ตอนที่ 12 - เปิดเผย

หลังพบวัตถุที่อาจเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายพิมพ์ดาว ทุกคนไม่สามารถนอนต่อได้อีก ทั้งหมดกลับไปนั่งในห้อง และพูดคุยกันกับสิ่งที่พบ ความรู้สึกหวาดกลัวและความสับสนอบอวลอยู่ในบรรยากาศ

ป่าน: "เราต้องทำอะไรสักอย่าง พี่คิดว่าเราไม่ควรเก็บมันไว้"

มิ้น: "พรุ่งนี้เช้าเราจะโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ แต่คืนนี้เราต้องอยู่ด้วยกัน ฉันไม่อยากให้ใครอยู่คนเดียว"

แก้ม: "จริงด้วยค่ะ เราควรเฝ้าระวังและอยู่ด้วยกันจนกว่าตำรวจจะมา"

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งหมดนั่งล้อมวงกันในห้อง ใช้เวลาไปกับการพูดคุยเพื่อให้ความกลัวลดลงเล็กน้อย แต่บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่แน่นอน

เจนนั่งเงียบในมุมห้องด้วยความกังวล ใบหน้าของเธอเคร่งเครียดและซีดเซียว เธอไม่สามารถเสนอความคิดเห็นใดในสถานการณ์นี้ได้ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่พยายามเก็บความคิดที่ปั่นป่วนนั้น

ในขณะที่เพื่อนๆกำลังวิเคราะห์ถึงผู้ต้องสงสัย  เจนก็ครุ่นคิดย้อนกลับไปถึงคืนที่เกิดเหตุร้ายกับพิมพ์ดาว เธอจำได้ว่าคืนนั้นเธอทะเลาะกับอาทิตย์อย่างหนัก เสียงตะโกนและคำพูดที่โกรธเคืองยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอ อาทิตย์หายออกไปนานหลายชั่วโมง ทำให้เธอกังวลและสับสน เมื่อเขากลับเข้าห้องในตอนดึก สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดและเงียบขรึมผิดปกติ

เจนคิดถึงท่าทีของอาทิตย์ในช่วงเวลานั้น เขาดูเหมือนมีบางอย่างในใจที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เธอเริ่มสงสัยและกลัวว่าอาทิตย์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพิมพ์ดาว ความคิดนี้ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่น

เจนสบัดหัวไปมาให้หยุดคิด เธอไม่อยากเชื่อว่าอาทิตย์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

แก้ม: "เจน แกไม่ต้องกังวลนะ พวกฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแก จนเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย"

เจนพยักหน้าเล็กน้อย "ขอบคุณมากนะแก้ม"

พรึ่บ ! ทันใดนั้นไฟทั้งตึกก็กลับมาสว่างเหมือนเดิม ทุกคนรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยที่ไม่ต้องอยู่ในความมืดแล้ว

.

รุ่งเช้า มิ้นรีบโทรหาแม็กซ์ทันทีเพื่อแจ้งเรื่องที่พบ

มิ้น: "พี่แม็กซ์ เราพบมีดที่น่าสงสัยในห้องของพี่เจน มันอาจเกี่ยวข้องกับคดีของพิมพ์ดาว เราควรทำยังไงดี?"

แม็กซ์: "ใจเย็นๆ มิ้น เราต้องแจ้งตำรวจทันที และอย่าแตะต้องมีดอีก มันอาจเป็นหลักฐานสำคัญ"

มิ้น: "โอเค มิ้นจะโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้"

หลังจากวางสาย มิ้นโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่หอพัก

มิ้น: "สวัสดีค่ะ ฉันอยากแจ้งความเรื่องการพบอาวุธต้องสงสัยที่หอพักของพวกเราค่ะ อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีของพิมพ์ดาว"

ตำรวจตอบรับอย่างรวดเร็วและรับแจ้งเรื่องจากมิ้น หลังจากนั้นมิ้นก็หันมาหาทุกคนที่ยังคงอยู่ในห้องด้วยความกังวล

มิ้น: "ตำรวจจะมาถึงในไม่ช้านี้ค่ะ"

เจนพยักหน้ารับและพยายามควบคุมความวิตกกังวลในใจ จากนั้นมิ้นก็โทรแจ้งลุงชัย ผู้ดูแลหอพักให้ทราบเรื่องนี้

มิ้น: "สวัสดีค่ะ ลุงชัย มิ้นเองนะคะ พวกเราเพิ่งพบอาวุธต้องสงสัยในห้องพักค่ะ คิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีของพิมพ์ดาว"

ลุงชัยฟังอย่างตั้งใจและตกใจเล็กน้อยกับข่าวที่ได้ยิน

ลุงชัย: "ว่าไงนะ... พวกเธอเจออะไรในห้องนะ?"

