เส้นทางไร้คืนกลับ

เส้นทางไร้คืนกลับ

ตอนที่ 1 - การออกเดินทาง

กลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่ประกอบด้วยนัท อาร์ต อิง ตูน โชค และแป้งต่างตกลงกันว่าจะไปตั้งแคมป์ช่วงปิดเทอมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

นัท เด็กหนุ่มผู้รักธรรมชาติ มีความเป็นผู้นำและเป็นคนที่มักจะรับหน้าที่ดูแลและตัดสินใจให้กลุ่มเสมอ เขามีท่าทางสุขุม ใจเย็น และชอบสำรวจโลกภายนอก แม้ป่าลึกจะดูน่ากลัวในสายตาคนอื่น แต่นัทกลับมองว่ามันคือความท้าทายและธรรมชาติที่เขาหลงใหล

อาร์ต เป็นคนอารมณ์ร้อนและใจร้อน แต่ก็รักเพื่อนสุด ๆ ใครกล้ามาแกล้งเพื่อนของเขาเขาจะปกป้องอย่างเต็มที่ อาร์ตมีนิสัยหุนหันพลันแล่น ไม่ชอบอะไรที่อืดอาด แต่ในความใจร้อนนั้นก็มีจิตใจที่อ่อนโยนและจริงใจ เมื่อมีเรื่องตื่นเต้นหรือเสี่ยง ๆ อาร์ตจะเป็นคนแรกที่ท้าให้ทุกคนลอง

อิง สาวที่เชื่อเรื่องผีเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กเธอชอบฟังเรื่องผีและดูหนังสยองขวัญ แม้จะรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะค้นหาและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ อิงมักจะเล่าเรื่องผีหรือเรื่องลึกลับให้เพื่อนฟัง และชวนเพื่อน ๆ เล่นเกมเสี่ยง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เธอเชื่อ

ตูน เด็กหนุ่มขี้เล่นและเจ้าของเสียงหัวเราะที่ดังและสดใส ตูนมีความมั่นใจในตัวเองสูงและไม่กลัวสิ่งใด เป็นคนที่ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อน ๆ และมักจะทำตัวเป็นตัวป่วนในกลุ่ม ตูนชอบแหย่เพื่อนโดยเฉพาะคนที่กลัวผีและมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่ความเชื่อที่ไร้สาระ

โชค หนุ่มผู้ใจดีและอ่อนโยน มีจิตใจที่ใสซื่อและมองโลกในแง่ดี แต่ขณะเดียวกันก็กลัวเรื่องผีมากที่สุดในกลุ่ม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อเรื่องเหล่านี้ แต่เขาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินเรื่องลึกลับ โชคเป็นคนที่มีสัญชาตญาณไวต่อความผิดปกติรอบตัว และมักจะรับรู้ถึงบางอย่างที่เพื่อนคนอื่นไม่รู้สึก

แป้ง สาวน้อยเงียบ ๆ ขี้อายแต่มีความชอบในเรื่องสยองขวัญ เธอมักจะนั่งอยู่เงียบ ๆ อ่านหนังสือเรื่องผีและสืบสวนลี้ลับ เป็นคนรอบคอบและชอบสังเกตรายละเอียด แป้งไม่ค่อยพูดมากแต่มีความคิดลึกซึ้ง เธอเชื่อว่าบางครั้งความเงียบสามารถบอกอะไรบางอย่างได้มากกว่าคำพูด

พวกเขารวมตัวกันที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย เปิดแล็ปท็อปเพื่อค้นหาสถานที่แคมป์ปิ้งที่เหมาะสม หลังจากเลือกดูหลายเว็บ จู่ ๆ อิงก็พบข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจมาก

เว็บไซต์ที่อิงเจอนั้นมีเพียงหน้าเว็บเรียบง่าย ไม่มีข้อมูลอะไรเยอะนัก แต่กลับมีรูปภาพของพื้นที่แคมป์ที่ดูสวยงามอย่างน่าเหลือเชื่อ

ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี ต้นไม้สูงใหญ่ที่ให้ร่มเงา และบรรยากาศที่ดูสงบเงียบ ทำให้ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้

เมื่อเลื่อนลงมาที่รายละเอียดของแคมป์ ก็พบกับข้อมูลที่ดูเหมือนจะทำให้พวกเขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ราคาค่าเช่าที่ตั้งแคมป์นั้นถูกกว่าที่อื่นมากจนน่าแปลกใจ

แม้สถานที่ตั้งจะอยู่ในป่าลึกและเดินทางลำบากเล็กน้อย แต่เพื่อน ๆ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่น่าจะเป็นทริปที่คุ้มค่ากับการลองออกไปผจญภัยสักครั้ง

พวกเขาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่แปะไว้ในหน้าเว็บ เมื่อมีคนรับสาย ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งพูดเสียงเย็น ๆ แนะนำว่าถ้าพวกเขาเลือกมาพักที่นี่ ควรเตรียมเสบียงมาให้พอและควรอยู่ด้วยกันเสมอ

"สถานที่ที่นี่จะเงียบหน่อย ถ้าพวกหนูชอบความสงบ สถานที่นี้เหมาะมาก"

เสียงผู้หญิงพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไปอย่างรวดเร็ว

ตูนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดกับเพื่อน ๆ ว่า

“ดูจะหลอน ๆ นะ แต่ก็ดี แบบนี้น่าตื่นเต้นดี”

เพื่อน ๆ ก็หัวเราะไปกับเขา บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสธรรมชาติกลางป่าลึก

วันออกเดินทางมาถึง พวกเขาขับรถไปตามเส้นทางที่ผู้ดูแลแนะนำ ซึ่งเป็นถนนลูกรังแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและโค้งคดเคี้ยว

สองข้างทางเริ่มเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ บางครั้งเหมือนเงาของต้นไม้โน้มเข้าหากันจนแทบจะปกคลุมเส้นทางไว้หมด มันเป็นเส้นทางที่เปลี่ยวมาก ไม่มีรถสัญจรผ่านเลยตลอดทาง และยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความเงียบงันที่ชวนให้รู้สึกวังเวง

หลังจากขับมานานจนทุกคนเริ่มสงสัยว่าตัวเองมาผิดทางหรือไม่ ในที่สุดก็เจอกับป้ายไม้เก่า ๆ ที่เขียนไว้ว่า "ที่ตั้งแคมป์สวนลับ"

ป้ายที่ดูผุพังเหมือนถูกทิ้งไว้ในป่านานนับปี แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีก พวกเขาจอดรถแล้วนำสัมภาระลงมา เตรียมตัวเข้าป่าตามเส้นทางเดินเล็ก ๆ ที่อยู่หลังป้าย

เมื่อเดินเข้าไปตามทางลึกลงไปเรื่อย ๆ ความเงียบและกลิ่นดินชื้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น พวกเขาเดินกันมาเป็นเวลานาน 

จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดตั้งแคมป์ และพบสำนักงานเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่และดอกไม้หลากสีที่ล้อมรอบ สำนักงานนั้นตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และกระถางต้นไม้เล็ก ๆ ที่วางเรียงอยู่ตามมุมห้อง

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้อบอวลไปทั่ว ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นอย่างน่าประหลาด แสงแดดลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้ห้องดูสว่างสดใสกว่าที่คิด

พนักงานต้อนรับเป็นหญิงวัยกลางคน ใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร เธอต้อนรับพวกเขาอย่างใจดี แนะนำรายละเอียดต่าง ๆ ของแคมป์และถามไถ่ทุกคนอย่างใส่ใจ

ข้าง ๆ กันนั้นเป็นชายชราผู้ดูแลพื้นที่ในชุดเสื้อเชิ้ตเก่า ๆ ที่ดวงตาฉายแววใจดีและเต็มไปด้วยความอบอุ่น เขาพยักหน้าให้พวกเขาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่แสดงออกถึงความเอ็นดู

เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายชราดูจะมีหน้าที่เป็นผู้นำทาง เขาสวมเสื้อกันหนาวสีเข้ม ดูเป็นคนสุขุมและค่อนข้างเงียบ แต่ก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการทำงาน

เด็กหนุ่ม "สวัสดีครับ ผมชื่อเติ้ล จะพาพวกคุณไปยังจุดกางเต็นท์นะครับ"

เขาแนะนำตัวและกล่าวว่าจะพาพวกเขาไปยังจุดกางเต็นท์ ทั้งกลุ่มรู้สึกสบายใจขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นความสดชื่นของที่นี่ บรรยากาศโดยรอบเหมือนจะต้อนรับพวกเขาเข้าสู่ทริปที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความสุข

เติ้ลพาพวกเขาเดินตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินและทราย ผ่านใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน เมื่อพวกเขาไปถึงลานกางเต็นท์ กลุ่มนักศึกษาถึงกับหยุดมองอย่างตื่นเต้น

ที่ตรงหน้าเป็นพื้นที่กว้างขวาง มีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านกลางลาน น้ำใสแจ๋วที่ไหลไปตามโขดหินก่อให้เกิดเสียงดังพริ้วไหว สร้างความสดชื่นและชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศ

ลานกางเต็นท์เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่สนุกสนาน เด็ก ๆ วิ่งเล่นและหัวเราะเสียงดัง ขณะที่ผู้ใหญ่บางคนกำลังตั้งเต็นท์ บางกลุ่มกำลังนั่งอยู่ริมลำธาร จิบเครื่องดื่มและสนทนาอย่างร่าเริง

สายลมพัดผ่านเบา ๆ พัดพาความรู้สึกสดชื่นมาถึงทุกคนในกลุ่ม สภาพแวดล้อมรอบข้างทำให้พวกเขารู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาที่ไม่ได้คาดหวัง

“นี่มันเยอะกว่าที่คิดไว้มาก!” อาร์ตพูดขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น ขณะที่เขามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาที่อย่างร่าเริง ตาเป็นประกาย

“ใช่! ดูเหมือนว่าจะมีกิจกรรมให้เราทำเยอะมาก” แป้งเสริมอย่างร่าเริง ตาเป็นประกายจากการเห็นนักท่องเที่ยวที่สนุกสนานรอบตัว

“น่าจะเป็นช่วงที่ดีสำหรับการตั้งแคมป์” นัทกล่าวด้วยรอยยิ้ม ท่าทางเขาดูมีความสุขเมื่อเห็นบรรยากาศคึกคักเช่นนี้

“จริงด้วย!” ตูนตอบรับพร้อมกับยิ้มกว้าง “เราน่าจะสนุกกันมากแน่!”

เติ้ลพาชี้จุดที่เหมาะสมสำหรับการตั้งเต็นท์ ซึ่งอยู่ใกล้กับลำธารและมีพื้นที่กว้างพอให้พวกเขาทำกิจกรรมได้มากมาย เขาอธิบายเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ และบอกให้พวกเขารู้ว่ามีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การตกปลาและการเล่นน้ำ ที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมได้

ทั้งหกคนเริ่มช่วยกันตั้งเต็นท์ โดยนัททำหน้าที่เป็นผู้นำ พวกเขาแบ่งหน้าที่กันอย่างมีระเบียบ

อาร์ตและโชคช่วยกันยึดเสาเต็นท์ให้มั่นคง ขณะที่อิงและแป้งจัดการคลุมเต็นท์ด้วยผ้าใบ ขณะที่ตูนวิ่งไปวิ่งมา สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานอยู่ไม่ไกล โดยการแหย่เพื่อน ๆ ที่กำลังทำงานอยู่

“เร็วเข้า ๆ ต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะเล่นน้ำ!"  ตูนพูดพลางทำท่าเล่นน้ำ โดยเอามือแกล้งสาดน้ำใส่โชคที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่

“เฮ้ย! อย่าให้เปียก!”  โชคร้องขึ้น แต่ก็ยิ้มออกมาในขณะที่เขาพยายามหลบหลีก

ไม่นานนัก เต็นท์ก็เสร็จเรียบร้อยและตั้งอยู่ตรงจุดที่เหมาะสม ลมเย็นพัดผ่านมาเบา ๆ ทำให้บรรยากาศสดชื่นยิ่งขึ้น หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พร้อมสำหรับการเล่นน้ำในลำธาร

เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว พวกเขารีบวิ่งไปยังลำธารที่ใสสะอาด น้ำเย็นฉ่ำกระเซ็นขึ้นเมื่อทุกคนกระโดดลงไปในน้ำ

เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุกคนสนุกสนานอย่างเต็มที่ น้ำที่เย็นสบายทำให้รู้สึกสดชื่น แม้จะมีเสียงน้ำไหลเบา ๆ เป็นพื้นหลัง แต่ความสนุกสนานของพวกเขากลับกลบเสียงนั้นจนหมดสิ้น

อิงและแป้งกระโดดลงไปอย่างสนุกสนานก่อนที่จะเริ่มเล่นน้ำกับอาร์ต

ขณะที่โชคและนัทอยู่ที่ริมฝั่ง พยายามตกปลาเล็ก ๆ ด้วยความหวังว่าอาจจะได้ปลากลับไปทำอาหารในมื้อค่ำ

ตูนว่ายน้ำไปหาพวกเขา ก่อนที่จะมีการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างหัวเราะเสียงดัง แบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าและน่าจดจำร่วมกัน

บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความสดใส เป็นภาพที่สวยงามของมิตรภาพในช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือนนี้

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า สาดแสงสีส้มทองลงมาบนผืนน้ำในลำธาร ทุกคนในกลุ่มค่อย ๆ ขึ้นจากน้ำ โดยมีเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยกันไปตลอดทางขึ้นฝั่ง นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยขึ้นจากน้ำเช่นกัน ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาก

“ดูพระอาทิตย์สิ! สวยมาก!”  แป้งกล่าวด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เธอมองไปที่ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี

“ใช่! มันเหมือนกับว่าทุกอย่างอยู่ในภาพวาด” อิงเสริมด้วยรอยยิ้มที่สดใส

“ไปเถอะ เราควรเริ่มทำอาหารกันได้แล้ว” นัทพูดขึ้น โดยชี้ไปยังเต็นท์ที่มีอุปกรณ์ทำอาหารวางอยู่

ทุกคนเริ่มช่วยกันจัดเตรียมอาหารที่นำมาจากบ้าน เช่น ข้าว สัตว์ปีก และผักสด พวกเขาตั้งเตาไฟและเริ่มทำอาหารด้วยกันอย่างสนุกสนาน

“ทำอาหารในป่านี่มันทำให้รู้สึกดีจริงๆนะ!” ตูนพูดพลางหยิบไม้เสียบลูกชิ้นขึ้นมา เขาแกล้งชูไม้ขึ้นอย่างเป็นพิธี โดยทำเสียงแปลก ๆ

“ขอเชิญทุกคนมาร่วมสรรค์สร้างเมนูพิเศษของพวกเราครับ!”

“เฮ้! ระวังไฟไหม้!” โชคร้องขึ้นด้วยความกลัว ขณะที่เขายิ้มออกมา

“ถ้ากูเป็นคนทำอาหาร มันต้องไหม้แน่ ๆ”

“ไม่ต้องห่วง! กูอยู่ที่นี่แล้ว” อาร์ตพูดพลางยิ้มให้กับโชค “แต่ถ้าหมายถึงการไหม้ให้ได้ใจ ก็คงเป็นเรื่องจริง”

หลังจากที่อาหารเสร็จเรียบร้อย ทุกคนเริ่มนั่งล้อมวงอยู่รอบกองไฟที่ลุกโชติช่วง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยดังอยู่รอบ ๆ ในขณะที่พวกเขากินอาหารที่ร่วมกันทำ

“เฮ้! มีใครเคยเจอเรื่องผี ๆ มาบ้างไหม?” ตูนถามอย่างขี้เล่น ขณะที่เขาเคี้ยวอาหารไปด้วย “ถ้าเกิดเจอผีขึ้นมาจริง ๆ เราจะทำยังไงกัน?”

“ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นเลย!” โชคตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงตกใจ “เราแค่ต้องมีสติ และพยายามไม่ทำให้ผีโมโหก็พอ”

“หรือไม่ก็ควรตั้งใจให้เขาเข้ามาเล่นกับเราด้วย!” อิงพูดพลางหัวเราะ “เอาเป็นว่า ถ้ามีใครเห็นผี มันต้องไม่ใช่ฉันแน่ ๆ”

“ถ้ากูเห็นผีจริง ๆ กูจะเป็นคนแรกที่วิ่งหนี!” อาร์ตพูดเสียงดัง ขณะที่ทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ในขณะที่พวกเขานั่งคุยกันนั้น ความเงียบสงบของป่ากลับถูกเสียงหัวเราะของกลุ่มนักศึกษาขับไล่ไปชั่วคราว บางครั้ง เสียงของธรรมชาติก็เริ่มส่งเสียงเบา ๆ ราวกับมีบางสิ่งที่คอยเฝ้ามองอยู่ในความมืด แต่ในความสนุกสนานนั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินั้น…

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!