นัทวิ่งนำหน้า ฝ่าความมืดและต้นไม้หนาทึบไปอย่างไม่คิดชีวิต เสียงหัวเราะและเสียงโหยหวนยังคงตามหลังมาจากทุกทิศทาง
แป้งวิ่งตามหลังเขา ส่วนตูนปิดท้าย ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวและแรงขาที่เริ่มอ่อนล้า พวกเขารู้ดีว่าหากหยุดวิ่ง นั่นอาจหมายถึงจุดจบของพวกเขา
ทันใดนั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นด้านหลัง นัทและแป้งหยุดกะทันหันหันไปมอง พบว่าตูนล้มลงกับพื้น มือกุมเท้าไว้แน่น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แป้งรีบตะโกนเรียกนัทให้หยุด
"นัท! ตูนเจ็บ! เขาเหยียบอะไรบางอย่าง!"
นัทรีบวิ่งกลับไปหาตูน แต่เมื่อเขาใกล้จะถึงตัวตูน ทันใดนั้นเองเงาดำหลายสายก็พุ่งเข้ามารอบตัวพวกเขา เงาเหล่านั้นเลื้อยและแผ่ขยายราวกับงูดำที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่ง
"ไม่!" นัทตะโกนสุดเสียง ขณะที่มือหนึ่งของเขาเอื้อมไปจับมือตูนไว้แน่น พยายามดึงเพื่อนขึ้นมา
"กูไม่ให้พวกมึงเอาเพื่อนกูไปเด็ดขาด!"
แป้งเข้ามาช่วยอีกแรง ดึงตูนจากเงาดำที่เริ่มจะรัดรอบขาและตัวของเขาไว้แน่น เธอออกแรงดึงสุดชีวิต แม้มือจะสั่นและน้ำตาคลอ
ตูนหันมามองเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาเศร้าและอ่อนแรง
"พวกมึงฟังกูนะ…กูเจ็บเท้า วิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงพวกมึงจะช่วยกูได้ตอนนี้ แต่กูคงไม่รอดออกไปอยู่ดี…"
นัทส่ายหน้า น้ำตาไหลลงอาบแก้ม “มึงไม่ต้องพูด ตูน…มึงต้องไปด้วยกัน เราจะไปด้วยกัน!”
ตูนฝืนยิ้มบางๆ ให้เพื่อนทั้งสองคน แม้ใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
"ถ้า…ถ้ามึงกับแป้งออกไปจากป่านี้ได้จริง ฝากบอกพ่อกับแม่ของกูด้วย…ว่ากูรักพวกท่านมาก ขอโทษที่ไม่ได้กลับไปดูแลพวกท่านอีกแล้ว..."
แป้งสะอื้น เธอส่ายหน้า น้ำตาไหลรินอย่างไม่อาจหยุดได้ “ตูน อย่าพูดแบบนั้น นายต้องไปกับพวกเรานะ เราจะไม่ทิ้งนายไว้ที่นี่…”
แต่ตูนเพียงยิ้ม รอยยิ้มที่เศร้าและเปี่ยมไปด้วยความหมาย เขาค่อยๆ ปล่อยมือจากนัทและแป้ง มองหน้าพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
"ไปเถอะนัท แป้ง…มึงสองคนต้องรอดนะ"
แล้วเงาดำก็ดึงร่างของตูนจมหายเข้าไปในความมืด สายตาของเขายังคงมองเพื่อนทั้งสองอยู่จนลับไปในความมืดมิด
นัทและแป้งยืนมองด้วยหัวใจที่แตกสลาย น้ำตาไหลพราก ทั้งสองคนได้แต่ยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน ความเศร้าปะปนกับความกลัว ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่ามืด
แม้นัทจะรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดอย่างที่สุดที่ต้องสูญเสียเพื่อนรักไปต่อหน้าต่อตา เขาพยายามรวบรวมสติและเข้มแข็งไว้ เขารู้ว่าตอนนี้เขาคือความหวังสุดท้ายของแป้ง
นัทจับมือแป้งและออกวิ่งอีกครั้ง ลัดเลาะผ่านความมืดของป่าทึบ พวกเขาวิ่งไปโดยไม่สนใจว่าจะไปทางไหน แค่พยายามออกห่างจากความสยองที่เพิ่งเกิดขึ้น
เสียงร้องโหยหวนและเงาดำที่เคยตามพวกเขาเหมือนจะหายไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงอยู่ในความหวาดกลัวที่กัดกินหัวใจ เมื่อวิ่งต่อไปได้สักพัก แป้งที่ทั้งเหนื่อยล้าและหมดแรงก็ไม่สามารถฝืนวิ่งต่อได้อีก เธอหอบหนักและเอ่ยเสียงแผ่ว
“นัท…เรา…ไม่ไหวแล้ว ขอพักก่อนนะ…”
นัทหันไปมองแป้ง เห็นความอ่อนแรงและความหวาดกลัวในดวงตาของเธอ เขาจึงค่อยๆ พยุงแป้งไปนั่งพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อพักหายใจสักครู่ ท่ามกลางความเงียบงันของป่าและสายลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาเบาๆ
แป้งก้มหน้า น้ำตาที่เก็บไว้เริ่มไหลรินลงมาช้าๆ ความกลัว ความเศร้า ความเสียใจที่สูญเสียเพื่อนๆ ไปต่อหน้า มันทำให้หัวใจของเธอแตกสลายและไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมาอย่างหมดหนทาง เสียงสะอื้นเบาๆ ของแป้งดังก้องในความเงียบ
“ทำไม…ทำไมเราต้องเจอเรื่องแบบนี้…ทำไมทุกคนต้อง…ต้องจากไปแบบนี้…”
นัทมองแป้งด้วยสายตาหนักอึ้ง เขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งให้แป้ง นัทวางมือบนไหล่ของแป้ง พยายามปลอบใจ
"แป้ง…เราต้องสู้ต่อ ต้องทำให้เพื่อนๆ ภูมิใจ เราจะรอดออกไปจากที่นี่แล้วเล่าเรื่องของพวกเขาให้คนอื่นรู้…เรื่องของพวกเราจะไม่หายไป"
แป้งมองนัท น้ำตาไหลลงมาพร้อมแววตาที่เจือไปด้วยความเศร้า เธอพยักหน้าช้าๆ เหมือนพยายามที่จะหาความเข้มแข็งให้ตัวเองแม้ว่ามันจะยากเหลือเกิน
ความเหนื่อยล้าที่สะสมและความตึงเครียดตลอดคืนทำให้นัทและแป้งในที่สุดก็เผลอหลับไป ท่ามกลางความเงียบของป่ามืดและเสียงลมที่พัดแผ่ว เมื่อทั้งสองคนนอนนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้ ความอ่อนล้าก็พาให้พวกเขาหลับลึกอย่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น นัทก็สะดุ้งตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ใจเขาเต้นระรัว หวาดกลัวว่าอาจจะเป็นเงามืดที่คอยตามหลอกหลอนอีกครั้ง
เขาขยี้ตาเมื่อมองเห็นเงาร่างหนึ่งค่อยๆ เดินใกล้เข้ามา ภาพนั้นดูพร่ามัว แต่เมื่อร่างนั้นเดินมาใกล้พอ เขาได้แต่ตะลึงงัน นั่นคืออาร์ต เพื่อนของพวกเขาเอง
นัทรีบลุกขึ้น ใจโล่งขึ้นมาหน่อยเมื่อเห็นท่าทางของอาร์ตที่ดูเป็นปกติดี ไม่เหมือนกับตอนที่เขาพบอาร์ตครั้งสุดท้าย เขาจึงเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“อาร์ต…มึงหายไปไหนมา? แล้วโชคกับอิงล่ะ?”
เสียงของนัทปลุกแป้งให้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เธอหันไปมองตามทิศทางเสียง และเมื่อเห็นว่าเป็นอาร์ต เธอก็รีบถามอย่างร้อนรน
“อาร์ต! แล้วโชคกับอิงล่ะ พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
อาร์ตทำหน้านิ่งและตอบอย่างเรียบๆ
“เราคลาดกันน่ะ กูหาทางตามหาเพื่อนๆ มาตลอด และในที่สุดก็มาเจอมึงสองคนที่นี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่แฝงด้วยความเหนื่อยล้า
แม้นัทจะรู้สึกโล่งใจที่อาร์ตไม่ได้เป็นอะไร แต่ในใจลึกๆ ยังคงมีความระแวง เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาและแป้งเพิ่งเจอมา เขาหันไปมองหน้าแป้ง เห็นแววตาแห่งความหวาดกลัวสะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอ และทั้งสองคนเข้าใจตรงกันว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะตั้งคำถามใดๆ
นัทสูดหายใจลึก ตั้งสติแล้วหันไปบอกกับเพื่อนๆ
“พวกเราควรรีบออกไปจากที่นี่ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น…เราต้องหาทางกลับให้ได้”
ทั้งสองคนพยักหน้าและตัดสินใจออกเดินอีกครั้ง ท่ามกลางป่ามืดที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงใบไม้แห้งที่แตกกรอบแกรบใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระแวง และความสงสัยที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ
พวกเขาเดินผ่านหมู่ไม้ที่มืดครึ้ม ลมพัดผ่านใบไม้แผ่วเบา แต่บรรยากาศรอบตัวกลับอึดอัดอย่างประหลาด ความมืดหนาทึบปกคลุมทุกสิ่ง จนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า เสียงลมที่พัดผ่านใบไม้เบาๆ คล้ายเสียงกระซิบแผ่วๆ ของใครบางคนในความมืด
สายตาของนัทมองไปทั่ว มองหมอกบางที่คลุ้งปกคลุมต้นไม้ และเงาทะมึนรอบตัวที่ยิ่งทวีความน่าขนลุกขึ้นทุกขณะ เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความกลัว แต่อากาศรอบตัวกลับชื้นและหนืดเหมือนมีบางสิ่งกำลังปกคลุมพวกเขาอยู่ทุกฝีก้าว
จนกระทั่งจู่ๆ นัทก็รู้สึกถึงแรงกระแทกจากของแข็งที่พุ่งเข้ามาปะทะกับหัวจากด้านหลัง แรงกระแทกนั้นทำให้นัททรุดลงกับพื้นทันที รู้สึกมึนงงและเจ็บแปลบไปทั้งศีรษะ
เขารีบตั้งสติ หันกลับไปมองด้วยความตกใจ และพบว่าเป็นอาร์ตที่ยืนอยู่เบื้องหลัง เขาจับท่อนไม้ใหญ่แน่น ในดวงตาอาร์ตมีแววโหดร้ายที่นัทไม่เคยเห็นมาก่อน
อาร์ตยกท่อนไม้ขึ้นอีกครั้ง พร้อมจะฟาดลงไป แต่นัทเอี้ยวตัวหลบได้ทัน เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด นัทพยายามปัดป้องและต่อสู้กับเพื่อนสนิทที่เขาเคยไว้ใจ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นศัตรูที่เข้ามาทำร้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
แป้งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ได้แต่มองเหตุการณ์ด้วยความตกใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมอาร์ตถึงได้ทำแบบนี้ แป้งตะโกนห้ามเสียงดัง
“หยุดเถอะ! อาร์ต! นายทำแบบนี้ทำไม!”
