ตอนที่ 10 - ความสัมพันธ์ทับซ้อน

เมื่อมิ้นรู้ว่าป่านคือพี่สาวของพิมพ์ดาว เธอรู้สึกอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยให้วิญญาณของพิมพ์ดาวได้สู่ที่สงบ เธอจึงตัดสินใจชวนป่านและแม็กซ์ไปทำบุญให้พิมพ์ดาว

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ป่าน มิ้น และแม็กซ์ตัดสินใจไปทำบุญที่วัดใกล้มหาวิทยาลัย พวกเขานัดกันที่หอพักก่อนจะออกเดินทางไปด้วยกัน

แม็กซ์ขับรถมาถึงตึกมณีรัตน์และจอดรถที่หน้าอาคาร เมื่อเขาได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ความทรงจำเกี่ยวกับพิมพ์ดาวก็ผุดขึ้นมาในใจอย่างชัดเจน เขารู้สึกถึงการปรากฏของเธอในทุกมุมของตึก ความทรงจำเหล่านั้นยังคงชัดเจนเหมือนเมื่อวาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะของเธอ รอยยิ้มที่อบอุ่น และช่วงเวลาที่พวกเขาเคยใช้ด้วยกัน

แม็กซ์สูดหายใจลึกเพื่อสะกดกลั้นความคิดถึงพิมพ์ดาว แม้ว่าเขาจะยังคงเจ็บปวดจากการสูญเสีย แต่เขารู้ว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป วันนี้เขาและป่านตัดสินใจที่จะทำบุญเพื่อส่งผลบุญให้พิมพ์ดาว เพื่อให้เธอได้ไปสู่สุขคติ

ป่านและมิ้นออกมาจากหอพักและเดินมาหาแม็กซ์ที่รถ

ป่าน: "สวัสดีค่ะแม็กซ์ พี่ป่านนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"

แม็กซ์: "สวัสดีครับพี่ป่าน"

มิ้น: "พร้อมแล้วค่ะ ไปกันเถอะ"

แม็กซ์: "โอเคครับ ขึ้นรถเลย พวกเราจะไปทำบุญให้พิมพ์ดาวกัน"

ขณะที่รถกำลังแล่นออกจากตึก แม็กซ์มองเห็นตึกมณีรัตน์ห่างออกไปจากกระจกมองหลัง เขารู้สึกถึงความคิดถึงและความรักที่ยังคงมีต่อพิมพ์ดาว แต่เขาก็รู้ว่าการทำบุญในวันนี้เป็นการให้เกียรติและแสดงความรักที่เขามีต่อเธออย่างแท้จริง

ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปที่วัด ขณะที่ขับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยวและเงียบสงบ พวกเขาสังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งประสบอุบัติเหตุอยู่ริมทาง

มิ้น: "นั่น! มีรถชนอยู่ตรงนั้น เราควรหยุดรถลงไปดูนะคะ"

แม็กซ์: "เห็นด้วยครับ เราอาจจะช่วยเหลือพวกเขาได้"

เมื่อทั้งสามคนจอดรถและลงไปดู พวกเขาพบว่าเจน แก้ม และขิมกำลังอยู่ในสภาพงงงวยและดูตกใจ

ป่านเห็นบางอย่างอยู่ท้ายรถที่ชน เป็นเงาดำยืนจ้องพวกเขาอยู่ เมื่อป่านพยายามเพ่งดู เงาดำนั้นก็หายไป

"ทำไมถึงมีเงาดำมาอยู่ตรงรถที่ชน" ป่านพึมพำเบาๆ

"พี่ป่านพูดว่าอะไรนะคะ" มิ้นถามป่าน เพราะได้ยินไม่ชัด ว่าป่านพูดอะไร

"ไม่มีอะไรจ้ะ" ป่านบอกมิ้น เธอไม่สามารถเปิดเผยความลับของตัวเองได้ ว่าเธอมีสัมผัสที่หก

เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ มิ้นพบว่ารถคันที่เกิดอุบัติเหตุ คือผู้หญิงที่พักห้องหมายเลข 23

มิ้น: "อ้าวพี่สาว ห้อง 23 เกิดอะไรขึ้นคะ?"

เจน: "เราเจอผู้หญิงคนหนึ่งเดินตัดหน้ารถ เราหักหลบกะทันหัน และชนเข้ากับต้นไม้ แต่พอเราลงมาดู เราไม่เห็นเธออยู่ที่นี่เลยค่ะ"

เมื่อป่านได้ยินที่เจนเล่า เธอนึกถึงเงาดำที่เห็นทันที ความสงสัยก่อเกิดขึ้นในใจ "ทำไมถึงมีบางอย่างตามทำร้ายพวกเขา" ป่านคิดในใจ

มิ้น: "โอ้โห! แล้วพวกพี่บาดเจ็บมากไหม?"

แก้ม: "พวกเราบาดเจ็บเล็กน้อยค่ะ แต่ที่น่าตกใจคือเราไม่พบผู้หญิงคนนั้นเลย"

ขิม: "ใช่ มันเหมือนเธอหายไปในอากาศหลังจากเกิดอุบัติเหตุ"

แม็กซ์: "ทุกคนปลอดภัยไหมครับ?"

เจน: "เราปลอดภัยค่ะ แต่พวกเราไม่เห็นผู้หญิงที่เดินตัดหน้ารถเลย"

แม็กซ์: "โอเค ทุกคนสงบสติอารมณ์ก่อนนะครับ ตอนนี้เราต้องจัดการกับสถานการณ์นี้ก่อน เจ้าของรถต้องโทรแจ้งประกันและรถลากครับ"

ขิม: "ได้เลยค่ะ"

ขิมรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรแจ้งประกันและรถลากทันที ขณะที่แม็กซ์ตรวจสอบสภาพรถและความปลอดภัยของทุกคน

แม็กซ์: "ดูเหมือนว่าไม่มีใครบาดเจ็บสาหัสนะ รถก็เสียหายไม่มากนัก โชคดีที่พวกคุณหักหลบได้ทันเวลา"

ในขณะที่ขิมโทรแจ้งประกันและรถลาก แม็กซ์และคนอื่นๆช่วยกันจัดการสถานการณ์ 

หลังจากแจ้งประกันและรถลากเรียบร้อย พวกเขาก็รอให้รถลากมาถึง ขณะที่รอ พวกเขาก็พูดคุยกันเพื่อปลอบใจและให้กำลังใจกัน

มิ้น: "ยังไม่ได้เแนะนำตัวเลย งั้นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ หนูชื่อมิ้นค่ะ นี่พี่ป่าน และก็พี่แม็กซ์"

เจน: "พี่ชื่อเจนค่ะ แล้วเพื่อนพี่สองคน นี่แก้ม และนั่นขิมค่ะ"

แม็กซ์: "พวกคุณกำลังจะไปไหนกันครับ ผมไปส่งพวกคุณได้นะ"

เจน: "เรากำลังจะไปทำบุญที่วัดใกล้ๆมหาวิทยาลัยค่ะ"

มิ้น: "ใช่วัด ศรีวราราม ไหมคะ พวกเราก็กำลังจะไปวัดนี้เหมือนกัน"

แก้ม: "ใช่ค่ะ พวกเรากำลังจะไปวัดนี้"

แม็กซ์: "ถ้าอย่างงั้น ก็ไปพร้อมกับพวกเราเลยครับ"

เจน: " ได้ค่ะ ขอบคุณพวกคุณมากนะคะ"

ไม่นานประกันและรถลากก็มาถึง และช่วยลากรถของขิมไปซ่อม พวกเขาจึงสามารถมุ่งหน้าไปวัดต่อไปเพื่อทำบุญตามที่ตั้งใจไว้

เมื่อเจน แก้ม ขิม มิ้น ป่าน และแม็กซ์มาถึงวัด พวกเขาพบว่าบรรยากาศโดยรอบดูอึมครึมผิดปกติ ท้องฟ้าที่เคยสว่างสดใสกลับมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว เมฆดำลอยเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณวัด เสียงลมพัดเบาๆ ทำให้ใบไม้ร่วงลงมาจากต้นไม้ เสียงกระซิบของลมที่พัดผ่านทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสั่น

แม็กซ์: "ฟ้าดูเหมือนจะมืดคล้ายฝนจะตกนะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีฝน"

ป่าน: "ใช่ค่ะ มันแปลกมาก ฉันไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ที่วัดนี้เลย"

ทุกคนเดินเข้าไปในวัดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งกังวลและตั้งใจ บรรยากาศรอบวัดเงียบสงบอย่างน่าประหลาด เสียงนกและแมลงที่เคยได้ยินก็เงียบลงอย่างชัดเจน

พวกเขามุ่งหน้าไปยังพระวิหารเพื่อถวายสังฆทานและขอพร เมื่อเข้ามาในพระวิหาร บรรยากาศที่สงบเงียบและศักดิ์สิทธิ์ทำให้จิตใจของทุกคนรู้สึกผ่อนคลายลงทันที

เจน ขิม แก้ม: "พวกเราขออุทิศผลบุญให้พิมพ์ดาว ขอให้เธอได้ไปสู่ที่สงบสุข"

แม็กซ์ มิ้น ป่าน: "ขอให้พิมพ์ดาว สงบสุข ไปสู่ภพภูมิที่ดี"

ทั้งหกคนพูดขึ้นพร้อมกันขณะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล และต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของคนที่พวกเขาต้องการส่งผลบุญให้คือคนเดียวกัน

พวกเขาต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจและสงสัย ความเงียบงันเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเพิ่ม ทันใดนั้น อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว ลมพัดแรงขึ้นจนทำให้เปลวเทียนลุกไหวและเกือบดับ ฟ้าที่เคยปกคลุมด้วยเมฆครึ้มเริ่มมีเสียงฟ้าร้องเบาๆ

ภายนอกวิหาร ลมกรรโชกอย่างหนัก ใบไม้และเศษฝุ่นปลิวว่อน ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับจะเปิดฟ้าฝนลงมาในทุกขณะ ต้นไม้เอนลู่ตามแรงลม เสียงกิ่งไม้เสียดสีและใบไม้กระทบกันเป็นเสียงที่ฟังแล้วน่าขนลุก

แม็กซ์: "ทำไมอากาศเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ อยู่ดีๆก็เกิดลมแรงขึ้น"

มิ้น: "นั่นสิคะ เกิดอะไรขึ้น"

ป่านที่นั่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ตาจับจ้องมองออกไปนอกวิหาร พลันเธอก็เห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสีขาวยืนอยู่ท่ามกลางลมที่พัดกรรโชก สายตาของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทำให้ป่านรู้สึกขนลุกทันที

ป่าน: "พิมพ์ดาว!" ป่านตกใจมาก เธอรีบวิ่งออกไป และตะโกนเรียกชื่อพิมพ์ดาว

"พิมพ์ดาว! นั่นเธอใช่ไหม?"

แม็กซ์และมิ้นหันมองตามเสียงของป่าน พวกเขาเห็นเพียงเงาของป่านวิ่งออกไปยังนอกวิหาร ลมพัดแรงจนเกือบจะพัดป่านล้ม

แม็กซ์: "พี่ป่าน! พี่ทำอะไรน่ะ? กลับมาเดี๋ยวนี้!"

ป่านไม่ฟังเสียงเรียกของแม็กซ์ เธอยังคงวิ่งไปหาพิมพ์ดาวที่ยืนอยู่ห่างออกไป แต่เมื่อเธอใกล้จะถึง ก็เกิดลมหมุนวงใหญ่ ทำให้เธอไม่สามารถวิ่งไปหาพิมพ์ดาวได้

แม็กซ์ และมิ้น ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขารีบวิ่งตามป่านออกไป และมองไปรอบๆ ด้วยความสับสนว่าป่านเรียกหาใคร ในเมื่อไม่เห็นใครอยู่ภายนอกวิหารเลย มีแต่ลมหมุนที่พัดรุนแรง

ป่าน: "พิมพ์ดาว! อย่าไป! กลับมาก่อน!"

เจน ขิม และแก้มที่อยู่ภายในวิหารรีบวิ่งออกมาตามเสียงของป่าน

มิ้น: "พี่ป่าน เกิดอะไรขึ้น? พี่เห็นอะไร?"

ป่านหันมามองเพื่อนๆ น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม

ป่าน: "พี่เห็นพิมพ์ดาว เธออยู่ตรงนั้น" ป่านชี้ไปทางที่พิมพ์ดาวยืนอยู่

ขิม: "เธออาจจะมารับผลบุญที่เราทำให้หรือเปล่า?"

ป่าน: "แต่เธอดูโกรธแค้นและไม่มีความสุข"

ลมกรรโชกแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับพายุที่กำลังบ้าคลั่ง พัดต้นไม้จนเอนลู่ไปตามแรงลม ใบไม้และกิ่งไม้ปลิวว่อนในอากาศ เศษฝุ่นและทรายที่ลอยขึ้นมากระทบใบหน้าทำให้ทุกคนต้องยกมือขึ้นป้องกัน เสียงลมพัดหวีดหวิวดังขึ้นเรื่อยๆ แทบจะกลบทุกเสียงรอบข้าง

สิ่งของภายในบริเวณวัด เช่น กระถางธูปที่วางอยู่บนแท่นบูชา ก็ถูกลมพัดกระจัดกระจาย ตะเกียงน้ำมันและเทียนที่จุดไว้ต่างก็ดับลงทันทีเมื่อถูกลมพัด ธูปที่เคยจุดอยู่ในกระถางถูกพัดปลิวออกมา เถ้าธูปกระจายไปทั่วบริเวณ

ฟ้าเริ่มครึ้มขึ้นเรื่อยๆ เสียงฟ้าร้องดังสะท้านไปทั่ว เสียงใบไม้เสียดสีกันเป็นเสียงที่ฟังแล้วน่าขนลุก ในบางครั้งก็มีเสียงของกิ่งไม้หักดังกร๊อบแกร๊บ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและน่ากลัว

เจนพยายามตะโกนเพื่อให้ทุกคนได้ยินท่ามกลางเสียงลมกรรโชกแรง

เจน: "เราต้องหาที่หลบก่อน ลมแรงขนาดนี้อันตรายมาก!"

แม็กซ์: "ใช่! รีบไปที่วิหารกันก่อนดีกว่า!"

ทุกคนต่างรีบวิ่งกลับไปที่วิหารเพื่อหาที่หลบภัย เสียงลมที่พัดกระหน่ำทำให้พวกเขาต้องก้มตัวลงเพื่อป้องกันตัวเองจากเศษฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวมากระแทก การเดินทางกลับไปที่วิหารเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่พวกเขาก็พยายามที่จะไปถึงที่ปลอดภัยให้ได้

เมื่อมาถึงวิหาร ทุกคนต่างหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า พวกเขามองหน้ากันด้วยความกังวลใจและสับสน

มิ้น: "นี่มันอะไรกันแน่ ทำไมจู่ๆ อากาศถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้?"

ป่านถูกมิ้นลากเข้ามาในวิหาร ขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอยังคงมองไปที่พิมพ์ดาวอย่างหวาดหวั่นและสิ้นหวัง แม้ว่าจะตะโกนเรียกขนาดไหน พิมพ์ดาวก็ดูเหมือนไม่ได้ยิน ไม่สนใจเสียงของเธอเลย ราวกับว่ามีสิ่งกีดขวางบางอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถเข้าถึงน้องสาวได้

ทันใดนั้น ท่ามกลางลมที่กรรโชกแรงและเสียงฟ้าร้อง พระรูปหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หน้าวิหาร จีวรของท่านพลิ้วไหวไปตามแรงลม แต่ท่านยังคงยืนอย่างมั่นคงและสงบนิ่ง พระภิกษุผู้มีใบหน้าอ่อนโยนและสงบสุข ท่านเดินเข้าไปหาพิมพ์ดาว ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยความเมตตาและปัญญา

พระภิกษุ: "หยุดเถอะโยม หยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดความทุกข์ยิ่งขึ้น โยมต้องปล่อยวางความโกรธแค้นที่มีอยู่"

พิมพ์ดาวในชุดขาวยังคงยืนนิ่ง สายตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความโกรธและเศร้า พระภิกษุเดินเข้าไปใกล้พิมพ์ดาว และกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล

พระภิกษุ: "การที่จิตใจของโยมยังคงยึดติดกับความโกรธแค้นและความทุกข์ในอดีต ทำให้โยมไม่สามารถไปสู่หนทางแห่งความหลุดพ้นได้ ความโกรธแค้นเป็นไฟที่เผาผลาญจิตใจของโยมเอง ทำให้โยมไม่พบความสงบสุข"

พิมพ์ดาว: "แต่ฉัน... ฉันถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ไม่ได้รับความยุติธรรม ฉันจะปล่อยวางได้อย่างไร?"

พระภิกษุ: "การปล่อยวางไม่ได้หมายถึงการลืมเลือน แต่หมายถึงการให้อภัยและยอมรับอดีต ในโลกนี้ไม่มีใครที่สามารถหนีจากความทุกข์ได้ แต่การยึดติดกับมันยิ่งทำให้โยมทุกข์ยิ่งขึ้น การให้อภัยทั้งตนเองและผู้อื่น เป็นหนทางที่จะช่วยให้จิตใจของโยมเป็นอิสระ"

พิมพ์ดาวฟังคำพูดของพระภิกษุ น้ำตาเริ่มไหลลงมาที่แก้มของเธอ

พระภิกษุ: "จงเปิดใจรับผลบุญที่เพื่อนๆ และญาติพี่น้องของโยมทำให้ รับรู้ถึงความรักและความปรารถนาดีที่พวกเขามีต่อโยม จงปล่อยวางความโกรธแค้น และหันมาสู่ความสงบสุขในจิตใจของโยมเอง"

พิมพ์ดาวค่อยๆ จางหายไป ท่ามกลางเสียงลมที่เริ่มสงบลง บรรยากาศรอบๆ วิหารกลับคืนสู่ความสงบ สายลมอ่อนโยนพัดผ่านอย่างนุ่มนวล เสียงฟ้าร้องและลมกรรโชกแรงได้หายไปแล้ว ท้องฟ้าค่อยๆ เปิดเผยให้เห็นแสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่เริ่มส่องผ่านเมฆหมอก

ทุกคนต่างรู้สึกถึงความสงบและความเบาใจที่เข้ามาแทนที่ความกลัว เจน ขิม แก้ม แม็กซ์ มิ้น และป่านต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

มิ้น: "เราควรไปกราบขอบคุณพระภิกษุท่านนั้นที่ช่วยพวกเรา"

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มเดินออกจากวิหารเพื่อหาพระภิกษุรูปนั้น แต่เมื่อพวกเขาออกมาด้านนอก กลับไม่พบพระภิกษุท่านนั้นเลย ท่านหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

แม็กซ์: "แปลกจัง พระภิกษุท่านหายไปไหน?"

ขิม: "เมื่อกี้ยังเห็นท่านอยู่เลยนะ"

เจน: "ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องขอบคุณท่านที่ช่วยให้เหตุการณ์สงบลงได้"

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งหมดได้ร่วมกันกราบไหว้และทำบุญต่อที่วัด ด้วยจิตใจที่สงบ เพื่อส่งผลบุญให้พิมพ์ดาว และเพื่อความสงบสุขในจิตใจของพวกเขาเอง เมื่อทำบุญเสร็จแล้ว ทุกคนต่างก็เดินทางกลับบ้าน

ขณะที่อยู่บนรถ บรรยากาศภายในรถยังคงเงียบ แม็กซ์ซึ่งเป็นคนขับ หันมาถามเจน ขิม และแก้มด้วยความสงสัย

แม็กซ์: "พวกคุณรู้จักพิมพ์ดาวด้วยเหรอครับ?"

เจนหันมามองแม็กซ์ ก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

เจน: "ใช่ พิมพ์ดาวพักอยู่ชั้นเดียวกันกับฉัน"

ขิม: "เมื่อคืนเราฝันเห็นพิมพ์ดาว เช้านี้จึงตั้งใจมาทำบุญให้เธอ"

แก้ม: "แล้วพวกคุณ รู้จักพิมพ์ดาวด้วยเหรอ?"

ป่าน: "เรื่องมันยาว พวกเราไปคุยกันต่อที่คาเฟ่ ใกล้ๆหอพักไหม"

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย รถเคลื่อนตัวอย่างช้าๆมุ่งหน้าไปคาเฟ่ ท่ามกลางความเงียบภายในรถด้วยความรู้สึกที่หลากหลายของแต่ละคน

เมื่อมาถึงคาเฟ่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับตึกมณีรัตน์ บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเงียบสงบ กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบใหม่ๆ ลอยกรุ่นในอากาศ เจน ขิม แก้ม แม็กซ์ มิ้น และป่านเลือกนั่งที่มุมหนึ่งของร้าน ซึ่งมีความเป็นส่วนตัว

พนักงานเสิร์ฟยิ้มต้อนรับและนำเมนูมาให้ ทุกคนสั่งเครื่องดื่มและขนมเบาๆ เพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลาย หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งลงรออาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ มีเพียงเสียงพูดคุยเบาๆ ของลูกค้าคนอื่นๆ

ป่านเริ่มต้นเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพิมพ์ดาวด้วยน้ำเสียงที่ค่อยๆ แผ่วลงแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก

ป่าน: "พิมพ์ดาวเป็นน้องสาวของฉัน เธอเป็นคนที่จิตใจดีและอ่อนโยน แต่โชคไม่ดีที่เธอต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ"

แม็กซ์: "เราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน พิมพ์ดาวมีความฝันและความหวังมากมาย ก่อนเกิดเรื่องร้าย ผมกับเธอเพิ่งตกลงคบกัน"

เจน ขิม และแก้มฟังอย่างตั้งใจและรับรู้ถึงความเจ็บปวดในใจของพวกเขา และเจนรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้ยินว่าแม็กซ์คือคนรักของพิมพ์ดาว เป็นเรื่องราวที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน เธอคิดว่าพิมพ์ดาวและอาทิตย์แฟนของเธอ จะกลับไปคบกัน แต่เกิดเหตุร้ายขึ้นก่อน

เจน: "แม็กซ์ ...คุณคือคนรักของพิมพ์ดาวเหรอคะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพิมพ์ดาวมีแฟน"

แม็กซ์: "ใช่ครับ ผมไปส่งเธอที่หอพักบ่อยๆ"

ขิม: "เมื่อคืนเราฝันเห็นพิมพ์ดาว ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเธอต้องการอะไรบางอย่าง"

แก้ม: "และวันนี้พอได้เจอพวกคุณ เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญมาก เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหลายอย่าง"

เจน: "ฉันรู้จักพิมพ์ดาว...เพราะเธอคือคนรักเก่าของแฟนฉันค่ะ เเละคนที่พบร่างเธอ พร้อมทั้งโทรแจ้งตำรวจ คือฉันกับแฟน"

แม็กซ์: "ครับ พิมพ์ดาวเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าแฟนเก่าของเธอพักอยู่ตึกเดียวกัน เป็นพวกคุณนี่เอง"

เจน: "ฉันขอโทษนะคะ เวลานั้นฉันยอมรับว่ามีความรู้สึกหึงหวงมาก ฉันรู้สึกไม่พอใจที่เธอมาอยู่ใกล้ๆแฟนฉัน แต่ฉันไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุร้ายกับเธอ" เจนกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า

แม็กซ์: "ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น"

พนักงานเสิร์ฟนำเครื่องดื่มและขนมมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ทุกคนหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาจิบเบาๆ ความอุ่นของแก้วกาแฟในมือทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นขึ้น ทั้งหกคนแลกเปลี่ยนเรื่องราวและความรู้สึกกันอย่างเปิดเผย ความรู้สึกเศร้าโศกค่อยๆ เบาลง ความเข้าใจและความรักที่มีต่อพิมพ์ดาวก็เพิ่มมากขึ้น

มิ้น: "ตั้งแต่มิ้นเข้าพักที่ห้องพิมพ์ดาว ก็เจอเรื่องราวประหลาดตลอด ทั้งฝันร้าย ทั้งความรู้สึกที่มีบางอย่างจ้องมองตลอดเวลา มิ้นคิดว่าพิมพ์ดาวไม่มีทางสงบสุขได้ หากยังจับฆาตกรที่ทำร้ายเธอไม่ได้

ป่าน: "พี่เคยขอลุงชัยเช่าห้องนั้น แต่ลุงชัยไม่ยอม เพราะไม่อยากให้พี่ทุกข์ใจ ตอนนี้ผ่านมาแปดปีแล้ว พี่อยากเข้าไปในห้องนั้นสักครั้ง" ป่านกล่าวพร้อมมองหน้ามิ้นด้วยความหวัง

มิ้น: "ถ้าพี่ป่านอยากเข้าห้องพิมพ์ดาว ถ้าอย่างนั้นคืนนี้พี่ป่านไปนอนกับมิ้นไหมคะ" มิ้นบอก พร้อมจับมือให้กำลังใจป่านเบาๆ

ป่าน: "ขอบคุณมากนะมิ้น" ป่านยิ้มด้วยความดีใจ

เจน: "ห้องของฉันอยู่ชั้นเดียวกันกับมิ้น ยังไงคืนนี้พวกเรามาห้องฉันเพื่อปรึกษากันเรื่องพิมพ์ดาวดีไหมคะ วันนี้แฟนของฉันยังไม่กลับ ขิม แก้ม พวกแกนอนกับฉันอีกคืนนะ"

มิ้น: "ได้ค่ะ ดีเลย มิ้นรู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้คุยกับพวกพี่วันนี้"

ขิม: "ได้สิ ฉันไม่ติดอะไรอยู่แล้ว พวกฉันจะนอนเป็นเพื่อนแก จนกว่าอาทิตย์จะกลับมาก็แล้วกัน"

หลังจากที่ทุกคนตกลงกันเสร็จ พวกเขาก็เตรียมตัวออกจากคาเฟ่ บรรยากาศยามเย็นเริ่มเย็นลง ทุกคนขึ้นรถและขับกลับไปที่หอพัก

เมื่อมาถึงหอพัก เจน ขิม และแก้มเดินขึ้นไปที่ห้องของเจน ขณะที่มิ้น ป่าน ไปที่ห้องป่านก่อนเพื่อเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวไปนอนห้องมิ้น ส่วนแม็กซ์ขอตัวกลับก่อน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!