยืนหน้าคาเฟ่มองไปทางกลุ่มนักศึกษานั้นที่กำลังยืนเรียงแถวเพื่อกำลังไหว้ศาลเจ้าพ่อสรงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิทยาลัย เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าเธอกำลังมองเขาอยู่ หนุ่มแว่นหันซ้ายหันขวาก่อนจะหันาทางหญิงสาว เขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแห้งพลางส่ายสายตาที่เลิ่กลั่กแล้วหันกลับไป
“หึ” ความเด๋อด๋าของเขาทำเธอเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น
ให้ตายเถอะคนอะไรจะเด๋อด๋าได้ขนาดนี้ แต่ก็นะ น่าสนใจจริงๆ
เดินจนมาถึงตึกคณะทันทีที่วางของลงบนโต๊ะหินอ่อนเบลล์ที่นอนฟุบอยู่ก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับกำลังรอเธออยู่
“โกโก้มาแล้ว” เบลล์บิดขี้เกียจพร้อมกับเอื้อมมือมาคว้าแก้วโกโก้ไปดื่มในทันที “อร่อย”
เบลล์ดูดเสร็จก็เอ่ยออกมาพร้อมกับทำแก้มกลมตามสไตล์ของเธอ ลูซี่ส่ายหัวกับความเด็กน้อยของเพื่อนสาว เบลล์เธอก็มีนิสัยอย่างนี้แหละอายุเท่ากันแต่นิสัยไม่ต่างกับเด็กสามขวบเลย
“อ๊ะนี่ ทาร์ตไข่” ลูซี่ส่งถุงทาร์ตไข่วางลงหน้าอีกคนเบลล์ที่เห็นก็ถึงกับตาวาวทันทีก่อนจะรับไปเปิดเช็ค “ซื้อให้หรอ ขอบคุณน้า” ลูซี่ยกมือดันหน้าเบลล์ที่พุ่งตัวมากอด
“ขอบคุณอย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องกอด”
“งั้นหอมก็ได้ จุ๊บ”
เบลล์เอื้อมมือมาจับแก้มพร้อมกับกดจมูกลงที่แก้มหนักๆ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นอยู่ดีแต่ก็เอาเถอะ เพราะเธอน่ารักถึงได้ยอม
สองสาวนั่งทำงานพลางนั่งกินขนมไปกันไปพลางก่อนจะเหลือบมองเวลาที่มุมล่างจอโน้ตบุ๊คพบว่าตอนนี้เวลาบ่ายสองแล้ว
“ไงสองสาว ยังไม่กลับกันอีกหรอ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยทำให้พวกเธอหันไปมอง
เจเจเดือนคณะมนุษย์ศาสตร์สาขาภาษาจีนเพื่อนสมัยเด็กของลูซี่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นกับสนิทหรอกก็พอคุยกันได้
“ยังอ่ะ กะจะทำงานให้เสร็จก่อนน่ะ” เบลล์ตอบพลางเคี้ยวทาร์ตไข่เต็มปาก
“โห ขยันกันจริง” เจเจนั่งลงตรงที่ว่างระหว่างลูซี่กับเบลล์
ยอมรับว่าเจเจเป็นคนเข้าถึง ง่าย ใจดี หน้าตาก็ดีด้วย สูงร้อยแปดสิบกว่าๆ หุ่นนายแบบ ฐานะก็ดีมีหน้ามีตาในสังคม แถมยังเก่งรอบด้านจนเรียกได้ว่าเป็นผู้ชาย ที่แสนจะเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้ ผู้ชายแบบเขาใครๆ ก็หมายปองอยากจะเป็นแฟนเขาทั้งนั้น
“แล้วนายไม่กลับหรอ”
“อ๋อ เรารอเรียนบ่ายน่ะ” นั่งทำงานเงียบๆ ฟังพวกเขานั่งคุยกัน ขณะที่กำลังคุยกันอยู่จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดมาจนข้าวของที่อยู่บนโต๊ะเกือบปลิว
“อ๊ากลม!” เบลล์กรีดร้องพร้อมกับเอี้ยวตัวมาจับพวกแก้วพวกถุงขนมกับแก้วน้ำที่ว่างเปล่าแต่เหมือนถุงทาร์ตไข่มันไม่รักดีมันปลิวออกจากอ้อมกอดของเบลล์ก่อนที่กล่องทาร์ตไข่จะร่วงหล่นใส่หัวของลูซี่เต็มๆ
เมื่อลมแรงหยุดพัดเธอเอื้อมมือไปหยิบกล่องทาร์ตไข่ที่อยู่บนหัวออก
“ลูซี่เศษขนมหล่นเต็มหัวเลย” ลูซี่ปั้นหน้าคิ้วขมวดพลางเอื้อมมือไปปัดเศษบนหัว เจเจที่เห็นว่าเธอยังปัดไม่หมดเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับวิสาสะเอื้อมมือมาปัดเศษขนมที่อยู่บนหัวให้เบาๆ “อ่ะ หมดแล้ว”
“ขอบใจ” เธอหันไปขอบคุณเขา เวรชิบ ไอ้ลมบ้าแกทำให้ฉันดูแย่
เสียงแจ้งข้อความจากมือถือของเจเจดังขึ้นเขาหยิบมันออกจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาดู “เพื่อนเราเรียกแล้ว เดี่ยวเราขอตัวก่อนนะ”
“อ่าว จะไปแล้วหรอ”
“อือ เห็นว่าที่สาขามีปัญหาน่ะ เลยเรียกรวม”
“อ๋อ งั้นเจอกัน” เจเจหยิบกระเป๋าลุกจากเก้าอี้โดยไม่ลืมที่จะหันมาโบกมือลา พวกเธอมองตามแผ่นหลังของเจเจจนเขาลับสายตาไปก่อนที่จะหันกลับมาสนใจงานตรงหน้าต่อ
“ดูท่าทางหมอนั่นจะยังไม่ตัดใจจากลูนะ”
“อืม คงงั้น”
เธอตอบเบลล์ไปโดยที่สายตายังคงจดจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊คอยู่ ดูจากอากัปกิริยากับสายตาของเจเจเมื่อกี้ก็พอจะรู้อยู่แหละว่าขายังคงชอบลูซี่อยู่ทั้งที่ก็เคยปฏิเสธไปรอบนึงแล้วแต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า
‘ตอนนี้เธอยังไม่มีใครเราขอโอกาสเธออีกครั้งได้มั้ย เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอรำคาญใจ’ ก็นั่นแหละมันเลยเป็นอย่างที่เห็น
“หมอนั่นนี่สุดๆ เลยนะ โดนปฏิเสธไปตั้งขนาดนั้นยังมีคววามพยายามอยู่อีก เป็นฉันนี่ยอมแพ้ตั้งแต่โดนปฏิเสธละ”
“ก็นะ” ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ซึ่งลูซี่ก็ไม่ได้อะไรนะก็ปล่อยให้เขาทำแบบนั้นต่อไป ไม่ใช่ว่าที่ปล่อยให้เขาตามจีบต่อเพราะเธอมีใจ แต่เขาเลือกเองว่าจะยังจีบต่อ อีกอย่างเขาบอกเองว่าจะไม่ทำให้รำคาญ ซึ่งเธอก็ขัดอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ปล่อยไปตามนั้น
“เดินไปอย่าแตกแถวกันนะครับ จับมือกันดีๆ!”
“อะไรนั่นน่ะ”
เสียงคนตะโกนจากทางฟุตบาทจากหน้าคณะมันดังมากจนสองสาวถึงกับต้องหันไปมอง กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่คุ้นตาเหมือนจะเป็นพวกเด็กสาขาหนึ่งที่เจอเมื่อตอนกลางวันแถวคาเฟ่ กลุ่มคนค่อยๆ ดินผ่านไปจนสายตาไปหยุดที่ผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีที่กำลังเดินจับมือเพื่อนๆ พลางยกขาเตะคนข้างหน้าด้วยท่าทางเด๋อด๋า จู่ ๆ มุมปากก็ยกขึ้นอัตโนมัติพร้อมกับแค่นหัวเราะเล็กน้อย
“หัวเราะอะไรอ่ะลู” เบลล์ถามขณะที่ยังเคี้ยวทาร์ตไข่อยู่เต็มปาก “ไม่มีอะไร เลิกกินแล้วมาช่วยกันทำงานได้แล้ว”
ลูซี่เอื้อมมือหมายจะยึดทาร์ตไข่ในมืออีกคนแต่เบลล์ก็เลือกที่จะยัดมันเข้าปากไปทั้งหมด
“อู้แอ้ว (รู้แล้ว) ”
ไดแต่ส่ายหัวเนือยๆ กับนิสัยเด็กของเพื่อนสนิทตรงหน้าก่อนจะเหลือบสายตามองเด็กแว่นที่ใกล้จะลับสายไปอีกครั้งพลางคิดอะไรบางอย่างในหัว
“น้องแว่นคนนั้นใช่มั้ย” เบลล์บุ้ยปากไปทางผู้ชายใส่แว่นคนนึงในกลุ่มปีหนึ่งที่พึ่งเดินผ่านไป
“อะไร”
“ไม่ต้องมาอะไรเลย รู้นะว่ามองน้องคนนั้นอยู่”
“แล้ว?”
“ไม่ปฏิเสธด้วยนะ”
“แล้วทำไมต้องปฏิเสธ”
“ฮั่นแน่~ ร้ายกาจนักน้า~” จะปฏิเสธทำไมล่ะในเมื่อเธอมองเด็กคนนั้นจริงๆ “แล้วรู้ชื่อเขาปะ”
“รู้”
“เขาบอกหรอ”
“ป่าว อ่านป้ายชื่อเอา” ปากตอบแต่สายตายังคงจดจ้องเด็กคนนั้นอยู่ จนเขาค่อยๆ เดินละจากสายตาไป
“มองขนาดนั้นเดินเข้าไปขอไลน์เขาเลยมั้ย” เบนสายตามาหาเพื่อนสาวที่กำลังเท้าคางมอง “ได้หรอ”
“ล้อเล่นมั้ยล่ะ”
“อ่าวหรอ แต่ก็น่าลองขอจริงๆ นะ” เบลล์เอื้อมมือมาจับแขนพร้อมกับส่ายหน้าราวกับกำลังห้าม “ใจเย็นสาว รู้ว่าอยากคุยกับเขามากแต่ช่วยยับชั่งใจบ้าง”
“หึ ก็ได้ๆ” ยกมือทำท่ายอมแพ้ก่อนจะกลับไปสนใจตรงหน้าต่อ ทำกันไปสักพักระหว่างรอทำงานต่อจากเบลล์เธอก็นั่งเล่นโซเชียลไปพลาง ขณะนั้นเองก็เลื่อนไปหยุดกับโพสต์ๆ หนึ่ง
‘ggg4478 share scient computer 62 page รับน้องวันแรก ไหว้ศาลพระพิฆเนศ รูปภาพ 25+’
กดเข้าที่รูปภาพก่อนจะหยุดที่รูปรวมหนึ่ง สายตาสะดุดกับชายใส่แว่นตั้งแต่แรกก่อนมุมปากจะยกยิ้ม นิ้วเรียวกดเซฟรูปนั้นก่อนจะทำการตัดส่วนที่ไม่ใช้ออกทั้งหมดจนเหลือแค่ส่วนเดียวก่อนจะทำการเซฟมันลงเครื่อง
เสียงโหวกเหวกจากทางด้านหลังเรียกความสนใจให้หันไปมองพบว่าเป็นกลุ่มนักศึกษาสองกลุ่ม กลุ่มนึงเหมือนจะเป็นคณะมนุษย์ฯ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นสาขาวิทย์ฯ คอมฯ ที่เดินผ่านไปก่อนหน้า
สายตามองไปที่เด็กแว่นคนหนึ่งแต่เหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้เขาหันมาสบตาครู่หนึ่งพร้อมกับสะดุ้งไปหนึ่งทีก่อนจะทำสายตาเลิ่กลั่กแล้วยิ้มให้และก้มหัวเล็กน้อยแล้วเบนสายตาออกไป
มุมปากยกยิ้มอัตโนมัติก่อนจะส่ายหัวเบาๆ “เลิกยิ้มแล้วมาช่วยงานได้แล้ว”
“รู้แล้วน่า” หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันกลับมาทำงานต่อจากคนขี้บ่นพลางพูดหนึ่งประโยคอยู่ในใจ
หวังว่าอนาคตอันใกล้เราจะได้เจอกัน
ไทม์
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments