"คนในรูปนั้นคือน้องสาวของพี่เอง" ป่านพูดด้วยเสียงเบา "เธอชื่อ...พิมพ์ดาว"
.......
.......
"พี่ป่านคะ พี่เป็นอะไรไหมคะ" เสียงของมิ้นดังขึ้น ทำให้ป่านตื่นจากภวังค์
"อ่า... ขอโทษทีค่ะมิ้น พี่เผลอคิดถึงเรื่องเก่าๆ น่ะ" ป่านตอบ
"คือ...มิ้นอยากเล่าเรื่องหนึ่งให้พี่ฟังค่ะ" มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
ป่านพยักหน้า "เรื่องอะไรเหรอ?"
"คือว่า...มิ้นเจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่งในห้องของมิ้นค่ะ" มิ้นเริ่มเล่า "ตอนที่มิ้นทำความสะอาด มิ้นพบมันหล่นอยู่หลังตู้เสื้อผ้า มิ้นเลยเปิดอ่านดูเล็กน้อย มิ้นคิดว่ามันต้องเป็นของพิมพ์ดาว น้องสาวพี่แน่ๆ"
ป่านรู้สึกใจเต้นแรง "มิ้น... มิ้นพบสมุดบันทึกของพิมพ์ดาวเหรอ?"
"ใช่ค่ะพี่" มิ้นตอบ "มิ้นเลยคิดว่าควรจะนำมาคืนให้พี่ เพราะมันน่าจะมีความหมายกับพี่มาก"
จากนั้นมิ้นขอตัวกลับห้องตัวเอง เพื่อไปเอาสมุดบันทึกมาคืนให้ป่าน
มิ้นหยิบสมุดบันทึกเล่มนั้นออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้ป่าน ป่านรับมันด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เมื่อเธอเปิดดูหน้าแรก เธอเห็นลายมือของพิมพ์ดาวเขียนชื่อและวันที่ลงบนหน้ากระดาษ
"ขอบคุณมากนะมิ้น" ป่านพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง "นี่เป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับพี่"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ป่าน" มิ้นยิ้ม "ถ้าพี่อยากคุยหรืออยากเล่าอะไรเกี่ยวกับพิมพ์ดาว มิ้นยินดีเสมอ"
ป่านยิ้มกลับ "ขอบใจมากนะ ถ้ามีอะไรพี่จะบอกเธอแน่นอน"
จากนั้นมิ้นเล่าเรื่องของแม็กซ์ให้ป่านฟัง ป่านนั่งฟังมิ้นเล่าด้วยความสนใจ ทุกคำพูดของมิ้นทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกำลังอยู่ใกล้กับน้องสาวอีกครั้ง แม้ว่าพิมพ์ดาวจะจากไปแล้ว
"แม็กซ์เป็นคนใจดีมากค่ะ เขาดูเศร้าใจและคิดถึงพิมพ์ดาวมาก เขาเล่าให้ฟังว่าพิมพ์ดาวเป็นคนที่อ่อนโยนและมีน้ำใจ แม็กซ์บอกว่าพิมพ์ดาวเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขในช่วงเวลาที่ยากลำบาก" มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ป่านน้ำตาคลอ "พิมพ์ดาวเป็นคนแบบนั้นจริงๆ"
ป่านฟังด้วยความซาบซึ้งใจ เธอรู้สึกอบอุ่นที่รู้ว่ามีคนที่รักและห่วงใยน้องสาวของเธอมากขนาดนี้ "ขอบคุณมากนะมิ้น ที่เธอไปพบแม็กซ์และเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟัง พี่รู้สึกขอบคุณจริงๆ"
มิ้นยิ้มและจับมือของป่านเบาๆ "ฉันคิดว่าพี่ควรจะได้รู้ว่ามีคนที่รักและคิดถึงพิมพ์ดาวมากแค่ไหน"
หลังจากที่พูดคุยกันต่อสักพัก มิ้นก็มองนาฬิกาและขอตัวกลับห้อง "พี่ป่านคะ มิ้นต้องกลับห้องแล้วค่ะ"
ป่านพยักหน้า "ขอบใจมากนะมิ้นที่มาพูดคุยและเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟัง ถ้ามีอะไรต้องการความช่วยเหลือ บอกพี่ได้เสมอ"
มิ้นยิ้มและตอบ "ขอบคุณค่ะพี่ป่าน ถ้ามีอะไรมิ้นจะบอกพี่แน่นอนค่ะ" จากนั้นเธอก็เดินกลับไปยังห้องตัวเอง
เมื่อประตูห้องปิดลง มิ้นถอนหายใจ เธอรู้สึกโล่งใจที่ได้แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับพิมพ์ดาวให้ป่านฟัง แต่ในใจลึกๆ เธอรู้ว่ามีสิ่งที่เธอไม่ได้พูดออกมา
ตั้งแต่วันที่เธอย้ายเข้ามาเช่าห้องของพิมพ์ดาว เธอได้พบเจอกับเหตุการณ์แปลกๆ หลายอย่าง บางคืนเธอได้ยินเสียงกระซิบที่ไม่สามารถอธิบายได้ หรือเห็นเงาแวบผ่านไปในความมืดของห้อง บางครั้งเธอฝันร้าย เห็นภาพของพิมพ์ดาวในสภาพที่ทุกข์ทรมาน มันทำให้เธอตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัวและเหงื่อซึม
มิ้นไม่กล้าบอกป่านเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะเธอไม่อยากให้ป่านต้องเป็นกังวลหรือไม่สบายใจอีก เธอคิดว่าป่านมีภาระหนักพอแล้วในการจัดการกับความเศร้าโศกและความทรงจำของน้องสาว
เธอนั่งลงบนเตียงในห้อง มองไปรอบๆ ห้องที่ยังคงมีร่องรอยของชีวิตและความเป็นอยู่ของพิมพ์ดาวอยู่ทุกมุม สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่ทิ้งไว้บอกเล่าเรื่องราวของเธอ มิ้นรู้สึกถึงความผูกพันและความเศร้าในที่นี้
ในใจของเธอยังมีคำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ มิ้นรู้ว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อคลายปมปริศนาเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อป่านและพิมพ์ดาวเท่านั้น แต่เพื่อความสงบสุขของตัวเธอเองด้วย
มิ้นตัดสินใจที่จะค้นหาคำตอบเพิ่มเติม เธอเปิดตู้เก็บของและดูตามซอกมุมของห้องเพื่อหาสิ่งที่อาจเป็นเบาะแสเพิ่มเติม ในขณะที่เธอค้นหา เธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา แต่เมื่อเธอหันไป กลับไม่พบอะไร มันทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่นและหวาดระแวงมากขึ้น
เธอเดินไปที่มุมห้องและเปิดลิ้นชักเล็กๆ ใกล้เตียง แต่ไม่พบอะไรที่ดูเหมือนจะเป็นเบาะแสเพิ่มเติม มิ้นถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปที่ตู้เสื้อผ้า เธอค่อยๆ เลื่อนบานประตูออกและตรวจดูข้างในอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอกำลังจะปิดตู้เสื้อผ้า แต่ก็รู้สึกถึงความเย็นที่ไหลเข้ามาจากด้านหลังอีกครั้ง
มิ้นหันกลับไปมองรอบๆ ห้อง ความรู้สึกถูกจับจ้องยังคงอยู่ แต่เธอไม่เห็นอะไรผิดปกติเลย ในใจของเธอมีแต่ความสงสัยและความกลัว เธอพยายามสงบสติอารมณ์และคิดว่าอาจเป็นเพียงความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง
เธอเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ และเริ่มค้นหาที่นั่น ดูตามลิ้นชักและช่องเก็บของทุกช่อง แต่ก็ไม่พบอะไรที่มีค่าเป็นเบาะแสเพิ่มเติม
หลังจากค้นหาทั่วห้อง มิ้นรู้สึกท้อแท้ เธอไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์เลย ในใจของเธอมีแต่ความสับสนและความกังวลเกี่ยวกับเงาดำที่เห็นในวันก่อนและฝันร้ายที่เธอเผชิญ
เธอตัดสินใจที่จะหยุดการค้นหาและนั่งลงบนเตียง หายใจลึกๆ เพื่อคลายความเครียด ขณะที่เธอนั่งนิ่งๆ อยู่บนเตียง เธอได้ยินเสียงแผ่วเบาเหมือนมีใครกระซิบข้างๆ หู แต่เมื่อเธอหันไปดูก็ไม่พบใคร
มิ้นตัดสินใจว่าเธอควรจะพักผ่อนสักหน่อย เธอรู้ว่าการฝืนตัวเองให้ค้นหาคำตอบในตอนนี้อาจไม่ใช่เรื่องดี เธอต้องการเวลาในการคิดและพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการค้นหาต่อไป
เธอเดินเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้น้ำอุ่นไหลลงมาพร้อมกับเสียงน้ำที่ดังกระทบพื้นกระเบื้อง เธอปล่อยให้น้ำไหลผ่านร่างกายของเธอ ความอุ่นของน้ำช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและคลายความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดวัน
ขณะที่เธอยืนอาบน้ำ ความคิดมากมายก็ไหลเข้ามาในหัว เธอคิดถึงป่านที่กำลังเผชิญกับความเศร้าโศกและความทุกข์ใจ และเธอคิดถึงพิมพ์ดาวที่จากไปอย่างไม่ทันได้ร่ำลา ความตั้งใจของเธอในการค้นหาคำตอบเพื่อช่วยเหลือทั้งป่านและพิมพ์ดาวยิ่งชัดเจนขึ้นในใจ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ มิ้นก็เช็ดตัวและสวมชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม เธอรู้สึกถึงความสบายและความอบอุ่นของผ้าเนื้อดีที่สัมผัสผิว เธอเดินไปที่เตียงและนั่งลง เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง เหลือเพียงแสงสลัวจากโคมไฟข้างเตียงที่ให้บรรยากาศอบอุ่น
มิ้นนอนลงบนเตียง ห่มผ้าเบาๆ และหลับตา แม้ว่าความกังวลและความกลัวจะยังคงอยู่ในใจ แต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้เธอค่อยๆ หลับไปในที่สุด
.
ในความฝัน...มิ้นเห็นพิมพ์ดาวยืนอยู่ที่ปลายเตียง ท่ามกลางความมืดมิดของห้อง แสงสลัวจากโคมไฟข้างเตียงเพียงพอให้เห็นเงาร่างที่พร่ามัวของพิมพ์ดาว
เสื้อผ้าของเธอขาดวิ่นและสกปรกเป็นคราบเลือดเกรอะกรังเกาะบนผ้า ใบหน้าของเธอซีดเซียว ดวงตากลวงลึกมองจ้องมาที่มิ้นอย่างไม่วางตา
เส้นผมของเธอ ยุ่งเหยิงและแห้งกร้าน ผมบางส่วนพันกันเป็นปมเหมือนกับรังนก
ความเงียบสงัดในห้องทำให้มิ้นรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แทรกซึมเข้ามาในร่างกาย ขณะที่พิมพ์ดาว ก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว ทีละก้าว
"ตึก...ตึก...ตึก" เสียงฝีเท้าเบาๆ แต่ชวนขนลุกดังสะท้อนในหัวใจของมิ้น เสียงหายใจหอบเบาๆ ของพิมพ์ดาวยิ่งทำให้บรรยากาศยิ่งน่ากลัว
เมื่อเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น มิ้นเห็นว่ามีรอยช้ำและบาดแผลทั่วร่างกายของเธอ ราวกับว่าเธอผ่านการทรมานมาอย่างหนักหน่วง
ดวงตามีน้ำตาไหลเป็นเลือดสีแดงเข้มที่ไหลรินจากดวงตาทั้งสองข้าง เลือดนั้นไหลลงมาตามแก้ม ข้ามริมฝีปาก และหยดลงบนพื้น ไม่มีเสียงสะอื้น มีเพียงความเจ็บปวดที่สะท้อนออกมาในสายตาที่จับจ้องมาที่มิ้น
ภาพที่เห็นทำให้มิ้นขนลุกและหวาดกลัวจนแทบหยุดหายใจ ความเจ็บปวดที่สะท้อนออกมาจากสายตาของพิมพ์ดาว ทำให้มิ้นหัวใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัวและความสงสาร
ทันใดนั้น เสียงกระซิบแผ่วเบาเหมือนเสียงลมพัดผ่านหูมิ้น "ช่วยด้วย..... ช่วยด้วย....." เสียงนั้นทำให้มิ้นรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
เธอยื่นมือที่สั่นเทาออกมาหามิ้น นิ้วมือที่ผอมโซและซีดเซียวดูเหมือนจะยาวออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ความเย็นจากมือแผ่ซ่านเข้ามาถึงหัวใจของมิ้น เมื่อมิ้นพยายามจะขยับตัวหรือส่งเสียงออกมา เธอกลับรู้สึกว่าร่างกายถูกตรึงไว้ไม่สามารถขยับได้ ราวกับว่าความกลัวได้ยึดครองทุกอณูของร่างกาย
"พิมพ์ดาว..." มิ้นกระซิบออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ "ฉันจะช่วยเธอ ฉันสัญญา..."
ก่อนที่มิ้นจะพูดจบ พิมพ์ดาวหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกเย็นยะเยือกและความกลัวที่ลึกซึ้งในใจของมิ้น
มิ้นตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อที่ชุ่มโชกและหัวใจที่เต้นรัว ฝันนั้นเหมือนจริงมาก ราวกับว่าเธอได้สัมผัสถึงวิญญาณของพิมพ์ดาวจริงๆ
มิ้นหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบใจตัวเอง เธอรู้ว่าความกลัวจะไม่ช่วยอะไร การเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้ต้องอาศัยความกล้าหาญและความตั้งใจ เธอเช็ดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าและพยายามตั้งสติ มิ้นนอนลงอีกครั้ง พยายามหลับตาและทำใจให้สงบ จนในที่สุดเธอก็หลับไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments
Maito
พวกเรายังตามงานของแอดอยู่เสมอ ต้องการอ่านเรื่องใหม่ๆ เสมอ 📚
2024-11-09
1