ณ เกาะเอลบัฟ ดินแดนแห่งเหล่ายักษ์ที่เต็มไปด้วยภูมิประเทศอันขรุขระและป่าไม้หนาแน่น ทิวเขาสูงตระหง่านทอดยาวจนสุดสายตา เสียงลมพัดผ่านหมู่ไม้และยอดหินดังก้องในอากาศ เย็นเยือกแต่เต็มไปด้วยพลังชีวิต เมฆครึ้มปกคลุมท้องฟ้า แต่ยังมีลำแสงอ่อนๆ จากดวงอาทิตย์ลอดผ่าน ราวกับให้ความหวังในดินแดนแห่งการต่อสู้และเกียรติยศนี้
บนเนินเขาแห่งหนึ่งที่มองเห็นทั้งผืนป่าและหมู่บ้านยักษ์ในระยะไกล ปรากฏร่างของ คาเรน ดี ซีรีน หญิงสาวที่เต็มไปด้วยออร่าของอันตราย ผมสีเงินตัดสั้นคล้ายทรงผมผู้ชาย ปลิวไสวไปตามแรงลม ดวงตาสีอำพันของเธอจ้องมองไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว ชุดเสื้อคลุมสีดำสนิทประดับด้วยสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรสลัดของเธอพริ้วไหวตามแรงลม สะท้อนถึงพลังและการเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่ง
"***เจ้าโลลิ***..." *เธอเอ่ยเสียงต่ำ เสียงนั้นเยือกเย็นและเต็มไปด้วยอำนาจ* "**เจ้านั่นทำตัวตามอำเภอใจเกินไป คราวนี้ ฉันจะลงโทษมันด้วยตัวเอง...ไม่มีปัญหาใช่ไหม, มูหลิง**?"
เบื้องหลังของเธอ มูหลิง หญิงสาวผู้เป็นกัปตันของกลุ่ม ยืนสงบนิ่ง สทรงผมตัดสั้นสีเขียวยาวอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาคมกริบของเธอสะท้อนความสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยไหวพริบและประสบการณ์มากมาย เธอสวมชุดกังฟูสีเขียวสดที่ขับเน้นความแข็งแกร่งและความงามในคราวเดียวกัน
"***ใจเย็นลงหน่อย, ซีรีน" มูหลิงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่ก็มีน้ำหนักพอที่จะหยุดความโมโหของรองกัปตันได้*** "โลลิอย่างหมอนั่นน่ะ แม้จะทำอะไรตามใจไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มเราอยู่"
ทั้งสองยืนมองทิวทัศน์ของเอลบัฟที่แผ่ไพศาลเบื้องล่าง ลมแรงที่พัดผ่านนำพากลิ่นดินและกลิ่นทะเลมาสมทบ เสียงคำรามของเหล่ายักษ์จากหมู่บ้านด้านล่างดังแว่วมาถึง ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด แต่ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ซีรีน หันมามองกัปตันของเธอด้วยแววตาแน่วแน่ "ถ้าหมอนั่นยังดื้ออีก ฉันจะไม่ลังเลที่จะสั่งสอน—ไม่สิ ฉันจะทำให้มันจำจนวันตาย!"
มูหลิง หัวเราะเบาๆ ราวกับได้ยินอะไรตลก "ซีรีน เธอชอบทำตัวเป็นพี่ใหญ่เสมอ แต่บางครั้งก็ลืมไปว่าพวกเราทุกคนต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อน เธอน่ะ...ก็เหมือนกับพวกเขา เธอก็เคยดื้อเหมือนกัน"
ซีรีนกัดฟันเบาๆ แต่มุมปากกลับยกยิ้ม เธอไม่เถียงอะไรต่อ เพราะลึกๆ แล้วเธอรู้ดีว่ามูหลิงพูดถูก
เบื้องล่าง เนินเขาและท้องฟ้าของเอลบัฟเผยภาพของโลกที่ทั้งโหดร้ายและงดงาม สัญลักษณ์ของยุคที่เหล่าจักรพรรดิและกลุ่มโจรสลัดแย่งชิงความยิ่งใหญ่ในท้องทะเล... กลุ่มของมูหลิงอาจจะไม่ได้เป็นหนึ่งในจักรพรรดิทั้งสี่ แต่พวกเธอและพวกเขาคือภัยคุกคามที่รัฐบาลโลกไม่อาจมองข้ามได้
ด้านหลังของเนินเขา ปรากฏร่างของชายร่างกลายกำย้ำ ชิม่อน ชายผู้มีร่างกายสูงใหญ่จนดูเหมือนยักษ์กล้ามแน่นราวกับเหล็กกล้า ผิวของเขาถูกปกคลุมด้วยรอยแผลเป็นที่บ่งบอกถึงประสบการณ์การต่อสู้นับไม่ถ้วน ผมสีเขียวสดสะบัดไปตามแรงลม ดวงตาคมดั่งเหยี่ยวจับจ้องมาที่มูหลิงและซีรีน เสื้อคลุมแดงที่เขาสวมอยู่มีลวดลายโลหะทองที่บ่งบอกถึงฐานะนักรบผู้แข็งแกร่งในกลุ่มนี้
"ให้ฉันไปเองไหม, มูหลิง...ไปตามล่าเจ้าโลลินั่นกลับมา" ชิม่อนเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ทรงพลัง ท่าทางของเขาดูนิ่งขรึม แต่คำพูดที่เปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ซีรีน หันขวับไปมองเขา ดวงตาเปล่งประกายความไม่พอใจทันที "***นายน่ะ ไม่ต้องมายุ่ง, ชิม่อน!" เธอเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความเฉียบขาด "ฉันในฐานะรองกัปตัน ฉันจะเป็นคนไปตามหาเจ้าโลกิเอง***!"
ชิม่อนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ยิ้มกวนๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา "***หา...ถ้าให้เธอไป เจ้าโลกิคงรอดกลับมาไม่ครบ 32 ชิ้นกันพอดี***" คำพูดนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงล้อเลียนแต่แฝงด้วยความขี้เล่น เขารู้ดีว่าเขากำลังแหย่เสือที่หลับอยู่
ซีรีนกัดฟันแน่น ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอยืดตัวตรงและจ้องมองชิม่อนด้วยสายตาเย็นชา "***อะไรกัน...เจ้านั่นมันทำตามใจชอบเกินไป ฉันก็แค่จะ สั่งสอน นิดหน่อยเอง***!" เธอพูดพลางยกมือขึ้นกอดอก ใบหน้าของเธอฉายแววจริงจังแต่ก็มีเสี้ยวหนึ่งที่บ่งบอกว่าเธอกำลังหงุดหงิดกับคำพูดของชิม่อน
"ทั้งสองคนพอได้แล้ว...น่า" มูหลิง พูดแทรกขึ้น พร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ ที่ปรากฏบนใบหน้า เธอยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน ราวกับเป็นจุดสมดุลของสถานการณ์ที่กำลังร้อนแรง
สายลมแรงพัดผ่านอีกครั้งพาเอาใบไม้แห้งปลิวว่อน ชิม่อนยืนกอดอกพลางหัวเราะเบาๆ ราวกับไม่มีอะไรให้เขากังวล ในขณะที่ซีรีนยังคงยืนอย่างเคร่งขรึม เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
มูหลิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้ากว้างเบื้องบน ใจของเธอยังคงสงบนิ่ง แต่เธอก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงอีกหนึ่งวันธรรมดาในชีวิตของพวกเขา—กลุ่มโจรสลัดที่เต็มไปด้วยบุคคลอันตรายและไม่ธรรมดาเหล่านี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Gh you are doing
อยากทราบว่า อยากให้ปรับปรุงอะไร
2024-11-23
0