"พวกนายสองคนรออยู่นี่นะ ฉันจะลงไปเอง" ซีรีนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโดยไม่สนใจเสียงท้วงใดๆ ทิ้งท้ายไว้เพียงคำพูดสั้นๆ ก่อนจะกระโจนออกจากเนินเขาสูงชันด้วยความเร็วราวสายฟ้าแลบ
ร่างเพรียวของเธอทะยานลงมาตามความลาดชันของเนิน ปลายผ้าคลุมสีดำสะบัดไหวราวกับปีกของเหยี่ยว มือทั้งสองประคองสมดุลอย่างชำนาญ เมื่อลงถึงพื้น เธอกระแทกปลายเท้ากับพื้นหินอย่างมั่นคง แรงกระแทกทำให้หินที่รองรับเท้าของเธอแตกร้าวเล็กน้อย แต่ร่างของเธอกลับไม่แสดงอาการสะดุ้งสะเทือนใดๆ
---
เบื้องล่างของเนินเขา เผยให้เห็นความงดงามและความยิ่งใหญ่ของ เอลบัฟ เกาะในตำนานของเผ่ายักษ์ หมู่บ้านของพวกยักษ์ตั้งอยู่กระจายตัวบนผืนดินกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มและต้นไม้ขนาดมหึมาที่สูงเสียดฟ้า ภูเขาหินรูปร่างแปลกตาตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ทุกอย่างที่นี่ดูเหมือนถูกขยายขนาดหลายเท่าตัวเพื่อรองรับเผ่ายักษ์ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ในใจกลางของเกาะ เสาหินแกะสลักลวดลายโบราณที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเอลบัฟตั้งตระหง่านอยู่ ลมที่พัดผ่านพาเอากลิ่นหญ้าผสมกลิ่นทะเลและเสียงคำรามของยักษ์ที่ดังก้องไปทั่ว ผืนดินที่เต็มไปด้วยรอยเท้าขนาดใหญ่ซึ่งบ่งบอกถึงการเดินเหินของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะนี้
---
ระหว่างที่ซีรีนกำลังเดินอยู่ ท่ามกลางบรรยากาศอันกดดัน เสียงหนักแน่นและทรงพลังดังขึ้นขัดจังหวะ
"หยุดก่อน!"
ร่างสูงใหญ่ของชายชาวยักษ์ก้าวออกมาจากเงา ดวงตาเขาจ้องมองซีรีนด้วยแววตาเอาเรื่อง เขาคือ โดริ หนึ่งในนักรบแห่งเอลบัฟ ผิวสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่บ่งบอกถึงประสบการณ์การต่อสู้ ผ้าคาดเอวสีสดและหมวกนักรบโลหะบ่งบอกถึงฐานะของเขา ดาบยักษ์ขนาดใหญ่ถูกสะพายไว้ที่หลัง แม้เขาจะดูสง่างาม แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
"แกคือพวกค่าหัวระดับพิเศษงั้นสินะ...แกคิดจะมาเอาเจ้าชายโลลิไปหรือไง?" โดริเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาดังลั่นจนสะเทือนอากาศ ซีรีนหยุดยืนมองชายยักษ์ตรงหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง สายตาเธอเยือกเย็นและแน่วแน่
"แล้วถ้าฉันจะใช่ล่ะ? จะทำไม?" ซีรีนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แฝงความกดดันที่ทำให้ยักษ์ตรงหน้าขมวดคิ้ว ความตึงเครียดในอากาศเพิ่มขึ้น ราวกับโลกหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ
นี่คือการเผชิญหน้าระหว่างนักรบแห่งเอลบัฟผู้ยิ่งใหญ่ และรองกัปตันของกลุ่มโจรสลัดที่รัฐบาลโลกหมายหัว...
**โดริ** ตะโกนเสียงดังสนั่น ดาบยักษ์ขนาดมหึมาที่เขาสะพายอยู่ถูกชักออกจากหลังในชั่วพริบตา เสียงโลหะเสียดสีกันดังสะท้านอากาศ มือข้างเดียวของเขากำดาบไว้แน่นก่อนจะสะบัดมันอย่างรุนแรง **"อาวุธของเอลบัฟ: Hakoku!"**
แรงลมจากการฟาดดาบของโดริทรงพลังมหาศาล มันกรีดผ่านอากาศและพุ่งตรงเข้าหาซีรีนจนพื้นดินที่อยู่ในเส้นทางเกิดรอยแยก เสียงคำรามของดาบนั้นดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ ราวกับภูเขากำลังถล่มลงมา
ซีรีนไม่ได้ขยับหนี แต่เพียงแค่แสยะยิ้มมุมปาก "ก็แค่พละกำลังของยักษ์…" เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับด้ามดาบขนาดใหญ่ที่สะพายอยู่บนหลัง เธอชักมันออกมาในจังหวะเดียว ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ดาบธรรมดา แต่คือหนึ่งใน 12 ดาบชั้นเลิศ **"มิสโทแกนิกา (Mystoganica)"** ดาบในตำนานที่มีใบมีดคมยาวสะท้อนแสงเงินยวง ตัวดาบถูกประดับด้วยลวดลายแกะสลักวิจิตรตระการตา โคนดาบประดับด้วยอัญมณีสีเขียวมรกตที่ดูเหมือนมีพลังบางอย่างแฝงอยู่
**ซีรีน** ยกดาบขึ้นเหนือศีรษะ ลมรอบตัวเธอเริ่มหมุนวนรุนแรง ราวกับธรรมชาติกำลังตอบสนองต่อพลังของดาบเล่มนี้ ใบมีดของมิสโทแกนิกาปลดปล่อยคลื่นพลังที่กรีดผ่านอากาศได้แม้ยังไม่ได้เหวี่ยง เธอสะบัดดาบในแนวนอนเพียงครั้งเดียว คลื่นพลังสีเงินพลันแหวกอากาศออกไป
**ร่างของโดริ** ถูกตัดออกจากกันอย่างไร้ปรานี เสี้ยววินาทีนั้นทั้งร่างของเขาแยกออกจากกันกลางลำตัว เสียงเนื้อและเกราะของเขาขาดออกจากกันดังก้องไปทั่วบริเวณ ดวงตาของยักษ์นักรบเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อว่าเพียงการฟันครั้งเดียวจากเธอจะทำลายเขาได้ถึงเพียงนี้
ซีรีนสะบัดดาบเบาๆ ขจัดแรงลมและพลังที่เหลือออกจากใบมีด เธอหันไปมองร่างของโดริที่นอนแน่นิ่งบนพื้น "ฉันไม่ฆ่าหรอก..." เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย ก่อนจะยกนิ้วขึ้นดีด **"คลิก"**
เสียงดีดนิ้วของเธอสร้างประกายพลังบางอย่างที่ดูเหมือนคลื่นเวลา ทุกอย่างในบริเวณนั้นเริ่มเคลื่อนไหวถอยกลับไปยังจุดเริ่มต้น **ร่างของโดริที่ถูกฟันขาดค่อยๆ ต่อคืนสู่สภาพเดิม** รอยแผลเป็นทั้งหมดเลือนหายไปพร้อมกับพื้นดินและต้นไม้รอบๆ ที่เคยเสียหายจากการโจมตีของพวกเขากลับมาเหมือนเดิมทุกประการ
---
**โดริ** ที่เพิ่งกลับมาจากความตาย ยืนนิ่งด้วยอาการตื่นตระหนก ดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยความไม่เชื่อ "ไม่จริง…แม่สาวนี่เหนือกว่าเจ้าชายโลกิมากเกินไป…" เขาคิดในใจ หยาดเหงื่อเริ่มไหลลงมาตามกรอบหน้า
"ขนาดโลกิ พวกเราต้องยกกองทัพทั้งหมด ถึงจะจับเขาได้…แต่เธอ…"
ในหัวของโดริเริ่มปะติดปะต่อถึงบางสิ่ง "พลังผลปีศาจ…ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!" เขากำดาบแน่นพลางถอยหลังเล็กน้อย เขารู้ตัวดีว่าสิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่แค่ศัตรูธรรมดา แต่เป็นคนที่อยู่ในระดับที่เขาไม่มีวันเอาชนะได้
ซีรีนหันหลังให้โดริ เธอสะบัดดาบมิสโทแกนิกากลับเข้าฝัก ก่อนจะพูดทิ้งท้ายด้วยเสียงเย็นชา "คราวหน้าอย่าเอาแค่พละกำลังมาสู้ ถ้ายังอยากรักษาศักดิ์ศรีนักรบของเอลบัฟ"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments