ตอนที่ 4 - กับดักแห่งความมืด

เวลาผ่านไปจนถึงเช้ามืด บรรยากาศภายนอกเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย โดยมีเสียงนกเริ่มร้องและสายลมพัดผ่านต้นไม้ ตูนเป็นคนแรกที่รู้สึกตัวก่อน แต่ทันทีที่เขาหลับตาใหม่ ความรู้สึกของการนอนไม่หลับก็กลับมาอีกครั้ง เพราะจู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำอย่างกะทันหัน

ตูน: (กระซิบออกมา) “อาร์ต…ตื่น พากูไปเข้าห้องน้ำหน่อย”

แต่เมื่อเขาหันไปมองที่นอนของอาร์ตกลับพบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอาร์ตนอนอยู่ตรงนั้นเลย ความสงสัยและความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง ตูนพยายามคิดว่าอาร์ตอาจจะไปห้องน้ำก่อนเขา แต่ทำไมถึงไม่ปลุกเขาให้รู้บ้าง?

เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจแล้วจึงพลิกตัวออกจากเต็นท์ เขาเดินไปทางที่มองเห็นห้องน้ำในระยะไกล พร้อมกับเรียกชื่อเพื่อน

ตูน: “อาร์ต! อาร์ต! มึงอยู่ไหน!”

ไม่มีเสียงตอบกลับจากเพื่อน ทุกอย่างดูเงียบสงบ แสงสลัวของยามเช้าค่อยๆ ส่องผ่านป่าทึบทำให้บรรยากาศรอบตัวดูแปลกตา

ตูนเดินไปถึงห้องน้ำและพบว่าประตูห้องน้ำเปิดอยู่ แต่ภายในกลับมืดสนิท เขาตัดสินใจเดินเข้าไปเพื่อเรียกอาร์ตอีกครั้ง

ตูน: “อาร์ต! มึงอยู่ไหน? ถ้าอยู่ในนี้ ตอบด้วย!”

เขาเปิดประตูห้องน้ำสุดท้ายและยืนรอ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับและไม่มีใครอยู่ข้างใน ห้องน้ำว่างเปล่า แค่ความมืดภายในทำให้เขาขนลุกขนพอง เขารีบหันหลังกลับและเดินออกมาอย่างรวดเร็ว

ในใจของตูนเริ่มมีความวิตกกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาร์ต สัญชาตญาณบอกเขาว่าไม่ควรอยู่คนเดียวในเวลานี้ เขารีบเดินกลับไปที่เต็นท์และเรียกเสียงดัง

ตูน: “พวกมึง! อาร์ตหายไป!”

เมื่อกลับไปถึงเต็นท์ ทุกคนเริ่มตื่นและมองหน้ากันด้วยความงงงวย

นัท: (งัวเงีย) “อะไรนะ? อาร์ตหายไป? มึงแน่ใจนะ?”

อิง: (สีหน้าตกใจ) “อาร์ตไม่อยู่? มันจะไปไหนได้?”

โชค: (ทำหน้างง) “เมื่อกี้เขายังนอนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?”

ตูนรู้สึกเหมือนโลกกำลังถล่มลงรอบตัว เขาอธิบายเรื่องที่เห็นและที่รู้สึกถึงการหายไปของอาร์ต ขณะที่เพื่อนๆ มองเขาด้วยความสับสนและไม่เชื่อ เสียงของพวกเขาเริ่มมีความเครียดเมื่อพวกเขาเริ่มตระหนักถึงความจริง

แป้ง: “เราต้องออกไปตามหาอาร์ต เราจะไม่ทิ้งเพื่อน!”

ความรู้สึกวิตกกังวลและความสับสนเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของทุกคน ขณะที่พวกเขายืนอยู่ในเต็นท์ของตัวเอง และมองไปรอบๆ พบว่าบริเวณที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเมื่อวันก่อนตอนนี้กลับว่างเปล่า เต็นท์ของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ล้วนหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยเหมือนกับว่าไม่มีใครเคยมาที่นี่เลย

นัท: (เบิกตากว้าง) “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมไม่มีใครอยู่ที่นี่?”

โชค: (มองไปรอบๆ) “เมื่อคืนเรายังเห็นคนอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงไม่มีใครเลย?”

ทุกคนเงียบลง พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองอยู่ในโลกที่แปลกประหลาด เมื่อมองไปยังพื้นที่รอบๆ ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของนักท่องเที่ยว ตอนนี้กลับมีแต่ความเงียบที่แฝงไปด้วยความหนาวเหน็บ

อิง: (เสียงแผ่ว) “หรือว่าพวกเขาเก็บของกันไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วเราไม่รู้ตัว?”

