ตอนที่ 4 หน้าที่ของเธอ

4

พัง!

บอกเลยว่าไม่ใช่แค่แผนที่พัง แต่เป็นร่างกายฉันด้วย!

ฉันนอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้องนั่งเล่นอย่างหมดแรง หลังจากวิ่งเข้าออกห้องน้ำเป็นรอบที่สาม

“มานอนทำอะไรตรงนี้เนี่ย อันนี้มันที่เขา…”

ฉันลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง แล้วก็เจอใบหน้าข้างบนที่คาดคิดไว้อยู่แล้ว ยัยเอินเอินชะโงกหน้าข้ามมาจากหลังโซฟา

“อย่ามากวนน่า… ไปนั่งตรงโน้นไป” ฉันโบ้ยไปทางเก้าอี้นวมอีกตัว

“เขาจะนอน…”

“ไปนอนบนห้องเซ่!”

“…ดูทีวี”

ฉันค้อนให้ทีหนึ่งแล้วพลิกตัวหนี พลางหยิบหมอนขึ้นมาปิดที่หู เพราะเห็นว่าเถียงกับยัยนี่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“พี่อันอันอ่า… ฮึ่ย!”

ในที่สุดยัยเอินเอินก็ยอมแพ้ เดินไปที่โซฟาตัวเล็กสำหรับนั่งคนเดียว หยิบรีโมตทีวีบนโต๊ะกลาง แล้วกระแทกก้นนั่งลงไป เจ้าตัวกดเปลี่ยนช่องโดยไม่ถามความเห็นจากฉันที่นอนอยู่ก่อนเลยสักคำ

“จะนอนก็นอนไปเลย เขาจะดูทีวี”

ฉันส่ายหน้าให้อย่างอ่อนใจแล้วหลับตาลง ยังไม่ได้คาดโทษที่หล่อนให้เบอร์ฉันกับกอหญ้าไปทำให้กัปตันได้เบอร์ฉันไปด้วยเลย

โอย… เสียงในท้องก็ร้องดังครื้นๆ หลังจากที่เมื่อวานฉันกลืนไอ้เจ้าหัวซิปเหล็กลงไป พยายามอ้วกก็แล้ว แต่ไม่มีเจ้าสิ่งนั้นออกมา วันนี้ฉันจึงใช้ยาระบาย แต่ดูเหมือนว่าจะใช้ผิดขนาด มากไปนิดเลยกลายเป็นยาถ่าย ทำให้ฉันวิ่งเข้าออกห้องน้ำตั้งแต่ตอนบ่าย

นี่ถ้าหัวซิปไม่ออกมาด้วย ลำไส้ทั้งหมดของฉันคงออกมาก่อนแล้วล่ะ

ดา ดา ด๊า~

หลับตาลงไปได้ไม่ถึงสามวินาทีดี เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างกับตั้งใจแกล้งกัน มันอยู่บนโต๊ะรับแขกห่างออกไปนิดเดียว แต่ก็ห่างเกินกว่าที่ฉันจะเอื้อมไปถึงได้ แค่ขยับตัวนิดเดียวก็ปวดไปทั้งหน้าท้อง เพราะอย่างนั้น…

“เอินเอิน หยิบโทรศัพท์ให้พี่หน่อย”

“เรื่องอะไร อยู่ใกล้ตัวเองกว่าแท้ๆ”

“น่า… ไม่เห็นหรือไงพี่ป่วยอยู่”

“จิ๊!”

เอินเอินส่งเสียงรำคาญแต่ก็ยอมลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ แปลกใจที่เจ้าหล่อนยอมง่ายๆ แต่ก็นั่นแหละ ฉันคิดผิด เอินเอินกดปุ่มรับโทรศัพท์แล้วแนบที่หูตัวเอง

“สวัสดีค่ะ พี่อันอันใกล้จะตายแล้ว มีอะไรฝากไว้ที่เขาก่อนได้”

“เฮ้ย ยัยเอินเอิน”

เล่นบ้าอะไรเนี่ย…

เอินเอินไม่สนใจที่ฉันว่า คุยกับคู่สนทนาอยู่พักหนึ่งแล้วก็ตาโตก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า

“พี่อันอัน มีผู้ชายโทรมาหาอ่ะ!”

