หลังจากที่ ธนู เห็น พิมพ์ดาว กับผู้ชายคนนั้นในวันนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกกระชากออกไป ความกล้าที่เขาเคยมีเพื่อสารภาพรักกับพิมพ์ดาวก็พังทลาย เขาทำได้เพียงแค่มองเธอจากระยะไกล และปล่อยให้ความรู้สึกที่เคยแน่นแฟ้นกลายเป็นความสับสน
พิมพ์ดาวยังคงมาช่วยดูแลแม่ของธนูเป็นประจำ เธอเป็นคนอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความห่วงใย ธนูมองเห็นถึงความตั้งใจของเธอทุกครั้งที่เธอเข้ามาช่วยเขาดูแลแม่
จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ธนูกำลังกลับจากซื้อของ เขาสังเกตเห็นพิมพ์ดาวเดินไปหลังตึกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และสิ่งที่ทำให้เขาหยุดนิ่งคือภาพของพิมพ์ดาวที่แอบพบกับผู้ชายคนหนึ่งในมุมเงียบของตึก ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่เขาเคยเห็นมาก่อน ชื่ออาทิตย์ ดูเหมือนพวกเขากำลังคุยกันอย่างจริงจัง ท่าทางของทั้งคู่แสดงออกถึงความใกล้ชิดที่ทำให้ใจของธนูแทบหยุดเต้น
ธนูไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป เขายืนอยู่ตรงนั้น รู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง ขณะที่คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวว่า “พิมพ์ดาวกำลังปิดบังอะไรอยู่?"
ธนูยืนอยู่นิ่ง ๆ ในเงามืด พลางเฝ้ามองพิมพ์ดาวกับอาทิตย์ ภาพที่เห็นทำให้ใจเขาเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพิมพ์ดาวถึงต้องแอบพบกับชายคนนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว
และเขาก็รู้ว่าผู้ชายที่พิมพ์ดาวแอบพบมีแฟนแล้วเช่นกัน และพักอาศัยด้วยกันในตึกนี้เอง
เขากลับขึ้นห้องด้วยความรู้สึกสับสน "พิมพ์ดาวกำลังทำอะไรอยู่? เธอจะเกี่ยวข้องกับเขาในฐานะอะไร?"
วันต่อมา ธนูตัดสินใจเฝ้าดูอีกครั้ง ธนูเดินตามเงียบ ๆ จนมาถึงมุมเงียบของตึก ที่ซึ่งพิมพ์ดาวและอาทิตย์ยืนคุยกันอยู่ เขาหยุดอยู่ตรงระยะที่ได้ยินบทสนทนาชัดเจน แต่ยังคงซ่อนตัวไม่ให้ทั้งคู่เห็น
เสียงของพิมพ์ดาวสั่นเล็กน้อย “เราจบกันไปนานแล้ว ทำไมคุณยังต้องมาพูดเรื่องนี้อีก?”
“พิมพ์ดาว ผมขอโทษ...ผมรู้ว่าผมทำผิด แต่เรายังมีโอกาสนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?” อาทิตย์พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว เขาดูอ่อนแอและหมดหวัง ขณะที่พิมพ์ดาวยังคงรักษาท่าทีของเธอไว้
พิมพ์ดาวหันหน้าไปอีกทางราวกับไม่อยากเผชิญกับคำวิงวอนนี้
“มันสายไปแล้ว เราต่างคนต่างมีทางเดินของตัวเอง แถมคุณก็มีคนใหม่แล้ว ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคุณอีก”
อาทิตย์พยายามจับมือเธอไว้ “แต่คนใหม่ของผม...มันไม่เหมือนกับที่เรามีกัน ผมคิดถึงทุกช่วงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน พิมพ์ดาว ผมยังรักคุณอยู่”
“อย่าพูดแบบนั้นเลย…” พิมพ์ดาวดึงมือออกมาอย่างรวดเร็ว “มันจบไปแล้วจริง ๆ ฉันเองก็มีชีวิตใหม่แล้ว ฉันไม่อยากกลับไปที่เดิม คุณควรจะทำแบบนั้นเช่นกัน”
ธนูที่แอบฟังอยู่ รู้สึกเหมือนหูของเขาร้อนผ่าว ความจริงที่เพิ่งได้ยินทำให้เขารู้สึกโล่งใจแต่ก็ปนด้วยความเศร้า อาทิตย์คือแฟนเก่าของพิมพ์ดาว และกำลังพยายามขอคืนดี เธอกำลังเผชิญหน้ากับอดีตที่เธอพยายามจะทิ้งไป
“พิมพ์ดาว ผมแค่ขอโอกาสอีกครั้ง...”
พิมพ์ดาวหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่แน่วแน่ “ฉันให้โอกาสคุณไปหลายครั้งแล้ว แต่คุณไม่เคยรักษามันไว้ ฉันจะไม่กลับไปเจ็บอีก ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ”
เสียงเงียบลงทันที อาทิตย์ยืนอยู่ตรงนั้น สะอื้นเบา ๆ ก่อนจะยอมถอยออกไป พิมพ์ดาวยืนอยู่คนเดียวครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินกลับออกมา ธนูรีบหลบเข้ามุมที่เธอจะมองไม่เห็น เขายืนอยู่ตรงนั้น ขณะที่พิมพ์ดาวเดินผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าลึก ๆ
ธนูมองตามเธอด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันในใจ "เขาควรทำอย่างไรต่อ?"
หลังจากที่ธนูได้ยินบทสนทนาระหว่างพิมพ์ดาวกับแฟนเก่า เขารู้สึกเหมือนมีความหวังเล็ก ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่ในใจ ความสัมพันธ์ของพิมพ์ดาวกับอาทิตย์จบไปแล้ว และเธอก็ได้ปฏิเสธการคืนดีอย่างชัดเจน แต่ธนูก็รู้ว่าอาทิตย์ยังไม่ยอมแพ้ เขาจึงคิดว่า ถ้าหากเขาต้องการสารภาพรักกับพิมพ์ดาวอย่างจริงจัง เขาจะต้องทำให้ผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตของเธอให้ได้
วันหนึ่ง ขณะที่ธนูกำลังจะออกไปข้างนอก เขาสังเกตเห็นอาทิตย์ยืนอยู่ข้างตึก กำลังคุยโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขาดูตึงเครียด ธนูค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้เพื่อฟังสิ่งที่พูด
"พิมพ์ดาว... ได้โปรดเถอะ ผมขอโทษ... ผมรู้ว่าทำพลาด แต่ผมยังรักเธออยู่ ให้ผมได้แก้ตัวเถอะนะ"
เสียงของอาทิตย์เต็มไปด้วยความวิงวอน ธนูฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิด เขาไม่พอใจอย่างมากที่อาทิตย์ยังคงพยายามรบกวนพิมพ์ดาว
ขณะที่กำลังคิดหาทางจัดการ เขาก็นึกถึงข้อมูลสำคัญที่เพิ่งได้รู้มา อาทิตย์มีแฟนอยู่ในตึกเดียวกัน ธนูคิดว่าถ้าแฟนของเขารู้เรื่องนี้ มันอาจเป็นทางที่จะทำให้ชายคนนี้ถอยออกไปจากชีวิตของพิมพ์ดาว
ธนูเริ่มวางแผน เขาเคยเห็นแฟนของอาทิตย์อยู่บ้าง และรู้ว่าเธอมักจะเดินผ่านตึกในช่วงเวลาหนึ่ง ธนูจึงรอจังหวะที่เหมาะสม
ไม่นานนัก โอกาสก็มา เมื่อเขาเห็นแฟนของอาทิตย์เดินออกจากตึกมาในเวลาปกติ ธนูจึงแสร้งทำเป็นเดินผ่านไปใกล้ ๆ อาทิตย์ที่ยังคงคุยโทรศัพท์กับพิมพ์ดาว และเพิ่มเสียงพูดของตัวเองเพื่อให้แฟนของอาทิตย์ได้ยิน
"ผมคิดถึงคุณ....เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม..."
ทันทีที่แฟนของอาทิตย์ได้ยิน เธอหยุดเดินทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสีและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอแอบมองแฟนของเธอยืนคุยโทรศัพท์สักพักจนวางสายไป
เธอเดินเข้าไปหาแฟนอย่างรวดเร็ว "อาทิตย์ นั่นใคร? คุณคุยกับใครอยู่?"
อาทิตย์สะดุ้งและหันมามองด้วยความตกใจ "เจน...ผม..."
ดูเหมือนคำแก้ตัวของเขาจะไม่ทันการ สีหน้าของแฟนเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
"งั้นก็แปลว่าทุกครั้งที่ฉันสงสัย คุณแอบติดต่อกับผู้หญิงจริง ๆ เหรอ? คุณคิดว่าฉันโง่หรือไง?"