มิ้น: "เป็นมีดค่ะ ลุงชัย เราพบมันอยู่ในฝ้าเพดานห้องน้ำ และมีคราบเลือดเก่าอยู่ด้วยค่ะ"

ลุงชัย: "เข้าใจแล้ว ลุงจะรีบไปที่หอพักเดี๋ยวนี้ พวกเธออย่าเพิ่งไปไหนนะ รอตำรวจก่อน"

หลังจากวางสายจากลุงชัย ทุกคนในห้องก็รู้สึกถึงความจริงจังของสถานการณ์นี้ พวกเขารู้ว่าการค้นพบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดีที่ยังไม่คลี่คลายของพิมพ์ดาว

เจนรีบโทรหาอาทิตย์ด้วยเช่นกัน น้ำเสียงของเธอสั่นด้วยความตื่นตระหนกและวิตกกังวล

เจน: "อาทิตย์! ฉันพบมีดที่น่าสงสัยในห้องของเรา มันอาจเกี่ยวข้องกับคดีของพิมพ์ดาว คุณต้องรีบกลับมานะ"

อาทิตย์: "ใจเย็นๆ เจน ผมกำลังจะกลับไปเดี๋ยวนี้ คุณอยู่กับคนอื่นๆ ใช่ไหม? อย่าอยู่คนเดียวนะ"

เจน: "ใช่ ฉันอยู่กับทุกคน พวกเรากำลังรอตำรวจมาตรวจสอบ คุณรีบกลับมาเร็วๆ นะ"

อาทิตย์: "โอเค ผมกำลังจะออกเดินทางกลับแล้ว คุณดูแลตัวเองดีๆ นะ"

หลังจากวางสาย เจนกลับมานั่งกับเพื่อนๆ ในห้อง ทุกคนดูหวาดกลัวและวิตกกังวล

ป่าน: "เจน เธอโอเคไหม?"

เจน: "ฉันไม่เป็นไรค่ะ อาทิตย์กำลังจะกลับมาแล้ว เรื่องทุกอย่างจะต้องคลี่คลาย ฉันเชื่อแบบนั้น"

แก้ม: "เราต้องอยู่ด้วยกันและช่วยกันผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้"

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย บรรยากาศในห้องยังคงตึงเครียด เจนพยายามหันเหความคิดของตัวเองและเพื่อนๆ ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่ให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเมื่อมาถึง มิ้นและป่านช่วยกันเก็บกวาดเศษแก้วและจัดที่นั่งให้ทุกคนนั่งรอในห้อง

ไม่นานนัก แม็กซ์ก็มาถึง เขารีบขึ้นมาที่ห้องของเจนทันทีที่มาถึง

แม็กซ์: "เป็นยังไงบ้าง? ทุกคนโอเคไหม?"

มิ้น: "ทุกคนโอเคค่ะ ขอบคุณที่รีบมานะคะ เราพบมีดนี้ในฝ้าเพดานห้องน้ำ"

แม็กซ์: "ดีแล้วที่พวกคุณโทรแจ้งตำรวจ เราต้องให้พวกเขาตรวจสอบและเก็บหลักฐานให้เรียบร้อย"

แม็กซ์รับมีดที่มีผ้าห่อไว้มาดูด้วยความระมัดระวัง คราบสกปรกบนมีดมีลักษณะเหมือนคราบเลือดที่แห้งมานานมากแล้ว เมื่อสัมผัสกับมีดเล่มนี้ เเม็กซ์เริ่มน้ำตาคลอเบ้า ภาพความทรงจำเกี่ยวกับพิมพ์ดาวผุดขึ้นมาในใจเขาอย่างชัดเจน

ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอพิมพ์ดาว เขามาส่งเธอที่หอพัก และนัดกับเธอว่าจะมารับแต่เช้า ถ้าหากเขารู้ว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้าย เขาจะตามเธอขึ้นไปบนห้อง เขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ ไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว

แม็กซ์: "พิมพ์ดาว... เราจะตามหาฆาตกรที่ทำร้ายเธอให้ได้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ทุกคนในห้องรู้สึกเศร้าสลดและหดหู่ใจ มิ้นมองไปที่แม็กซ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอเดินเข้าไปใกล้เขาและวางมือเบา ๆ บนไหล่เพื่อให้กำลังใจ

มิ้น: "พี่แม็กซ์ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ความจริงปรากฏ และให้พิมพ์ดาวได้รับความยุติธรรม"

ป่านนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ป่านรู้สึกว่าความโศกเศร้ากำลังท่วมท้นในใจ เหมือนคลื่นความทรงจำที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

ป่าน: "พิมพ์ดาว น้องไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไปแล้ว...เราจะทำให้เธอได้พักผ่อนอย่างสงบ"

เจน ขิม และแก้มต่างก็รู้สึกเจ็บปวดในใจเช่นกัน พวกเขามองไปที่มีดเล่มนั้นด้วยความเศร้า ความทรงจำและความเจ็บปวดของพิมพ์ดาวยังคงหลอกหลอนพวกเขา

บรรยากาศในห้องเงียบและตึงเครียด ทุกคนต่างนั่งอยู่ในความคิดและความรู้สึกของตนเอง 

จนกระทั่งเสียงไซเรนดังขึ้นภายนอก ตำรวจมาถึงและเริ่มตรวจสอบทุกมุมของสถานที่ด้วยความระมัดระวัง ตรวจสอบวัตถุที่พบอย่างละเอียด เพื่อหาข้อมูลและหลักฐานที่สามารถใช้เพื่อการสอบสวนต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ: "ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ เราจะเก็บหลักฐานนี้ไปตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป"

แม็กซ์: "ขอบคุณครับ ขอให้พวกคุณทำเต็มที่เพื่อไขความจริงให้กระจ่าง"

เจ้าหน้าที่ตำรวจ: "เราจะทำให้ดีที่สุดครับ"

มิ้น: "เราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่รอผลการตรวจสอบจากตำรวจ"

ป่าน: "หวังว่าพวกเขาจะเจออะไรที่ทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพิมพ์ดาว"

ในช่วงบ่าย อาทิตย์กลับมาถึงห้องด้วยความรีบร้อนและวิตกกังวล เมื่อเขามาถึง เห็นสีหน้าของทุกคนในห้องที่ดูเคร่งเครียด เขาก็รู้ทันทีว่าสถานการณ์รุนแรงกว่าที่คิด

อาทิตย์: "พวกเธอโอเคไหม? ได้รับแจ้งจากตำรวจแล้วใช่ไหม?"

เจนพยักหน้าและบอกอาทิตย์เกี่ยวกับการค้นพบมีดที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีพิมพ์ดาว

เจน: "ตำรวจมาตรวจสอบสถานที่และเก็บรายละเอียดไปแล้ว เราอาจต้องไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ"

ขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของมิ้นดังขึ้น ตำรวจได้โทรมาแจ้งให้ทุกคนเตรียมตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ

ตำรวจ: "สวัสดีครับ นี่ตำรวจนะครับ เราอยากขอให้พวกคุณมาที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับการพบมีดต้องสงสัยในห้องพัก"

มิ้น: "ได้ค่ะ เราจะไปที่นั่นทันที"

เมื่อวางสาย ทุกคนในห้องต่างมองหน้ากันด้วยความกังวลใจ พวกเขารู้ว่านี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการคลี่คลายคดีที่ค้างคา

อาทิตย์: "เอาล่ะ พวกเราเตรียมตัวไปที่สถานีตำรวจกันเถอะ"

ทุกคนเก็บข้าวของและเตรียมตัวออกเดินทางไปที่สถานีตำรวจ บรรยากาศภายในห้องเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุกคนจมอยู่ในความคิดของตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

มิ้นและป่าน นั่งรถไปกับแม็กซ์ ส่วนเจน ขิมและแก้ม นั่งรถไปกับอาทิตย์ ในขณะที่ทุกคนออกเดินทางไปยังสถานีตำรวจ ทุกคนรู้สึกถึงความจริงจังของสถานการณ์นี้ การค้นพบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดีที่ยังไม่คลี่คลายของพิมพ์ดาว

เมื่อทุกคนมาถึงสถานีตำรวจ พวกเขาได้รับการต้อนรับจากตำรวจที่มีสีหน้าจริงจัง ทางตำรวจแจ้งว่าวันนี้นอกจากจะสอบปากคำแล้ว จะมีการเก็บ DNA ด้วย

ตำรวจได้แยกแต่ละคนออกไปสอบปากคำในห้องแยก การสอบปากคำเป็นไปด้วยความละเอียดและความระมัดระวัง ทุกคนต้องอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการค้นพบมีดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้าจากการสอบปากคำ แต่พวกเขาก็รู้ว่าการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยตำรวจคลี่คลายคดีนี้

หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง การสอบปากคำก็เสร็จสิ้นลง อาทิตย์และแม็กซ์ออกมาจากห้องสอบสวนพร้อมๆ กัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าที่แสดงถึงความเหนื่อยล้า แต่ก็โล่งใจที่ได้ผ่านกระบวนการนี้ไป

อาทิตย์: "คุณคงเป็นแม็กซ์ใช่ไหม? ผมอาทิตย์ครับ แฟนของเจน"

แม็กซ์: "ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับอาทิตย์ ผมเป็นเพื่อนของพิมพ์ดาว"

อาทิตย์ยิ้มเล็กน้อยและยื่นมือไปจับมือกับแม็กซ์ ทั้งสองจับมือกันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งโล่งใจและความหวังว่าคดีนี้จะได้ข้อสรุปในที่สุด

อาทิตย์: "ขอบคุณที่ช่วยเหลือและมาให้ปากคำครับ เรื่องนี้มันคงสำคัญมากสำหรับทุกคน"

แม็กซ์: "ไม่เป็นไรครับ ผมก็อยากให้เรื่องนี้จบลงอย่างถูกต้อง"

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เจน ขิม แก้ม ป่านและมิ้นก็เดินออกมาจากห้องสอบสวน ทั้งหมดต่างดูเหนื่อยล้าแต่ก็โล่งใจที่ได้ผ่านการสอบปากคำมาได้

เจน: "นี่คืออาทิตย์ค่ะ เขาพึ่งกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด"

อาทิตย์: "ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ หวังว่าเราจะสามารถช่วยกันคลี่คลายคดีนี้ได้"

มิ้น ป่าน: "สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ"

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นมิตรและความมุ่งมั่นที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ พวกเขาตัดสินใจว่าจะกลับไปพักผ่อนกันก่อน และค่อยวางแผนกันต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เมื่อเจนและอาทิตย์มาถึงห้อง เธอไม่สามารถเก็บความสงสัยไว้ในใจได้อีกต่อไป

เจน: "อาทิตย์ คืนนั้นที่เราทะเลาะกัน แล้วคุณออกจากห้องไปหลายชั่วโมง คุณไปไหนมา"

อาทิตย์: "เจน ....คือผม" อาทิตย์อ้ำอึ้ง ไม่รู้จะอธิบายให้เจนฟังอย่างไร

เจน: "คุณบอกมาเถอะ ฉันอยากรู้จริงๆว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น"

อาทิตย์นิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดแผ่วเบา

อาทิตย์: "หลังจากเราทะเลาะกัน ผม....ผมไปหาพิมพ์ดาวที่ห้อง"

สิ่งที่ได้ยินจากอาทิตย์ ทำให้เจนตกใจเป็นอย่างมาก

เจน: "คุณว่ายังไงนะ ...คืนนั้นคุณอยู่กับพิมพ์ดาวที่ห้องเหรอ?" เจนถามด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว

อาทิตย์: "เจน ...ฟังผมก่อน คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด หลังจากที่เราทะเลาะกัน ผมรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ผมยอมรับว่าในตอนนั้นผมสับสนเรื่องของความรู้สึกที่มีให้กับพิมพ์ดาว แต่ผมมั่นใจว่าผมยังรักคุณอยู่ คืนนั้นผมจึงไปหาพิมพ์ดาวที่ห้อง เพื่อให้แน่ใจอะไรบางอย่าง"

เจนนิ่งเงียบฟังอาทิตย์เล่า เธอสับสนในใจ ความรู้สึกหลากหลายที่ไม่สามารถอธิบายได้ท่วมท้นอยู่ในใจ

เมื่อเห็นเจนเงียบ อาทิตย์จึงเล่าต่อ

อาทิตย์: "ผมไปถามพิมพ์ดาวว่า ตอนนี้เธอรู้สึกยังไงกับผม ความผูกพันธ์ที่เราคบกันมาหลายปี ทำให้ผมคิดไปเองว่าผมยังรักเธออยู่ ....แต่คืนนั้นพิมพ์ดาวบอกผมว่า เธอคิดกับผมแค่เพื่อน และเธอมีแฟนที่เพิ่งตกลงคบกันแล้ว ผมคิดว่าตัวเองจะผิดหวังที่รู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากได้คำตอบ ผมจึงออกจากห้องพิมพ์ดาว"

เจน: "ถ้าคุณออกจากห้องพิมพ์ดาวแล้ว คุณหายไปไหนตั้งหลายชั่วโมงก่อนจะเข้าห้อง"

อาทิตย์: "ผมคิดว่าคุณยังโกรธผมอยู่ จึงไม่กล้ากลับห้อง ผมเลยออกไปดื่มที่ผับ รอจนดึกคิดว่าคุณน่าจะหลับแล้ว จึงกลับเข้าห้อง"

หลังจากฟังอาทิตย์เล่าเหตุการณ์ในคืนนั้นจนจบ เจนจึงถามอีกหนึ่งข้อที่เธอสงสัย

เจน: "ยันต์อักขระ ท้าวเวสสุวรรณที่ติดอยู่หน้าประตูห้อง ....คุณเป็นคนเอามาติดหรือเปล่า?"

อาทิตย์: "ผมเป็นคนเอามาติดไว้เอง" อาทิตย์ตอบเสียงเรียบ

เจน: "คุณมีเหตุผลอะไร ทำไมคุณถึงเอามาติดไว้ ....อาจเป็นเพราะสิ่งนี้ พิมพ์ดาวถึงเข้าห้องของเราไม่ได้ ทำให้หลักฐานที่ใช้ทำร้ายเธอ ซ่อนในห้องนี้มานานถึงแปดปี!"

เจนน้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่สามารถระงับอารมณ์ความรู้สึกได้อีกต่อไป เธอไม่รู้ว่ายังเชื่อใจอาทิตย์ได้ไหม แม้ว่าจะอยากเชื่อมั่นในแฟนของเธอ แต่เหตุการณ์หลายอย่างมันดูน่าสงสัยไปหมด

เมื่ออาทิตย์เห็นเจนร้องไห้ เขารีบดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน เขารู้ว่าความรู้สึกของเจนในตอนนี้ พร้อมที่จะไปจากเขาได้ทุกเมื่อ เขาจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด

อาทิตย์: "หลังพิมพ์ดาวเสียชีวิต ในตึกก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดหลายอย่าง เราสองคนก็ยังเคยไปทำบุญใหญ่ให้เธอ เพราะต้องเจอเรื่องหลอนหลายครั้ง จนทำให้นอนไม่ได้ แม่ของผมเป็นห่วงพวกเรา จึงไปบูชายันต์ท้าวเวสสุวรรณจากวัดดัง ให้ผมเอามาติดหน้าห้อง เพื่อคุ้มครองและป้องกันภัย"

เมื่อเจนได้ฟังดังนั้น เธอพยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ปรับความเข้าใจกัน และรอคอยผลการตรวจสอบจากตำรวจ เพื่อปลดปล่อยเรื่องที่ค้างคาในใจ

.

วันถัดมา ตำรวจได้เรียกลุงชัย คนดูแลห้องพัก และผู้เช่าทั้งหมดในตึกไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ การเรียกตัวครั้งนี้ทำให้ทุกคนในตึกมีความกังวลและสงสัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ลุงชัยเป็นคนแรกที่ถูกเรียกตัวไปสอบปากคำ เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ ลุงชัยมีสีหน้าตึงเครียดแต่ก็พยายามรักษาความสงบไว้ เขาเล่าถึงการทำงานในตึกและความสัมพันธ์กับผู้เช่าทุกคนให้ตำรวจฟังอย่างละเอียด

ตำรวจ: "ลุงชัยครับ เราต้องการเก็บลายนิ้วมือและ DNA ของลุงชัยด้วยครับ เพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ"

ลุงชัย: "ได้ครับคุณตำรวจ ผมพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง"

หลังจากลุงชัยเสร็จสิ้นการสอบปากคำ ผู้เช่าคนอื่นๆ ก็ถูกเรียกตัวเข้ามาทีละคน พวกเขาต่างให้ความร่วมมือกับตำรวจในการให้ข้อมูลและการเก็บลายนิ้วมือและ DNA อย่างเต็มที่

หนึ่งในผู้เช่าที่ถูกเรียกตัวมาคือคุณลุงสมชาย ซึ่งเป็นผู้เช่าเก่าแก่ที่สุดในตึก เขามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ตอบคำถามของตำรวจอย่างตรงไปตรงมา

ลุงสมชาย: "ผมอยู่ที่นี่มานานแล้วครับ ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย"

ตำรวจ: "ขอบคุณครับลุงสมชาย เราต้องการเก็บลายนิ้วมือและ DNA ของคุณเพื่อการตรวจสอบเพิ่มเติมครับ"

ลุงสมชาย: "ได้ครับ ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง"

ผู้เช่าคนอื่นๆ ก็มาถึงสถานีตำรวจในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความสงสัย ทุกคนต่างรู้สึกไม่สบายใจและหวังว่าจะสามารถหาข้อมูลที่ช่วยในการคลี่คลายคดีได้

คุณดาว ผู้เช่าคนหนึ่งกล่าวกับตำรวจ: "ฉันไม่เคยรู้จักพิมพ์ดาวเป็นการส่วนตัว แต่ได้ยินเรื่องของเธอจากคนอื่นๆ ค่ะ มันเป็นเรื่องน่าเศร้า"

ตำรวจ: "ขอบคุณครับ เราต้องการเก็บลายนิ้วมือและ DNA ของคุณเช่นกัน เพื่อการตรวจสอบเพิ่มเติมครับ"

คุณดาว: "เข้าใจค่ะ ฉันยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง"

หลังจากการเก็บลายนิ้วมือและ DNA เสร็จสิ้น ตำรวจก็ได้ข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อการตรวจสอบ พวกเขาหวังว่าจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ และหาตัวคนร้ายที่แท้จริงได้ในที่สุด

ในขณะที่การสอบปากคำและการเก็บหลักฐานกำลังดำเนินไป ผู้เช่าหลายคนในตึกเริ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเป็นไปได้ต่างๆ พวกเขาต่างหวังว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงด้วยดี และความสงบสุขจะกลับคืนมาในที่สุด

ทางตำรวจพยายามทำคดีนี้อย่างหนัก เพราะเป็นคดีที่ปิดไม่ได้มาถึงแปดปี ทุกวันนักสืบและเจ้าหน้าที่ต่างทุ่มเททรัพยากรและเวลาในการวิเคราะห์หลักฐานและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลาเจ็ดวันที่ผ่านไปนี้ ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นอย่างมากในหมู่ผู้เช่าและผู้ดูแลห้องพัก

ในที่สุด ผลดีเอ็นเอที่ได้จากการเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานก็ออกมา พบผู้ต้องสงสัยหนึ่งคนที่เป็นผู้เช่าในตึกมณีรัตน์ ลายนิ้วมือและคราบเลือดที่อยู่บนมีดตรงกับดีเอ็นเอของเขาอย่างชัดเจน

ตำรวจจึงรีบดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่ตึกมณีรัตน์เพื่อจับกุมตัว ผู้ต้องสงสัยอยู่ในห้องพักของเขา ไม่แสดงอาการตกใจหรือหลบหนีใดๆ เขาถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม

ที่สถานีตำรวจ ผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่ในห้องสอบสวน มือของเขาถูกใส่กุญแจมือและสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

นักสืบ: "คุณรู้ไหมว่าทำไมเราถึงต้องการตัวคุณ?"

ผู้ต้องสงสัย: "ผมไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร"

นักสืบ: "เรามีหลักฐานดีเอ็นเอที่ตรงกับลายนิ้วมือและคราบเลือดที่อยู่บนมีดในคดีการเสียชีวิตของพิมพ์ดาว คุณมีอะไรจะพูดไหม?"

ผู้ต้องสงสัยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า: "ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไร ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้น"

นักสืบ: "เราจะให้โอกาสคุณพูดความจริง คุณควรใช้โอกาสนี้ให้ดี"

ในขณะเดียวกัน ผู้เช่าและผู้ดูแลห้องพักในตึกมณีรัตน์ต่างรู้สึกตกใจและหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นหนึ่งในพวกเขาเอง บางคนแสดงความไม่เชื่อถือ ขณะที่บางคนเริ่มย้อนคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เวลาการสอบสวนผ่านไปถึงสามชั่วโมง แต่ผู้ต้องสงสัยก็ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างเด็ดขาด นักสืบพยายามใช้ทั้งการชักจูงและการสร้างแรงกดดันเพื่อให้เขายอมรับสารภาพ แต่ก็ไม่เป็นผล

นักสืบ: "คุณคิดว่าคุณจะหนีความจริงได้เหรอ? หลักฐานทั้งหมดชี้มาที่คุณ!"

ผู้ต้องสงสัย: "ผมบอกแล้วว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น!"

นักสืบรู้ว่าต้องใช้วิธีการที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อทำให้ผู้ต้องสงสัยเปิดปาก

นักสืบ: "เรามีเวลาทั้งคืน แต่คุณจะทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นสำหรับตัวเองได้โดยการพูดความจริง"

นักสืบเดินออกจากห้องและกลับเข้ามาพร้อมกับแฟ้มที่มีภาพถ่ายและหลักฐานต่างๆ ของคดี เขาวางแฟ้มลงบนโต๊ะอย่างแรง เสียงดัง

"ปัง!" ทำให้ผู้ต้องสงสัยสะดุ้ง

นักสืบ: "ดูนี่สิ! นี่คือชีวิตของพิมพ์ดาวที่คุณทำลาย! เรารู้ว่าคุณเป็นคนทำ และเราจะไม่หยุดจนกว่าคุณจะยอมรับ!"

ผู้ต้องสงสัยดูเหมือนจะเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย แต่นักสืบยังไม่พอใจ เขาเรียกชื่อผู้ต้องสงสัยด้วยเสียงดังและแข็งกร้าว

นักสืบ: "คุณ ...ธนู! บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้!"

เสียงเรียกชื่อดังสะท้อนในห้องสอบสวนทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ผู้ต้องสงสัยเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผาก และเขาดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อย

นักสืบ: "คิดถึงครอบครัวของพิมพ์ดาว! คิดถึงความเจ็บปวดที่พวกเขาต้องทนทุกข์ตลอดแปดปีที่ผ่านมา!"

ความกดดันจากนักสืบทำให้ผู้ต้องสงสัยเริ่มมีน้ำตาคลอ แต่เขายังพยายามคงความนิ่ง

ธนู: "ผม... ผมแค่..."

นักสืบ: "ใช่ คุณแค่ทำอะไร? บอกเรามาเดี๋ยวนี้!"

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดธนูก็เริ่มพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

ธนู: "ผมไม่ได้ตั้งใจ... มันเป็นอุบัติเหตุ... ผมแค่..."

นักสืบ: "พูดมาให้หมด เราอยากได้ความจริงทั้งหมด!"

ธนู: "พิมพ์ดาว... เราทะเลาะกัน... ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้..."

น้ำตาของธนูไหลลงมา และเขาเริ่มสารภาพถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างละเอียด นักสืบฟังด้วยความตั้งใจและบันทึกข้อมูลทุกอย่าง

ในที่สุด คดีการเสียชีวิตของพิมพ์ดาวก็เริ่มมีความกระจ่างมากขึ้น และความยุติธรรมที่ทุกคนเฝ้ารอคอยก็ใกล้จะมาถึงในที่สุด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!