ตูน: (เริ่มรู้สึกกลัว) “แต่เราไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย… มันน่าจะมีเสียงของการเก็บของ หรือแม้แต่เสียงเดินเมื่อพวกเขาออกไป”

พวกเขาตัดสินใจยืนอยู่ในวงล้อมและพยายามตั้งสติ ทุกคนหันมามองหน้ากันด้วยความวิตก แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกไปถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจ เกิดความกลัวว่าหากพวกเขาเดินไปไกลจากเต็นท์ อาจจะหายไปเช่นเดียวกับอาร์ตและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

แป้ง: (หายใจเข้าลึก) “เราต้องไปหาอาร์ต เราไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวในที่แบบนี้ได้”

นัท: “เราควรแบ่งกันค้นหา คอยเรียกอาร์ตอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มันได้ยิน”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย และเริ่มเดินแยกกันไปตามทางเดินที่นำไปสู่พื้นที่ที่พวกเขาเคยเห็นเมื่อวานนี้ ตลอดเวลาที่เดิน ทุกคนพยายามเรียกชื่ออาร์ตแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ทุกอย่างเงียบสงบจนกระทั่งใจของพวกเขาเริ่มรู้สึกหนักหน่วง

ขณะเดินไปได้สักพัก พวกเขาเริ่มเห็นร่องรอยของการตั้งแคมป์ที่ดูเหมือนจะเป็นของนักท่องเที่ยวคนอื่นในระยะไกลแต่เมื่อเข้าไปใกล้ กลับพบว่าเป็นเพียงกองไม้ที่ถูกทิ้งไว้ราวกับถูกทิ้งขว้าง ไม่มีใครอยู่ที่นั่นและไม่มีสิ่งของที่ดูเหมือนจะมีคนอยู่

โชค: “นี่มันอะไรกัน…ทุกคนหายไปไหนกันหมด?”

ทุกคนเริ่มรู้สึกถึงความกดดันที่มากขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานที่ที่เคยเป็นแคมป์ของพวกเขากลับกลายเป็นที่ว่างเปล่าที่ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

พวกเขาจึงหันกลับไปหากันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล การหายไปของอาร์ตทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในโลกที่แปลกประหลาด ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป

แป้ง: “พวกเราต้องกลับไปที่เต็นท์… เราอาจจะหาอาร์ตได้ที่นั่น หรือเราอาจจะต้องรอเขากลับมา”

นัท: (พยักหน้า) “ใช่… เราต้องรอ ถ้ามันกลับมาแล้วไม่เจอเรา มันคงจะมาที่นี่”

พวกเขาตัดสินใจกลับไปที่เต็นท์และหวังว่าอาร์ตจะกลับมาในไม่ช้านี้

เมื่อทุกคนกลับไปที่เต็นท์และพบว่าอาร์ตยังไม่กลับมา ความวิตกกังวลเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อิงจึงเสนอความคิดที่จะไปแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการหายไปของอาร์ต หวังว่าการมีผู้ช่วยจะทำให้พวกเขาสามารถค้นหาเพื่อนได้อย่างปลอดภัย

อิง: “เราไม่สามารถรอให้อาร์ตกลับมาเองได้! เราต้องไปหาคนที่ช่วยเราได้… ไปที่สำนักงานกันเถอะ”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย และเริ่มเดินไปยังสำนักงานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาตั้งแคมป์ แต่เมื่อไปถึงที่นั่น พวกเขากลับพบว่าประตูสำนักงานเปิดอยู่ แต่ภายในกลับเงียบสงบ ไม่มีเสียงของใครเลย

โชค: (ยืนอยู่หน้าประตู) “แปลกมาก ทำไมไม่มีใครอยู่ที่นี่? นี่มันช่วงกลางวันนะ”

เมื่อทุกคนเดินเข้าไปข้างใน บรรยากาศกลับดูราวกับร้างมานาน มีฝุ่นเกาะอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ และมีกลิ่นเหม็นอับลอยมา ทุกอย่างถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการดูแล หยดน้ำบางส่วนที่หล่นลงมาจากเพดานเป็นสัญญาณว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว

ตูน: “เหมือนที่นี่ไม่มีใครมานาน… พวกเขาหายไปไหนกัน?”

ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างสับสน ขณะที่นัทพยายามจะใช้โทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีสัญญาณ

นัท: (เสียงดัง) “โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้… ไม่มีสัญญาณเลย”

แป้ง: (หันไปมองที่หน้าต่าง) “เราต้องลองเดินออกไปหาจุดที่มีสัญญาณดีๆ … ถ้าหากโทรศัพท์ยังใช้ไม่ได้ เราคงจะไม่สามารถติดต่อใครได้”

อิง: “แต่เราจะไปที่ไหน? ถ้าเราห่างจากเต็นท์มากเกินไป เราอาจจะหลงทาง”

การตัดสินใจทำให้ทุกคนรู้สึกหนักใจ การเดินกลับไปที่เต็นท์ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ความกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวในสถานที่ที่ไร้ผู้คนก็ทำให้พวกเขาลังเล

โชค: “เราต้องหาทาง ตามหาอาร์ตให้เร็วที่สุด ถ้าเราอยู่ที่นี่นานกว่านี้ อาจจะเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น”

ในที่สุด พวกเขาตัดสินใจเดินกลับไปที่เต็นท์อีกครั้ง โดยหวังว่าอาร์ตจะกลับมาในขณะที่พวกเขาออกไปหาความช่วยเหลือ ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกลัวที่กัดกินอยู่ในใจ แต่ความรักและความเป็นเพื่อนที่มีต่อกันก็ค่อยๆ ทำให้พวกเขามีกำลังใจที่จะหาทางออกจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่นี้

อยู่ดีๆฟ้าค่อยๆ มืดลงคล้ายฝนกำลังจะตก ทั้งที่เวลายังเช้าอยู่เลย ทุกคนเริ่มสัมผัสได้ถึงความเงียบที่น่าขนลุก ขณะเดินกลับไปที่เต็นท์ ทุกคนกวาดตามองรอบๆข้างทางด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ พวกเขาพยายามกลับไปที่เต็นท์ให้เร็วที่สุด ด้วยความหวังเล็กๆ ว่าอาร์ตอาจจะกลับมารออยู่

"อาร์ตหายไปได้ยังไง?" โชคพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นๆ พยายามพูดเพื่อทำให้ใจสงบ แต่ก็ไม่ช่วยมากนัก เขารู้สึกถึงเหงื่อเย็นไหลผ่านแผ่นหลัง

"อาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาก็ได้" นัทพูดพลางพยายามระงับความกังวลและเป็นผู้นำของกลุ่ม แม้ใจจริงเขาเองก็กลัวจับใจ

"แต่ตอนนี้...เราแยกกันตามหาเขาต่อไม่ได้หรอก เราต้องกลับไปรวมตัวกันที่เต็นท์ก่อน แล้วค่อยหาทางออกไปจากป่านี้"

แป้งที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นเบาๆ ราวกับเสียงกระซิบ "ทำไมเรา รู้สึกเหมือน...เหมือนมีบางอย่างตามพวกเราอยู่ทุกฝีก้าว" เธอก้มหน้าหลบสายตาทุกคนที่หันมามอง

"จะบ้าเหรอ!" โชคโพล่งขึ้นมา พยายามหัวเราะแห้งๆ เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย แต่สายตาเขากลับหันไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง "ไม่มีอะไรหรอก เราแค่คิดไปเอง!"

"เราว่าทุกคนต้องตั้งสติ" นัทพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้จะฟังดูเหนื่อยและสั่นเล็กน้อย "เราจะต้องไม่เสียสติไปกับเรื่องพวกนี้...เรายังมีหวังที่จะหาทางออก"

ทุกคนพยักหน้าเงียบๆ พลางเดินตามนัทกลับไปที่เต็นท์ ขณะที่เสียงใบไม้แห้งถูกเหยียบจนกรอบกร๊อบใต้เท้า สายลมเย็นยิ่งทำให้พวกเขาขนลุกชัน

เมื่อมาถึงบริเวณเต็นท์ ทุกอย่างยังคงนิ่งสนิท ไม่มีร่องรอยใดๆ ของอาร์ต และดูเหมือนว่าความมืดจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนแสงไฟจากไฟฉายไม่สามารถส่องทะลุไปได้มากนัก ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นทำให้ทุกคนเริ่มหายใจติดขัด

"เราว่า...ถ้าหาอาร์ตไม่เจอจริงๆ เราก็ต้องออกจากที่นี่ทันที" อิงพูดเบาๆ เสียงเธอสั่นจนเกือบขาดหาย "ไม่อย่างนั้นเราอาจจะหายไปเหมือนอาร์ต"

"แต่เราจะทิ้งเพื่อนได้ยังไง?" นัทตอบในทันที น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความลังเล แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่อยากปกป้องเพื่อนๆ ทุกคน

"เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะหาทางพาอาร์ตกลับมาให้ได้" นัทพูดต่อ

ในขณะที่ทุกคนยืนคิดอยู่หน้าที่เต็นท์ เสียงแปลกๆ ดังขึ้นจากด้านในเหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ข้างใน ทุกคนหันขวับไปทางเสียงนั้นพร้อมกัน หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

"หรือว่าอาร์ตกลับมาแล้ว?" โชคพูดด้วยความหวังที่แวววาวอยู่ในแววตา เขายื่นมือไปจับซิปเต็นท์ ค่อยๆ รูดมันเปิดออกอย่างช้าๆ

เมื่อซิปเต็นท์เปิดออก ภาพที่ปรากฏทำให้พวกเขาถึงกับยืนตัวแข็ง เสียงลมหายใจของทุกคนขาดหายไปทันที…

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!