ลบ

ลบ

ตอนที่ 1 เสน่ห์อันเย้ายวนใจ (?) ของกัปตัน

1

‘ฉาว! นักกีฬาอักษรย่อกอไก่ แอบคั่วเพื่อนชายหลังแป้นบาส’

ปัง! ปัง!

เสียงพลุกระดาษทั้งสองดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันภายในห้องชมรมนักข่าวแห่งนี้ สองสาวกำลังกระโดดโลดเต้น ในขณะที่อีกหนึ่งสาวกำลังกึ่งนั่งกึ่งเลื้อยอยู่บนโซฟา สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ดูไม่เข้าพวกสุดๆ

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายัยปลาดาวจะเศร้าอะไรนักหนา แค่รู้ว่านายกัปตันสุดฮ็อตไม่ได้ชอบผู้หญิง อันที่จริงก็ต้องขอบคุณเขา เพราะข่าวนี้ทำให้หนังสือพิมพ์โรงเรียนปักษ์นี้ถูกแจกหมดเกลี้ยง ช่วยกอบกู้ไม่ให้ชมรมของเราถูกปิด

และเจ้าของนามปากกา ‘นางสาวไก่เขี่ย’ ผู้กอบกู้สถานการณ์นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ขอประกาศด้วยความภาคภูมิใจ ฉันเนี่ยแหละ!

“ปลาดาว… แกจะร้องไห้ไปอีกกี่วันหา… ต่อให้กัปตันชอบผู้หญิงเขาก็ไม่ได้หันมาสนใจแกหรอก”

แน่นอนว่าคนดีอย่างฉันก็ต้องทำหน้าที่เพื่อนที่แสนดี โยนเจ้ากระบอกพลุกระดาษทิ้งแล้วหันมาปลอบปลาดาว เอ… แต่ก็ไม่รู้ว่าที่พูดไปจะช่วยได้หรือเปล่า ฟังดูแล้วแย่กว่าเดิม แหะๆ

“ฮือ… คิดอย่างอื่นไม่ได้แล้วเหรอ แกพูดประโยคนี้มาสามวันแล้วนะ กระซิกๆ” ปลาดาวเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกไหลนองขึ้นมามองฉัน อี๋… ไม่เหลือสภาพคุณหนูแม้แต่น้อย

“โอ๋ ไม่เอาอย่าร้องนะปลาดาว” แล้วพี่มิกกี้ประธานชมรมสาวแว่นคนสวยที่เพิ่งจัดการขนมไปได้นิดหน่อยก็เสริมขึ้นมาบ้าง

“ใช่ๆ ผู้ชายฮ็อตๆ โรงเรียนเรายังมีอีกตั้งเยอะ”

“มาฉลองกันดีกว่า ชมรมเราเกือบถูกปิดแล้วถ้าไม่ได้อันอันช่วยไว้”

“แหมพี่… เราก็ช่วยๆ กันหมดเนี่ยแหละค่ะ”

ก็ต้องนับว่าโชคดีจริงๆ ที่เมื่อสี่วันก่อน ฉันดันอยู่พิมพ์ต้นฉบับที่ห้องชมรมจนมืด ระหว่างที่ฉันกำลังเดินเครียดๆ กลับบ้านเพราะต้องหาข่าวให้ทันปิดต้นฉบับวันรุ่งขึ้น ไหนจะต้องให้ข่าวมันเจ๋งพอจะดึงความสนใจได้ด้วย ฉันดันเหลือบไปเห็นชายสองคนกำลังนัวเนียกันที่ข้างสนามบาส

นายสองคนนั้นคงชะล่าใจคิดว่ามืดค่ำแล้วจะปลอดคน ทว่านั่นไม่สามารถรอดสายตาคมของเหยี่ยวข่าวสาวผู้นี้ไปได้ แล้วก็ต้องขอบคุณคุณสจีฟ ต๊อปป์ที่รังสรรค์โทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพในที่มืดได้ชัดแจ๋วประหนึ่งใช้แสงไฟสตูดิโอ ฉันถึงได้เห็นว่านั่นคือนายกัปตัน นักกีฬาบาสเกตบอลสุดฮ็อตของโรงเรียน