ปัดโธ่! นอนอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ จะตะโกนให้คนทั้งซอยรู้เลยหรือไงเล่า! แล้วผู้ชงผู้ชายอะไร เดี๋ยวใครมาได้ยินได้เข้าใจผิดกันหมดหรอก

“เสียงดังอะไรกัน” นั่นไง ไม่ทันขาดคำ แม่ก็เดินทำหน้างงออกมาจากในครัว “ผู้ชายไหนอันอัน”

“ปะ… เปล่านะคะ”

ฉันรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ก่อนจะรีบแย่งโทรศัพท์คืนมาแล้วลากสังขารตัวเองขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องนอนอย่างทุลักทุเล พอถึงก็โยนมันลงบนเตียง แล้วตามลงไปนอนแผ่

ฮือ… วันเสาร์แท้ๆ ทำไมฉันต้องมาเหนื่อยกายเหนื่อยใจอะไรอย่างนี้ด้วยนะ

[นี่… ยังอยู่ไหม]

เจ้าเสียงนั่นทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก เสียงผู้ชายบวกกับสัญญาณดังซ่าๆ นั่นเกือบจะทำให้ฉันวิ่งเตลิดไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าไม่มีแรงเหลือ พอมองหาดีๆ ถึงรู้ว่ามันดังมาจากโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนเบาะไม่ไกล

อ้าว… ยังไม่วางสายไปอีกแฮะ

ฉันพลิกตัวยืดแขนไปหยิบเจ้าโทรศัพท์นั่น

“สวัสดี…”

[ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ เสียอีก ไม่งั้นใครจะทำงานให้ฉันเนี่ย]

เฮ้อ… กัปตัน

“นั่นน้องสาวฉันเอง ยัยนั่นชอบแกล้ง”

[ฮ่าๆ เห็นแล้วล่ะ ตะโกนลั่นบ้านเลยนี่ ผู้ชายโทรมาหา…]

ไม่ต้องให้ใครบอกก็พอจะรู้ตัวว่า ตอนนี้หน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ

“…”

[สมัยไหนแล้วคุณ ที่บ้านไม่ว่าหรอก ทำอย่างกับไม่เคยมีคนโทรมา]

ชิ! ฉันมันก็เป็นแค่โนบอดี้ที่ไม่มีใครสนใจ ในขณะที่หมอนั่นฮ็อตสุดๆ จะมาเข้าใจอะไรฉัน

“มีอะไรก็ว่ามาเลยดีกว่า”

[ฉันแค่จะถามว่าเรื่องน้ำเย็นเป็นยังไงบ้าง]

ว่าแล้วเชียว…

“ก็กำลังสืบอยู่ อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย”

[สืบ? ฉันให้เธอกุข่าวขึ้นมา ไม่ใช่หาความจริง]

“ก็ฉันไม่อยากใส่ร้ายใครนี่”

[เกิดเป็นคนดีขึ้นมาว่างั้นเถอะ]

“ฉันก็ไม่ใช่คนไม่ดีตั้งแต่แรกเสียหน่อย บอกแล้วไงว่าเรื่องนั้นฉันเข้าใจนายผิด แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่านายจะเกลียดอะไรน้ำเย็นเขานักหนา เขาทำอะไรให้นายหรือไง”

[เฮอะ… เรื่องนั้นเธอไม่ต้องรู้หรอก หน้าที่ของเธอคือเขียนตามที่ฉันสั่ง เข้าใจไหม]

หน็อย… คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาออกคำสั่งกับฉัน

“นายให้หน้าที่ฉันเป็นคนเขียน เพราะฉะนั้นไม่ต้องสนใจว่าฉันจะได้ข่าวมายังไง หน้าที่ของนายคือรออ่านข่าว… เข้าใจไหม”

[เฮอะ… ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน เธอมีเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวนี่]

“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่า…”

จู้จี้จริงๆ สนใจรับหน้าที่บรรณาธิการของชมรมไหมคะ

[ครับๆ คุณนางสาวตีนไก่ แล้วผมจะรออ่านนะครับ]

“ไก่เขี่ยเฟ้ย!”

…ครั้งที่หนึ่งล้าน

กัปตันเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น

“มีอะไรน่าขำหรือไง”

[ก็เธอน่ะสิ ตอนแรกที่ได้ยินเสียง ฉันนึกว่าเธอกำลังจะตายจริงๆ แต่นี่ต่อล้อต่อเถียงได้ขนาดนี้ก็คงดีขึ้นแล้วสินะ]

อูย… นั่นไง ว่าแล้วฉันก็ปวดท้องขึ้นมาทันที ใครเขาทักเรื่องแบบนี้กัน เพราะนายนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องกินยาถ่าย

“เรื่องของฉัน! แล้วก็จะเป็นพระคุณมากถ้านายเรียกฉันด้วยชื่อ”

[คร้าบ~ ก็ได้ครับคุณอันอัน ชื่ออันอันใช่ไหมเธอน่ะ]

ก็เท่านั้นแหละ จะกวนทำไมหนักหนา

“ย่ะ”

[ฉันไปล่ะ เธอก็พักผ่อนเยอะๆ ล่ะ…]

หืม… นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า จู่ๆ กัปตันก็กลายเป็นคนดี บอกให้ฉันพักผ่อนเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว…

[จะได้รีบมาทำงานต่อ]

ฮึ่ย!

สิ่งที่ฉันสงสัยมากที่สุดในเวลานี้ก็คือเหตุใดกัปตันจงใจเล่นงานน้ำเย็น สองคนนั้นไม่น่าจะรู้จักกันด้วยซ้ำ เพราะน้ำเย็นเพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ฉันไม่เคยเห็นเขาอยู่กับกัปตันเลย แถมเขาก็ดูเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสนิทกับใครแม้แต่เพื่อนในห้องอีกด้วย

แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน งานนี้ฉันต้องรอดจากการโดนแฉไปให้ได้

 

 

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มเพราะดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า เป็นเวลาที่พวกเราเริ่มออกหากิน…

ไม่ใช่!

เป็นเวลาที่พวกเราจะเริ่มปฏิบัติการ…

ฉันกับปลาดาวมาแอบซุ่มอยู่ที่ศาลาข้างๆ ตึกดนตรีตั้งแต่โรงเรียนเลิกแล้ว จนป่านนี้ก็เกือบสามชั่วโมง นักเรียนถึงค่อยๆ ทยอยกลับบ้านกันจนเกือบหมด จะมีก็แต่พวกเด็กกิจกรรมที่อยู่แทบจะเฝ้าโรงเรียน จนรปภต้องมาไล่ถึงจะยอมกลับบ้าน

พวกเด็กดนตรีก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำไมนะ นี่ก็หกโมงกว่าแล้ว พวกเขาถึงยังไม่ยอมลงจากตึกดนตรีเสียที!

แผนของเราในวันนี้ก็คือจับตาดูน้ำเย็นทุกฝีก้าว ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ แต่หมอนั่นก็ไม่มีท่าทีว่าจะทำอะไรนอกลู่นอกทางเลย จะมีก็แต่ช่วงหลังเลิกเรียนที่เขาหายขึ้นไปซ้อมดนตรีที่เราตามขึ้นไปไม่ได้

ต้องบอกก่อนว่าโรงเรียนคีตวิทย์มีความโดดเด่นเรื่องดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนเล่นในเวลาว่าง จนถึงเล่นเป็นอาชีพ มีเครื่องดนตรีเกือบทุกประเภทให้นักเรียนเล่น จนไปถึงห้องซ้อมและห้องอัดเสียง เพราะอย่างนั้นพวกเราถึงได้ไปคว้ารางวัลจากงานประกวดต่างๆ มามากมาย…

แต่ก็อย่างที่ฉันเคยบอกไปตั้งแต่แรกว่าโรงเรียนของเรามีแต่กฎประหลาดๆ และกฎอีกข้อหนึ่งก็คือ นักเรียนที่ไม่ใช่สมาชิกของชมรมดนตรี ไม่มีสิทธิ์ย่างกายเข้าไปในตึกดนตรีนอกเวลาเรียน!

ใช่! คุณฟังไม่ผิดหรอก… ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะสนับสนุนให้นักเรียนเล่นดนตรี แต่ถ้าคุณไม่ใช่สมาชิกของชมรมแล้วละก็… ตึกสูงหกชั้นแห่งนี้ไม่ใช่ที่ของคุณ!

“เมื่อไหร่นายน้ำเย็นของแกจะลงมาสักทีเนี่ย ฉันหิวข้าว” เสียงบ่นงึมงำดังมาจากยัยเพื่อนตัวดีพร้อมๆ กับเสียงท้องที่ร้องโครกครากของฉัน

“น้ำเย็นของฉันที่ไหนเล่า!”

พวกเราได้แต่หวังว่าระหว่างทางกลับบ้าน น้ำเย็นจะแวะเข้าร้านเกม แวะสูบบุหรี่ ไปมีเรื่องชกต่อยกับใคร หรืออะไรที่พอจะนำมาเขียนได้

อืม… จะว่าไปพวกเราเป็นคนประเภทไหนกันเนี่ย ถึงได้ภาวนาให้เพื่อนร่วมห้องเจ็บตัว…

ยังไงก็เถอะ จนแล้วจนรอด น้ำเย็นก็ยังไม่ลงมา

“ฉันว่าเราต้องแอบเข้าไป”

“หา…”

ไม่อยากเชื่อว่าปลาดาวจะเสนอไอเดียที่สุดแสนจะบรรเจิดแบบนี้ ไม่กลัวถูกจับได้เลยเหรอ

“ก็พวกชมรมมีเยอะแยะจะตายไป น่าจะเป็นร้อยคนได้ ใครจะไปรู้ว่าใครเป็นใคร”

“อย่างน้อยๆ น้ำเย็นกับพวกเพื่อนห้องเราก็จำหน้าเราได้ไหม”

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าเราเข้าไป อาจจะเจออะไรดีๆ ก็ได้ แต่ถ้าไม่เข้าไป ฉันจะกลับแล้ว หิวข้าว!”

“อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวเซ่! แล้วถ้าเราถูกจับได้จะทำยังไง”

“ไม่เห็นยาก… นู่นไง”

ปลาดาวพยักพเยิดหน้าไปทางบอร์ดที่หน้าตึก มีตัวหนังสือตัวใหญ่แปะอยู่ มันเขียนว่า…

‘รับสมัครคนทำความสะอาดห้องน้ำ ติดต่อที่…’

“อึ๋ย… คุณหนูอย่างแกเนี่ยนะ บอกว่ามาสมัครเข้าชมรมน่าจะเข้าท่ากว่า…”

“แล้วแกเล่นดนตรีเป็นหรือไง”

นั่น… โดนปลาดาวย้อน ก็จริงอย่างที่เจ้าหล่อนว่า แค่เป่าขลุ่ยเป็นเพลงลาวดวงเดือนได้ก็บุญแล้ว ปีที่แล้วฉันต้องฝึกอยู่นานกว่าจะผ่านวิชาดนตรีของอาจารย์ไพโรจน์

“ก็… เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า” ฉันแถ เพราะไม่อยากยอมรับ ชิ! “ยังไงเราก็ต้องระวังตัวไม่ให้ถูกจับได้อยู่แล้วแหละน่า”

เป็นอันว่าพวกเราตกลงจะทำตามแผน ขณะเดินขึ้นบันไดไปฉันได้แต่ก้มหน้า เผื่อว่าจะเจอคนรู้จักแล้วถูกจับได้ ในขณะที่ยัยปลาดาวเดินเชิดหน้า ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับชมรมดนตรี ไม่สิ! ทำเหมือนเป็นดาวเด่นของชมรมเลยต่างหาก

“อย่าทำตัวมีพิรุธสิ”

นั่นไง… ปลาดาวหันมาดุฉัน หลังจากที่มีนักเรียนกลุ่มใหญ่เดินสวนผ่านไป

“ใครมันจะไปแสดงละครเก่งเหมือนแกเล่า!”

ที่ชั้นสอง เป็นทางเดินโถงยาวที่มีทั้งห้องเก็บเสียง ห้องซ้อมดนตรีเล็กๆ อยู่ขนาบทั้งซ้ายขวายาวไปตลอดทาง กระนั้นก็ยังมีทั้งเสียงกีตาร์ไฟฟ้า เสียงกลองและเสียงอะไรต่อมิอะไรดังเล็ดลอดออกมาได้ ดังตีกันไปหมด

ทว่าเมื่อเดินไปจนสุดทาง เราก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีน้ำเย็นซ้อมอยู่ในห้องใด ฉันจึงเสนอให้แยกย้ายกันไปหาเพื่อความรวดเร็ว ฉันจะไปสำรวจที่ชั้นสามและสี่ ส่วนชั้นที่ห้าและหกเป็นของปลาดาว

เมื่อตกลงกันได้ปลาดาวก็กดเรียกลิฟต์ไปที่ชั้นห้า ส่วนฉันเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อขึ้นบันได

ต้องลุยเดี่ยวแล้วแฮะ…

ชั้นสามถูกแบ่งย่อยเป็นห้องเล็กเหมือนกับที่ชั้นสอง และบรรดาห้องต่างๆ ก็ถูกจับจองไปด้วยเหล่านักเรียน ก็จริงอย่างที่ปลาดาวว่า ไม่มีใครสนใจฉันสักคน แม้ว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งจะเอาหน้าแนบกับกระจกเพื่อส่องดูคนที่อยู่ข้างในห้อง พอดีกลับที่นักร้องนำหันมาเห็น ยัยนั่นกรี๊ดออกไมโครโฟนจนเพื่อนๆ ในวงที่เหลือตกใจกระโดดโหยง

ฉันลากสังขารที่เริ่มหอบแฮกๆ ขึ้นบันไดไปที่ชั้นสี่ นี่ไม่รู้ว่าฉันจะต้องไปแกล้งหลอกผีคนอีกกี่ห้องซ้อมถึงจะเจอหมอนั่น

แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ เพราะที่ชั้นนี้ กลับเงียบวังเวงอย่างผิดคาด ถ้าไฟที่ห้องโถงนี้กะพริบติดๆ ดับๆ ได้ ฉันคงคิดว่าตัวเองอยู่ในหนังผี

มันเป็นแค่ห้องโถงกว้างๆ คล้ายหอประชุม มีเครื่องดนตรีนานาชนิด ทั้งคีย์บอร์ด กลองชุด และอีกหลายๆ อย่างที่ฉันไม่รู้จัก บางส่วนก็ถูกคลุมไว้ใต้ผ้าใบสีขาว มีกีตาร์ เบส แขวนอยู่เต็มผนัง ตรงกลางโถงเป็นพื้นที่ว่างอย่างกับหอประชุม แน่นอนว่าฉันคงจะอ้าปากร้องโอ้โหออกมาเพราะความอลังการนี้แล้วถ้าหากว่าไม่ได้กำลังอยู่ในภารกิจ

แหงล่ะ… คนนอกชมรมอย่างฉันไม่เคยได้เหยียบขึ้นมาถึงชั้นนี้ด้วยซ้ำ อย่างตอนเรียนวิชาเป่าขลุ่ย เอ๊ย… วิชาดนตรีของอาจารย์ไพโรจน์ แกพาขึ้นมาดูแค่ห้องซ้อมชั้นล่างครั้งสองครั้งเท่านั้น ก่อนจะบอกให้กลับไปซ้อมเป่าขลุ่ยเพลงลาวดวงเดือนที่บ้าน แกว่าเป่าขลุ่ยไม่ต้องใช้ห้องซ้อม

แล้วสายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับห้องสี่เหลี่ยมกระจกขนาดไม่ใหญ่มากที่มุมซ้ายของชั้น ภายในมีโต๊ะคอมพิวเตอร์พร้อมกับแผงควบคุม ดูเหมือนจะเป็นห้องบันทึกเสียงตามที่ฉันเคยเห็นในละคร สิ่งที่ฉันสนใจไม่ใช่ความทันสมัยของมัน แต่เป็นนักเรียนชายสองคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างหาก

หนึ่งในนั้นก็คือน้ำเย็น คนที่ฉันตามหามาตลอดทั้งเย็น ส่วนอีกคนเป็นใครกันนะ เขาสูงกว่าน้ำเย็นเพียงเล็กน้อย หมอนั้นยืนหันหลังให้ฉันจึงไม่เห็นหน้า ทว่าดูจากสีหน้าของน้ำเย็นแล้ว ชายคนนั้นคงไม่ใช่มิตรแน่ๆ

แล้วเรดาร์นักข่าวในตัวของฉันก็บอกว่ากำลังจะมีอะไรไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ ไวเท่าความคิด ฉันรีบย่อตัวลง วิ่งไปแอบที่หลังกลองชุด โดยไม่ลืมที่จะรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้

จู่ๆ ชายคนนั้นก็ผลักน้ำเย็น ทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกัน โชคร้ายที่ห้องนั้นเก็บเสียง น้ำเย็นอ้าปากตะโกนอะไรสักอย่างที่ฉันจับใจความไม่ได้ เห็นเพียงแต่ใบหน้าโกรธของเขาเท่านั้น เพียงครู่เดียวน้ำเย็นก็ซัดเปรี้ยงเข้าที่หน้า จนหมอนั่นล้มลงไป

เท่านั้นฉันก็รีบย่นคอกลับลงมาแล้วกดบันทึกวิดีโออย่างลนลาน

น้ำเย็นต่อยคน!

คนอย่างหมอนั่นเนี่ยนะ!

นี่ฉันแอบไปรู้ความลับของน้ำเย็นเข้าแล้วเหรอเนี่ย… เห็นนิ่งๆ แบบนั้น ความจริงแล้วน่ากลัวเป็นบ้า แค่คิดมือฉันก็สั่นแล้ว ไหนจะยังมีภาพใบหน้ายามโกรธของหมอนั่น น่ากลัวกว่ากัปตันอีก ถ้าเขารู้ว่าฉันแอบเข้ามาที่ตึกนี้ แถมยังเห็นว่าเขาต่อยคน เขาต้องบีบคอฉันตายคามือแหงๆ สงสัยคงต้องรีบกลับแล้ว

‘ยกเลิกภารกิจ!!!’

ฉันรีบส่งข้อความให้ปลาดาวแล้วก็ยัดโทรศัพท์กลับลงกระเป๋ากระโปรง พอจะลุกขึ้น ประตูห้องก็เปิดออกมา ทำให้ฉันรีบซ่อนตัวกลับที่เดิม

ฉันรอจนเสียงฝีเท้าดังไกลออกไป จึงค่อยๆ ชะโงกหน้าออกมาดู

ทางสะดวกแล้วสินะ…

ฉันรีบลุกขึ้นทันที แต่เป็นเพราะความร้อนรนหรือความสะเพร่าก็ไม่รู้ หัวของฉันถึงได้ไปโหม่งเข้ากับฉาบของเจ้ากลองชุด เกิดเสียงดังไปทั้งห้อง ฉันสะดุ้ง รีบจับเจ้าฉาบนั่นให้หยุดสั่น ครู่เดียวเสียงก็เงียบลง

หน็อย… ไอ้ฉาบบ้า มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรฟะ ดีนะที่น้ำเย็นไปแล้ว…

“เธอมาทำอะไรตรงนี้”

…ซะที่ไหนเล่า นี่มันเสียงน้ำเย็น!

เฮือก… เสียงน้ำเย็น ฉันจำได้ขึ้นใจ นี่ขนาดยังไม่ได้เห็นหน้าเขาเลยนะเนี่ย เสียวสันหลังวาบไปหมด

ทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่ ฉันคิดว่าเขาเดินลงบันไดไปกับนายคนนั้นแล้วเสียอีก ไหงเป็นงี้ไปได้

“อ้าว… นายเองเหรอ มานี่ได้ไง”

ฉันรวบรวมความกล้าหมุนไปเผชิญหน้ากับเขา เนียนทำเป็นเพิ่งเห็น

“เธออีกแล้วนี่…” พอเห็นหน้าฉัน เขาก็ย่นคิ้ว “ฉันลืมของก็เลยกลับมาเอา เธอต่างหากที่ต้องตอบทำถามนั้น รู้ไหมว่านี่มันกี่โมงแล้ว เข้ามาในตึกนี้ได้ยังไง”

ท่าทางเขาจะไม่รู้แฮะว่าฉันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแถมถ่ายคลิปไปแล้วด้วย

“ก็… เดินเข้ามาน่ะสิ”

ไม่ได้ตั้งใจจะกวนนะ แต่วินาทีนี้จะให้ตอบว่ายังไงเล่า!

“นี่เธอไม่รู้กฎเลยเหรอ นอกคาบเรียนไม่มีอาจารย์คุมเธอเข้ามาที่นี่ไม่ได้”

“ก็ไม่รู้สิ ตั้งแต่เดินเข้ามายังไม่เห็นมีใครห้ามฉันเลยสักคน ฉันก็คิดว่าเข้ามาได้น่ะสิ ความผิดฉันซะที่ไหน”

น้ำเย็นตั้งใจจะโต้กลับ แต่เขาก็ได้แต่อ้าปากค้าง เลิกคิ้ว แล้วก็หุบปากสนิท

“อืม ที่เธอพูดมามันก็มีเหตุผลอยู่หรอก…”

“ใช่ม้า~ เนี่ยนายก็กำลังจะไล่อยู่ ถ้างั้นฉันไปเลยก็ได้”

นั่นไง… เรื่องตีเนียน อันอันถนัดนัก

“ฉันไม่เอาเรื่องเธอที่บุกรุกเข้ามาในตึกนี้ก็ได้…”

หน็อย… ใช้คำว่าบุกรุกเลยเหรอ ค่าเทอมฉันก็จ่ายเท่าๆ กับพวกนายนั่นแหละเฟ้ย!

“…ถ้าเธอบอกเหตุผลดีๆ มาสักข้อหนึ่งว่าคนนอกชมรมอย่างเธอมาทำอะไรที่นี่ ฉันเห็นเธอทำท่าแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์แล้ว มีแผนคิดจะทำอะไรบอกมาดีกว่า…”

“แผนอะไร บ้า ไม่มี๊” ฉันรีบปฏิเสธด้วยเสียงเรียบ… ที่สุดเท่าที่จะทำได้

“แล้วตามฉันมาทำไม… เดี๋ยวก่อน! หรือเธอคิดจะมาขโมยของ… ถึงขึ้นมาที่ห้องเก็บเครื่องดนตรีแบบนี้”

ว่าแล้วน้ำเย็นก็คว้าข้อมือฉันไว้ก่อนที่ฉันจะหนีได้ทัน แถมยังยกมืออีกข้างขึ้นมาชี้จนนิ้วเขาเกือบจะจิ้มจมูกฉันอยู่แล้ว

“ขโมยบ้าอะไรเล่า ฉันไม่ได้หมดสิ้นหนทางขนาดนั้น ปล่อยน้า~”

“ไม่ได้ เธอต้องไปห้องปกครองกับฉันก่อน”

“ไม่ไปๆ”

เวรกรรมอะไรของฉันถึงได้หนีกัปตันปะน้ำเย็นแบบนี้ ฮือ… ถ้าไม่ทำแบบนี้ กัปตันก็ต้องแฉฉันอยู่ดีไหมล่ะ ฉันมีทางเลือกซะที่ไหน

กรี๊ด!!

ขณะที่ฉันและเขากำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงกรี๊ดดังมาจากชั้นบน เล่นเอาน้ำเย็นชะงักไปครู่หนึ่ง เขาแหงนมองด้านบนตามที่มาของเสียง ฉันอาศัยจังหวะนั้นสะบัดมือจนหลุดออกจากการจับกุมของเขา แล้วตอนนั้นฉันถึงเพิ่งนึกได้ว่าเจ้าเสียงกรี๊ดนั้นมันคุ้นๆ

“ปลาดาว!”

เลือกตอน
1 ตอนที่ 1 เสน่ห์อันเย้ายวนใจ (?) ของกัปตัน
2 ตอนที่ 2 น้องหนูกอหญ้าของพี่
3 ตอนที่ 3 มันคือการใส่ร้ายต่างหาก
4 ตอนที่ 4 หน้าที่ของเธอ
5 ตอนที่ 5 สองคู่หูพี่แว่นน้องโหด
6 ตอนที่ 6 ไฟ vs น้ำแข็ง
7 ตอนที่ 7 เทพบุตรน้ำเย็น
8 ตอนที่ 8 ความลับของเขาสองคน
9 ตอนที่ 9 เป้าหมายใหม่
10 ตอนที่ 10 พ่อคนดี
11 ตอนที่ 11 คนดีเขาทำกันแบบนี้
12 ตอนที่ 12 สาเหตุจริงๆ (?) ก็คือ
13 ตอนที่ 13 สงครามประสาท
14 ตอนที่ 14 น้ำเย็นเด็กทุนอ่ะนะ?
15 ตอนที่ 15 ถึงเป็นผีแต่ก็มีหัวใจ
16 ตอนที่ 16 คนนอกอย่างฉันก็มีหัวใจเหมือนกัน
17 ตอนที่ 17 งอน ไม่ (?) ง้อ
18 ตอนที่ 18 ความรู้สึกในตอนนี้คือ...?
19 ตอนที่ 19 ยกโทษให้
20 ตอนที่ 20 ชิดใกล้
21 ตอนที่ 21 คนปากหนัก
22 ตอนที่ 22 เอาคืน
23 ตอนที่ 23 ความจริงที่ไม่เคยบอก
24 ตอนที่ 24 แผนจับคนร้าย
25 ตอนที่ 25 คนที่สำคัญกว่า
26 ตอนที่ 26 พูดความจริง
27 บทส่งท้าย
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

1
ตอนที่ 1 เสน่ห์อันเย้ายวนใจ (?) ของกัปตัน
2
ตอนที่ 2 น้องหนูกอหญ้าของพี่
3
ตอนที่ 3 มันคือการใส่ร้ายต่างหาก
4
ตอนที่ 4 หน้าที่ของเธอ
5
ตอนที่ 5 สองคู่หูพี่แว่นน้องโหด
6
ตอนที่ 6 ไฟ vs น้ำแข็ง
7
ตอนที่ 7 เทพบุตรน้ำเย็น
8
ตอนที่ 8 ความลับของเขาสองคน
9
ตอนที่ 9 เป้าหมายใหม่
10
ตอนที่ 10 พ่อคนดี
11
ตอนที่ 11 คนดีเขาทำกันแบบนี้
12
ตอนที่ 12 สาเหตุจริงๆ (?) ก็คือ
13
ตอนที่ 13 สงครามประสาท
14
ตอนที่ 14 น้ำเย็นเด็กทุนอ่ะนะ?
15
ตอนที่ 15 ถึงเป็นผีแต่ก็มีหัวใจ
16
ตอนที่ 16 คนนอกอย่างฉันก็มีหัวใจเหมือนกัน
17
ตอนที่ 17 งอน ไม่ (?) ง้อ
18
ตอนที่ 18 ความรู้สึกในตอนนี้คือ...?
19
ตอนที่ 19 ยกโทษให้
20
ตอนที่ 20 ชิดใกล้
21
ตอนที่ 21 คนปากหนัก
22
ตอนที่ 22 เอาคืน
23
ตอนที่ 23 ความจริงที่ไม่เคยบอก
24
ตอนที่ 24 แผนจับคนร้าย
25
ตอนที่ 25 คนที่สำคัญกว่า
26
ตอนที่ 26 พูดความจริง
27
บทส่งท้าย

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!