ธนูที่แอบมองอยู่รู้สึกพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น การทะเลาะกันของทั้งสองคนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดแฟนของอาทิตย์ก็เดินออกไปด้วยความโกรธ ทิ้งเขาไว้ในสภาพที่หงุดหงิดและท้อแท้
ธนูยืนมองเหตุการณ์นี้จากมุมไกล ๆ ด้วยความรู้สึกที่ผสมกันระหว่างความพอใจและความโล่งใจ ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าอาทิตย์คงไม่มีทางมารบกวนพิมพ์ดาวได้อีกแล้ว ทางของเขาเพื่อสารภาพรักกับเธอก็ดูเหมือนจะเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง
ธนูตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่เขาสารภาพรักกับพิมพ์ดาว เขาตื่นเต้นจนมือสั่นเล็กน้อย ขณะที่เตรียมดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่เขาเพิ่งไปซื้อมา มันเป็นดอกไม้เรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายสำหรับเขา ธนูมองดูดอกไม้ในมือ และคิดถึงคำพูดที่เขาจะบอกกับพิมพ์ดาว มันเป็นช่วงเวลาที่เขาเฝ้ารอมานาน
ค่ำคืนนี้ฟ้าครึ้ม บรรยากาศดูเหงา ๆ และดูเหมือนฝนจะตก ธนูยืนอยู่ที่หน้าตึก มองฟ้าที่เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องเบา ๆ เขารู้ดีว่าพิมพ์ดาวจะกลับจากมหาวิทยาลัยในช่วงหัวค่ำ ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองประตูตึกด้วยใจที่จดจ่อ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ฟ้าที่ครึ้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นฝนตกหนัก ธนูจึงกลับเข้าไปหลบฝนในตึก
เวลาเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งฝนเริ่มซา ธนูยังคงเฝ้ามองประตูตึก หัวใจเต้นระรัว รอคอยการกลับมาของพิมพ์ดาวอย่างไม่ลดละ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งสี่ทุ่ม เขาเริ่มกังวลว่าพิมพ์ดาวอาจจะไม่กลับมาในคืนนี้
ทันใดนั้น เขาก็เห็นแสงไฟรถส่องมาใกล้ตึก รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าประตู และสิ่งที่ธนูเห็นทำให้เขาหัวใจหล่นวูบ พิมพ์ดาวลงมาจากรถคันนั้น
ผู้ชายที่ขับรถคันนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแฟนของพิมพ์ดาว พวกเขายืนคุยกันอยู่สักครู่ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะยิ้มและโบกมือลา เฝ้าดูจนพิมพ์ดาวเดินขึ้นตึกไปแล้ว จากนั้นจึงขับรถออกไป
หลังจากที่ พิมพ์ดาว เดินขึ้นห้องไป ธนูยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาตัดสินใจว่าจะไม่รบกวนเธอในทันที อาจเป็นเพราะเธอเหนื่อยจากการเรียนและต้องการเวลาส่วนตัว เขาจึงคิดจะรอให้ผ่านไปสักพักก่อนที่จะไปหาพิมพ์ดาว และสารภาพความในใจที่เขาเก็บไว้มานาน
เวลาผ่านไปจนถึงห้าทุ่ม แม่ของธนูซึ่งนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง ธนูเดินเข้าไปห่มผ้าให้แม่อย่างเบามือ ก่อนจะยืนมองใบหน้าของแม่ด้วยความรัก เขายิ้มบาง ๆ ออกมา ขณะที่ในใจเต็มไปด้วยความหวัง
“แม่ครับ วันนี้ผมจะบอกความในใจกับผู้หญิงที่ผมรัก แม่อวยพรให้ผมด้วยนะครับ” เขากระซิบเบา ๆ ข้างเตียงแม่ ราวกับต้องการกำลังใจจากคนที่รักที่สุดในชีวิต
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ธนูสูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วเดินออกจากห้อง เขากำดอกไม้แน่น ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความรู้สึกของเขา เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่เขาจะสารภาพความรักให้กับพิมพ์ดาว แม้ว่าภาพที่เห็นก่อนหน้านี้จะทำให้เขาหวั่นใจ แต่เขาก็รู้ว่าถ้าไม่ลองครั้งนี้ เขาอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
ธนูเดินขึ้นไปยังห้องของพิมพ์ดาว ใจเต้นระรัว เขาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของเธอ สองมือจับดอกไม้ไว้แน่น รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในใจ นี่คือโอกาสของเขา โอกาสที่จะบอกความในใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนาน
เขายืนอยู่หน้าประตู สายตาจับจ้องที่มันเหมือนกับกำลังยืนอยู่ตรงหน้าความจริงที่รอคอย
ธนูยกมือขึ้น กำลังจะเคาะประตูห้องพิมพ์ดาว แต่จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยจากในห้อง เสียงนั้นคุ้นเคยเกินกว่าจะลืมได้ มันเป็นเสียงของ อาทิตย์ ผู้ชายคนเดียวกับที่เคยมาเจอพิมพ์ดาวก่อนหน้านี้ ธนูรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกบีบอย่างแรง ความรู้สึกหลากหลายพลุ่งพล่านเข้ามา ทั้งความผิดหวัง ความเสียใจ และความโกรธ ที่เขาไม่สามารถควบคุมได้
ธนูตาร้อนผ่าว ร่างกายสั่นสะท้าน แต่ไม่ใช่เพราะอากาศหนาวหรือฝนที่ตกหนัก เขากำดอกไม้ในมือแน่นจนแทบจะขยำมัน ขณะที่ความคิดและความรู้สึกสับสนวิ่งวุ่นในใจ เขารู้ว่าต้องออกจากที่นี่ก่อนที่ความอ่อนแอจะเปิดเผยตัว ธนูรีบหันหลังและเดินหนีไปจากหน้าห้องพิมพ์ดาวอย่างรวดเร็ว เขาหาที่หลบอยู่ตรงมุมตึกที่ไม่มีใครเห็น
ยืนอยู่ที่นั่น เขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ เสียงฝนที่ตกหนักจากท้องฟ้ากลายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยปกปิดเสียงสะอื้นของเขา ราวกับธรรมชาติกำลังปลอบโยนเขาในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ธนูไม่เคยรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดเท่านี้มาก่อน การเห็นภาพของพิมพ์ดาวกับอาทิตย์ทำให้ทุกอย่างที่เขาคาดหวังไว้พังทลายลง
เวลาผ่านไปจนเกือบเที่ยงคืน ธนูยังคงยืนอยู่ตรงนั้น หวังให้ความรู้สึกในใจสงบลง แต่แล้วเสียงประตูห้องของพิมพ์ดาวก็เปิดออก ธนูเงยหน้าขึ้นและเห็น อาทิตย์ เดินออกมาจากห้องของพิมพ์ดาว เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะเดินลงบันไดไปอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้กลับเข้าห้องตัวเอง แต่เดินไปทางออกของตึก ธนูยืนนิ่ง มองตามแผ่นหลังของอาทิตย์ที่เดินจากไป
เขาพยายามจะหาคำตอบในใจว่าความสัมพันธ์ของพิมพ์ดาวกับอาทิตย์เป็นอย่างไรแน่ คำถามมากมายถาโถมเข้ามา
ธนูหันกลับไปมองดอกไม้ในมือที่ตอนนี้เปียกชุ่มเหงื่อของเขาและยับเยิน ไม่มีความสวยงามเหลืออยู่ ความรู้สึกที่เคยมีในตอนเริ่มต้นก็เช่นกัน มันถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
ธนูยืนอยู่ในความมืด ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกพรำ ๆ ในขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น แต่ในความเจ็บปวดนั้นก็มีความรู้สึกบางอย่างที่ผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อน
เขาตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้องของพิมพ์ดาว มือที่กำลังจะเคาะประตูสั่นเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เขาเริ่มเคาะประตูครั้งแรก เสียงเคาะนั้นเบาและระมัดระวัง แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ธนูก็เคาะอีกครั้ง คราวนี้แรงขึ้น เขาเคาะอยู่เช่นนั้นสักพักจนกระทั่งในที่สุด ประตูเปิดออก
พิมพ์ดาว ยืนอยู่ตรงหน้าธนู ใบหน้าเธอดูงุนงงและแปลกใจเล็กน้อย เธออาจคิดว่าเป็น อาทิตย์ ที่กลับมาอีกครั้ง
"อาทิตย์เหรอ?" เธอพูดโดยไม่ทันได้มองอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นว่าเป็นธนู สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที
"พี่ธนู? มาทำอะไรที่นี่ดึกดื่นขนาดนี้?"
ธนูมองหน้าพิมพ์ดาว ใจของเขาเต้นแรง คำพูดที่เขาเตรียมมาเพื่อสารภาพรักหายไปหมดสิ้น ความโกรธและความผิดหวังเข้ามาแทนที่
"พี่มาเพราะอยากรู้ความจริง" เขาพูดด้วยเสียงที่สั่น "ทำไมอาทิตย์ถึงอยู่ในห้องเธอ?"
พิมพ์ดาวขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอเริ่มไม่พอใจ "เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพี่ พี่มายุ่งอะไรด้วย?"
"พี่ยุ่ง เพราะพี่รักเธอ!"
ธนูพูดออกไปโดยไม่คิด เขาไม่สามารถเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกแล้ว
"พี่เห็นทุกอย่าง เห็นแฟนเธอมาส่งเธอ เห็นผู้ชายอีกคนอยู่ในห้องของเธอ พี่คิดมาตลอดว่าพี่มีโอกาส แต่ตอนนี้...พี่ไม่เข้าใจเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ถึงคบผู้ชายสองคนพร้อมกัน และอีกคนก็มีแฟนอยู่แล้ว!"
พิมพ์ดาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว เธอมองธนูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า "พี่ธนู มันไม่ใช่อย่างที่คิด อาทิตย์แค่มาคุยกับฉัน"
"แล้วทำไมเธอถึงให้เขาเข้ามา? ทำไมเธอยังปล่อยให้เขามาวุ่นวายกับชีวิตเธอ ทั้งที่เขามีแฟนแล้ว! พิมพ์ดาว ทำไมเธอถึงไม่ปล่อยเขาไป?"
พิมพ์ดาวส่ายหัวอย่างอ่อนแรง "มันไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้น เขาเป็นแฟนเก่าฉัน พี่ธนูไม่เข้าใจ เพราะพี่ไม่เคยอยู่ในจุดนี้"
"ไม่เข้าใจเหรอ? แล้วความรู้สึกของพี่ล่ะ พิมพ์ดาว? พี่ทำทุกอย่างเพื่อเธอ พี่คิดว่าเธอจะเห็นมันบ้าง แต่สิ่งที่ได้คืออะไร?"
พิมพ์ดาวเสียงเข้มขึ้น "พี่ธนู มันไม่ใช่เรื่องของพี่ เราเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ใช่แฟน พี่ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจแทนฉัน!"
คำพูดนั้นเหมือนคมมีดที่กรีดลงกลางใจของธนู เขายืนนิ่ง รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพังทลาย
"แค่เพื่อนเหรอ..." ธนูพูดด้วยเสียงที่เบา แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด "งั้นที่พี่ทำมาตลอด...มันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม?"
คำพูดของพิมพ์ดาวยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา “เราเป็นแค่เพื่อนกัน” มันเหมือนคำตัดสินที่ยุติความหวังทั้งหมดของเขา สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมด กลายเป็นสิ่งไร้ค่าในสายตาของพิมพ์ดาว ความรู้สึกรักที่เขามีให้เธอกลับกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนได้
หัวใจของเขากลับหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ อารมณ์ในใจพุ่งขึ้นสูงจนเขาไม่สามารถควบคุมได้ ความคิดที่เคยเป็นเหตุเป็นผลกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธที่รุนแรง เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าเธอจะเป็นของคนอื่น
ในใจลึก ๆ ธนูรู้สึกว่า ถ้าพิมพ์ดาวเป็นของเขา ไม่มีใครจะมาแย่งเธอไปได้อีก ไม่มีอาทิตย์หรือผู้ชายคนไหนที่จะแทรกเข้ามาในชีวิตของเธอ ความคิดนั้นยิ่งทำให้ธนูสับสน ภาพพิมพ์ดาวยืนอยู่กับอาทิตย์ ทำให้ความโกรธในใจของเขาปะทุขึ้น
ทำไมเขาต้องทนเห็นเธออยู่กับคนอื่น?
ดวงตาของเขาวาวโรจน์ ความโกรธพลุ่งพล่านในอกจนเขาแทบจะทนไม่ไหว เขากำหมัดแน่น พร้อมกับความคิดที่เลือนลางว่า เขาต้องทำบางอย่างเพื่อจะให้เธออยู่กับเขาตลอดไป
"ถ้าเธอเป็นของผม… ไม่มีใครจะแย่งเธอไปได้" เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่ในใจกลับแน่วแน่
ธนูสูดลมหายใจลึก ขณะที่ความคิดในใจของเขากำลังถูกครอบงำด้วยความปรารถนาที่จะครอบครองพิมพ์ดาวไม่ว่าทางใดก็ตาม เขาเริ่มเดินเข้าไปใกล้เธอ จังหวะก้าวของเขาหนักแน่นและรวดเร็ว ความโกรธที่อัดแน่นในอกผลักดันให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน
ตอนนี้ ธนูไม่สนใจแล้วว่าพิมพ์ดาวจะรู้สึกอย่างไร เขาแค่ต้องการให้เธอเป็นของเขา เพียงคนเดียว
เมื่อพิมพ์ดาวเห็นสีหน้าและท่าทางของธนูที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอรู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาอย่างไม่คาดคิด ดวงตาของธนูที่เคยอบอุ่นและอ่อนโยน บัดนี้กลับกลายเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความมืดมน ความโกรธที่ปะทุออกมาในท่าทางของเขาทำให้พิมพ์ดาวเริ่มรู้สึกหวาดกลัว
เธอเริ่มถอยหลังอย่างช้า ๆ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก มือของเธอเกาะที่ตู้เสื้อผ้า แต่เมื่อเห็นท่าทีของธนูที่ไม่ยอมหยุด เธอก็ตระหนักว่าเธอต้องหนีออกจากที่นี่ก่อนที่จะสายเกินไป
"พี่ธนู… หยุดก่อน ได้โปรด…" เสียงของพิมพ์ดาวสั่น แต่ธนูไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลย
ทันใดนั้น เธอตัดสินใจรวบรวมความกล้า วิ่งตรงไปที่ประตู แต่ไม่ทันได้เปิดออก ธนูก็พุ่งเข้ามาคว้าตัวเธอไว้ แขนของเขาแข็งแรงและดุดันมากกว่าที่เธอเคยเห็น พิมพ์ดาวพยายามดิ้นรน สะบัดตัวออกจากอ้อมแขนนั้น แต่ธนูไม่ยอมปล่อย เขาลากเธอไปที่เตียง
พิมพ์ดาวร้องไห้และกรีดร้องสุดเสียง เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อขัดขืน ดิ้นอย่างสุดกำลัง แต่ธนูไม่สนใจเสียงหรือการขัดขืนนั้น เขาเหมือนถูกครอบงำด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
"พี่ธนู! ปล่อยฉัน!" พิมพ์ดาวร้องเสียงหลง ขณะที่เธอพยายามผลักเขาออก
เธอใช้มือทุบหน้าอกของเขา ผลักเขาให้ห่างจากตัว แต่แรงของเธอเทียบกับธนูไม่ได้เลย น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ความกลัวแทรกซึมเข้ามาในใจ
ธนูในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เธอรู้จักอีกต่อไป เขากลายเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก เป็นคนที่เต็มไปด้วยความโกรธและความปรารถนาที่น่ากลัว พิมพ์ดาวรู้ว่าถ้าเธอไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ เธออาจต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ
ในขณะที่เธอยังคงดิ้นรน หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ พิมพ์ดาวใช้แรงสุดท้ายต่อสู้ ขัดขืนจนธนูเสียหลักเล็กน้อย เธอเห็นโอกาสเพียงเล็กน้อย และพยายามที่จะหนีออกไปอีกครั้ง
พิมพ์ดาวใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้นจนหลุดจากอ้อมแขนของธนูได้ในที่สุด เธอรีบวิ่งไปที่ห้องครัวด้วยหัวใจที่เต้นรัว รู้ดีว่าเธอต้องหาทางป้องกันตัวเอง ขณะที่น้ำตายังไหลไม่หยุด เธอคว้ามีดปอกผลไม้ที่อยู่ใกล้มือ ยื่นมันออกมาเพื่อขู่ธนู
"อย่าเข้ามา! ถ้าพี่เข้ามา ฉันจะใช้มันแทงพี่!" พิมพ์ดาวพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ธนูหยุดชะงักเมื่อเห็นพิมพ์ดาวถือมีดในมือ แต่ความโกรธและความสับสนยังคงครอบงำจิตใจของเขา เขาไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรกับเขาจริง ๆ เขาก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว พยายามจะแย่งมีดจากเธอ
"พิมพ์ดาว! เธอจะทำแบบนี้ทำไม! พี่แค่อยากคุย อยากให้เธอฟังพี่!" เขาพูดอย่างบ้าคลั่งขณะที่มือของเขาพยายามคว้าไปที่มีด
พิมพ์ดาวถอยหลัง มือสั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอไม่ยอมปล่อยอาวุธออกจากมือ ธนูพุ่งเข้ามาใกล้ พวกเขาเริ่มยื้อแย่งมีดกันอย่างรุนแรง ความโกลาหลเกิดขึ้นในห้องครัวเล็ก ๆ แห่งนี้
ระหว่างที่ทั้งสองแย่งชิงกัน มีดกระแทกไปมาจนเกิดเสียงดัง พิมพ์ดาวพยายามใช้แรงสุดท้ายผลักเขาออก แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น ความวุ่นวายกลับจบลงอย่างไม่คาดคิด
พิมพ์ดาวแน่นิ่งไปในทันที ร่างของเธอทรุดลงช้า ๆ ธนูยืนตกตะลึงเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า มีดที่พวกเขายื้อแย่งกันไปมา บัดนี้ตกลงอยู่บนพื้น ขณะที่ร่างของพิมพ์ดาวล้มลงอย่างช้า ๆ เลือดสีแดงเข้มเริ่มซึมออกมาจากเสื้อของเธอ แผ่กระจายไปทั่วพื้นห้อง
ดวงตาของธนูเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
"พิมพ์ดาว...?" เขาเรียกชื่อเธออย่างแผ่วเบา ราวกับเสียงของเขาจะช่วยเปลี่ยนความจริงนี้ได้ แต่ไม่มีการตอบกลับจากพิมพ์ดาว
มือของธนูสั่นระริก ขณะที่เขาก้มลงมองมือของตัวเองที่เปื้อนเลือด ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาในหัวใจของเขามันรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับไหว ความโกรธที่เคยมีมลายหายไป กลายเป็นความตื่นตระหนกและความสำนึกผิดที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
"พิมพ์ดาว... พี่ไม่ได้ตั้งใจ..." เสียงของธนูแหบแห้ง ขณะที่เขาทรุดตัวลงข้าง ๆ เธอ มือสั่นไหวพยายามเขย่าร่างของพิมพ์ดาว แต่เธอไม่ตอบสนอง
น้ำตาของธนูเริ่มไหลลงมา เขาทำสิ่งที่เขาไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้แล้ว...
ธนูนั่งคุกเข่าลงข้างร่างของพิมพ์ดาวที่นอนนิ่งบนพื้น น้ำตาของเขาไหลลงมาไม่หยุด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความเสียใจและความตระหนก เสียงสะอึกสะอื้นของเขาดังก้องในห้องครัวเล็ก ๆ นี้ ภาพของพิมพ์ดาวที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องเจอ
"พิมพ์ดาว... พี่ไม่ได้ตั้งใจ..." เขาพึมพำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่น้ำตาของเขาไหลอาบหน้า ความสำนึกผิดท่วมท้นในจิตใจ
แต่ไม่นาน ความคิดบางอย่างก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวของธนู เขาเริ่มรู้สึกถึงความเป็นจริงที่ตามมา หากสิ่งที่เขาทำถูกเปิดเผย ชีวิตของเขาจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เขาจะต้องติดคุก และจะไม่มีใครดูแลแม่ที่แก่ชราของเขา ความกลัวนี้ทำให้จิตใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
"แม่...เราต้องดูแลแม่..." ธนูพึมพำกับตัวเอง เขาตระหนักดีว่าถ้าเขาถูกจับ แม่ของเขาจะไม่มีใครดูแล เขาจะไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้
ความคิดในการปกปิดความผิดพลาดของเขาเริ่มชัดเจนขึ้นในหัว ธนูต้องหาวิธีทำให้ทุกคนเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความผิดของเขา เขาจะต้องจัดฉากให้เหมือนเป็นการปล้นห้อง ชิงทรัพย์ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากเขา
ธนูหายใจลึก พยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ ก่อนจะอุ้มร่างของพิมพ์ดาวขึ้นจากพื้น ความรู้สึกหนักอึ้งในใจของเขาทำให้ทุกย่างก้าวของเขายิ่งยากลำบาก แต่เขารู้ว่าเขาต้องทำ เขาวางร่างของเธออย่างเบามือลงบนเตียง จัดท่าให้ดูเหมือนเธอถูกทำร้ายในระหว่างการปล้น
เขาเริ่มพลิกห้องทั้งห้อง ค้นหาและทำลายสิ่งของบางส่วนเพื่อสร้างภาพลวงว่าโจรได้เข้ามาในห้อง เขาทำลายลิ้นชัก โต๊ะ เก้าอี้ และกระจัดกระจายข้าวของไปทั่วห้อง ทิ้งร่องรอยให้ดูเหมือนว่าเกิดการต่อสู้ขึ้น ขณะที่มือของเขาสั่นและจิตใจที่สับสนทำให้ทุกการเคลื่อนไหวดูเร่งรีบและรุนแรง
ธนูหยุดพักอยู่ครู่หนึ่ง มองดูฉากที่เขาจัดขึ้นมา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามแผนที่คิดไว้ แต่ใจของเขายังคงเต้นรัว ไม่สามารถหยุดความรู้สึกผิดและความกลัวได้
"ไม่มีใครรู้... ต้องไม่มีใครรู้" เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำ ๆ เหมือนกับพยายามปลอบประโลมตัวเอง
ธนูจัดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเขาตัดสินใจเก็บของมีค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกระเป๋าเงินและเครื่องประดับของพิมพ์ดาวเพื่อสร้างหลักฐานให้ชัดเจนขึ้นว่าเป็นการปล้นจริง เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก ขณะที่มองไปรอบ ๆ ห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
"แค่นี้... ทุกอย่างจะจบลง" เขาพูดกับตัวเองเบา ๆ แล้วรีบออกจากห้อง ก่อนที่จะมีใครรู้ว่าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากธนูจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาหยุดยืนหอบเหนื่อยอยู่กลางห้อง ความรู้สึกภายในยังคงรุนแรงและสับสน แต่เขารู้ว่าเขาต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไป คราบเลือดบนเสื้อและมือของเขาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้
ธนูเดินไปที่ห้องน้ำของพิมพ์ดาวอย่างเงียบเชียบ เขาเปิดฝักบัว น้ำเย็นจัดไหลลงมากระทบผิวของเขา ธนูยืนอยู่ใต้น้ำที่ไหลริน ขณะที่มือของเขาถูคราบเลือดออกจากตัวด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด การกระทำของเขาเหมือนเป็นการพยายามลบล้างความผิดที่เขาได้ทำไว้ แต่ในใจลึก ๆ เขารู้ว่ามันไม่มีทางลบได้หมด
ขณะอาบน้ำ เขากลับยิ่งจมลึกลงไปในความคิดที่ทำให้จิตใจมืดมนมากขึ้น ความสับสนและกลัวถูกจับเข้าครอบงำจิตใจ แต่เขาต้องบังคับตัวเองให้สงบ แม้แต่ร่างกายของเขายังสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น แต่ภายนอก เขาพยายามแสดงออกให้เป็นปกติ
เมื่อธนูอาบน้ำเสร็จ เขามองตัวเองในกระจก ภาพสะท้อนของชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเสียใจจ้องกลับมาที่เขา เขาพยายามจัดการตัวเองให้ดูเรียบร้อยที่สุด แม้จะรู้ว่าความสะอาดของร่างกายไม่อาจชำระล้างสิ่งที่เขาทำได้ก็ตาม
ก่อนที่เขาจะออกจากห้องของพิมพ์ดาว เขากลับมาเช็คทุกอย่างอีกครั้ง เขาระวังไม่ให้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ที่อาจทำให้ตำรวจสงสัยได้ แล้วเขาก็หยิบเอาหลักฐานสำคัญออกมาจากห้อง นั่นคือมีดที่เปื้อนเลือดของพิมพ์ดาว ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเชื่อมโยงเขาเข้ากับการตายของเธอ
ธนูห่อมีดอย่างมิดชิดในเสื้อของเขา แล้วเดินออกจากห้องด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นแรง เขาปิดประตูเบา ๆ เหลือไว้เพียงฉากความวุ่นวายและร่างไร้ชีวิตของพิมพ์ดาวที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง
เขาเดินลงบันไดและกลับเข้าห้องตัวเองอย่างเงียบ ๆ โดยพยายามไม่ให้ใครเห็น ร่างของเขาเหมือนถูกถ่วงด้วยน้ำหนักของความผิดบาปที่เขาก่อขึ้น แต่ธนูยังคงเดินต่อไป ทิ้งร่องรอยความมืดมนไว้เบื้องหลัง ขณะที่ในใจของเขามีเพียงความกลัวที่จะถูกจับ และความหวังว่าจะไม่มีใครรู้ความจริงที่เขาพยายามซ่อนไว้
ธนูรีบกลับเข้ามาที่ห้องของตัวเอง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้มีเวลาให้คิดมากนัก เสื้อผ้าที่เขาเปื้อนเลือดยังคงทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว เขาไม่สามารถให้ใครเห็นสิ่งเหล่านี้ได้
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาหยิบเสื้อผ้าเก่าที่เปื้อนคราบเลือดและห่อมีด ไปซ่อนอยู่ใต้ฝ้าในห้องน้ำอย่างระมัดระวัง พยายามทำให้ทุกอย่างดูปกติ เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองเพื่อลดเสียงหายใจ ขณะที่ความรู้สึกตึงเครียดยังคงเกาะติดอยู่กับตัว
หลังจากนั้น เขาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แม่ที่หลับอยู่บนเตียง การได้อยู่ใกล้แม่ทำให้ธนูรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัย แม้ว่าจิตใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกผิด
น้ำตาของธนูเริ่มไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ เขาร้องไห้เบา ๆ โดยไม่ต้องการให้แม่ตื่น เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังอยู่ในความฝันที่เลวร้ายและไม่มีวันตื่นขึ้นมาได้ เขาคิดถึงพิมพ์ดาว ความทรงจำทั้งหมดที่เขามีเกี่ยวกับเธอ คำพูดและเสียงหัวเราะที่เคยทำให้เขามีความสุข ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความทุกข์ที่แสนเจ็บปวด
"ขอโทษนะ พิมพ์ดาว…" เขาพึมพำกับตัวเอง น้ำตาของเขายังคงไหลริน ร่างของเขาสั่นเทาเหมือนลูกหมาที่โหยหาความอบอุ่น
เวลาผ่านไปนาน ธนูยังคงนอนอยู่ข้าง ๆ แม่ มือของเขายังคงยึดกระชับอยู่ที่ผ้าห่ม ทำให้เขารู้สึกถึงความจริงในขณะที่หัวใจยังคงถูกทดสอบ เขารู้ว่าตอนนี้เขาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ และสิ่งที่เขาทำจะตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments