ตอนที่ 7 - การหายตัวไปของเพื่อน

ท่ามกลางความเงียบและความกังวล ทุกคนที่เหลือ—ตูน โชค แป้ง และอิง—นั่งรวมกันที่หน้าแคมป์ ต่างคนต่างเฝ้ามองไปยังทางที่นัทกับอาร์ตออกเดินไปตั้งแต่ชั่วโมงก่อน ความเงียบและความว่างเปล่ารอบตัวทำให้พวกเขารู้สึกถึงความหนาวเย็นแทรกซึมเข้ามาทีละนิด

“นัทกับอาร์ตออกไปนานแล้วนะ...” อิงเอ่ยขึ้นเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

"จะเป็นอะไรไหมนะ?" โชคพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย สายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง

"เราอาจต้องไปตามพวกมัน" ตูนเสริมขึ้นมา แม้ในใจลึกๆ เขาก็ไม่อยากออกไปเสี่ยงท่ามกลางป่าทึบยามที่มืดครึ้มเช่นนี้

ขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากเงามืด ทุกคนสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมอง และได้เห็นร่างของใครบางคนเดินออกมาจากความมืด…เป็นอาร์ตนั่นเอง

“อาร์ต!” อิงตะโกนด้วยความดีใจ ทุกคนรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาเขา

แป้งยิ้มอย่างโล่งใจและถามขึ้นทันที "พวกนายเป็นยังไงกันบ้าง? นัทอยู่ไหน?"

อาร์ตยิ้มเล็กน้อย แม้รอยยิ้มนั้นจะดูซีดเซียวและแปลกตาไปบ้าง "นัท…นัทเจอทางออกแล้ว เขารออยู่ที่รถ แต่ว่าเส้นทางขับเข้ามารับได้แค่บางช่วง กูเลยต้องกลับมารับพวกมึงแทน"

ตูนหันมามองทุกคนก่อนจะพยักหน้า "งั้นก็ดีแล้ว ไปกันเถอะ พวกเราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว!"

“ใช่ รีบออกไปกันเถอะ” โชคเสริมอย่างเห็นด้วย ขณะที่เขารีบคว้าสัมภาระของตัวเองด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

อาร์ตยืนรออยู่ด้านหน้า ทุกคนทยอยเก็บของอย่างเร่งรีบ โดยไม่ทันได้สังเกตถึงท่าทางแปลกๆ ของเขา เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว อาร์ตก็พยักหน้าแล้วเดินนำพวกเขาเข้าสู่ความมืดของป่า

อิงเดินใกล้ๆ อาร์ต พลางเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “อาร์ต แล้วตอนที่มึงกับนัทออกไป... มีอะไรแปลกๆ ไหม?”

อาร์ตนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยเสียงแผ่ว “ก็...ไม่มีอะไร แค่เงียบมาก...จนเหมือนมีบางอย่างเฝ้ามองเราอยู่ตลอดเวลา”

คำพูดนั้นทำให้ทุกคนสะอึกเล็กน้อย ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนได้แต่ก้มหน้าเดินตามหลังอาร์ตในความเงียบโดยไม่ได้ตั้งคำถามอีก

อาร์ตเริ่มเดินนำหน้าด้วยความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีแรงบางอย่างดึงดูดเขาให้เดินต่อไปข้างหน้า ตูนกับแป้งที่เดินตามอยู่ด้านหลังพยายามเร่งฝีเท้าตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ดูเหมือนจะตามไม่ทัน

แป้งเกาะแขนตูนแน่นด้วยความหวาดกลัว และเสียงกระซิบของเธอที่ดังแผ่วเบาช่างสะท้อนถึงความรู้สึกสิ้นหวังในใจ

“ตูน... ทำไมพวกเขาเดินเร็วขนาดนั้น? เรา... เรากลัว” แป้งเอ่ยเสียงสั่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

ตูนพยายามปลอบเธอ แม้ในใจลึกๆ เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน “ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวเราก็ทัน... ไอ้อาร์ต! เดินช้าลงหน่อย!” เขาตะโกนเรียกเพื่อนเสียงดัง แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ จากอาร์ต โชค หรืออิง ราวกับพวกเขาหายไปในหมอกหนาที่เริ่มลอยปกคลุมป่าอย่างช้าๆ

หมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วิสัยทัศน์ของตูนและแป้งเริ่มถูกบดบัง จนมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนๆ ที่เดินอยู่ข้างหน้า เสียงฝีเท้าของอาร์ต โชค และอิงค่อยๆ เลือนหายไปในความเงียบงัน เหลือเพียงเสียงลมหายใจรัวๆ ของแป้งที่เกาะแขนตูนแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“ตูน... นี่มันไม่ปกติแล้ว” แป้งกระซิบ น้ำเสียงสั่นสะท้าน “พวกเขาหายไปไหนกันหมด...”

ตูนพยายามมองฝ่าหมอกออกไปแต่ก็ไร้ผล “อาร์ต! อิง! โชค! พวกมึงอยู่ไหน!” เขาตะโกนออกไปอีกครั้ง แต่คำตอบที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงสะท้อนแผ่วเบาจากความเงียบของป่า

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่เงียบหายไปก็กลับดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันฟังดูผิดปกติ…ฝีเท้าหนึ่งคู่ดังอยู่ใกล้ๆ แต่กลับฟังดูไม่เป็นจังหวะ และไม่เหมือนการเดินของมนุษย์

แป้งหันไปมองหน้าตูน ใบหน้าของเธอซีดเผือด น้ำตาคลอเบ้า “ตูน…เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว พวกเรา…รีบหาทางกลับเถอะนะ”

ตูนพยายามคุมสติ พยักหน้าเบาๆ ขณะที่เขาตัดสินใจหมุนตัวกลับ

แต่เมื่อหันหลัง...เขาก็พบว่าเส้นทางที่พวกเขามานั้นหายไปหมดแล้ว หมอกขาวหนาทึบปกคลุมทุกทิศทุกทางราวกับป่าแห่งนี้จงใจจะกักพวกเขาไว้ ไม่ให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้....

บรรยากาศรอบ ๆ เริ่มมีความตึงเครียด ตูนและแป้งยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของป่า แสงจันทร์ลอดผ่านต้นไม้ ส่องมาที่พื้นเปียกชื้น สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บที่ทำให้ขนลุก

“พวกเรา… รอที่นี่ดีกว่าไหม?” แป้งกระซิบด้วยเสียงสั่น

“ไม่! เราต้องไปหาที่ปลอดภัย!” ตูนตอบเสียงแน่น

ขณะที่พวกเขากำลังสับสน ตูนเห็นเงาในความมืด เขาหันไปพบว่าเป็นเติ้ล เด็กหนุ่มที่พาพวกเขาไปลานกางเต็นท์ สายตาของเติ้ลดูว่างเปล่า และรอยยิ้มที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นความน่ากลัว

แป้งรู้สึกดีใจที่ได้เจอ แต่ตูนรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

“เติ้ล!” แป้งตะโกนเรียก แต่ตูนรีบปิดปากเธอไว้

“อย่าพูด!” ตูนกระซิบเสียงเครียด “ดูท่าทางเขา…”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเติ้ลเปลี่ยนไป รอยยิ้มของเขาเริ่มบิดเบี้ยว และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความน่ากลัว

“พวกคุณ… ไม่ควรอยู่ที่นี่…” เสียงของเติ้ลแหบแห้งและต่ำ ตาเขาเปล่งประกายแปลก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยเห็น

“กรี๊ด!!” แป้งกรี๊ดออกมา เมื่อตระหนักถึงความผิดปกติในตัวเติ้ล

“วิ่ง!” ตูนตะโกนและจับมือแป้งแล้ววิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต เสียงของฝีเท้าของเติ้ลดังกระแทกพื้นเบื้องหลังพวกเขา ทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นรัว

“เขากำลังตามเรา!” แป้งพูดด้วยเสียงหวาดกลัว

“ไม่! เราต้องหาที่หลบ!” ตูนตอบ ขณะที่พวกเขาหาแนวทางในความมืดมิดของป่า

พวกเขาเดินเซซึ่งข้ามกิ่งไม้และหนาม แต่ไม่สามารถหยุดฝีเท้าของเติ้ลได้ ร่างนั้นยังคงวิ่งตามพวกเขาอยู่ในความมืด ทันใดนั้น ตูนหยุดและมองไปรอบ ๆ

“ไปซ่อนที่นั่น!” เขาชี้ไปยังหลืบระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้น

ทั้งสองรีบพุ่งเข้าไปซ่อนและกลั้นหายใจ ความเงียบทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัว เมื่อเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ พวกเขาต้องเงียบกริบ

“พวกคุณอยู่ไหน…” เสียงของเติ้ลดังก้องรอบตัว “กลับมาเถอะ…”

แป้งจับมือของตูนแน่น น้ำตาเริ่มไหล เมื่อรู้สึกถึงอันตรายที่เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ความมืดและความไม่แน่นอนกดดันพวกเขาให้รู้สึกถึงความสิ้นหวังในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้....

เสียงฝีเท้าของเติ้ลใกล้เข้ามาอีกครั้ง ทำให้ตูนและแป้งต้องกระชับมือกันแน่น เขาพยายามวิ่งไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิต

แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันตั้งตัว จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกระชากตัวพวกเขาอย่างรุนแรง

“โอ้ย!” แป้งร้องเมื่อพวกเขาล้มลงไปที่พื้นดินที่เปียกชื้น ต้นไม้และกิ่งไม้บาดขา ขณะที่พวกเขากระเสือกกระสนเพื่อที่จะลุกขึ้น

“หยุด!” เสียงที่แหลมสูงและคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ ทำให้พวกเขาหันไปมองอย่างตกใจ

“ไอ้นัท!” ตูนตะโกนดีใจเมื่อเห็นเพื่อนของเขาอยู่ข้างๆ แต่ทว่าท่าทางของนัทกลับไม่ปกติ เขาห้ามให้พวกเขาเสียงดัง

“เงียบ! เติ้ลกำลังตามหาเรา!” นัทกระซิบเสียงต่ำ สีหน้าของเขากังวลและตึงเครียด

“ทำไม… ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้?” แป้งถามด้วยน้ำเสียงสั่น

“ไม่รู้เหมือนกัน… แต่ตอนนี้เราไม่สามารถให้เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่” นัทบอก สายตาของเขาจับจ้องไปที่ความมืด

“แล้วเราจะทำยังไง?” ตูนถามในขณะที่ลมหายใจของเขาเริ่มหนักหน่วง

“เราต้องรอจนกว่าเขาจะวิ่งผ่านไป” นัทตอบ ขณะก้มลงข้างหลังต้นไม้ใหญ่ หวังว่าจะซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์

เสียงฝีเท้าของเติ้ลดังขึ้นอีกครั้ง เขาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงลมหายใจของตูนและแป้งดังขึ้นในความเงียบ แต่ละเสียงฟังดูชัดเจนในช่วงเวลาที่ตึงเครียดนี้

“อย่าเคลื่อนไหว!” นัทเตือนขณะทำท่าทางให้พวกเขาอยู่นิ่ง ๆ รู้สึกถึงความกดดันที่บีบคั้นอยู่ในอก

ในขณะที่เติ้ลเดินผ่านไป พวกเขาสามคนยังคงจับมือกันแน่น ใจของพวกเขาเต้นรัว เมื่อรู้สึกถึงความใกล้ชิดกับอันตรายที่ไม่สามารถมองเห็นได้

“เขาผ่านไปแล้ว…” นัทกระซิบอย่างระมัดระวัง เมื่อเสียงฝีเท้าห่างออกไปจนเงียบสงบ

“เราต้องไปจากที่นี่!” แป้งพูดเสียงเบา แต่น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความวิตกกังวล

“ใช่ แต่ต้องค่อย ๆ ไป อย่าทำเสียงดัง” ตูนพยักหน้า

ทั้งสามคนพยายามค่อย ๆ ลุกขึ้นและเดินออกจากที่ซ่อนอย่างระมัดระวัง 

ขณะที่พวกเขาเดินต่อไปในความมืด นัทและตูนพยายามทำใจให้สงบ แม้จะรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่ตระหนักอยู่ตลอดเวลา

“นัท…มึงมาที่นี่ได้ยังไง?” ตูนถามเสียงกระซิบ เขารู้สึกตื่นเต้นที่เห็นเพื่อน แต่ก็มีคำถามมากมายในใจ

นัทหยุดชั่วคราวและหันไปมองตูนกับแป้ง เขากล่าวเสียงเบา “กู… กูกับไอ้อาร์ตเจอที่นี่ก่อนหน้านี้”

“แล้วเกิดอะไรขึ้น?” แป้งถาม ขณะยืดหูฟังเสียงรอบข้าง

“ตอนแรกก็ไม่มีอะไรหรอก แต่แล้วอาร์ตเริ่มมีอาการแปลกๆ มันบอกว่ารู้สึกเหมือนมีใครบางคนตามอยู่ตลอดเวลา” นัทเล่าด้วยน้ำเสียงเครียด

“กูพยายามเรียกสติมัน จนกระทั่งกูได้ยินเสียงอิงร้องขอความช่วยเหลือ กูเลยไปตามหา แต่ไม่พบอิง พอกูกลับมา อาร์ตก็หายไป”

“หายไป?” ตูนถามด้วยความตระหนก “หมายถึงอาร์ตมันหายไปเลยเหรอ?”

“ใช่… ตอนที่กูกลับมาที่แคมป์ เพื่อน ๆ ก็ไม่อยู่แล้ว กูเลยเริ่มตามหา” นัทพูด ขณะที่ความกังวลเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเขา

“แต่ในระหว่างที่ตามหา กูได้ยินเสียงกรี๊ดของแป้ง และเห็นเติ้ลกำลังไล่ตามพวกมึงอยู่”

“เติ้ล… เขาเป็นอะไรไป?” แป้งถามเสียงสั่น เธอเริ่มรู้สึกถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามาอีกครั้ง

“ไม่รู้… แต่กูรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง” นัทกล่าว และสายตาของเขาจับจ้องไปที่ความมืดที่เต็มไปด้วยเงา

“เขาไม่ใช่เด็กคนเดิมที่เรารู้จัก”

“เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” ตูนแนะนำ เสียงของเขาแสดงถึงความกลัวที่ไม่สามารถปกปิดได้ “ถ้าเติ้ลเป็นแบบนี้… ใครจะรู้ว่าเขาจะทำอะไร”

“ใช่… เราต้องระวังตัว” นัทพยักหน้า “และหากมีอะไรเกิดขึ้น เราต้องช่วยกัน”

ระหว่างที่เดินต่อไป ตูนรู้สึกสงสัยในสิ่งที่นัทเล่า และเขาตัดสินใจเปิดใจคุยกับนัทอีกครั้ง

“แต่นัท… พวกกูเจออาร์ต มันบอกว่ามึงรออยู่ที่รถและมึงบอกให้มันมารับพวกเรา”

นัทหยุดเดินและหันมามองตูนด้วยความตกใจ “อาร์ตบอกแบบนั้นเหรอ? มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย”

เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในคำพูดของอาร์ต

“ใช่ มันบอกว่ามึงรออยู่ที่รถ” ตูนยืนยัน “หลังจากนั้นพวกกูก็คลาดกันและมาเจอกับเติ้ล แต่ตอนนี้ก็ไม่เห็นไอ้อาร์ตอีกแล้ว”

“มันแปลกมาก…” นัทขมวดคิ้ว และเริ่มคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“ทำไมอาร์ตถึงบอกแบบนั้น? หรือว่า… มันไม่ใช่คนเดิมที่เราเคยรู้จัก?”

“นัทคิดว่าอาร์ตก็มีอาการแปลกๆ เหมือนเติ้ลหรือเปล่า?” แป้งถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “ถ้าเป็นแบบนั้น เราต้องระวังให้ดี”

“ใช่ เราต้องระวังทั้งเติ้ลและอาร์ต” นัทพูดเสียงเครียด “ถ้ามีอะไรผิดปกติ ต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่”

ตูนพยักหน้าเห็นด้วย แต่ความสงสัยในใจเขายังคงวนเวียน

“แล้วถ้าไอ้อาร์ต… ต้องการทำร้ายเรา? แล้วโชคกับอิงที่อยู่กับมัน จะเป็นยังไงบ้าง?” เสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเพื่อนอีกสองคนที่ยังไม่อยู่ในกลุ่ม

นัทขมวดคิ้ว “นั่นแหละที่กูกังวล ถ้าอาร์ตมีอาการแปลก ๆ แบบเติ้ล มันอาจจะหมายความว่าโชคกับอิงก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน”

“พวกเขาต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งในป่านี้…” แป้งพูด เสียงของเธอเริ่มเต็มไปด้วยความวิตก “ถ้าเราไม่ไปช่วยพวกเขา อาจจะไม่ทันเวลา”

“พวกเราต้องตามหาโชคกับอิง” นัทเสนอ

“งั้นต้องค่อย ๆ เดินไปนะ” แป้งบอก “เราไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร”

“ใช่ พยายามไม่ทำเสียงดัง” นัทเน้นและพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ผ่านป่าทึบ เสียงใบไม้แห้งกรอบใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา ทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงัด

ในระหว่างที่เดินไป ตูนรู้สึกถึงอาการตึงเครียดที่เริ่มคลายลงเมื่อได้พูดคุยกัน แต่เมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นในระยะไกล เขาก็หยุดและยกมือขึ้นเพื่อบอกให้ทุกคนหยุด

“ได้ยินไหม?” ตูนกระซิบ ขณะที่เขาและเพื่อน ๆ ยืนอยู่กลางความมืด

“เสียงอะไร?” แป้งถาม โดยที่ยังคงยืนอยู่ใกล้ตูน

“เหมือนเสียงใครบางคนพูด” นัทตอบ ขณะตั้งใจฟังเสียงนั้นอย่างระมัดระวัง

“ไปดูไหม?” ตูนเสนอ แต่เขาก็รู้สึกถึงความกังวลที่ก่อตัวในอก

“เราต้องระวังให้ดี” นัทเตือน “อาจจะเป็นอาร์ตหรือใครอีกคนที่เราไม่รู้จัก”

พวกเขาพยักหน้าและเริ่มเดินช้า ๆ ไปในทิศทางของเสียงนั้น โดยมีความหวังว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินจะนำไปสู่การหาคำตอบเกี่ยวกับโชคและอิง....

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!