ตอนนั้นเกือบจะถูกจับได้แล้วเพราะโทรศัพท์เจ้ากรรมดันดังขึ้นมา ดีที่วิ่งหนีออกมาได้

วันรุ่งขึ้นคอลัมน์ซุบซิบก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับนามปากกานางสาวไก่เขี่ย แต่ถึงจะเขียนข่าวแบบนั้น ฉันก็ยังมีคุณธรรมพอที่จะใช้อักษรย่อ และเบลอหน้าของคนในภาพไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร ปรากฏว่าฉันดันดูถูกศักยภาพของเราๆ ท่านๆ ชาวคีตวิทย์ไปเสียได้

ใครจะไปคิดว่านักกีฬาโรงเรียนที่มีชื่อเล่นกอไก่มีตั้งมากมาย แต่ทุกคนกลับโยงไปหานายกัปตันได้อย่างถูกต้องราวกับเห็นเหตุการณ์วันนั้นเสียเอง

ส่วนยัยปลาดาวที่รู้ข่าวก่อนเป็นคนแรกๆ ก็ใจสลายตั้งแต่วันนั้น จะว่าไปก็แปลก เคยเห็นเจ้าหล่อนจิ้นกัปตันกับบรรดาเพื่อนของเขาอยู่บ่อยๆ พอเป็นเรื่องจริงขึ้นมาดันไม่ชอบ ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ

นั่นปะไร เสียน้ำตาได้ไม่ทันไร พอโทรศัพท์ดัง เธอก็หันไปกดมันหน้าตาเฉย น้ำหูน้ำตาหายไปหมด กลายเป็นไปนั่งยิ้มแฉ่งแทน

“พี่มิกกี้ อันอัน ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวไม่ทันงานมีตติ้งพี่เมฆกับพี่ตาม ซีรีส์เขาเพิ่งจบไปเมื่อคืน ยังฟินไม่หายเลย อ๊าย!”

ฉันกับพี่มิกกี้ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กัน มองดูยัยปลาดาวคว้ากระเป๋าแล้วกระดี๊กระด๊าวิ่งออกจากห้องชมรมไป ตอนนี้ทั้งห้องชมรมก็เลยเหลือแค่ฉันกับพี่มิกกี้ แต่ฉันก็มั่นใจว่ามันคงเงียบแบบนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะทันทีที่ใครๆ เห็นความสำเร็จของชมรมนักข่าวเรา ก็คงมีคนแห่มาสมัครกันอีกเพียบ

ว่าแล้วฉันกับพี่มิกกี้ก็ฉลองกันต่อสองคนเงียบๆ จนกระทั่ง…

กรี๊ด!!!

“อ๊าย!”

พี่มิกกี้สะดุ้งโหยงนั่นเป็นเพราะว่าเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมานั่นเอง มันเป็นเสียงกรีดร้องจากฉากหนึ่งของหนังผีเรื่องล่าสุดที่ฉันเป็นแฟนตัวยงของผู้กำกับ

“โธ่ อันอัน เปลี่ยนเสียงสักทีเถอะ พี่ตกใจทุกที”

ฉันยิ้มแห้งๆ ให้เป็นการขอโทษแล้วจึงกดรับโทรศัพท์

“ลืมของหรือไงยะปลาดาว”

เอ่อ… ถ้าคนที่ไม่รู้จักมาได้ยิน คงคิดว่าพวกเราโกรธกันมาจากไหน

[นั่นคำทักทายเหรอน่ะ…]

“อ้าว! นี่เป็นห่วงนะเนี่ย เห็นออกไปตั้งนานแล้ว”

[ก็มีเรื่องจะบอกน่ะเซ่! แกกับพี่มิกกี้เก็บของออกมาจากห้องชมรมเดี๋ยวนี้เลยนะ!]

“…” ฉันได้แต่ขมวดคิ้วงง ส่วนพี่มิกกี้ก็คงได้ยินเสียงที่แผดลอดออกมาจากสาย ถึงได้อ้าปากค้าง ถือส้อมเสียบลูกชิ้นจ่ออยู่ที่ปาก

[ตอนนี้พวกแฟนคลับกัปตันกำลังตามหาตัวนางสาวไก่เขี่ยอยู่น่ะสิ!]

 

 

แทนที่ชมรมนักข่าวจะดังเป็นพลุแตกแล้วมีคนแห่มาสมัครเพิ่ม เรื่องดันกลับตาลปัตรกลายเป็นฉาวโฉ่แทน เพราะนอกจากพวกแฟนคลับไม่เชื่อเรื่องรสนิยมทางเพศของนายกัปตันแล้ว พวกหล่อนยังตามล่าหาสมาชิกตัวชมรมนักข่าวและตัวจริงของนางสาวไก่เขี่ยอีกด้วย ฉัน ปลาดาวและพี่มิกกี้ก็เลยไม่สามารถเหยียบกลับเข้าไปในห้องชมรมได้อีก คราวซวยของฉันแท้ๆ เพราะอย่างนั้นพวกเราถึงต้องย้ายที่ประชุมมาอยู่ในที่ปลอดภัย…

นั่นก็คือกลางโรงอาหาร!

ท่ามกลางผู้คนจอแจแบบนี้คงไม่มีใครนึกถึงเป็นแน่ เป็นเวลาอาทิตย์กว่าแล้วที่พวกเรามานั่งจับกลุ่มกันที่นี่หลังเลิกเรียน แต่ความพยายามในการตามหาตัวของพวกหล่อนกลับไม่ได้ลดลงเลย

“เอาล่ะ เรามีเวลาอีกแค่ห้าวันก่อนที่จะถึงกำหนดออกหนังสือพิมพ์ปักษ์ต่อไป พี่อยากให้พวกเราเร่งมือกันหน่อย หาเรื่องที่จะใช้เป็นจุดขายให้ได้ พี่ไม่อยากให้ชมรมของเราต้องมาปิดตัวลงในสมัยของพี่”

พี่มิกกี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้ดูสดใส ถ้าดูไม่ผิดที่คลอเบ้าอยู่คงเป็นน้ำตาใช่ไหมน่ะ พี่แกน่ารักอย่างกับสาวแว่นในการ์ตูน ขนาดผู้หญิงอย่างฉันยังชอบเลย แถมยังมีเพื่อนสนิทเป็นถึงประธานนักเรียน ถ้าไม่งอแงแบบนี้คงเป็นสาวฮ็อตได้ไม่ยาก

แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น! ปัญหาคือเราจะทำยังไงถึงจะรักษาชมรมนักข่าวที่มีประวัติยาวนานพอๆ กับโรงเรียนไม่ให้ถูกยุบเอาไว้ได้ ตั้งแต่เปิดเทอมมาก็เหลือพวกเราเพียงสามคนที่เป็นสมาชิกเก่า รุ่นพี่ก็เรียนจบออกไปกันหมด พี่มิกกี้ที่เลื่อนชั้นมาอยู่มอหกเลยได้เป็นประธานชมรมไปโดยปริยาย

ความจริงชมรมควรจะถูกยุบออกไปแล้วตั้งแต่เหลือสมาชิกไม่ถึงห้าคน แถมหนังสือพิมพ์ขายไม่ออกเลยแม้แต่ฉบับเดียวทั้งๆ ที่แจกฟรี ทำให้ฝ่ายวิชาการยื่นคำขาด หากยังไม่มีคนสนใจรับหนังสือพิมพ์ไปอ่านอีกจะยุบชมรมของพวกเรา โชคดีที่อันอันผู้นี้ช่วยไว้ได้

แต่! ถ้าฉบับหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกก็แย่น่ะสิ ไหนจะถูกพวกนักเรียนตามล่า ทำให้ทำงานยากขึ้นไปอีก โอ๊ย! ปวดหัว

ยังไงก็เถอะ อันอันคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก!

“พี่มิกกี้ไม่ต้องเป็นห่วง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนางสาวไก่เขี่ย!” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมหวังปลุกใจสมาชิกชมรมโดยที่ลืมไปเลยว่า…

“ฉันได้ยินคนพูดว่านางสาวไก่เขี่ยว่ะ”

“ไหนวะ อยากเห็นหน้า…”

“ฉันก็ได้ยิน เสียงมันมาจากแถวๆ นี้แหละ”

“เฮ้ย! ฉันว่า…”

นั่นไง! ว่าแล้วไม่ทันขาดคำ แม่สี่สาวโต๊ะข้างๆ ก็หันขวับมาทางฉันพร้อมกัน ดวงตาของพวกนางถ้าปล่อยแสงสีแดงออกมาได้ คงฆ่าฉันตายไปแล้ว วินาทีนั้นฉันรู้ตัวเลยว่าทำพลาดอย่างมหันต์

หนึ่งในแม่สี่สาวลุกขึ้น ตอนนั้นฉันแอบกลืนน้ำลาย ทว่าพี่มิกกี้กับปลาดาวยังไม่รู้ตัว

“นี่เธอ! เธอเป็น…” ยัยนั่นเสียงดังจนทำให้คนรอบๆ เงียบและให้ความสนใจ แต่ฉันก็รู้ว่าหล่อนกำลังจะพูดอะไรและทำให้เกิดอะไรตามมา ฉันถึงได้…

“เป็นเก๊าท์!” ฉันหลับหูหลับตาโพล่งขึ้น ก็แหม… มันเป็นสิ่งเดียวที่น่าจะพอช่วยได้นี่

“หา…” ปลาดาวเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือราคาแพง (ในที่สุด)

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเป็นเก๊าท์ แกยังจะบังคับให้ฉันกินไก่ทอดเกาหลีอะไรนั่นอยู่ได้”

“หา… ฉันไปชวนแกตอนหนะ…”

“ก็เมื่อวานไง แกลากฉันไปกินเป็นเพื่อน!” ฉันรีบสรุปให้ปลาดาวผู้ยังไม่รู้เรื่องอะไร ก่อนที่ชะตาของเราจะหาไม่ “โอ๊ย! เก๊าท์กำเริบ พี่มิกกี้พาอันอันไปห้องพยาบาลหน่อยนะ”

ฉันพยักพเยิดหน้า กะพริบตา กระดิกคิ้ว เรียกได้ว่าส่งสัญญาณทุกอย่างให้ทั้งสองได้รับรู้ ยัยปลาดาวถึงได้หันไปดูแล้วถึงได้ร้องอ๋อ

“ใช่ๆ พี่มิกกี้ไปด้วยกันนะ เกิดเดินๆ อยู่มันปวดเข่าเดินไม่ไหว ดาวแบกมันคนเดียวไม่ไหวแน่”

“หา… พวกเธอพูดอะไรกัน พี่งง…”

“ดาวว่าไปกันตอนนี้เลยดีกว่าค่ะ ดาวสงสารมันม้ากมาก”

ปลาดาวรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าราคาแพงลุกขึ้น ดึงให้พี่มิกกี้ลุกขึ้นตาม ปากก็พึมพำว่า ‘ทนไว้ๆ’ สกิลการแสดงระดับสิบทำให้แก๊งสี่สาวนั้นเชื่อสนิทใจ ฉันว่าเจ้าหล่อนน่าจะไปเข้าชมรมการแสดงมากกว่านะ

เป็นอันว่าการประชุมวันนี้ก็ไม่ได้ข้อสรุปอะไรใหม่ๆ นอกจากว่าจะใช้คอลัมน์ของนางสาวไก่เขี่ยเป็นจุดขาย ปลาดาวกับฉันก็ตกลงกันว่าเวลาที่เหลือทั้งหมดจะมุ่งไปที่การหาข่าวซุบซิบ

แต่เรื่องบังเอิญแบบนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นอีกง่ายๆ น่ะสิ!

 

 

เหลือเวลาอีกสองวันก่อนปิดต้นฉบับ!

งานหลักของฉันยังคงเป็นการแอบตามดูเหล่านักกีฬาโรงเรียนผ่านเลนส์ซูมของกล้องโทรศัพท์ แต่ก็ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะซุ่มดูอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เลิกเรียน ยังไม่เห็นมีใครทำตัวแปลกๆ

“อันอัน! ออกมาจากพุ่มไม้ได้แล้ว แกคิดว่าตัวเองเป็นแบร์ กริลส์หรือไงหา!”

แล้วเสียงแจ๋นของปลาดาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้าหินอ่อนก็ดังขึ้น ฉันยื่นมือออกไปปิดปากหล่อนแทบไม่ทัน

“ชู่ว! แกจะตะโกนให้พวกนั้นวิ่งมาทักทายหรือไง” ฉันส่งเสียงกระซิบตอบ

“ไม่มีใครสนใจแกหรอก ดูสิ คนอื่นก็มาดูคนซ้อมกีฬากันเยอะแยะ”

ทันใดนั้นฉันก็ถูกกระชากตัวออกมาจากพุ่มไม้

หมดกัน! ทุกคนต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันนี่แหละคือนางสาวไก่เขี่ย หนึ่งในสมาชิกชมรมนักข่าวที่กำลังถูกตามล่า ไม่นะ ทุกคนอย่าทำร้ายฉันเลย ฉันทำไปเพราะหน้าที่จริงๆ …

เงียบ…

ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้วก็พบว่าจริงอย่างที่ปลาดาวว่า ที่ข้างสนามกีฬาอเนกประสงค์แห่งนี้ ไม่มีใครสนใจฉันเลย พวกนักเรียนหญิงที่นั่งกระจายกันตามเก้าอี้ข้างสนามหรือกระทั่งบนสแตนด์เชียร์ต่างเอาแต่กรี๊ดกร๊าดบรรดานักกีฬากล้ามบึ้ก สงสัยฉันจะคิดมากไปแฮะ

ปลาดาวขยับที่ให้ก่อนจะดึงฉันลงไปนั่ง

“เป็นไงสบายขึ้นไหม”

“มากเลยจ้ะ แหะๆ”

“แหงล่ะ ฉันเห็นแกนั่งตรงนั้นมาเป็นชั่วโมงละ คิดว่าไม่มีคนเห็นหรือไง ทำแบบนั้นคนยิ่งสงสัยมากกว่าเดิมอีก”

กรรม… ฉันได้แต่ภาวนาให้ไม่มีคนสงสัย

สนามกีฬาอเนกประสงค์แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ สนามบาสเกตบอล คอร์ดวอลเลย์บอล และแบทมินตัน ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ที่ข้างสนามบาส น่าแปลกที่ฉันยังไม่เห็นกัปตันมาเข้าซ้อม ทั้งๆ ที่ฉันไปได้ยินมาว่าจะมีการแข่งระดับเขตในอีกไม่นาน

จะว่าไปก็ไม่ค่อยเห็นกัปตันในโรงเรียนช่วงนี้เลยนี่นา เขาอยู่มอห้าห้องสาม ส่วนปลาดาวกับฉันอยู่ห้องสอง ด้วยเหตุที่ห้องเรียนของพวกเราอยู่ติดกัน จึงไม่แปลกที่ฉันจะสังเกตได้ว่าเขาหายไป หรือว่าเขารับความจริงไม่ได้กันเลยไม่มาโรงเรียน

ด้วยความที่เขาเป็นนักบาสเกตบอล รูปร่างสูง หน้าตาดี แถมยังเล่นอยู่ทีมโรงเรียน จึงไม่แปลกที่จะมีสาวๆ ตามกรี๊ดเขาเยอะแยะไปหมด แต่ก็นี่แหละน้า… เล่นไปหลอก เก๊กหล่อให้ความหวังสาวๆ เขาไปทั่ว ทั้งๆ ที่ตัวเองแอบกิ๊กกับเพื่อนผู้ชายของตัวเองอยู่แล้ว

“อันอัน ฉันกลับบ้านดีกว่า วันนี้ไม่ได้อะไรเลย”