แต่ดูเหมือนว่าอาร์ตจะไม่ฟังเสียงใดๆ เขาเดินเข้าหานัทอย่างดุดัน นัทหันไปตะโกนบอกแป้ง
“แป้ง หนีไป! อาร์ตไม่ใช่คนเดิมที่เรารู้จักแล้ว!”
แป้งรู้สึกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่เธอไม่สามารถทิ้งนัทไว้ได้ พอได้จังหวะ เธอรีบคว้าท่อนไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัว และฟาดลงไปที่หัวอาร์ตอย่างเต็มแรง เสียงฟาดดังขึ้นจนทำให้ทั้งป่าก้องกังวาน อาร์ตชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะล้มลงนอนแน่นิ่งไปกับพื้น
นัทรีบเข้าไปหาแป้งที่กำลังตัวสั่น ประคองเธอไว้ แป้งเองก็พยายามประคองนัท แม้เธอจะยังคงสั่นด้วยความตกใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งทำลงไป
ทั้งสองหันมองร่างของอาร์ตที่นอนนิ่งอยู่ แต่ไม่มีเวลาให้พวกเขาคิดอะไรมากนัก พวกเขาตัดสินใจวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นทันที หวังเพียงว่าจะหนีรอดจากความสยองที่ตามล่าพวกเขาในค่ำคืนนี้
นัทกับแป้งวิ่งหนีสุดชีวิต ฝ่าความมืดและหมู่ไม้ที่แผ่กิ่งก้านราวกับกับดัก ขาพวกเขาอ่อนล้าและเจ็บแปลบทุกก้าวที่เหยียบลงไป แต่เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามหลังยังไม่หยุด เสียงอาร์ตดังไล่ตามมาราวกับสะกดรอยทุกฝีก้าว
"ไม่ต้องหนีหรอก ไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้!"
เสียงของอาร์ตเย็นชาและแฝงด้วยความโหดร้าย ทำให้นัทและแป้งยิ่งเร่งฝีเท้าหนีไปอีก ทั้งที่ร่างกายแทบจะหมดแรง
ลมเริ่มพัดแรงขึ้น ราวกับกำลังพัดไล่หลังพวกเขาไปข้างหน้า ใบไม้แห้งที่ตกอยู่บนพื้นถูกลมพัดปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว ราวกับจะก่อกำแพงขังพวกเขาไว้ ความหนาวเย็นแทรกซึมเข้ามาจนรู้สึกได้ถึงไอเย็นจากพื้นดินและอากาศรอบตัว ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกกลืนหายเข้าไปในโลกที่ไม่อาจหนีรอดได้
นัทหันมองแป้งที่วิ่งตามอยู่ข้างหลัง เขามองเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเธอ แต่นัทรู้ดีว่าเขาเองก็ไม่ต่างกันเลย ภายในใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ก็ยังคงกุมมือของแป้งไว้แน่นเพื่อให้เธอรับรู้ว่าเขายังอยู่ข้างเธอ
ขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าของอาร์ตก็ใกล้เข้ามาทุกที ทุกคำพูดของอาร์ตแฝงไปด้วยความหลอน
"พวกมึงจะหนีไปไหน... มันไม่มีทางหนีหรอก ที่นี่เป็นของเรา...พวกมึงต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป!"
นัทพยายามกลั้นความกลัวแล้วบอกกับแป้ง
"อย่าหยุดนะ! แป้ง เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้!"
แต่ในใจลึกๆ เขารู้ดีว่าความหวังนั้นดูริบหรี่เต็มที ท่ามกลางเสียงลมที่หวีดหวิวและเสียงหัวเราะของอาร์ตที่ดังสะท้อนไปทั่วป่ามืด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments