Time

Time

'01' / 1

กิจกรรมรับน้องเป็นกิจกรรมที่ปี 1 ทุกคนต้องเคยเจอ ในแต่ละคณะหรือสาขากิจกรรมก็จะแตกต่างกันออกไป ‘ไทม์’ เด็กปี 1 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ก็ต้องเจอเหตุการณ์รับน้อง บอกตามตรงว่าเขาไม่ได้อยากเข้าเลยสักนิดแต่ก็ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนหรือรุ่นพี่เลยจำเป็นต้องจำใจ

“อยากกลับบ้านจังโว้ย”

บูม เพื่อนใหม่ของไทม์เอ่ยพร้อมกับเอนหลังพิงเสาทิ้งความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมรับน้อง ไทม์ที่เห็นเพื่อนเหนื่อยยื่นขวดน้ำให้เขา

“เอาน่า เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้วทนอีกหน่อยสิ”

พูดพลางเอื้อมมือไปบีบพุงอ้วนๆ ของคนข้างๆ เล่น พวกเขานั่งพักระหว่างที่รอทำกิจกรรมรับน้องต่อ

เอาจริงๆ ไทม์ก็ไม่ได้อยากทำกิจกรรมพวกนี้หรอกมันทั้งเหนื่อยทั้งเลิกเย็นแถมยังต้องคอยห้อยป้ายนี่ตลอดอีกด้วย รำคาญจะตาย

“ปีหนึ่งรวม!!” เสียงเรียกรวมของรุ่นพี่ให้ปีหนึ่งทุกคนที่นั่งกันอยู่ลุกพรวดออกจากที่นั่งไปยืนเข้าแถวเรียงหนึ่งก่อนรุ่นพี่จะให้นั่งลงกับพื้นปูน

“พี่จะแจ้งเรื่องกิจกรรมนะคะเรื่องแรกกิจกรรมล่าลายเซ็นน้องๆ ทุกคนจะต้องมีสมุดสำหรับล่าลายเซ็นสองเล่ม เล่มแรกเล่มสีฟ้าสำหรับของรุ่นพี่ เล่มที่สองเล่มสีเหลืองสำหรับเพื่อนในสาขา พี่จะให้เวลาสองอาทิตย์นะคะโดยลายเซ็นของเพื่อนจะต้องครบตามจำนวนรายชื่อในสาขา ส่วนของรุ่นพี่จะต้องมีลายเซ็นของรุ่นพี่อย่างน้อยร้อยสามสิบลายเซ็นต์นะคะ…”

รุ่นพี่ยังคงอธิบายกิจกรรมต่อจนเสร็จและในที่สุดก็ถึงเวลาปล่อยเสียที หลังจากไทม์อำลาและแยกย้ายกับบูมเขาก็ตรงไปอาคารร้อยปี

อาคารร้อยปีเป็นอาคารที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนมันถูกใช้เป็นตึกเรียนแต่ปัจจุบันนี้มันถูกบูรณะให้เป็นอาคารสำนักงานวิชาการและห้องสมุดแล้ว

ไทม์เดินเข้าตึกขึ้นไปยังชั้นสามที่เป็นชั้นห้องสมุด ทำการแตะบัตรนักศึกษาgเพื่อเข้าไปด้านใน ทันที่เข้ามาขั้นแรกก็กวาดสายตาผ่านเลนส์แว่นมองไปยังรอบๆ ห้องดูเหมือนว่าวันนี้คนจะใช้บริการไม่เยอะ แต่ก็ดีแล้วแหละมันดูสงบดีแล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆ ด้วย

สองขาเดินตรงไปยังล็อคที่ 11 ล็อคสำหรับหนังสือนวนิยายสืบสวนสอบสวนเดินไปตามทางเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดที่กลางล็อค ใช้สายตากวาดมองหาหนังสือที่ต้องการในที่สุดก็เจอมัน ทำการเอื้อมมือจนสุดหมายจะหยิบหนังสือที่อยู่ด้านบนแต่ไม่ว่าจะเอื้อมยังไงก็เอื้อมไม่ถึง

“สูงแฮะ”

แม้จะพยายามเอื้อมมืออีกครั้งคราวนี้เขย่งเท้าด้วยและในที่สุดเขาก็หยิบมันได้สำเร็จ แต่ก็ได้ดีใจได้เพียงเสี้ยววิเพราะหนังสือที่อยู่ติดกับหนังสือที่ดึงมามันดันร่วงให้หัว และด้วยความตกใจบวกกับความซุ่มซ่ามดันเผลอขยับตัวไปกระแทกกับชั้นหนังสือทำให้หนังสือที่อยู่ด้านบนร่วงลงมาใส่นับไม่ถ้วนจนล้มกับพื้น

“โอย~เจ็บ”

เจ้าตัวมองเพดานสูงพร้อมเบ้หน้าด้วยความเจ็บจากเหล่าหนังสือที่หล่นมาใส่ ให้ตายเถอะนี่มันวันซวยอะไรวะเนี่ย

“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”

ใบหน้าของใครบางคนยื่นเข้ามาในกรอบสายตาให้เห็นผู้หญิงผมบลอนด์ทองกับใบหน้าที่ออกแนวเซ็กซี่เหมือนสาวลูกครึ่งกำลังยืนมองจากบนหัวด้วยสีหน้าที่งงสุดๆ

“คุณคะ”

“ครับๆ!!”

เสียงสวยเรียกดึงสติให้ไทม์กุลีกุจอลุกพรวดจากกองหนังสือที่หล่นทับแต่ด้วยความรีบเกินไปเลยทำให้ตอนยืนเซเกือบจะล้มไม่เป็นท่าแต่โชคดีที่ได้ผู้หญิงผมบลอนด์ช่วยดึงเอาไว้ทำให้เขากลับมายืนตรงได้ดังเดิม

“ขอบคุณครับ”

ไทม์ก้มขอบคุณพร้อมกับยืนเต็มความสูงทำให้ได้เห็นใบหน้าของเธอชัดๆ อีกครั้ง ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงอ่อนรับกับใบหน้าที่คมคายออกไปทางลูกครึ่งมองดูแล้วเธอสวยราวกับพวกดาราฮอลลีวูดเลยก็ว่าได้

“มีอะไรรึเปล่าคะ”

เธอแสดงสีหน้าสงสัยพร้อมกับปั้นคิ้วขมวดเล็กน้อย ดันเผลอไปจ้องเขาเสียได้ “เอ่อ…ป่าวครับ คือ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ไทม์ก้มขอบคุณเธออีกครั้ง

“เหมือนเธอจะมีแผลที่หัวนะ”

“เอ๊ะ?” ยกมือแตะๆ ที่หน้าผากแต่ก็ไม่เห็นจะมี คนตรงหน้าส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะวิสาสะเอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากเบาๆ

“ตรงนี้ต่างหาก” นิ้วเรียวสวยแตะลงที่แผลบนหน้าผากเบาๆ

“อ่อ ขอบคุณครับ”

“เจ็บรึป่าว” เธอเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วงพร้อมกับจิ้มๆ แผลเบาๆ เพื่อเช็คแผลบนหน้าของคนซุ่มซ่าม

“ไม่เจ็บครับ คงจะโดนตอนหนังสือหล่นใส่” ได้แต่ยิ้มแห้งกลับไป เอาจริงมันก็เจ็บแหละแต่ตอนนี้รู้สึกอายมากกว่า ดันมาซุ่มซ่ามต่อหน้าคนอื่นซะได้โคตรจะซวยเลย!

“เกิดอะไรขึ้นหรอครับ” รุ่นพี่บรรณารักษ์วิ่งหน้าตาตื่นมาทางพวกเขา

“อ่อ พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะครับ ต้องขอโทษด้วย”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยนะครับ” รุ่นพี่บรรณารักษ์เหมือนจะเดินเข้าทางที่พวกเขายืนอยู่แต่จู่ๆ รุ่นพี่คนสวยก็พูดดักเอาไว้

“นายกลับไปดูแลด้านหน้าเถอะ เดี๋ยวทางนี้พวกเขาจัดการเอง”

“แต่..”

“ไปเถอะ”

รุ่นพี่สาวคนสวยเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบทำให้รุ่นพี่บรรณารักษ์คนนั้นยอมแพ้และก็เดินจากไปอย่างช่วยไม่ได้

ไทม์หันกลับมาจัดการกับกองหนังสือบนพื้นค่อยๆ หยิบมันเข้าชั้นดังเดิมโดยมีรุ่นพี่สาวสวยผมบลอนด์คอยช่วย พวกเขาใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ในการเก็บหนังสือทั้งหมดเข้าชั้นจนในที่สุดก็เหลือเล่มสุดท้าย

ขณะที่กำลังก้มตัวลงหยิบเป็นเวลาเดียวกันที่รุ่นสาวตรงหน้าก็เอื้อมมือมาหยิบด้วยเหมือนกันทำให้เขาต้องชะงักออกพร้อมกับก้มหัวขอโทษอีกคนอย่างไม่ตั้งใจ

“ขะ-ขอโทษครับ”

“ขอโทษเรื่องอะไรคะ” เธอทำหน้าสงสัยพลางสอดหนังสือเล่มสุดท้ายในมือเข้าชั้น

“ก็เรื่องที่ผมซุ่มซ่ามจนทำให้คุณลำบากน่ะครับ” ไทม์พูดพลางเกากางเกงตัวเองด้วยความเขิน

“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง” เธอยกยิ้มน้อยๆ อย่างเป็นมิตร

“ยังไงก็ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ไทม์ก้มหัวขอบคุณเธออีกครั้งไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่แต่ก็ขอบคุณไปก่อน

“ขอบคุณบ่อยเกินไปแล้วนะเนี่ย”

“เอ๊ะ?อ่อ พอดีผมติดนิสัยมาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะครับ”

“อ๋อ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมของตัวนะครับ” ไทม์ก้มหัวลาเธออีกครั้งก่อนจะรีบหมุนตัวเดินออกมาแต่ก็ยังไม่ทันที่จะก้าวเธอก็เรียกรั้งไว้ “เดี๋ยวก่อน”

“ครับ?” เธอก้มหยิบอะไรบางอย่างที่พื้นก่อนจะยื่นมาให้ “ให้ผมหรอครับ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นการถามแต่เหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป

“กระเป๋าตังค์ตก” พอบอกว่าเป็นกระเป๋าตังค์ตกไทม์ก็รีบค้นกางเกงของตัวเองทันที

เออใช่ กระเป๋าตังค์มันไม่อยู่ที่ตัวนี่ว่า “อ่อ ของผมเอง ขอบคุณครับ” เขายื่นมือไปรับพร้อมกับยิ้มแห้งก่อนพูดขอบคุณครั้งที่ร้อย

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่ไทม์จะรีบหมุนตัวเดินออกจากตังค์นั้นทันที

โอ๊ย ซุ่มซ่ามไม่พอแล้วยังจะทำตัวเด๋อด๋าอีกแล้วแบบนี้เธอจะมองเขาเป็นคนยังไงวะเนี่ย

ไทม์เดินมายังอาคารตึกข้างๆ อาคารสำนักงานวิชาการก่อนจะหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ไม้ใต้ตึกและจะเอาหนังสือที่ยืมมาออกมาวางแต่ก็ดันเกิดมือไม้อ่อนจนเกือบทำหนังสือร่วง

“ฟู่ว~ เกือบไปแล้ว”

ถ้าหนังสือร่วงขึ้นมาจริงๆ นี่ยุ่งเลย

จัดการเปิดหนังสือไล่หาข้อมูลที่อาจารย์สั่งงานวันนี้ ขณะนั้นเองสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนไกลๆ ผมสีบลอนด์สะดุดตายาวกลางหลัง ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นพี่สาวคนสวยเมื่อกี้นะ

สายตาจดจ้องมองเธอ ขนาดมองจากข้างหลังจากไกลๆ ยังออร่าจับเลย ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ

“ทำไรอ่ะ!!!”

“เฮือก!!”

เสียงตะโกนทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ รีบหันไปหาต้นเสียงจนพบว่าคือติมนั่นเอง

ติมเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่เขาไม่ค่อยจะมาเข้ารับน้องสักเท่าไหร่เพราะหมอนี่เตรียมตัวจะเป็นนักกีฬาฟุตบอลของมหาลัยน่ะสิ

“ยังไม่ไปคัดตัวหรอ”

“ยัง รอพี่เขาเรียก” อีกคนพูดพร้อมกับนั่งลงฝั่งเดียวกัน “เมื่อกี้ส่องสาวหรอ”

“บ้า ไม่ได้ส่อง” รีบหันกลับไปสนใจหนังสือตรงหน้าเพื่อกลบเกลื่อน “หรอ ไหนบอกจะทำเรื่องคดีเฮช เฮช โฮมไม่ใช่หรอ แต่ไอ้หน้าที่มึงเปิดอยู่มันเป็นของเอ็ดกีนนะ”

เอ๊ะ?มองหน้าหนังสือพบว่ามันเป็นคนละเรื่องที่จะหาข้อมูลจริงๆ ชิบล่ะ

“เห~~ นี่ล่กขนาดเปิดเรื่องผิดเลยหรอเนี่ย ไหนว่าไม่ได้ส่องไงเพื่อน”

หนอยแน่เจ้าติม มันจะรู้มากเกินไปแล้วนะ

“ละ-แล้วไงล่ะ คนเรามันก็ต้องมีส่องๆ บ้างแหละน่า” พยายามพูดกลบเกลื่อน ติมน่ะเป็นคนฉลาดแล้วก็เจ้าเล่ห์มากบวกกับว่าเขาป็นคนโกหกใครไม่เป็นด้วยเลยไม่แปลกที่เรื่องแค่นี้ที่ติมจะดูออก

“แต่พี่สาวคนนั้นก็สวยจริงนะ ดูสิพวกตัวผู้แถวนี้มองตาเป็นมันเลย”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็โดนด่าหรอก” ไม่พูดเปล่าพลางยกมือตีแขนคนข้างๆ ไปทีนึง ถ้าคนอื่นมาได้ยินเข้าเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอาได้

“กลัวไรเล่า ไม่มีใครเขาทำไรหรอก นี่ในมหาลัยนะมีเรื่องขึ้นมาได้โดนทัณฑ์บนหรอก”

พูดเสร็จเจ้าตัวก็หันไปเล่นเกมส์ในมือถือต่อ แต่ขณะที่กำลังจะหันสายตากลับไปทำงานก็ต้องชะงักอีกรอบเมื่อเห็นว่าพี่สาวคนสวยคนนั้นกำลังยืนคุยกับรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงดูสูงหุ่นมีกล้ามเนื้อดูกลายๆ น่าจะเป็นคนที่ฮอตน่าดู

“ไอบูมไปไหนอ่ะ” ติมที่กำลังจดจ่อกับมือถือเอ่ยถามผม

“เห็นว่าไปทำธุระมั้ง เดี๋ยวก็คงมาแหละตอนบ่ายสองต้องเข้ารับน้องอีกนี่”

“นี่แก นั่นใช่ผู้หญิงคนนั้นป่ะ”

“คนไหนอ่ะ”

“ก็คนที่แฟนเก่าแกไปจีบไง”

เสียงสนทนาของคนใกล้เคียงดังจนทำให้เขาต้องหยุดฟังก่อนจะมองตามที่ผู้หญิงหนึ่งในนั้นชี้แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่รู้สักทีว่าคนที่พวกเธอคือใครกัน

ว่าแต่นินทากันโต้งๆ แบบนี้เลยหรอเนี่ย

“อ๋ออีนั่นน่ะหรอ ใช่ ว่าแต่ทำไมมันมาเสนอหน้าที่ตึกนี้ล่ะ”

“จะไปรู้มั้ยละ คงมาเดินอ่อผู้ชายล่ะมั้ง”

“เหอะ แรดซะไม่มี”

สองสาวนั่นนินทาเสร็จก็เดินจากไปได้แต่ทิ้งปมความสงสัยให้ไทม์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว

“มึงกำลังสงสัยใช่มั้ยว่าสองคนนั่นกำลังนินทาใครอยู่”

ติมพูดขึ้นขณะที่สายตายังคงจดจ่อกับเกมส์ในมือถือ

“มึงรู้ได้ไงอ่ะ” ทั้งที่มันกำลังรวมสมาธิไปที่เกมส์ในมือถือแท้ๆ แถมยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองด้วยแต่กลับมารู้ความคิดของเขาเฉย

“หน้ามึงมันบอกไง”

“หน้ากูหรอ” ผมยกมือจับหน้าไปพลาง

“เออ”

“งั้นมึงรู้หรอว่าสองคนนั้นนินทาใคร”

“มึงกวาดสายตามองดิ แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้ว”

หัวคิ้วขมวดปมก่อนจะทำการกวาดสายตาไปรอบๆ ตามที่ติมบอกอยู่สองสามรอบ

“ใครอ่ะ”

พอไทม์ตอบไอติมก็ถึงกับเงยหน้าขึ้นพร้อมกับทำหน้าราวกับกำลังด่าว่า นี่มึงยังไม่รู้อีกเรอะ

ก็เขาไม่รู้จริงๆ นี่

“เมื่อกี้สองคนนั่นมองไปทางไหน”

“ตรงโน้น” ไทม์พูดพร้อมกับชี้ไปบริเวณด้านหน้า “แล้วตรงนั้นมันมีผู้หญิงกี่คน”

ไทม์หันไปมองอีกรอบพบว่าบริเวณตรงที่เขาชี้มีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียวคือพี่สาวผมบลอนด์ที่ช่วยเขาในห้องสมุดเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

อย่าบอกนะว่าคนที่สองคนนั้นนินทาคือพี่สาวคนนั้นน่ะ

“ก็ตามนั้นแหละ”

“แล้วทำไมต้องนินทาพี่สาวคนนั้นด้วยอ่ะ”

“มีสองอย่าง สิ่งพูดเป็นจริงยอมรับไม่ได้เลยนินทากับสอง แค่เขาสวยกว่าเด่นกว่ามองแล้วขัดใจก็เลยนินทา”

แค่เนี้ยะนะ

“งั้นพี่สาวคนนั้นก็ไม่ได้ผิดน่ะสิ”

“อืม”

และดูเหมือนมันจะยังไม่จบเริ่มมีเสียงซุบซิบของกลุ่มผู้หญิงที่ถัดจากโต๊ะของพวกเขาไม่ไกลพูดถึงพี่สาวคนนั้นในทางที่ไม่ดี

ขมวดคิ้วของเขาเริ่มเป็นปมอีกครั้ง แค่เธอเด่นกว่ามันต้องขนาดนี้กันเลยหรอ อยากจะรู้จริงๆ ว่าพี่สาวคนนั้นทำอะไรผิดทำไมถึงต้องนินทากันขนาดนี้ด้วย

“มึงกำลังสงสัยอยู่ใช่มั้ยว่าทำไมพี่สาวคนนั้นถึงโดนนินทา” มันรู้ความคิดผมอีกแล้ว

“ใช่”

“ก่อนมึงจะไปสงสัยเรื่องเขามึงสงสัยเรื่องตัวเองก่อนว่าเมื่อไหร่งานมึงจะเสร็จ เอาแต่เสือกเรื่องชาวบ้านอยู่นั่นแหละงานการไม่เดินสักที”

“แหะๆ ลืมเลย”

ไทม์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนคนข้างๆ ยุ่งเรื่องชาวบ้านเพลินไปหน่อย

สายตาทอดมองแผ่นหลังเล็กที่อยู่ไกลๆ ที่กำลังเดินออกจากตึกนี้ ถ้าเป็นเขาแล้วต้องทนอยู่กับเสียงนินทาพวกนี้ทุกวันคงไม่ไหวหรอก อึดอัดแย่

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!