จู่ๆ ปลาดาวก็โพล่งขึ้นมาพร้อมสีหน้ากรุ้มกริ่มชอบกล ฉันมองตามสิ่งที่เจ้าหล่อนกำลังมองอยู่ แล้วก็เห็นว่านักกีฬาบาสสองคนเพิ่งจะเดินกอดคอกันออกจากสนามไปจึงเข้าใจเรื่องทั้งหมด

หล่อนมานั่งดูคู่จิ้นของหล่อน พอพวกเขากลับบ้าน เจ้าหล่อนก็หมดธุระ เอวัง…

“ย่ะ! แกก็มองแต่รุ่นพี่สองคนนั้น คงจะได้เรื่องหรอก…”

“แล้วแกหวังอะไรมิทราบ คิดว่าถ้ามีเรื่องฉาวๆ เขาจะมาทำกันที่สนามบาสกลางวันแสกๆ หรือไง”

เออจริง! ที่ปลาดาวพูดก็มีเหตุผล ฉันคงต้องกลับมาใหม่ตอนที่เริ่มมืดแล้วสินะ

“รอด้วย”

ว่าแล้วฉันก็เลยรีบคว้ากระเป๋า ยัดโทรศัพท์ใส่ลงไป แล้ววิ่งตามปลาดาวออกไปอย่างทุลักทุเล เพราะกำลังใช้สองมือพยายามรูดซิป ด้วยความไม่ระวังหรืออะไรก็ตามจึงไม่เห็นว่ามีอีกคนเดินสวนมา ฉันเลยวิ่งชนเขาเข้าไปเต็มๆ

กระเป๋าสะพายสีดำของฉันร่วงลงพื้น ตามมาด้วยข้าวของข้างในตกกระจัดกระจาย ส่วนตัวฉันที่ชนเขาเข้าไปจังๆ ก็เลยล้มก้นจ้ำเบ้า

“ขอโทษค่ะ”

เจ็บก็เจ็บ รีบก็รีบ ฉันรวบข้าวของใส่กระเป๋าอย่างร้อนรน ให้ตายเถอะ มาทำอะไรขายหน้าประชาชีตรงนี้นะยัยอันอัน

“ไม่เป็นไรหรอก เราก็ไม่เห็นเธอเหมือนกัน” เจ้าของเสียงตรงหน้าเอ่ย

ฉันไม่เห็นว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไรเพราะเขายืนจังก้าอยู่ แต่เสียงของเขาทุ้มนุ่มน่าฟัง หากว่าฉันไม่ได้กำลังรีบคงจะต้องหาเรื่องทำความรู้จักกับเขาเสียหน่อย

“เดี๋ยวเราช่วยดีกว่า”

แล้วเขาก็คุกเข่าลงช่วยเก็บของใส่กระเป๋าให้ จังหวะหนึ่งมือของเราก็ชนกันแต่ฉันก็รีบดึงมือออก แอบยิ้มเหนียมอายอย่างกับกุลสตรี ทั้งๆ ที่ความจริงอยากจะกรี๊ด เหตุการณ์แบบนี้มันอย่างกับในละครเลย ฉันเขิน…

ฉันปล่อยให้เขาเก็บของใส่กระเป๋าต่อไป ในขณะที่ตัวเองลอบมองใบหน้าของเขา แต่ก็ยังเห็นได้ไม่ชัดนักเพราะเจ้าตัวยังก้มหน้าง่วนอยู่กับการทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษ ทว่าเห็นแค่ผม ฉันก็จินตนาการไปไกลแล้วว่าเขาต้องหล่อเหลาเอาการ

อ๊าก! นี่มันนิยายชัดๆ เขากำลังทำให้ฉันหวั่นไหว

อืม… มันคงจะเป็นนิยายรักที่ดีเรื่องหนึ่งได้เลยหากคนที่เงยหน้าขึ้นมาไม่ใช่… เขา

“นาย!”

“เอ๋… ครับ เรารู้จักกันด้วยเหรอ”

ไม่ๆ นายไม่รู้จักฉัน แต่ฉันน่ะรู้จักนาย ยิ่งตอนนี้เห็นเต็มตาเลย เขาก็คือคู่ขาของกัปตันที่ฉันแอบไปเห็นวันนั้น!

แย่ล่ะ! เขาจะจำหน้าฉันได้ไหมเนี่ย!

“ไม่ค่ะ”

ฉันรีบดึงของจากมือเขาใส่กระเป๋า ทำเอาเจ้าตัวที่หน้าเปื้อนยิ้มเกิดความงุนงง ฉันรูดซิปปิดแล้ววิ่งออกมา ใช้เวลาเสร็จสรรพไม่ถึงสามวินาทีก็ออกมายืนแอบหอบอยู่ที่หน้าประตูใจหายวาบ

เกือบไปแล้ว ถ้าเมื่อกี้เป็นกัปตันคงแย่กว่านี้อีก ดีไม่ดีเขาอาจจำหน้าฉันได้

แต่… อย่างที่เขาว่ากัน เข้าป่าอย่าพูดถึงเสือ

ทันทีที่ฉันลืมตาขึ้นหลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็เห็นร่างสูงที่คุ้นตาเดินผ่านหน้าฉันไป

กัปตัน!

นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นึกว่าหยุดเรียนไปแล้วเสียอีก

ฉันรีบก้มหน้า แขม่วพุง ถอยหลังตัวลีบติดกำแพง ประหนึ่งว่าทำเช่นนั้นแล้วเขาจะมองไม่เห็น หากเปลี่ยนสีร่างกายตัวเองให้เป็นสีขาวกลืนกับสีกำแพงได้ ฉันคงทำไปแล้ว

หัวใจฉันเต้นแรงดังตึกๆ คงจะกังวลมากไป เพราะหมอนั่นไม่ได้สนใจฉันสักนิด เขาอยู่ในชุดกีฬาเดินกระดกขวดน้ำ กำลังจะเลี้ยวเข้าประตูสนามกีฬาไป

“อันอัน! ยืนทำอะไรอยู่ ฉันรอ…”

อีกก้าวเดียว… อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นกัปตันก็จะเดินผ่านไปแบบสมบูรณ์โดยที่ไม่สังเกตเห็นฉัน แต่ยัยปลาดาวที่ยืนอยู่อีกฝั่งของถนนดันตะโกนเรียกฉันขึ้นมาเสียก่อน กลายเป็นว่านอกจากฉันจะสะดุ้งแล้ว เขายังหยุดกึก หันไปมองต้นเสียงทีแล้วก็หันกลับมามองที่ฉัน กระทั่งปลาดาวที่เพิ่งสังเกตเห็นเขาก็อึ้ง เงียบไปเลย

งานนี้เขาเห็นฉันเต็มๆ ตาเลย!!

ใจเย็นๆ อย่ามีพิรุธ เขาไม่รู้จักแกนะ ยัยอันอัน

ฉันแข็งใจไม่หลบสายตาตอนที่กัปตันหันมา เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง แต่มันกลับนานเหลือเกินราวกับว่าเป็นภาพสโลโมชั่น

เดี๋ยวก่อน! อย่าเข้าใจผิด มันไม่ใช่โมเมนต์ชวนฝันเหมือนในมิวสิควิดีโอ แต่มันคือช่วงเวลานรกต่างหากล่ะ

โอ๊ย ทำไมไม่เดินเข้าไปสักทีฟะ จ้องหน้าฉันอยู่ได้ ฉันรู้ว่านายไม่ได้พิสมัยอะไรฉันหรอกน่า

“เอ่อ… เพื่อนเรียกน่ะ”

กัปตันลดขวดน้ำลง เบือนหน้าไปทางปลาดาวโดยที่สายตาไม่ละไปจากฉัน

“…” ฉันพยักหน้าตอบแบบอึ้งๆ

“ไม่ได้เป็นอะไรนะ”

พอฉันพยักหน้าตอบอีกครั้ง เขาก็กระดกน้ำ ยกมือเช็ดที่มุมปาก แล้วเดินหายเข้าไปในสนาม โดยที่มีฉันมองตามหลัง

คุณพระช่วย! เพิ่งได้เจอกัปตันตัวเป็นๆ ในระยะประชิด ไม่แปลกใจเลยที่เขามีเสน่ห์จนทำให้สาวๆ หลงใหล แต่ฉันไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่นอน ไอ้อาการหัวใจเต้นแรงนี่เป็นเพราะกลัวว่าจะโดนจับได้ต่างหากล่ะ

เลือกตอน
1 ตอนที่ 1 เสน่ห์อันเย้ายวนใจ (?) ของกัปตัน
2 ตอนที่ 2 น้องหนูกอหญ้าของพี่
3 ตอนที่ 3 มันคือการใส่ร้ายต่างหาก
4 ตอนที่ 4 หน้าที่ของเธอ
5 ตอนที่ 5 สองคู่หูพี่แว่นน้องโหด
6 ตอนที่ 6 ไฟ vs น้ำแข็ง
7 ตอนที่ 7 เทพบุตรน้ำเย็น
8 ตอนที่ 8 ความลับของเขาสองคน
9 ตอนที่ 9 เป้าหมายใหม่
10 ตอนที่ 10 พ่อคนดี
11 ตอนที่ 11 คนดีเขาทำกันแบบนี้
12 ตอนที่ 12 สาเหตุจริงๆ (?) ก็คือ
13 ตอนที่ 13 สงครามประสาท
14 ตอนที่ 14 น้ำเย็นเด็กทุนอ่ะนะ?
15 ตอนที่ 15 ถึงเป็นผีแต่ก็มีหัวใจ
16 ตอนที่ 16 คนนอกอย่างฉันก็มีหัวใจเหมือนกัน
17 ตอนที่ 17 งอน ไม่ (?) ง้อ
18 ตอนที่ 18 ความรู้สึกในตอนนี้คือ...?
19 ตอนที่ 19 ยกโทษให้
20 ตอนที่ 20 ชิดใกล้
21 ตอนที่ 21 คนปากหนัก
22 ตอนที่ 22 เอาคืน
23 ตอนที่ 23 ความจริงที่ไม่เคยบอก
24 ตอนที่ 24 แผนจับคนร้าย
25 ตอนที่ 25 คนที่สำคัญกว่า
26 ตอนที่ 26 พูดความจริง
27 บทส่งท้าย
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

1
ตอนที่ 1 เสน่ห์อันเย้ายวนใจ (?) ของกัปตัน
2
ตอนที่ 2 น้องหนูกอหญ้าของพี่
3
ตอนที่ 3 มันคือการใส่ร้ายต่างหาก
4
ตอนที่ 4 หน้าที่ของเธอ
5
ตอนที่ 5 สองคู่หูพี่แว่นน้องโหด
6
ตอนที่ 6 ไฟ vs น้ำแข็ง
7
ตอนที่ 7 เทพบุตรน้ำเย็น
8
ตอนที่ 8 ความลับของเขาสองคน
9
ตอนที่ 9 เป้าหมายใหม่
10
ตอนที่ 10 พ่อคนดี
11
ตอนที่ 11 คนดีเขาทำกันแบบนี้
12
ตอนที่ 12 สาเหตุจริงๆ (?) ก็คือ
13
ตอนที่ 13 สงครามประสาท
14
ตอนที่ 14 น้ำเย็นเด็กทุนอ่ะนะ?
15
ตอนที่ 15 ถึงเป็นผีแต่ก็มีหัวใจ
16
ตอนที่ 16 คนนอกอย่างฉันก็มีหัวใจเหมือนกัน
17
ตอนที่ 17 งอน ไม่ (?) ง้อ
18
ตอนที่ 18 ความรู้สึกในตอนนี้คือ...?
19
ตอนที่ 19 ยกโทษให้
20
ตอนที่ 20 ชิดใกล้
21
ตอนที่ 21 คนปากหนัก
22
ตอนที่ 22 เอาคืน
23
ตอนที่ 23 ความจริงที่ไม่เคยบอก
24
ตอนที่ 24 แผนจับคนร้าย
25
ตอนที่ 25 คนที่สำคัญกว่า
26
ตอนที่ 26 พูดความจริง
27
บทส่งท้าย

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!